[CR] หนาวนี้ ที่ เขื่อนสิริกิติ์-น่าน-ดอยเสมอดาว-ลับแล 4 วัน 3 คืน

สวัสดีครับ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกท่าน วันนี้ กระผมจะขอมารีวิว การท่องเที่ยวเขื่อนสิริกิติ์-น่าน-ดอยเสมอดาว-ลับแล 4 วัน 3 คืน ให้ท่านๆ ได้รับชมกันครับ



วันที่ 1 : 10 ธันวาคม 2559

เรา หมายถึง ผม และ พ่อ-แม่-น้อง รวม 4 คน เริ่มเคลื่อนทัพ จาก จ.นนทบุรี ด้วย Honda Civic 2006 โดยฤกษ์งามยามดี 08.00 น. ของวันรัฐธรรมนูญ โดยคาดว่ารถต้องติดแน่นอน เพราะหยุดยาว 3 วัน!!! (แต่เราไป 4 วัน 555)



เสบียงเล็กน้อยครับ

ผมขับออกไปตามเส้นทางราชพฤกษ์-345-ผ่านหน้านิคมบางกะดี แล้วเข้าหัวถนน 347 วิ่งยาว ไปออกสายเอเซีย (32) เลยครับ

พอผ่านมาถึงสายเอเซีย ซัก กม.89 เราก็แวะทานอาหารเช้ากันพออิ่มท้องงง

จากนั้นขับตรงไปนครสวรรค์ ออกทางเส้น 117 ผ่านเมืองชาละวัน (จ.พิจิตร)ตรงไปพิษณุโลก เพื่อไปที่หมายแรกของเรา คือเขื่อนสิริกิติ์ นั่นเองงง



ถึงเขตเมืองพิจิตร ก็จะทราบเองครับ เพราะมีลูกหลานท่านชาละวัน มาต้อนรับอยู่ที่แยกต่างๆ ครับ

ก่อนจะเข้าเขื่อนมีที่เที่ยวที่น่าสนใจครับ ก่อนเข้าเขื่อน เราแวะไปที่บ่อเหล็กน้ำพี้ ที่ อ.ทองแสนขันกันก่อน เขาบอกว่าที่นี่มี "ตกเหล็ก" ด้วยนะ อะไรยังไง??? ต้องตามไปดูครับ



มาถึงที่จะได้แผ่นพับมาแบบนี้ ข้างในมีรายละเอียดพอสมควร



มาอ่านรายละเอียดที่ป้ายได้อีกครับ

เดินมาด้านบนเราจะพบกับคันเบ็ดยาวๆ ทำจากไม้ไผ่ เราก็นึกว่าตกปลา ที่ไหนได้ตกเหล็กในบ่อ? ที่ปลายของแต่ละอันจะมีแม่เหล็กครับ ที่นี่จะมี 2 บ่อ คือบ่อพระแสง และ บ่อพระขรรค์ ตามป้ายเลยครับ อิอิ

เราสามารถตกได้ทั้ง 2 บ่อ โดยทำเหมือนตกปลาเลยครับ ต่างกันตรงบ่อไม่มีน้ำ และ ต้องลากแม่เหล็กไปบริเวณพื้นผิวของบ่อ





นี่ครับเหล็กที่ตกได้ เค้าจะมีซองพลาสติกเล็กๆ เอาไว้ให้ใส่ครับ เจ้าหน้าที่บอกว่าเอาไปบูชา อ่ะ จัดไป

เสร็จเรียบร้อยใกล้บ่ายสามกว่าๆ แล้ว ดูจากเวลาอีกซักชั่วโมงกว่าๆ น่าจะถึงเขื่อน ก็มุ่งหน้าไปกันเลยครับ

คำเตือน : ก่อนจะถึงเขื่อน หาน้ำมันเติมให้เต็มถังนะครับพี่น้อง!!!



ผ่านประตูเข้ามาจะได้บัตรแบบนี้ ไม่ต้องเอาบัตรอะไรแลกนะครับ (จนท.เขาไม่เอา 55) บอก จนท.เลยว่ามาเที่ยวหรือมาพัก (ผมเข้าทางด้านหลังผ่านสนามกอล์ฟ คนเต็มเลยย)



ถึงแล้ววว ถ่ายสันเขื่อนเล็กน้อย เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าค่อยขึ้นไป



เข้าที่พักครับ "บ้านภูน่าน" เป็นบ้านพักในเขื่อน มี 2 ชั้น 2 นอน 2 น้ำ แอร์ ทีวี ตู้เย็น โอเคเลยครับ แถมตอนโทรมาจอง จรท.แจ้ง 1,700 แต่มาจริง พี่เค้าบอกมีโปรสำหรับการเข้าพักวันหยุดยาว ลดอีก 20% เลยเหลือแค่ 1,360 แหม่ ดีจริงๆ อิอิ





ห้องพักโอเคสำหรับครอบครัวเรามาก แถมในตู้เย็นมีน้ำแข็งแช่ไว้ให้อีก แหม่ ยิ้ม

เก็บของกันเรียบร้อย ก็ได้เวลาไปทานอาหารเย็นกันที่ร้าน "ระเบียงน่าน" เป็นร้านสวัสดิการในเขื่อนครับ





