ชวนมาเวิ่นเว้อ หวีดหวาย กับ ซีรีส์แห่งปีที่ดีต่อใจ SKAM SS3

จะเขียนว่ารีวิวก็คงไม่ถูกนัก เพราะว่าไม่ได้มีความสามารถด้านรีวิวอะไร

เอาเป็นว่า รู้สึกยังไง ก็ช่วยกันเขียนได้เลย เราพร้อมจะอ่าน เพราะคิดถึงโมเม้นท์ตั่งต่างมาก  

ซีรีส์ SKAM คืออะไร ลองไปอ่านอันนี้ http://pantip.com/topic/35862561 และ  http://pantip.com/topic/35897030

อันนี้เว็บออฟฟิเชี่ยล http://skam.p3.no

---------------------------------
สำหรับเรานะ

ธีมหรือคอนเซ็ป ของ SKAM SS3 สำหรับเรานะ เราคิดว่ามันคือประโยคนี้อ่ะ

“What happens after I’ve saved you?” and then you answer… I’ll save you right back.

"จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อผมได้ช่วยคุณ" แล้วคุณก็ตอบว่า "ผมจะช่วยคุณตอบแทน" (ภาษาไทย ไม่ค่อยดีนะ)



เรื่องนี้มันเกิดขึ้นด้วยปัญหาของ ISAK (ไอแซค=อิซัค) main character เป็นเด็กที่มีความสับสน มีปัญหา พ่อแม่เลิกกัน เก็บกดและที่สำคัญเป็นเกย์ที่ไม่อยากยอมรับตัวเองว่าเป็นเกย์ เกลียดเกย์ โดยพยายามปิดตัวเองมาตลอด เพราะกลัวเพื่อนรังเกียจ กลัวสังคมเกย์ ตั่งต่าง (ประเด็นนี้ธรรมดามาก ทั่วโลกเหมือนกันหมด)

จนวันนึง ได้ไปเจอคนที่แบบ ดึงดูดความรู้สึกของเค้า นั่นคือ EVEN (เอเว่น)(นั่นเป็นชื่อของผู้ชาย) นักเรียนที่เพิ่งเข้ามาใหม่

ด้วยความที่เป็นคนเกลียดเกย์และกลัวเพื่อนรู้ กลัวสังคมเม้าท์ ก็เลยกลายเป็นคนที่ขี้โกหก ไม่ยอมบอกใครให้รู้ ว่าตัวเองหลงรักผู้ชายคนนี้

จนวันนึง มีเหตุให้รู้ว่าเอเว่น ที่เหมือนจะดูมีท่าทีกับเค้าเหมือนกัน กลับไปคบแฟนสาว

อิซัคเลยเหมือนอกหัก จุดหักเหมันเลยเกิด จากคุณหมอประจำโรงเรียน บอกให้อิซัคเปิดใจพูดคุยกับคนอื่นๆ ถึงปัญหาต่างๆ ในใจ แล้วอิซัคจะมีความสุขขึ้น

หลังจากนั้น อิซัคเลยได้ไปสารภาพกับเพื่อนสนิท ว่าเค้าหลงรักผู้ชายและไปสารภาพกับเพื่อนกลุ่มผู้ชายอีกด้วย

เพื่อนก็ได้เซฟอิซัคไว้ เพราะอิซัคได้ค้นพบว่า ปัญหาเรื่องการเป็นเกย์มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะเพื่อนๆ ก็ยังคุยกันเหมือนปกติ ปกติในที่นี้คือช่วยกัน แนะนำวิธีกลับไปคืนดีกับเอเว่นด้วย เพื่อนโคตรดี

เมื่ออิซัคยอมรับ ทุกอย่างก็ไปได้สวย

จุดนี้ คือ เอเว่น เข้ามาในชีวิตอิซัค และได้มาเซฟ อิซัค ให้ยอมรับตัวเอง เป็นตัวของตัวเอง แล้วแฮปปี้
** อิดิท ตรงนี้ ความรักที่มีต่อเอเว่น หรือความรักจากเอเว่น มันช่วยเซฟ อิซัค ไว้ ให้เป็นตัวของตัวเอง

