ผมเองก็มีเรื่องเพื่อนที่อยากนำมาเล่าแต่รายละเอียดผมจะเล่าคร่าวๆนะครับเพราะบางเรื่องมันแค่เรื่องส่วนผสมเพราะบางเรื่องผมก็ไม่อยากจะพูดถึงมันเลยอาจจะฟังดูไม่สมเหตุสมผลบ้างก็ต้องขออภัย
คุณเคยมีเพื่อนสนิทและเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดแต่คือเพื่อนสมัยประถมไหม
ส่วนตัวผมนั้นเพื่อนที่ดีที่สุดสนิทที่สุดสนุกที่สุดสุขใจที่สุดสนุกที่สุดนั้นอยู่สมัยประถมครับและคงจะเป็นเพื่อนกันมาตลอดถ้าผมไม่ได้ย้ายโรงเรียนหรือย้ายเข้ามาอยู่ในตัวจังหวัด อ่อลืมบอกนะครับที่ผมอยู่ตอนแรกคืออำเภอ อำเภอนึงครับ
และอีกอย่างนึงครับช่วงเวลานั้นทั้งทางครอบครัวและทางเพื่อนถือว่ายุคนั้นทั้งมีความสุขทั้งสนุกมากๆเลยล่ะครับ
ช่วงนั้นน่าจะราวๆตั้งแต่ปี 1993-2004 ผมจำไม่ได้เพื่อนสนิทของผมสนิทกันตั้งแต่ป.3หรือตอนป.4 แต่ส่วนก่อนหน้านั้นผมก็มีเพื่อนที่สนิทอยู่บ้างแต่จะมาแนวๆปีนึงสนิทคนนึง อีกปีก็อีกคนมากกว่า มามีเพื่อนที่ถือว่าสนิทกันโคตรๆก็นู่นตอนที่ใกล้จะย้ายบ้านแล้ว ถ้ารวมผมด้วยกลุ่มนี้จะมีกัน3คนครับ แต่บางครั้งจะมี4 ซึ่งที่สนิทจริงๆคือ3คน ผมกับเพื่อนอีก2 1ใน2นี้ จริงๆผมรู้จักมานานแล้วคุยกันถูกคอเลยแหละแต่ไม่สนิทเท่าไหร่ ส่วนอีกคนนึงจำได้ว่าตอนเจอคุยกันครั้งแรกๆผมไม่ชอบหน้าด้วยซ้ำเพราะเหมือนคุยกันแล้วพูดกันไม่ค่อยเข้าหู แต่มาตอนหลังพอได้คุยกันจริงๆ เออรู้สึกว่าไอ้นี่มันก็นิสัยคล้ายๆผม แล้วที่พีคที่สุดคือมันมี การ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องนึง ผมจำไม่ได้ว่าผมเอามาโรงเรียนทำไม หรือผมกะเอามาให้เพื่อนดูหรือมันติดมาเฉยๆเท่านั้นแหละพอวนดูกันรอบกลุ่มพวกมันดันชอบร่วมวงสนทนาโคตรมันส์และสุดท้ายผมก็ย้ายจากที่นู่นเข้ามาในเมืองก็น่าจะช่วงจบป.4 น่าจะต้นๆถึงกลางๆปี2004
แต่เอาจริงๆในช่วงเวลานั้นต้องบอกว่าผมยังไม่เข้าใจหรือยังไม่รู้ว่านั่นคือสิ่งสำคัญด้วยล่ะนะรู้แค่ว่าเพื่อนซี้เพื่อนสนิทอยู่ด้วยแล้วสนุกและมีความสุข
และอีกอย่างคือช่วงนั้นเกมส์ออนไลน์พึ่งเข้ามาได้ไม่นานแม้จะอยู่กับเพื่อนอีกกลุ่มตอนนั้นแม้ไม่ได้มีความสุขอะไรมากแต่สนุกโคตรๆ ในตอนนั้นผมเลยดันอยากมาอยู่ในเมืองซะงั้น นี่คงเรียกได้ว่า อย่าให้ความสนุกมาทำให้ลืมหรือเสียสิ่งสำคัญ แต่ถึงอย่างไงผมก็ต้องย้ายมาอยู่แล้ว แต่ถ้าย้อนกลับไปได้ถ้าผมไม่อยู่กับน้าก็คงขอกับพ่อแม่ว่าอย่างน้อยขออยู่ให้จบป.6ได้ไหมเพราะผมโคตรอยากถ่ายรูปรวมตอนจบป.6กับเพื่อนชุดนี้เลย แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเรียนด้วยกันจนจบม.6นะ และอีกความจริงคือตอนนั้นผมร้องตามที่บ้านด้วยแหละเลยไม่ได้อยู่กับน้า