ระหว่างรออาหาร ต้องมาถ่าที่สะพานแขวนครับ อยู่ติดกันเลยยยย

อาหารมาแล้วววว





จานสุดท้ายชื่อ "ปลาทับทิมริมน่าน" ร้านแนะนำว่าเด็ด แต่ผมไม่ค่อยโอเค ตรงชุบแป้งมาก่อน เหมือนกันสลัดเลยยย T__T

ค่าอาหารไม่แพงเลยครับ กินกัน 4 คน 681.- บาท แถมพนักงานบริการดีมาก ยิ้มแย้มทุกคน



บรรยากาศริมแม่น้ำน่านยามพลบค่ำครับ อากาศเริ่มเย็นแล้ว

จบภารกิจวันแรกขอนอนเอาแรงก่อนเพราะขับรถมาไกลพอสมควรครับ อิอิ

วันที่ 2 : 11 ธันวาคม 2559

ตื่นเช้ามาราวๆ 7 โมง เดินออกมานอกที่พัก อากาศหนาวพอควรครับ มองไปไกลๆ เห็นพี่ผู้ชายหายใจควันออกปากเลย แต่พอเพ่งก็อ๋อ พี่แกดูดบุหรี่!!!

เราอาบน้ำแต่งตัวและไปทานอาหารเช้าที่ ครัวริมน่าเหมือนเดิม อาหารเช้านี้ไม่รวมในค่าที่พักนะครับ ก็สั่งข้าวต้มกินกันหิวไปก่อนละกัน เสร็จแล้วขึ้นไปสันเขื่อนถ่านรูปวิวสวยๆ ครับ



อาหารเช้า น้ำแดงๆ เป็นสมุนไพรครับ แต่เสียดายผมจำชื่อมันไม่ได้ซะแล้ว T__T







วิวสันเขื่อนและดอกไม้สวยๆ ครับ ใช้โทรศัพท์ถ่ายกันเลย อิอิ

เสร็จแล้วเรามุ่งหน้าไปที่ "หมู่บ้านชาวประมงปากนาย" กันครับ เป็นเป้าหมายที่แอบตื่นเต้นเล็กน้อย ขับผ่านไปทาง อ.น้ำปาด ของอุตรดิตถ์ เราจะต้องเอารถข้ามแพไปอีกฟากหนึ่ง ซึ่งเป็น อ.นาหมื่น จ.น่าน ซึ่งผมก็อ่านข้อมูลจากพี่น้องในห้องนี้ล่ะครับ ว่าจะย่นระยะทางพอสมควร แล้วก็ผจญภัยดี แต่เอาเข้าจริง...

เอาเข้าจริงก็โอเคอยู่นะครับ แต่ทางคดเคี้ยวพอตัวเลย ขึ้นลงเขา สลับกับทุ่งหญ้าแห้งๆ เกือบ 60 กม.ครับ (คุณแม่ผมนี่เวียนหัวเลย) ดังนั้นอย่างที่บอกตอนแรก น้ำมันต้องเต็มนะครับ เผื่อไว้เลย เพราะข้างทางมีแต่เขา เขา และ เขา คือมีแต่เขากะเราเนี่ยแหละ ปั้มไม่มีครับ หรือใครจะหวังปั้มหลอดก็ไม่มีครับ

คำเตือน : บ้านผม 4 คนใช้ DTAC หมดเลย No Service เป็นระยะๆ นะครับผม แนะนำเตรียมไปหลายๆ ค่ายครับ

สุดท้ายก็ถึงจนได้ครับ แพนึงลงได้ 2 คัน รถเก๋ง กระบะ เสียค่าลง 250.-/ คัน ส่วนมอไซค์ กะ 6 ล้อ ลืมถามครับ แหะๆ



คุณพี่กระบะ ข้างๆ ไปน่านเหมือนกัน พี่แกว่า ทางนี้ดีประหยัดเวลา แต่ทางทุรกันดารไปหน่อย







บรรยากาศในแพครับ เป็นส่วนปลายๆ ของเขื่อสิริกิติ์นั่นเอง ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเองครับ เราก็ข้ามาถึง อ.นาหมื่น จ.น่าน แล้ว

ฝั่งนาหมื่น มีร้านอาหารในแพเยอะเลยครับ ใครสนใจก็ทดลองทานได้ แต่ผมมีนัดกับทางเพื่อนคุณพ่อ ที่ อ.ท่าวังผา เลยต้องรีบบึงครับ

เราขึ้นฝั่งผ่านเขาอีกแล้ว ขึ้นๆ ลงๆ จนไปเจอปั้ม อ.นาหมื่น เลยไป อ.นาน้อย (เห็นป้ายไปดอยเสมอดาวแระ อิอิ) ผ่าน อ.เวียงสา ถึง อ.เมืองน่าน จนถึงที่หมาย อ.ท่าวังผา เราทานอาหารกลางวันกันที่นี่ บ้านเพื่อนพ่อ วิว สวยพอสมควร เอามาให้ชมกันเล็กน้อยครับ