แล้วอิซัค ก็เซฟ เอเว่น จากปัญหาของเอเว่น คือการป่วยเป็นไบโพล่าร์

อิซัค พูดหนักแน่นประโยคนึงกับเพื่อนๆ "ผมจะไม่มีวันเกลียดเอเว่น" แม้ว่าฮีจะไม่ปกติยังไงก็แล้วแต่

และประโยคยืนยัน ว่าเค้าจะอยู่เคียงข้างเอเว่น "คุณจะไม่อยู่เดียวดาย"

แล้วตอนท้ายเรื่องมันเลยกลับกันที่ว่า อิซัคก็ได้ช่วยเหลือ เทคแคร์เอเว่นกลับคืน

แล้วก็จบ ด้วย รักคือทุกสิ่ง

---------------------------------

SKAM SS3 สอนอะไรบ้าง

1  แน่นอนเรื่อง Homosexual  ความรักและการเข้าใจ การยอมรับจากคนรอบข้าง  
2  เรื่อง  Homophobia ประเทศที่พัฒนาแล้ว ก็ยังมีอยู่เยอะนะ แต่อาจจะมาในรูปแบบ หน้าไหว้หลังหลอก
3  เพื่อน+ครอบครัว ที่จะช่วยพาให้คุณรอดจากปัญหาต่างๆ
4  เรื่องของคนป่วยทางจิต หรือ Bipolar เป็นไบโพล่าร์ ไม่ได้หมายถึงคุณเป็นคนบ้า อย่าไปกลัว
5  ศาสนากับเรื่อง Homosexual คนที่เป็น Homophobia มักชอบเอาศาสนามาอ้าง ว่าการเป็น Homosexual มันผิดหลักศาสนา
6  การคิดบวกของบท ไม่มีดราม่า ไม่มีใครตาย ทุกคนต่างมีข้อเสีย ที่ได้รับการแก้ไข เหมือนนิทานอีสบที่จบด้วย "เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ..."  

--------------------------------------------
สิ่งที่ SKAM SS3 ประสบความสำเร็จอย่างท้วมท้น

แน่นอน เพราะความวาย ความชิพ ของสาวๆ ทั่วทุกมุมโลก

แต่สิ่งที่ดีจริงๆ ที่ดึดดูดเราไว้ มากกว่าทุกสิ่ง คือ ความดีงามของนักแสดงค่ะ

Tarjei Sandvik Moe แสดงเป็น ISAK
  

Henrik Holm  แสดงเป็น EVEN
  

โอเค เวลาเราเป็นแฟนหนังเกย์ หนังวาย อะไรก็แล้วแต่ คืออย่างแรกนักแสดงต้องหน้าตาดี หล่อ น่ารัก มีเสน่ห์

Tarjei นี่คือไม่หล่อมากนะ ฟันห่างๆ แต่มันน่ารัก น่าหยิก น่ากอด น่ากัด น่าสงสาร อยากเอาใจช่วย 555 แฟนดอม จะเรียกเบบี้ๆ ลูกหมาขี้อ้อน

ส่วน Henrik นี่คือ ถอดแบบมาจากการ์ตูนตาหวานเลยทีเดียว ขายาว ตัวสูง ไหล่กว้าง ตาสวย จมูกสวย มีความ gorgeous คือหล่อระดับ เปลี่ยนผู้ชายที่ไม่อยากเป็นเกย์ ให้ยอมเป็นเกย์ได้อ่ะ คิดดู 555 ในบทในซีรีส์ ทุกคนเมื่อคิดถึง EVEN จะต้องพูดคำว่า Handsome แม้แต่ผู้ชายแท้ๆ ด้วยกันแบบยูนัสหรือมักนุส ก็ตาม