พอเข้ามาในเมืองก็มีเพื่อนอีกชุด ชุดนี้ไม่เท่าชุดข้างบนแน่ๆแต่พอคบกันได้ ชุดนี้ถ้ารวมผมด้วยก็จะมี4คน ซึ่งนิสัย3คนที่เหลือคือ 1คนนี้คบง่ายคุยง่ายแต่คบกันสักพักมักจะต้องมีเรื่องให้ผิดใจกันส่วนตอนท้ายที่โตแล้วคนนี้จะมาแนวเห็นคนอื่นสำคัญกว่าถึงตอนหลังเหมือนมันรู้ตัวเลยพยายามจะกลับมาทางเราเพราะฉะนั้นจากเพื่อนสนิทเลยกลายเป็นคนที่เคยสนิทเพราะว่ามันเข้าไปในทางที่เราตามไปไม่ไหวและที่สำคัญเวลามีอะไรไม่ค่อยชอบพูดตรงๆเลยบางครั้งเลยขี้เกลียดจะเข้าใจว่ามันไม่พอใจอะไรเรา
2คนนี้ตอนเด็กค่อนข้างเหลี่ยมเยอะแต่ข้อดีคือใจถึงตอนโตก็ใจถึงแต่ค่อนข้างดูรั่วๆหลุดๆแถมอยู่ไม่เป็นที่ตอนหลังทักเฟสไม่ค่อยจะตอบเลยไม่ได้ทักอีก
3ถ้าพูดกันตามตรงคนนี้น่ะโอเคที่สุดแล้วมาจากครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะหรือค่อนข้างมีฐานะก็ไม่รู้แต่ข้อเสียคือไม่ค่อยยอมรับว่าคนอื่นเก่งกว่ากับบางทีชอบดิสเครดิตกันเองนอกนั้นโอเคหมดใจปล้ำมากๆคนนี้
กับชุด2นี้ไม่ได้เลิกคบกันแต่เพราะว่าแต่ละคนแยกย้ายไปในทางของตัวเองและมีเพื่อนใหม่และทางเดินและนิสัยของแต่ละคนคงจะจูนกันยาก
แต่ปัญหามันอยู่ที่เพื่อนอีกชุดในโรงเรียนนี่แหละที่เรียกได้ว่าหนีจากสวรรค์มานรกชัดๆเลย
ขอไม่อธิบายอะไรมากบอกไว้แค่ว่าทำให้ผมจากเด็กขี้อายไม่เคยคิดร้ายกับใครและไม่สู้คนทำให้ถึงกับก้าวร้าวชอบเอาชนะและทะเลาะวิวาทกับคนได้ที่ไม่อธิบายเพราะผมไม่อยากจะพูดถึงผมว่าถ้าเรื่องสังคมคงไม่มีอะไรจะโหดร้ายมากกว่าเรื่องในวัยมัธยม1-3ของผมแล้วมั้ง โรงเรียนนี้ช่วงป.5-6ยังพอทนนะยังพอมีคนดีๆอยู่บ้าง
ก่อนจะเล่าต่อว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม ผมขอย้อนสักนิด
ที่ว่าตอนป.5-6 ยังพอมีคนดีๆอยู่บ้างนี้มันก็เหมือนโชคชะตาเล่นตลกกับผมนะบอกตรงๆ พอมีเพื่อนที่แสนดีผมก็จากเค้ามา พอมีเพื่อนที่พอคบกันได้อีก2คน มันก็ย้ายจากผมไป
นิสัยของเพื่อน2คนนี้ผมว่าถือว่าโอเคเหมือนกัน
1คนนี้คือคนดีมากๆไม่กลัวใครหน้าไหนแต่ไม่ใช่นักเลงและดูจะจริงใจมากเหมือนกันแต่ข้อเสียคือแหย่อะไรไม่ค่อยจะได้ชอบของขึ้นเล่นแรงและชอบนอย
2คนนี้โคตรแก่นพูดเก่งมากคนนี้ใจไม่ถึงนะในตอนนั้นไม่รู้ตอนนี้อย่างไงและไม่ใช่นักเลง แต่ไหวพริบดีมากๆคุยมันคุยฮาคุยรั่วมากๆข้อเสียเพียงนิดเดียวเลยคือชอบดูถูกหรือดิสเครดิตเพื่อนตัวเองในบางครั้ง
เอาละต่อจากข้างบนที่ผมบอกตอนแรกว่าแต่ก่อนครอบครัวก็อบอุ่นมากแต่พอมาอยู่ในเมืองเวลามันก็น้อยลงเรากับครอบครัวก็อยู่ด้วยกันแหละแต่แค่เพราะอาชีพที่ทำตอนนี้เวลาที่จะได้คุยกันเลยไม่ค่อยจะมีเลยมันก็เหมือนห่างแต่ความรู้สึกของเรากับพ่อแม่น่ะยังเหมือนเดิมแหละแต่แค่ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดแบบแต่ก่อน
แรกๆก็ยังไม่มีอะไรแต่หลังมันก็เหมือนชะตากลั่นแกล้งอีกอ่ะพอตอนผมเริ่มเจอเรื่องแย่ๆในโรงเรียนบ้านผมก็เจอเรื่องแย่ๆเข้าเหมือนกันคือมันขาดทุนผมก็เครียดที่บ้านก็เครียดไม่ต้องถามเรื่องปรึกษาไรกันเลยพูดกันทีไรนี่ทะเลาะกันตลอด
