งานวิจัยสำรวจผู้บริโภคคนไทย จำนวน 1,000 คนล่าสุด ของ กันตาร์ ทีเอ็นเอส ประเทศไทย (Kantar TNS) ร่วมกับมาร์เก็ตบัซซ (Marketbuzzz)
พบว่าผู้บริโภคชาวไทยมีทัศนคติด้านบวกสำหรับอนาคตของประเทศ แม้ว่าดัชนีทางธุรกิจต่างๆ จะชะลอตัวลงในไตรมาส 4 ปีนี้
ภาพรวมประเทศไทยยังคงอยู่ในภาวะบอบบางจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่จากการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9
จากผลวิจัยชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่คนไทยเป็นห่วงและกังวลมากที่สุด คือ ราคาของสินค้าการเกษตรที่ตกต่ำ อยู่ที่ 51% รองลงมาคือความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพ อยู่ที่ 42% และอันดับสามคือ ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจประเทศไทย อยู่ที่ 40%
ด้านการจับจ่ายใช้สอย คนไทยส่วนใหญ่จะใช้จ่ายเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น โดย 80% บอกว่าจะควบคุมการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และ 77% บอกว่าจะซื้อสินค้าเมื่อจำเป็นจริงๆ เท่านั้น
แกรนท์ บาร์โทลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มาร์เก็ตบัซซ บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด กล่าวว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้นว่าดีหรือไม่ การใช้จ่ายของผู้บริโภคเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจ และเป็นส่วนหลักของจีดีพีประเทศ
สำหรับพฤติกรรมในการใช้จ่ายนั้น การศึกษานี้พบว่า อาหารและเครื่องดื่ม ของแห้ง และโทรศัพท์มือถือ เป็นสิ่งที่จะมีการจับจ่ายใช้สอยมากที่สุด
ทั้งนี้ พบว่าผู้บริโภคจะชะลอการใช้จ่าย การเดินทางไปต่างประเทศ โดย 64% บอกว่าจะลดการใช้จ่ายลงหรือไม่มีแผนที่จะใช้จ่าย, การลงทุนใน LTF/RMF สัดส่วน 60% บอกว่าจะลดการใช้จ่ายลง หรือไม่มีแผนที่จะใช้จ่าย และ รถยนต์ใหม่ โดย 52% บอกว่าจะลดการใช้จ่ายลง หรือไม่มีแผนที่จะใช้จ่าย
ขณะที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่รัดเข็มขัดมากขึ้น แต่กลุ่มมิลเลนเนียล (อายุ 18-24 ปี) เป็นกลุ่มเดียวที่จะหารายได้เพิ่มเติม โดยทำงานพิเศษหรืองานพาร์ทไทม์ เพราะไม่ต้องการลดการใช้จ่ายลง แต่จะแก้ไขด้วยการหารายได้เพิ่มเติมแทน สอดคล้องกับงานวิจัยของสมาคมการตลาด (TMRS) ในปี 2559 ซึ่งพบว่า กลุ่มมิลเลนเนียล ชอบความเสี่ยงและรักในการทำธุรกิจส่วนตัว โดยมีมุมมองว่า จะกำหนดอนาคตด้วยตัวเองและใช้ชีวิตแบบที่ต้องการ
ผู้บริโภคส่วนใหญ่ 71% มองว่า อนาคตจะดีขึ้นหรือเหมือนเดิม แต่ที่น่าสนใจคือ ผู้หญิงและกลุ่มอายุน้อย จะเข้าใจว่า การเปลี่ยนจะเกิดขึ้น แต่ไม่แน่ใจว่าจะกระทบกับพวกเขาอย่างไร ในขณะที่กลุ่มสูงอายุเข้าใจว่า การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น แต่ไม่ค่อยกังวลกับผลกระทบที่จะตามมา
อาภาภัทร บุญรอด ประธานกรรมการบริหาร กันตาร์ อินไซท์ ประเทศไทย กล่าวว่าคนไทยมักจะฟื้นตัวจากเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับมุมมองในเชิงบวก ถึงแม้ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ อาจจะยังไม่ดีมาก แต่คนไทยก็ยังคิดบวก เนื่องด้วยยังมีความหวังกับอนาคตที่ดีในวันข้างหน้า
ปัจจัยที่ผู้บริโภคมองว่าดีขึ้นในอนาคต คือ การท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ 46% ธุรกิจการท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทย 44% และภาพลักษณ์โดยรวมของประเทศ 41%
การวิจัยได้ศึกษาถึงความต้องการของผู้บริโภค เกี่ยวกับบริษัทและแบรนด์ต่างๆ ในช่วงเวลานี้ ผู้บริโภคมองว่า บริษัทควรช่วยเหลือสังคมและสนับสนุนค่านิยมที่ดี เช่น เศรษฐกิจพอเพียง การสร้างความมั่นคงความปลอดภัยในสังคมและสิ่งแวดล้อม และการสนับสนุนโครงการในพระราชดำริฯ ต่างๆ
ด้านการโฆษณา ผู้บริโภค 58% คิดว่าโฆษณาเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร (CSR) และโฆษณาภาพลักษณ์องค์กร (Corporate Ad) ควรมีมากขึ้น ในขณะที่ 42% บอกว่าให้โฆษณาได้ตามปกติ
“ในขณะที่บริษัทต่างๆ สามารถออกโฆษณาได้ตามปกติ และผู้บริโภคเริ่มใช้ชีวิตเหมือนเดิม แบรนด์ที่มีคุณธรรมและมีความรับผิดชอบต่อสังคมจะมีภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาผู้บริโภค"
สถานการณ์ทางเศรษฐกิจอยู่ในภาวะที่บอบบาง คนไทยมองไปในอนาคตด้วยความหวังและทัศนคติเชิงบวก เพื่อการก้าวเข้าสู่ปี 2560
