เรากับแฟนรู้จักกันและคบกันมาประมาณ 2 ปีกว่า เราอยู่เมืองไทย แฟนอยู่ต่างประเทศ เราก็ใช้วิธีคุยไลน์กัน คอลไลน์กัน และก็มีบ้างที่แฟนกลับมาเมืองไทย โดยตอนแรกที่เราคบกันระยะนึง เราก็ได้รับรู้ว่า ที่เค้าไปต่างประเทศเพราะเค้าอยากไปอยู่ใกล้แม่เค้า และตอนที่เค้าไปอยู่เค้าได้เอาแฟน (ในตอนนั้น) ไปด้วยและก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แต่ด้วยที่ตอนนั้นแฟนเราเกิดอาการไปมีคนอื่น ทิ้งให้แฟนเค้าอยู่คนเดียวบ้าง จนแฟนเค้าไปมีสามีใหม่และมีลูกกับสามีใหม่ ตามที่เรารู้คือ เค้าทั้งสองคนก็จบกันด้วยดี โดยที่ยังอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน แต่สามีใหม่อยู่อีกประเทศนึง ซึ่งก็จะมาหาลูกและภรรยาตามโอกาส แต่ทั้งแฟนเราและแฟนเก่าเค้าไม่ได้คิดอะไรระหว่างกันฉันท์ชู้สาวแล้ว ซึ่งเราเองก็เชื่อใจทั้งแฟนเราและแฟนเก่าเค้าแถมยังค่อนข้างจะคุยสนิทสนมกับแฟนเก่าของเค้าอย่างมาก เวลาแฟนเก่าเค้ากลับมาเมืองไทย เราก็ได้นัดเจอและไปได้ไปเที่ยวกับเค้าและแม่ป้าและน้องของเค้า เรายังรู้สึกดีมากที่ถึงแม้ว่าเราจะเป็นแฟนใหม่ของแฟนเก่าเค้า เค้ากลับต้อนรับขับสู้เราดีทุกคน ดีจนเราคิดว่าเค้าเสมือนญาติ ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี
ที่เมืองไทยแฟนเรามีญาติพี่น้องแต่อาจจะไม่สนิทกันเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นน้าเพราะพ่อกับแม่ของเค้าแยกทางกันต่างคนต่างไปมีครอบครัวใหม่ทำให้แฟนเราเหมือนคนไม่มีบ้านของตัวเอง แต่ด้วยความที่ก่อนจะไปต่างประเทศ ตอนนั้นเค้าอยู่กับแฟนเก่ามาเป็นเวลานานจนไปต่างประเทศเพราะเหตุนี้ทำให้บรรดาญาติ ๆ ของแฟนเก่าเค้าดูเหมือนจะรักแฟนเรามาก เหมือนมีความผูกพันกัน ขนาดแม่ของแฟนเก่าเค้าก็บอกว่ารักแฟนเราเหมือนลูกชายคนนึง
เราก็ยอมรับว่าเราเองก็รู้สึกดีที่ครอบครัวแฟนเก่าของแฟนเราเค้าดีกับเราและแฟนเรามาก และเราก็รู้สึกว่าแฟนเราก็คงจะเป็นคนดีคนนึงที่อาจจะเคยทำให้แฟนเก่าเสียใจแต่เค้าก็คงมีส่วนดีอื่น ๆ ให้ญาติพี่น้องของแฟนเก่าเค้าเห็นและยังรักและเอ็นดูซึ่งเราเองก็รู้สึกว่าเราโชคดีที่ได้มาเจอคนดีดี ทั้งแฟนเก่าของแฟนเราทั้งแม่และญาติของแฟนเก่าเราก็บอกว่าจะชวนเราไปนอนที่บ้านของเค้าในวันที่แฟนเรากลับมาหาเราที่เมืองไทยและให้แฟนเราคิดว่าบ้านนั้นคือบ้านของแฟนเราเหมือนกัน
การกลับมาหาเราครั้งแรกหลังจากที่คบกัน เรายังไม่ได้เข้าไปนอนที่บ้านของทางเค้า เพราะเราเองก็เหมือนคนเพิ่งคบกัน ก็มีแค่ไปมาหาสู่และพากันไปเที่ยวต่างจังหวัดกันสองคนบ้างเหมือนคนที่เป็นคู่รักกันทั่วไป ยังไม่ได้มีการพาเข้าบ้านทั้งสองฝ่าย