กลับเข้ามาหลังจากผมจบม.3 ผมก็ไม่ได้เรียนม.4ต่อ ไม่ใช่เพราะเรื่องเงิน แต่เพราะผมรู้ตัวผมดีตอนนั้นถ้าเรียนต่อละก็ไม่มีเรื่องจนตายก็คงโดนไล่ออก อ่อลืมบอกโรงเรียนที่ผมเรียนมันมีแค่ม.3นะ แต่ผมก็ไม่ใช่นักเลงนะแต่แค่ตอนนั้นปากผมมันไม่ค่อยจะดีแม้ไม่ใช่นักเลงก็แต่มีเรื่องทะเลาะกับคนอื่นหลายครั้งอยู่เหมือนกันแล้วอีกอย่างผมก็อยากเที่ยวด้วย
พอวันที่เรื่องมันจะไปกันใหญ่ผมก็ฉุดคิดขึ้นมาได้ว่าแรกเริ่มเดิมทีผมแค่อยากจะสู้คนแค่นั้นแล้วผมก็ทำได้มาพอควรแล้ว ผมเลยค่อยๆหยุดเรื่องเกเรหรือเรื่องเที่ยวอ้อที่ผมฉุดคิดเพราะตอนนั้นผมเกือบจะได้เข้าวงการนักเลงเต็มตัวแล้วและพอเข้าไปมันมีหลายๆอย่างที่เราไม่ชอบ เช่น ถ้าอยากจะให้คนยอมรับต้องกระทืบคนที่ไม่รู้จักงี้ หรือไม่ก็รุ่นพงรุ่นพี่มันคือใครมาจากไหนทำไมเวลามันมีเรื่องต้องคุ้มกันร่วมแก๊งรวมกลุ่มกับมันขนาดนั้นแต่เหมือนเพื่อนผมจะชอบซึ่งผมทำไม่ได้และไม่ชอบอย่างแรงพอผมเริ่มฉุดคิดผมก็ค่อยๆออกมา
และอาชีพที่บ้านผมทำก็ปรับเปลี่ยนนิดหน่อยมันเลยได้เงินดีกว่าเดิมเยอะหลังจากนี้เราก็ค่อยๆหันกลับมาคุยกันได้แบบเดิม
ช่วงๆนี้จะเกิดขึ้นราวๆปี2005-2012
ช่วงที่ผมคิดว่าทุกอย่างเริ่มกลับมาดีก็คือช่วง 2013
แล้วหลังจากนั้นผมก็เอาแมวมาเลี้ยง แมวตัวนี้แหละที่น่าจะเรียกได้ว่าดึงผมกลับมาได้จริงๆตอนเรียกแรกก็เฉยๆแต่เราก็สนิทกันนะแต่มีอยู่ครั้งนึงผมเอาไว้หน้าบ้านทั้งๆที่มีที่กลั้นอะไรแล้วแต่มันถูกขโมยผมถึงได้รู้ตัวว่าผมรักแมวตัวนี้มากนอนไม่หลับเลยแต่โชคดีที่ผมได้แมวคืนเพราะคงเลี้ยงไม่ได้เพราะแมวตัวนี้ต้องพาออกมาเดินเล่นถ้าไม่พาออกมาเดินเล่นมันจะร้องบ้านแตกและมันค่อนข้างดุด้วยลืมบอกไปแมวตัวนี้คือแมวเปอร์เซียจนตอนนี้ผมก็กลับมาเป็นคนเดิม ช่วงนี้จะเกิดราวๆ 2013-2016
สิ่งที่สำคัญที่สุดของผมก็คือครอบครัว พ่อแม่และแมวตัวนี้ แต่ผมก็กลายเป็นคนไร้เพื่อนโดยที่หวังว่าในอนาคตผมคงจะได้เจอเพื่อนสนิทหรือเพื่อนแท้บ้าง
และสิ่งที่ผมอยากเล่าเรื่องสุดท้ายในกระทู้นี้ก็คือช่วงหลังๆมานี้ผมนึกถึงเพื่อน2คนสมัยประถมมากเรื่องนี้ก็น่าขำอีกแหละครับผมจำไม่ได้ว่าผมหามาเป็นปีหรือหลายเดือน แต่ก็นานพอดูเพราะผมเวลานึกจะทำอะไรขึ้นมาจะจริงจังมากๆ หาไม่เจอครับแม้แต่ล่องลอยก็ไม่เจอแม้แต่กลุ่มศิษย์เก่าโรงเรียนคือเจอบางคนครับและรุ่นอื่นๆเห็นมาหมดเจอมาหมดแต่รุ่นผมหากลุ่มก็ไม่เจอหาเพื่อนสนิทนี่ไม่มีแม้แต่เงาเลยครับ ผมยังเคยบ่นกับเพื่อนที่ในอินเตอร์เน็ตเลยว่าเฮ้อพวกมันจะไม่เล่นกันเลยหรอวะ หรือพวกมันเตลิดกันหมดหรือมันไม่อยู่กันแล้วว่ะคือผมนั่งนึกชื่อโคตรนานตอนแรกสุดจำได้แค่ชื่อเล่นตอนหลังถึงนึกชื่อ จริง นามสกุลออก ส่วนมากจำได้แค่ชื่อเล่น แต่ก็จำชื่อจริงกับนามสกุลได้แค่คนเดียวลองพิมแล้ว ทั้งแบบไทย ทั้งแบบ ENG ไม่เจอครับเจอแต่คนอื่นไม่รู้ว่านามสกุลเหมือนกันหรือตระกูลเดียวกัน เคยแม้กระทั่งแอดคนที่นามสกุลเหมือนกันไปถามเพราะผมคิดว่าน่าจะตระกูลเดียวกันแหละเพราะสกุลนี้ก็อยู่ทีเดียวกับผมสรุปหาไม่เจอกับคนที่ถามไม่มีใครรู้จักผมถามแค่คนเดียวอ่ะนะอยากหาให้เจอเองมากกว่าไม่อยากรบกวนคนอื่น