จากนั้น เราก็ต้องดูเคมี ของผู้ชายสองคน ว่ามันเข้ากันได้มั้ย ซึ่งต้องบอกว่า เชี่ยใครแคสติ้งวะ เคมีโคตรๆๆๆๆๆๆ


สามคือ ดูบทโรแมนติก เลิฟซีน ว่าทำได้ดีมั้ย ทำให้เรารู้สึกอึดอัดมั้ย

มันมีจุดนึงที่คนไทยเราเริ่มเบื่อการทำหนังเกย์ไทย แล้วต้องมีบทจูบกัน เซ็กกัน จนเพื่อนๆ หลายๆ คน เริ่มรู้สึกยี้

แล้วมาปักธงที่ว่า เฮ้ย! หนังเกย์ไม่จำเป็นต้องมีบทเลิฟซีนหรอก เพราะทำให้คนเข้าใจผิดว่าเกย์มักมาก หื่น เซ็กจัด

จนเรามาดูเรื่องนี้ คือมันไม่มีความรู้สึกอึดอัดขยะแขยง รีบเปลี่ยนช่องอะไรเลย ไม่รู้ทำไม มันไม่มีฉากพยายามล้วงเป้ากางเกงผู้ชาย หรือล้มลงแล้วปากไปจูบกัน เลยนึกได้ว่า โอ้ว นี่ฉันคงเป็นเกย์  
  
เรื่องนี้ มันก็มีความเขินอายของจูบแรกนะ แต่มันก็ทำได้กลมกล่อมมาก เซ็กซีน ก็ไม่มากเกินไป เราก็เข้าใจได้ ไม่ต้องตัดไปโคมไฟ ไม่จำเป็น ต้องบอกว่า ใครเป็นรุก ใครเป็นรับ

และคือนักแสดงสองคนนี้ทำได้ดีมากๆ ทั้งที่เค้าอาจจะไม่ได้เป็นเกย์ หรือเคยรัก หรือเคยจูบกับผู้ชายมาก่อน แต่เมื่อมาทำอะไรแบบนี้ เค้าทำกันได้ดีมากๆ ทำดีจนเราเชื่อว่าเค้ารักกันจริงๆ จนใครจะไปชิปนอกจอก็ไม่แปลก เพราะเราเชื่อไปแล้วว่าเค้ารักกัน

---------------------------------------
ความสามารถทางการแสดง ทั้งสองคนคือส่งเสริมกันดีมากๆ ดีคนละด้าน แต่ก็ดีทั้งคู่ จนทำให้มันลงตัว

Tarjei Sandvik Moe แสดงเป็น ISAK แสดงอารมณ์อิโมชั่น ในสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีมากๆ เช่น อารมณ์สับสน ความไม่แคร์คนอื่น ความเกรียน ความเสแสร้ง ไม่จริงใจ แล้วเค้าก็ค่อยๆ พัฒนาความคิด ความรู้สึกตัวเอง จนแบบอารมณ์เปลี่ยนไป เป็นรัก อกหัก เศร้า ผิดหวัง เห็นใจผู้อื่น เราดูแล้วเข้าใจ การแสดงของ Tarjei ทะลุปรุโปร่งมาก ทั้งที่เค้าอายุแค่ 17 ปีเองนะ