การกลับมาหาเราครั้งที่สองหลังจากที่คบกัน ตอนนั้นเราก็เข้าไปนอนที่บ้านเค้าบ้าง พาเค้ามานอนที่บ้านเราบ้าง ซึ่งทุกอย่างก็ดูจะโอเคและราบรื่น
การกลับมาครั้งที่สามเหมือนเริ่มจะมีปัญหาคือการที่แฟนเราจะกลับมาแล้วเอากระเป๋าเสื้อผ้ามาไว้ที่บ้านเรากินอยู่บ้านเรากลายเป็นปัญหา เหมือนทางบ้านแฟนเก่าเค้าจะคิดว่าไม่ว่าแฟนเราจะกลับมายังไงก็ต้องเอาของไปลงที่บ้านของแฟนเก่าเค้า จนแฟนเก่าเค้าติดต่อมาคุยกับเราว่า ให้เราช่วยเข้าใจด้วยว่า ด้วยความที่แฟนเราอยู่กับครอบครัวเค้ามานาน คงไม่ผิดที่แม่ของแฟนเก่าจะคิดว่าแฟนเก่าเราเป็นเหมือนลุกชายของเค้าคนนึง และการที่แม่รอลูกกลับบ้านคงไม่แปลกใช่ไหม ทั้งที่เรากับแฟนก็ไม่ได้คิดว่าการที่แฟนเรามาเป็นครอบครัวใหม่กับเราแล้ว เราจะตัดขาดหรือทิ้งห่างจากครอบครัวแฟนเก่าเค้าไปเลย เรายังคิดกันว่า ไม่ว่าวันข้างหน้าที่แฟนจะกลับมาอยู่เมืองไทยเลย เราก็ต้องแวะเวียนไปเยี่ยมไปหาหรืออาจจะไปนอนค้างบ้างเหมือนที่เคยทำ แต่ด้วยความที่เราก็ต้องมีทางเดินใหม่ร่วมกันมันก็คงไม่ใช่ที่เราจะต้องเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านแฟนเก่าของเค้า ซึ่งบ้านเราเองก็มีเราอยู่กับแม่แค่สองคน เราว่าเราก็ไม่ได้คิดถึงแต่ตัวเองนะ ตอนแฟนมีเวลากลับมาเดือนนึง เช้ามาส่งเราที่ทำงาน กลางวันแฟนเราจะไปหายายของเค้า พอเย็น ๆ ก็จะมารับเรากลับบ้าน วันหยุดเราก็ไปเที่ยวไปหาทั้งญาติเรา ทั้งทางบ้านของแฟนเก่าเค้า ก็ไม่ได้ห่างหายไปไหน เพียงแต่ทางเดินเราเปลี่ยนสังคมเราก็ต้องเปลี่ยนบ้างเป็นธรรมดา
แต่ดูเหมือนกลายเป็นว่าเค้าจะมองว่า พอมีเราเข้ามาในชีวิตเราทำให้แฟนเราเปลี่ยนไปจากที่แฟนเก่าเค้าและครอบครัวแฟนเก่าเค้าคุ้นเคย ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเราค่อนข้างเครียด ทั้ง ๆ ที่เราว่าเราเองก็ทำดีมาโดยตลอด แล้วถ้าเป็นคุณเจอแบบนี้ คุณจะทำยังไง
## ถ้าเป็นคุณจะแก้ปัญหานี้ยังไง ##
ที่เมืองไทยแฟนเรามีญาติพี่น้องแต่อาจจะไม่สนิทกันเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นน้าเพราะพ่อกับแม่ของเค้าแยกทางกันต่างคนต่างไปมีครอบครัวใหม่ทำให้แฟนเราเหมือนคนไม่มีบ้านของตัวเอง แต่ด้วยความที่ก่อนจะไปต่างประเทศ ตอนนั้นเค้าอยู่กับแฟนเก่ามาเป็นเวลานานจนไปต่างประเทศเพราะเหตุนี้ทำให้บรรดาญาติ ๆ ของแฟนเก่าเค้าดูเหมือนจะรักแฟนเรามาก เหมือนมีความผูกพันกัน ขนาดแม่ของแฟนเก่าเค้าก็บอกว่ารักแฟนเราเหมือนลูกชายคนนึง