แล้วมีวันนึงผมไม่รู้อะไรดลใจผมเห็นคนชื่อนามสกุลเดียวกับเพื่อนผม ผมเลยลองพิมอีกครั้งซึ่งมันก็ขึ้นนะชื่อมันเลยสกุลมันเลยแต่ทำไมหน้าไม่ใช่ผมก็แอดไป พอผมทักผมถามว่า ถามไรหน่อยสิ เรากำลังตามหาเพื่อนที่ไม่เจอกันมาเป็น10ปี ไม่รู้ว่าใช่นายไหม คนนั้นก็ตอบกลับมาว่าใช่สิ นายคือ(ชื่อเรา)ใช่ไหม แล้วมันก็บอกว่าเจออีกคนยังมันพึ่งเจอกับอีกคนไอ้นั่นมันก็ถามถึงผมด้วยซึ่งเรื่องนี้ทำให้ผมได้รู้เรื่องบางอย่างผมคิดว่าหลังจากที่ผมออกมาพวกมันจะเรียนด้วยกันไม่ใช่เลยอีกคนก็เข้ามาในเมืองเหมือนกัน ซึ่งผมบอกตรงๆว่าโคตรปลื้มอารมณ์นั้นมันประมาณว่าเออเราดูคนไม่ผิดจริงๆว่ะ ราวๆว่าไม่ได้มโนไปเองและเหมือนไม่ใช่แค่เราจำพวกเค้าได้พวกเค้าก็ยังจำเราได้ ปลิ้มตั้งแต่จำกันได้และถามถึงนั่นแหละ ง่ายเลยคือไม่ได้มโนไปเองว่าพวกเค้าคือเพื่อนที่ดี
และพวกเค้าแต่ละคนจากที่ผมฟังมาและดูรูปคือแต่ละคนถือว่าเจอแต่เพื่อนดีๆกันนะเรียนจบกันหมดและไม่ออกนอกลู่นอกทาง
อารมณ์นั้นผมดีใจแทนพวกมันจริงๆที่เจอเพื่อนที่ดีนี่ไม่ใช่คำแนวๆประชดเวลาเลิกกับแฟนว่าดีใจด้วยที่เจอคนที่ดีกว่าเราแต่มันประมาณว่ากูดีใจกับพวกมืงจริงๆ แต่ก็นะพอเห็นแบบนั้นก็รู้สึกเหงาเหมือนกัน
แน่นอนจากกันมา10ปีแถมไม่ใช่เจอตัวจริงกันเจอกันในจอ บางคนแอดก็ไม่รับหรือทักไปก็ไม่ตอบผมก็ไม่ได้รู้สึกเคืองอะไรจำกันได้ถามถึงกันก็พอใจแล้วเพราะมันก็10กว่าปีมาแล้วถ้าไม่โชคดีมาเจอตัวจริงกันแล้วกลับมาคบกันจริงๆจังๆแบบแต่ก่อนอย่างไงมันก็คงไม่เหมือนเดิม
เอาละเลยอยากถามว่าพวกคุณเคยเจอแบบผมบ้างไหม
เวลาเรามีเพื่อนที่ดีมากๆเราก็จากเค้ามา พอเรากำลังจะมีเพื่อนดีๆอีกเค้าก็จากเราไป คนที่คิดว่าสนิทก็ดันเดินเข้าไปในทางที่เราตามไม่ไหวและเห็นคนอื่นสำคัญกว่า หรือคนที่คิดว่าดีก็ดันความชอบไม่เหมือนกันพูดง่ายๆว่าชอบกันคนละอย่าง
แล้วพวกคุณอยากได้เพื่อนแท้เพื่อนสนิทกันแบบไหน ผมเห็นมาก็เยอะในแนวๆที่ว่าเพื่อนแท้เพื่อนสนิทต้องตายแทนกันได้รึอะไรแบบนั้น หรือ แนวๆว่าเพื่อนตายเพื่อนแท้ไม่มีหรอกเจอปืนทีก็วื่งตีนแตกกันหมด
แต่สำหรับผมจะเพื่อนสนิทหรือเพื่อนแท้ผมไม่ขออะไรมาก ขอแค่คุยกันรู้เรื่องหรือชอบสิ่งเดียวกันที่สำคัญไม่หักหลังกัน นอกจากนั้นจะรักชีวิตจะวิ่งตีนแตกจะช่วยรึไม่ช่วยก็แล้วแต่เลยเพราะผมคิดว่าขอแค่ไม่ทำให้เราต้องอดทนหรือหนักใจและไม่หักหลังแค่นั้นก็ดีขนาดในแล้วในโลกแห่งความเป็นจริงจริง