บ่ายสาม เรารีบบึ่งกลับมาตัวเมืองน่าน เพื่อเข้าชมสถานที่สำคัญต่างๆ ที่แรกเลย "วัดภูมินทร์"



ภาพหน้าโบสถ์นี้ที่เคยอยู่ในแบงค์ ร.๘



พระประธาน 4 ทิศ



และสุดยอดของที่นี่ ต้อง "กระซิบรักบันลือโลก" ของปู่ม่าน ย่าม่าน ภายในโบสถ์ครับ

อากาศเริ่มเย็น ด้านข้างวัดมีถนนคนเดินด้วยนะครับ น่าเดินทีเดียว ของก็ราคาไม่แพง แต่เราอยู่นานไม่ได้เพราะต้องไปพักที่นาน้อย ใกล้ๆ ดอยเสมอดาว เราจึงออกมาและแวะอีกที่คือ วัดพระธาตุเขาน้อย ที่จะเห็นวิวทั่วเมืองนานเลย







จริงๆ แล้วในตัวเมืองน่านมีที่เที่ยวอีกเยอะนะครับ เช่น พิพิธภัณฑ์งาช้างดำ, วัดพระะาตุช้างค้ำ, วัดพระะาตุแช่แห้ง ฯลฯ

เราขับย้อนมาถึงที่พัก "นานานาน้อย รีสอร์ท" อ.นาน้อย ก้ค่ำพอดีครับ อากาศเริ่มหนาวจริงๆ จังๆ เข้าที่พักเสร็จ ก็ทานอาหารกันที่รีสอร์ทเลย เพราะด้านนอกร้านรวงปิดหมดแล้วครับ ยังไม่สามทุ่มเลยยย



ภายในที่พักครับ มีทั้งเป็นห้องติดๆ กัน และบ้านหลัง ผมจองบ้านหลังไว้ 4 คน 2,000.- บาท รวมอาหารเช้าครับ

ถาม จนท. พี่เค้าบอกว่า ถ้าจะขึ้นดอยตอนเช้า ให้รีบขึ้นไปแต่เช้ามืด ซักตีสี่ ได้ดูดาวด้วย เพราะถ้าไปช้าคนจะเยอะมาก

เราก็เลยตกลงกันว่าจะนอนเร็ว และเป้าหมายพรุ่งนี้คือ ตี่สี่ ครับ

วันที่ 3 : 12 ธันวาคม 2559

ตื่นเช้ากันจริงๆ ตั้งแต่ตีสี่ รีบบึ่งขึ้นดอยเลยครับ ทางมืดพอสมควรเพราะเริ่มมีหมอกลงเยอะมากกกก



จากที่พักราวๆ 17 กม. ก้ขึ้นมาถึงที่จอดรถครับ ยังมืดอยู่มาก แต่พอลงจากรถมา ก็เจอสิ่งที่ประทับใจเลยครับ

ดาว!!! ดาวบนท้องฟ้าเยอะมากๆๆๆๆ ใกล้ด้วย สมชื่อดอยเสมอดาวจริงๆ เสียดายที่เอาแต่มือถือมา ถ่ายไม่ติดเลยยย T_T

เราเดินไปจนถึงจุดชมทะเลหมอกครับคนเยอะมาก รอจนพระอาทิตย์ขึ้น เห็นสายหมอกชัดๆ เพียบๆ บอกได้คำเดียวว่า "คุ้มค่าตืน"















เสร็จแล้ว เราไปต่อที่ผาชู้ เพื่อชมทะเลหมอกที่สวยจริงๆ ครับ และสายธงชาติ ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย



ที่ผาชู้นี่ ถ้าใครมานอนเต๊นท์ ตื่นมาสายๆ เจอหมอกเพียบครับ





ลงมาด้านล่าง แวะไปเสาดินนาน้อย และต้นดิกเดียมครับ เกาๆ ต้นมัน ใบมันจะขยับ จริงๆ นะ...ยิ้ม

เสร็จแล้วเราลงมาทานอาหารเช้าที่รีสอร์ท และมุ่งหน้าไปอุตรดิถต์ โดยพี่ที่รีสอร์ทแนะนำให้ไปทาง อุทยานแห่งชาติขุนสถาน เค้าบอกมันลัด (อีกแล้ว) ก็เชื่อคนพื้นที่ครับ ไปตามเส้นทางที่เค้าบอกเลย เหมือนเดิมครับ ขึ้นๆ ลงๆ 555 แต่วิวแอบสวยอยู่ครับ





แวะซื้อพริกหวานจากชาวเขา แม่ผมถามเค้าว่า ไปกราบพ่อหลวงมารึยัง เค้าบอกยัง แล้วทำท่าจะร้องไห้ T__T

เราเข้าตัวเมืองแพร่ ผ่านย่านขายหม้อฮ้อม และไปทานกลางวันที่ "ข้าวซอยเจ๊เล็ก" ใช้ได้เลย อร่อยมากโดยเฉพาะแกงฮังเล

[img]http://f.ptcdn.info/029/048/000/oif8j9
ชื่อสินค้า:   เที่ยวน่าน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่