เราก็ยอมรับว่าเราเองก็รู้สึกดีที่ครอบครัวแฟนเก่าของแฟนเราเค้าดีกับเราและแฟนเรามาก และเราก็รู้สึกว่าแฟนเราก็คงจะเป็นคนดีคนนึงที่อาจจะเคยทำให้แฟนเก่าเสียใจแต่เค้าก็คงมีส่วนดีอื่น ๆ ให้ญาติพี่น้องของแฟนเก่าเค้าเห็นและยังรักและเอ็นดูซึ่งเราเองก็รู้สึกว่าเราโชคดีที่ได้มาเจอคนดีดี ทั้งแฟนเก่าของแฟนเราทั้งแม่และญาติของแฟนเก่าเราก็บอกว่าจะชวนเราไปนอนที่บ้านของเค้าในวันที่แฟนเรากลับมาหาเราที่เมืองไทยและให้แฟนเราคิดว่าบ้านนั้นคือบ้านของแฟนเราเหมือนกัน
การกลับมาหาเราครั้งแรกหลังจากที่คบกัน เรายังไม่ได้เข้าไปนอนที่บ้านของทางเค้า เพราะเราเองก็เหมือนคนเพิ่งคบกัน ก็มีแค่ไปมาหาสู่และพากันไปเที่ยวต่างจังหวัดกันสองคนบ้างเหมือนคนที่เป็นคู่รักกันทั่วไป ยังไม่ได้มีการพาเข้าบ้านทั้งสองฝ่าย
การกลับมาหาเราครั้งที่สองหลังจากที่คบกัน ตอนนั้นเราก็เข้าไปนอนที่บ้านเค้าบ้าง พาเค้ามานอนที่บ้านเราบ้าง ซึ่งทุกอย่างก็ดูจะโอเคและราบรื่น
การกลับมาครั้งที่สามเหมือนเริ่มจะมีปัญหาคือการที่แฟนเราจะกลับมาแล้วเอากระเป๋าเสื้อผ้ามาไว้ที่บ้านเรากินอยู่บ้านเรากลายเป็นปัญหา เหมือนทางบ้านแฟนเก่าเค้าจะคิดว่าไม่ว่าแฟนเราจะกลับมายังไงก็ต้องเอาของไปลงที่บ้านของแฟนเก่าเค้า จนแฟนเก่าเค้าติดต่อมาคุยกับเราว่า ให้เราช่วยเข้าใจด้วยว่า ด้วยความที่แฟนเราอยู่กับครอบครัวเค้ามานาน คงไม่ผิดที่แม่ของแฟนเก่าจะคิดว่าแฟนเก่าเราเป็นเหมือนลุกชายของเค้าคนนึง และการที่แม่รอลูกกลับบ้านคงไม่แปลกใช่ไหม ทั้งที่เรากับแฟนก็ไม่ได้คิดว่าการที่แฟนเรามาเป็นครอบครัวใหม่กับเราแล้ว เราจะตัดขาดหรือทิ้งห่างจากครอบครัวแฟนเก่าเค้าไปเลย เรายังคิดกันว่า ไม่ว่าวันข้างหน้าที่แฟนจะกลับมาอยู่เมืองไทยเลย เราก็ต้องแวะเวียนไปเยี่ยมไปหาหรืออาจจะไปนอนค้างบ้างเหมือนที่เคยทำ แต่ด้วยความที่เราก็ต้องมีทางเดินใหม่ร่วมกันมันก็คงไม่ใช่ที่เราจะต้องเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านแฟนเก่าของเค้า ซึ่งบ้านเราเองก็มีเราอยู่กับแม่แค่สองคน เราว่าเราก็ไม่ได้คิดถึงแต่ตัวเองนะ ตอนแฟนมีเวลากลับมาเดือนนึง เช้ามาส่งเราที่ทำงาน กลางวันแฟนเราจะไปหายายของเค้า พอเย็น ๆ ก็จะมารับเรากลับบ้าน วันหยุดเราก็ไปเที่ยวไปหาทั้งญาติเรา ทั้งทางบ้านของแฟนเก่าเค้า ก็ไม่ได้ห่างหายไปไหน เพียงแต่ทางเดินเราเปลี่ยนสังคมเราก็ต้องเปลี่ยนบ้างเป็นธรรมดา
แต่ดูเหมือนกลายเป็นว่าเค้าจะมองว่า พอมีเราเข้ามาในชีวิตเราทำให้แฟนเราเปลี่ยนไปจากที่แฟนเก่าเค้าและครอบครัวแฟนเก่าเค้าคุ้นเคย ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเราค่อนข้างเครียด ทั้ง ๆ ที่เราว่าเราเองก็ทำดีมาโดยตลอด แล้วถ้าเป็นคุณเจอแบบนี้ คุณจะทำยังไง