ผมพิมครั้งเดียวไม่ได้เช็คถ้าเขียนคำไหนผิดต้องขอภัย
มีใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เกี่ยวกับเพื่อนบ้าง และพวกคุณอยากได้เพื่อนแท้เพื่อนสนิทแบบไหน
คุณเคยมีเพื่อนสนิทและเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดแต่คือเพื่อนสมัยประถมไหม
ส่วนตัวผมนั้นเพื่อนที่ดีที่สุดสนิทที่สุดสนุกที่สุดสุขใจที่สุดสนุกที่สุดนั้นอยู่สมัยประถมครับและคงจะเป็นเพื่อนกันมาตลอดถ้าผมไม่ได้ย้ายโรงเรียนหรือย้ายเข้ามาอยู่ในตัวจังหวัด อ่อลืมบอกนะครับที่ผมอยู่ตอนแรกคืออำเภอ อำเภอนึงครับ
และอีกอย่างนึงครับช่วงเวลานั้นทั้งทางครอบครัวและทางเพื่อนถือว่ายุคนั้นทั้งมีความสุขทั้งสนุกมากๆเลยล่ะครับ
ช่วงนั้นน่าจะราวๆตั้งแต่ปี 1993-2004 ผมจำไม่ได้เพื่อนสนิทของผมสนิทกันตั้งแต่ป.3หรือตอนป.4 แต่ส่วนก่อนหน้านั้นผมก็มีเพื่อนที่สนิทอยู่บ้างแต่จะมาแนวๆปีนึงสนิทคนนึง อีกปีก็อีกคนมากกว่า มามีเพื่อนที่ถือว่าสนิทกันโคตรๆก็นู่นตอนที่ใกล้จะย้ายบ้านแล้ว ถ้ารวมผมด้วยกลุ่มนี้จะมีกัน3คนครับ แต่บางครั้งจะมี4 ซึ่งที่สนิทจริงๆคือ3คน ผมกับเพื่อนอีก2 1ใน2นี้ จริงๆผมรู้จักมานานแล้วคุยกันถูกคอเลยแหละแต่ไม่สนิทเท่าไหร่ ส่วนอีกคนนึงจำได้ว่าตอนเจอคุยกันครั้งแรกๆผมไม่ชอบหน้าด้วยซ้ำเพราะเหมือนคุยกันแล้วพูดกันไม่ค่อยเข้าหู แต่มาตอนหลังพอได้คุยกันจริงๆ เออรู้สึกว่าไอ้นี่มันก็นิสัยคล้ายๆผม แล้วที่พีคที่สุดคือมันมี การ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องนึง ผมจำไม่ได้ว่าผมเอามาโรงเรียนทำไม หรือผมกะเอามาให้เพื่อนดูหรือมันติดมาเฉยๆเท่านั้นแหละพอวนดูกันรอบกลุ่มพวกมันดันชอบร่วมวงสนทนาโคตรมันส์และสุดท้ายผมก็ย้ายจากที่นู่นเข้ามาในเมืองก็น่าจะช่วงจบป.4 น่าจะต้นๆถึงกลางๆปี2004
แต่เอาจริงๆในช่วงเวลานั้นต้องบอกว่าผมยังไม่เข้าใจหรือยังไม่รู้ว่านั่นคือสิ่งสำคัญด้วยล่ะนะรู้แค่ว่าเพื่อนซี้เพื่อนสนิทอยู่ด้วยแล้วสนุกและมีความสุข
และอีกอย่างคือช่วงนั้นเกมส์ออนไลน์พึ่งเข้ามาได้ไม่นานแม้จะอยู่กับเพื่อนอีกกลุ่มตอนนั้นแม้ไม่ได้มีความสุขอะไรมากแต่สนุกโคตรๆ ในตอนนั้นผมเลยดันอยากมาอยู่ในเมืองซะงั้น นี่คงเรียกได้ว่า อย่าให้ความสนุกมาทำให้ลืมหรือเสียสิ่งสำคัญ แต่ถึงอย่างไงผมก็ต้องย้ายมาอยู่แล้ว แต่ถ้าย้อนกลับไปได้ถ้าผมไม่อยู่กับน้าก็คงขอกับพ่อแม่ว่าอย่างน้อยขออยู่ให้จบป.6ได้ไหมเพราะผมโคตรอยากถ่ายรูปรวมตอนจบป.6กับเพื่อนชุดนี้เลย แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเรียนด้วยกันจนจบม.6นะ และอีกความจริงคือตอนนั้นผมร้องตามที่บ้านด้วยแหละเลยไม่ได้อยู่กับน้า