JJNY : เศรษฐกิจดี๊ดี..เศรษฐกิจซึมคนไทยชะลอจับจ่าย80%
พบว่าผู้บริโภคชาวไทยมีทัศนคติด้านบวกสำหรับอนาคตของประเทศ แม้ว่าดัชนีทางธุรกิจต่างๆ จะชะลอตัวลงในไตรมาส 4 ปีนี้
ภาพรวมประเทศไทยยังคงอยู่ในภาวะบอบบางจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่จากการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9
จากผลวิจัยชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่คนไทยเป็นห่วงและกังวลมากที่สุด คือ ราคาของสินค้าการเกษตรที่ตกต่ำ อยู่ที่ 51% รองลงมาคือความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพ อยู่ที่ 42% และอันดับสามคือ ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจประเทศไทย อยู่ที่ 40%
ด้านการจับจ่ายใช้สอย คนไทยส่วนใหญ่จะใช้จ่ายเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น โดย 80% บอกว่าจะควบคุมการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และ 77% บอกว่าจะซื้อสินค้าเมื่อจำเป็นจริงๆ เท่านั้น
แกรนท์ บาร์โทลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มาร์เก็ตบัซซ บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด กล่าวว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้นว่าดีหรือไม่ การใช้จ่ายของผู้บริโภคเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจ และเป็นส่วนหลักของจีดีพีประเทศ
สำหรับพฤติกรรมในการใช้จ่ายนั้น การศึกษานี้พบว่า อาหารและเครื่องดื่ม ของแห้ง และโทรศัพท์มือถือ เป็นสิ่งที่จะมีการจับจ่ายใช้สอยมากที่สุด
ทั้งนี้ พบว่าผู้บริโภคจะชะลอการใช้จ่าย การเดินทางไปต่างประเทศ โดย 64% บอกว่าจะลดการใช้จ่ายลงหรือไม่มีแผนที่จะใช้จ่าย, การลงทุนใน LTF/RMF สัดส่วน 60% บอกว่าจะลดการใช้จ่ายลง หรือไม่มีแผนที่จะใช้จ่าย และ รถยนต์ใหม่ โดย 52% บอกว่าจะลดการใช้จ่ายลง หรือไม่มีแผนที่จะใช้จ่าย
ขณะที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่รัดเข็มขัดมากขึ้น แต่กลุ่มมิลเลนเนียล (อายุ 18-24 ปี) เป็นกลุ่มเดียวที่จะหารายได้เพิ่มเติม โดยทำงานพิเศษหรืองานพาร์ทไทม์ เพราะไม่ต้องการลดการใช้จ่ายลง แต่จะแก้ไขด้วยการหารายได้เพิ่มเติมแทน สอดคล้องกับงานวิจัยของสมาคมการตลาด (TMRS) ในปี 2559 ซึ่งพบว่า กลุ่มมิลเลนเนียล ชอบความเสี่ยงและรักในการทำธุรกิจส่วนตัว โดยมีมุมมองว่า จะกำหนดอนาคตด้วยตัวเองและใช้ชีวิตแบบที่ต้องการ
ผู้บริโภคส่วนใหญ่ 71% มองว่า อนาคตจะดีขึ้นหรือเหมือนเดิม แต่ที่น่าสนใจคือ ผู้หญิงและกลุ่มอายุน้อย จะเข้าใจว่า การเปลี่ยนจะเกิดขึ้น แต่ไม่แน่ใจว่าจะกระทบกับพวกเขาอย่างไร ในขณะที่กลุ่มสูงอายุเข้าใจว่า การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น แต่ไม่ค่อยกังวลกับผลกระทบที่จะตามมา
อาภาภัทร บุญรอด ประธานกรรมการบริหาร กันตาร์ อินไซท์ ประเทศไทย กล่าวว่าคนไทยมักจะฟื้นตัวจากเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับมุมมองในเชิงบวก ถึงแม้ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ อาจจะยังไม่ดีมาก แต่คนไทยก็ยังคิดบวก เนื่องด้วยยังมีความหวังกับอนาคตที่ดีในวันข้างหน้า
ปัจจัยที่ผู้บริโภคมองว่าดีขึ้นในอนาคต คือ การท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ 46% ธุรกิจการท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทย 44% และภาพลักษณ์โดยรวมของประเทศ 41%
การวิจัยได้ศึกษาถึงความต้องการของผู้บริโภค เกี่ยวกับบริษัทและแบรนด์ต่างๆ ในช่วงเวลานี้ ผู้บริโภคมองว่า บริษัทควรช่วยเหลือสังคมและสนับสนุนค่านิยมที่ดี เช่น เศรษฐกิจพอเพียง การสร้างความมั่นคงความปลอดภัยในสังคมและสิ่งแวดล้อม และการสนับสนุนโครงการในพระราชดำริฯ ต่างๆ
ด้านการโฆษณา ผู้บริโภค 58% คิดว่าโฆษณาเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร (CSR) และโฆษณาภาพลักษณ์องค์กร (Corporate Ad) ควรมีมากขึ้น ในขณะที่ 42% บอกว่าให้โฆษณาได้ตามปกติ
“ในขณะที่บริษัทต่างๆ สามารถออกโฆษณาได้ตามปกติ และผู้บริโภคเริ่มใช้ชีวิตเหมือนเดิม แบรนด์ที่มีคุณธรรมและมีความรับผิดชอบต่อสังคมจะมีภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาผู้บริโภค"
สถานการณ์ทางเศรษฐกิจอยู่ในภาวะที่บอบบาง คนไทยมองไปในอนาคตด้วยความหวังและทัศนคติเชิงบวก เพื่อการก้าวเข้าสู่ปี 2560