ส่วนความดีของ  Henrik Holm  แสดงเป็น EVEN  โอเคว่าบทเค้าไม่เด่นมาก อารมณ์จะไม่ได้หนักหน่วงเหมือนอิซัค แต่เฮนริกแสดงความรักด้วยสายตาเก่งมาก แสดงบทโรแมนติกต่างๆ เก่งมาก มีความมือ ความตา ความปาก การจัดระเบียบร่างกาย การโอบ การจับ การจูบ การมอง การลูบไล้ คือแบบ มันเพอร์เฟก เค้าทำได้อย่างสมูท ราบรื่น รู้จังหวะ มีความพอดี ไม่มากไม่น้อยเกินไป เรายกให้เค้าเป็นระดับมาสเตอร์ของผู้ชายโรแมนติกไปเลย โดยเฉพาะว่าเค้าต้องแสดงกับผู้ชาย (เราไม่รู้นะว่าเค้าเป็นเกย์หรือเปล่า แต่เราตั้งว่าเป็นผู้ชายทั่วไปไปก่อน) แล้วบทที่ Henrik แสดงเป็นไบโพล่าร์ ก็มีคนกล่าวถึง ว่าเค้าแสดงเก็บรายละเอียดดีมากๆ
  

มาสเตอร์แห่ง Eskimo kiss เอสกิโมคิส(จูบด้วยจมูกถูกัน)

และความดีของสองคนนี้อีกอย่าง คือความเรียล ความเหมือนจริง เหมือนที่อิซัคโพสรูปล่าสุด ว่า "No filter" เรารู้สึกว่า เค้าไม่ได้เคลือบอะไรไว้เลย นอกจากคอสตูม หน้าตาตื่นนอนยังไงก็ยังงั้น สิวเต็มหน้า หัวยุ่ง เสื้อยับ หน้าไม่เรียบ ปากแห้ง หน้าป่วย บางคนอาจจะบอกว่า เกลียดสไตล์ทรงผมของ Even ตอนแรกๆ มาก เพราะมันดูเฟกๆ ให้เหมือน เจมส์ ดีน แต่พอดูไปเรื่อยๆ จะเข้าใจตัวจริงของ Henrik เค้าก็ทำผมทรงนี้ตลอดเวลาอยู่แล้ว จะบอกว่านอกจอกับในจอ บุคลิกเป็นคนเดียวกัน

มีฉากนึงที่เราชอบมาก คือตอนที่เอเว่นป่วย แล้วนอนหลับไป แล้วตื่นขึ้นมา อิซัคนอนเฝ้าอยู่ แล้วเสียงเอเว่นจะแหบๆ กลืนน้ำลาย เหมือนคนเพิ่งตื่นนอนจริงๆ เราโคตรชอบ คือเค้าเก็บรายละเอียดดีมาก จนเราคิดว่า Henrik มันคงหลับจริงระหว่างถ่ายทำ


------------------------------------------
ความดีงามของบทเลิฟซีน (มีเยอะมาก บรรยายไม่หมด)

ด้วยความที่เป็นวัฒนธรรมของคนตะวันตกด้วยมั้ง การทำบทเลิฟซีน มันเลยดูไม่เก้อเขิน นักแสดงทุ่มเทมาก นักแสดงต้องมีความเชื่อก่อน เค้าถึงจะแสดงให้เราเชื่อได้ บทเลิฟซีนทั้งหลาย มันมีความโรแมนติก มีความสวย มีความพอดี มีความอบอุ่น นุ่มนวล มีสายตาที่มองกันแล้วเราเชื่อ เราว่ามันเป็นเพราะผู้กำกับ Julie Andem เค้าเป็นผู้หญิงอ่ะ เพราะผู้หญิงมักมีรายละเอียดตรงนี้มากกว่าผู้ชาย วิธีการตัดต่อของเค้า เค้าจะไม่ลืมใส่ reaction ความรู้สึกของอีกคนด้วย เราชอบมาก เวลาเค้าตัดรีแอคเวลาเอเว่นมองอิซัคด้วยความรัก สายตาของเอเว่นที่มองอิซัค จะแตกต่างเวลามองคนอื่น

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
อยากใส่รูปเยอะกว่านี้ แต่มันเป็นไฟล์ GIF หมดเลย ใส่ไม่ได้

ต่อเม้นท์ล่างนะ พิมพ์ไว้แล้ว แต่อาจจะช้า ตรงใส่รูปนี่แหละ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่