พอเข้ามาในเมืองก็มีเพื่อนอีกชุด ชุดนี้ไม่เท่าชุดข้างบนแน่ๆแต่พอคบกันได้ ชุดนี้ถ้ารวมผมด้วยก็จะมี4คน ซึ่งนิสัย3คนที่เหลือคือ 1คนนี้คบง่ายคุยง่ายแต่คบกันสักพักมักจะต้องมีเรื่องให้ผิดใจกันส่วนตอนท้ายที่โตแล้วคนนี้จะมาแนวเห็นคนอื่นสำคัญกว่าถึงตอนหลังเหมือนมันรู้ตัวเลยพยายามจะกลับมาทางเราเพราะฉะนั้นจากเพื่อนสนิทเลยกลายเป็นคนที่เคยสนิทเพราะว่ามันเข้าไปในทางที่เราตามไปไม่ไหวและที่สำคัญเวลามีอะไรไม่ค่อยชอบพูดตรงๆเลยบางครั้งเลยขี้เกลียดจะเข้าใจว่ามันไม่พอใจอะไรเรา
2คนนี้ตอนเด็กค่อนข้างเหลี่ยมเยอะแต่ข้อดีคือใจถึงตอนโตก็ใจถึงแต่ค่อนข้างดูรั่วๆหลุดๆแถมอยู่ไม่เป็นที่ตอนหลังทักเฟสไม่ค่อยจะตอบเลยไม่ได้ทักอีก
3ถ้าพูดกันตามตรงคนนี้น่ะโอเคที่สุดแล้วมาจากครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะหรือค่อนข้างมีฐานะก็ไม่รู้แต่ข้อเสียคือไม่ค่อยยอมรับว่าคนอื่นเก่งกว่ากับบางทีชอบดิสเครดิตกันเองนอกนั้นโอเคหมดใจปล้ำมากๆคนนี้
กับชุด2นี้ไม่ได้เลิกคบกันแต่เพราะว่าแต่ละคนแยกย้ายไปในทางของตัวเองและมีเพื่อนใหม่และทางเดินและนิสัยของแต่ละคนคงจะจูนกันยาก
แต่ปัญหามันอยู่ที่เพื่อนอีกชุดในโรงเรียนนี่แหละที่เรียกได้ว่าหนีจากสวรรค์มานรกชัดๆเลย
ขอไม่อธิบายอะไรมากบอกไว้แค่ว่าทำให้ผมจากเด็กขี้อายไม่เคยคิดร้ายกับใครและไม่สู้คนทำให้ถึงกับก้าวร้าวชอบเอาชนะและทะเลาะวิวาทกับคนได้ที่ไม่อธิบายเพราะผมไม่อยากจะพูดถึงผมว่าถ้าเรื่องสังคมคงไม่มีอะไรจะโหดร้ายมากกว่าเรื่องในวัยมัธยม1-3ของผมแล้วมั้ง โรงเรียนนี้ช่วงป.5-6ยังพอทนนะยังพอมีคนดีๆอยู่บ้าง
ก่อนจะเล่าต่อว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม ผมขอย้อนสักนิด
ที่ว่าตอนป.5-6 ยังพอมีคนดีๆอยู่บ้างนี้มันก็เหมือนโชคชะตาเล่นตลกกับผมนะบอกตรงๆ พอมีเพื่อนที่แสนดีผมก็จากเค้ามา พอมีเพื่อนที่พอคบกันได้อีก2คน มันก็ย้ายจากผมไป
นิสัยของเพื่อน2คนนี้ผมว่าถือว่าโอเคเหมือนกัน
1คนนี้คือคนดีมากๆไม่กลัวใครหน้าไหนแต่ไม่ใช่นักเลงและดูจะจริงใจมากเหมือนกันแต่ข้อเสียคือแหย่อะไรไม่ค่อยจะได้ชอบของขึ้นเล่นแรงและชอบนอย
2คนนี้โคตรแก่นพูดเก่งมากคนนี้ใจไม่ถึงนะในตอนนั้นไม่รู้ตอนนี้อย่างไงและไม่ใช่นักเลง แต่ไหวพริบดีมากๆคุยมันคุยฮาคุยรั่วมากๆข้อเสียเพียงนิดเดียวเลยคือชอบดูถูกหรือดิสเครดิตเพื่อนตัวเองในบางครั้ง
เอาละต่อจากข้างบนที่ผมบอกตอนแรกว่าแต่ก่อนครอบครัวก็อบอุ่นมากแต่พอมาอยู่ในเมืองเวลามันก็น้อยลงเรากับครอบครัวก็อยู่ด้วยกันแหละแต่แค่เพราะอาชีพที่ทำตอนนี้เวลาที่จะได้คุยกันเลยไม่ค่อยจะมีเลยมันก็เหมือนห่างแต่ความรู้สึกของเรากับพ่อแม่น่ะยังเหมือนเดิมแหละแต่แค่ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดแบบแต่ก่อน
แรกๆก็ยังไม่มีอะไรแต่หลังมันก็เหมือนชะตากลั่นแกล้งอีกอ่ะพอตอนผมเริ่มเจอเรื่องแย่ๆในโรงเรียนบ้านผมก็เจอเรื่องแย่ๆเข้าเหมือนกันคือมันขาดทุนผมก็เครียดที่บ้านก็เครียดไม่ต้องถามเรื่องปรึกษาไรกันเลยพูดกันทีไรนี่ทะเลาะกันตลอด
กลับเข้ามาหลังจากผมจบม.3 ผมก็ไม่ได้เรียนม.4ต่อ ไม่ใช่เพราะเรื่องเงิน แต่เพราะผมรู้ตัวผมดีตอนนั้นถ้าเรียนต่อละก็ไม่มีเรื่องจนตายก็คงโดนไล่ออก อ่อลืมบอกโรงเรียนที่ผมเรียนมันมีแค่ม.3นะ แต่ผมก็ไม่ใช่นักเลงนะแต่แค่ตอนนั้นปากผมมันไม่ค่อยจะดีแม้ไม่ใช่นักเลงก็แต่มีเรื่องทะเลาะกับคนอื่นหลายครั้งอยู่เหมือนกันแล้วอีกอย่างผมก็อยากเที่ยวด้วย
พอวันที่เรื่องมันจะไปกันใหญ่ผมก็ฉุดคิดขึ้นมาได้ว่าแรกเริ่มเดิมทีผมแค่อยากจะสู้คนแค่นั้นแล้วผมก็ทำได้มาพอควรแล้ว ผมเลยค่อยๆหยุดเรื่องเกเรหรือเรื่องเที่ยวอ้อที่ผมฉุดคิดเพราะตอนนั้นผมเกือบจะได้เข้าวงการนักเลงเต็มตัวแล้วและพอเข้าไปมันมีหลายๆอย่างที่เราไม่ชอบ เช่น ถ้าอยากจะให้คนยอมรับต้องกระทืบคนที่ไม่รู้จักงี้ หรือไม่ก็รุ่นพงรุ่นพี่มันคือใครมาจากไหนทำไมเวลามันมีเรื่องต้องคุ้มกันร่วมแก๊งรวมกลุ่มกับมันขนาดนั้นแต่เหมือนเพื่อนผมจะชอบซึ่งผมทำไม่ได้และไม่ชอบอย่างแรงพอผมเริ่มฉุดคิดผมก็ค่อยๆออกมา
และอาชีพที่บ้านผมทำก็ปรับเปลี่ยนนิดหน่อยมันเลยได้เงินดีกว่าเดิมเยอะหลังจากนี้เราก็ค่อยๆหันกลับมาคุยกันได้แบบเดิม
ช่วงๆนี้จะเกิดขึ้นราวๆปี2005-2012
ช่วงที่ผมคิดว่าทุกอย่างเริ่มกลับมาดีก็คือช่วง 2013
แล้วหลังจากนั้นผมก็เอาแมวมาเลี้ยง แมวตัวนี้แหละที่น่าจะเรียกได้ว่าดึงผมกลับมาได้จริงๆตอนเรียกแรกก็เฉยๆแต่เราก็สนิทกันนะแต่มีอยู่ครั้งนึงผมเอาไว้หน้าบ้านทั้งๆที่มีที่กลั้นอะไรแล้วแต่มันถูกขโมยผมถึงได้รู้ตัวว่าผมรักแมวตัวนี้มากนอนไม่หลับเลยแต่โชคดีที่ผมได้แมวคืนเพราะคงเลี้ยงไม่ได้เพราะแมวตัวนี้ต้องพาออกมาเดินเล่นถ้าไม่พาออกมาเดินเล่นมันจะร้องบ้านแตกและมันค่อนข้างดุด้วยลืมบอกไปแมวตัวนี้คือแมวเปอร์เซียจนตอนนี้ผมก็กลับมาเป็นคนเดิม ช่วงนี้จะเกิดราวๆ 2013-2016
สิ่งที่สำคัญที่สุดของผมก็คือครอบครัว พ่อแม่และแมวตัวนี้ แต่ผมก็กลายเป็นคนไร้เพื่อนโดยที่หวังว่าในอนาคตผมคงจะได้เจอเพื่อนสนิทหรือเพื่อนแท้บ้าง
และสิ่งที่ผมอยากเล่าเรื่องสุดท้ายในกระทู้นี้ก็คือช่วงหลังๆมานี้ผมนึกถึงเพื่อน2คนสมัยประถมมากเรื่องนี้ก็น่าขำอีกแหละครับผมจำไม่ได้ว่าผมหามาเป็นปีหรือหลายเดือน แต่ก็นานพอดูเพราะผมเวลานึกจะทำอะไรขึ้นมาจะจริงจังมากๆ หาไม่เจอครับแม้แต่ล่องลอยก็ไม่เจอแม้แต่กลุ่มศิษย์เก่าโรงเรียนคือเจอบางคนครับและรุ่นอื่นๆเห็นมาหมดเจอมาหมดแต่รุ่นผมหากลุ่มก็ไม่เจอหาเพื่อนสนิทนี่ไม่มีแม้แต่เงาเลยครับ ผมยังเคยบ่นกับเพื่อนที่ในอินเตอร์เน็ตเลยว่าเฮ้อพวกมันจะไม่เล่นกันเลยหรอวะ หรือพวกมันเตลิดกันหมดหรือมันไม่อยู่กันแล้วว่ะคือผมนั่งนึกชื่อโคตรนานตอนแรกสุดจำได้แค่ชื่อเล่นตอนหลังถึงนึกชื่อ จริง นามสกุลออก ส่วนมากจำได้แค่ชื่อเล่น แต่ก็จำชื่อจริงกับนามสกุลได้แค่คนเดียวลองพิมแล้ว ทั้งแบบไทย ทั้งแบบ ENG ไม่เจอครับเจอแต่คนอื่นไม่รู้ว่านามสกุลเหมือนกันหรือตระกูลเดียวกัน เคยแม้กระทั่งแอดคนที่นามสกุลเหมือนกันไปถามเพราะผมคิดว่าน่าจะตระกูลเดียวกันแหละเพราะสกุลนี้ก็อยู่ทีเดียวกับผมสรุปหาไม่เจอกับคนที่ถามไม่มีใครรู้จักผมถามแค่คนเดียวอ่ะนะอยากหาให้เจอเองมากกว่าไม่อยากรบกวนคนอื่น
แล้วมีวันนึงผมไม่รู้อะไรดลใจผมเห็นคนชื่อนามสกุลเดียวกับเพื่อนผม ผมเลยลองพิมอีกครั้งซึ่งมันก็ขึ้นนะชื่อมันเลยสกุลมันเลยแต่ทำไมหน้าไม่ใช่ผมก็แอดไป พอผมทักผมถามว่า ถามไรหน่อยสิ เรากำลังตามหาเพื่อนที่ไม่เจอกันมาเป็น10ปี ไม่รู้ว่าใช่นายไหม คนนั้นก็ตอบกลับมาว่าใช่สิ นายคือ(ชื่อเรา)ใช่ไหม แล้วมันก็บอกว่าเจออีกคนยังมันพึ่งเจอกับอีกคนไอ้นั่นมันก็ถามถึงผมด้วยซึ่งเรื่องนี้ทำให้ผมได้รู้เรื่องบางอย่างผมคิดว่าหลังจากที่ผมออกมาพวกมันจะเรียนด้วยกันไม่ใช่เลยอีกคนก็เข้ามาในเมืองเหมือนกัน ซึ่งผมบอกตรงๆว่าโคตรปลื้มอารมณ์นั้นมันประมาณว่าเออเราดูคนไม่ผิดจริงๆว่ะ ราวๆว่าไม่ได้มโนไปเองและเหมือนไม่ใช่แค่เราจำพวกเค้าได้พวกเค้าก็ยังจำเราได้ ปลิ้มตั้งแต่จำกันได้และถามถึงนั่นแหละ ง่ายเลยคือไม่ได้มโนไปเองว่าพวกเค้าคือเพื่อนที่ดี
และพวกเค้าแต่ละคนจากที่ผมฟังมาและดูรูปคือแต่ละคนถือว่าเจอแต่เพื่อนดีๆกันนะเรียนจบกันหมดและไม่ออกนอกลู่นอกทาง
อารมณ์นั้นผมดีใจแทนพวกมันจริงๆที่เจอเพื่อนที่ดีนี่ไม่ใช่คำแนวๆประชดเวลาเลิกกับแฟนว่าดีใจด้วยที่เจอคนที่ดีกว่าเราแต่มันประมาณว่ากูดีใจกับพวกมืงจริงๆ แต่ก็นะพอเห็นแบบนั้นก็รู้สึกเหงาเหมือนกัน
แน่นอนจากกันมา10ปีแถมไม่ใช่เจอตัวจริงกันเจอกันในจอ บางคนแอดก็ไม่รับหรือทักไปก็ไม่ตอบผมก็ไม่ได้รู้สึกเคืองอะไรจำกันได้ถามถึงกันก็พอใจแล้วเพราะมันก็10กว่าปีมาแล้วถ้าไม่โชคดีมาเจอตัวจริงกันแล้วกลับมาคบกันจริงๆจังๆแบบแต่ก่อนอย่างไงมันก็คงไม่เหมือนเดิม
เอาละเลยอยากถามว่าพวกคุณเคยเจอแบบผมบ้างไหม
เวลาเรามีเพื่อนที่ดีมากๆเราก็จากเค้ามา พอเรากำลังจะมีเพื่อนดีๆอีกเค้าก็จากเราไป คนที่คิดว่าสนิทก็ดันเดินเข้าไปในทางที่เราตามไม่ไหวและเห็นคนอื่นสำคัญกว่า หรือคนที่คิดว่าดีก็ดันความชอบไม่เหมือนกันพูดง่ายๆว่าชอบกันคนละอย่าง
แล้วพวกคุณอยากได้เพื่อนแท้เพื่อนสนิทกันแบบไหน ผมเห็นมาก็เยอะในแนวๆที่ว่าเพื่อนแท้เพื่อนสนิทต้องตายแทนกันได้รึอะไรแบบนั้น หรือ แนวๆว่าเพื่อนตายเพื่อนแท้ไม่มีหรอกเจอปืนทีก็วื่งตีนแตกกันหมด
แต่สำหรับผมจะเพื่อนสนิทหรือเพื่อนแท้ผมไม่ขออะไรมาก ขอแค่คุยกันรู้เรื่องหรือชอบสิ่งเดียวกันที่สำคัญไม่หักหลังกัน นอกจากนั้นจะรักชีวิตจะวิ่งตีนแตกจะช่วยรึไม่ช่วยก็แล้วแต่เลยเพราะผมคิดว่าขอแค่ไม่ทำให้เราต้องอดทนหรือหนักใจและไม่หักหลังแค่นั้นก็ดีขนาดในแล้วในโลกแห่งความเป็นจริงจริง
ผมพิมครั้งเดียวไม่ได้เช็คถ้าเขียนคำไหนผิดต้องขอภัย