เพิ่งลงจาก #เขาช้างเผือก เมื่อวาน (17/12/2559) นี่คือข้อมูลที่น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่วางแผนไปพิชิตยอดเขาช้างเผือกครับ
- เขาช้างเผือกเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
- จากตัวเมืองกาญจนบุรี ถึง อ.ทองผาภูมิ ระยะทาง 139 กม. จากตัว อ.ทองผาภูมิ ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ 61 กม. จากที่ทำการฯ ถึงบ้านอีต่องซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางปีนเขาช้างเผือก 8 กม.
- การขึ้นเขาช้างเผือก จะต้องโทรจองล่วงหน้า 7 วัน คือ ถ้าจะขึ้นวันอาทิตย์หน้า ก็ต้องโทรจองวันอาทิตย์นี้ เริ่มโทรได้ 8.00 น. ที่เบอร์ 098-2520359 (ส่วนใหญ่ที่โทรติด จะโทรประมาณ 100-200 สาย) ไม่รับจองล่วงหน้ามากกว่า 7 วัน เช่น โทรวันอาทิตย์แต่จะจองขึ้นเขาวันจันทร์หน้าไม่ได้ ต้องรอโทรเช้าวันจันทร์ (ก่อนหน้านี้มีเบอร์ 034-510979 ด้วย แต่เมื่อสองวันก่อนแจ้งว่าขัดข้อง ไม่แน่ใจว่าใช้ได้รึยัง)
- เมื่อโทรติดแล้ว ให้แจ้งชื่อพร้อมเลขประชาชน ของสมาชิกทั้งหมดที่จะขึ้นพร้อมกัน จากนั้นก็ส่งสำเนาบัตรประชาชนของทุกคนไปทางอีเมล thongphaphumoffice@gmail.com ภายใน 24 ชม. (ข้อมูลเพิ่มเติม ดูที่เพจอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี)
- ในวันเดินทาง สามารถเดินทางได้หลายวิธี รถทัวร์/รถตู้มาลงทองผาภูมิแล้วต่อสองแถว แต่จะมีแค่เที่ยวเช้ากับเที่ยงเท่านั้น หรือจะนั่งรถมาลงตัวเมืองกาญฯแล้วเช่ามอเตอร์ไซค์ขับมาก็ได้ หรือจะขับรถส่วนตัวมาเลยก็จะสะดวกหน่อย
- เส้นทางจากตัวอำเภอทองผาภูมิก่อนจะถึงที่ทำการอุทยานฯ จะค่อนข้างคดเคี้ยว เป็นทางขึ้นเขา สภาพรถและคนต้องพร้อม
- ในวันขึ้นเขา จะต้องลงทะเบียนรายงานตัว ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เวลา 07.00-08.00 น. เซ็นเอกสารขออนุญาตขึ้นเขา จ่ายค่าเจ้าหน้าที่นำทาง คนละ 180 บาท (กรณีนักท่องเที่ยวแจ้งยกเลิก ทำให้วันนั้นไม่ครบ 60 คน จะมีการเรียกเก็บมากกว่า 180 บาท เพื่อชดเชยในส่วนที่ขาด แต่จะไม่เปิดรับคนเพิ่มแทนคนที่แจ้งยกเลิก) และซื้อตั๋วเข้าอุทยาน ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท รถยนต์คันละ 30 บาท มอเตอร์ไซค์คันละ 20 บาท ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง เจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้ขึ้นเขาเด็ดขาด จะมีจุดตรวจเช็กด้วย (เจ้าหน้าที่ใช้ ว.สื่อสารกันตลอด)
- ณ ที่ทำการอุทยานฯ มีเต็นท์ให้เช่า ขนาด 2-3 คน ราคา 200 บาท ขนาด 3-4 คน ราคา 330 บาท ถุงนอน 30 บาท ไฟฉาย 25 บาท และสมุดพาสปอร์ตอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศไทย 115 บาท รวมถึงมีร้านสวัสดิการที่ขายอาหารให้นักท่องเที่ยวด้วย เผื่อใครจะแวะกินที่ที่ทำการอุทยานฯเลย
- หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จะให้ไปที่บ้านอีต่อง ซึ่งห่างออกไป 8 กม. (เลยน้ำตกจ๊อกกระดิ่ง / สภ.ปิล๊อก / เลยทางขึ้นเนินช้างศึก) เพื่อหาลูกหาบ ลูกหาบจะรอที่ป้อมตำรวจ ถ้าต้องการ ลูกหาบ 1 คน แบก 30 กก. ราคา 1,300 บาท (ไป-กลับ)
- จากนั้นก็ไปที่จุดทางขึ้นภายในหมู่บ้านอีต่อง (มีป้ายเขียนว่า เขาช้างเผือก 8 กม.) จะมีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ สวมชุดลายพรางรอรับนักท่องเที่ยว ให้แจ้งชื่อคนที่โทรจอง และจำนวนสมาชิกในกลุ่ม ถ้าแต่ละกลุ่มมีไม่ถึง 10 คน ก็จะต้องรอกลุ่มอื่นจนครบ 10 คน จึงจะเริ่มเดินขึ้น
- เดินออกจากบ้านอีต่องได้ประมาณ 15 นาที จะมีจุดตรวจเช็คชื่อและตรวจตั๋ว ที่ซื้อ ณ ที่ทำการอุทยานฯ ถ้าไม่มีชื่อ ไม่มีตั๋ว ให้เดินลงอย่างเดียว
- งดเครื่องดนตรี งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดูแลขยะของตนเอง
- เส้นทางเดินถือว่าไม่ยาก ส่วนใหญ่เป็นการเดินไต่ตามไหล่เขา ตามยอดเขา เป็นทางเดินลาดเอียง นาน ๆ จะมีทางชัน ใครเคยไปภูกระดึงมาแล้ว สบายเลย ภูกระดึงโหดกว่ามาก
- ระหว่างทาง ใบหญ้าคมมาก ควรสวมกางเกงขายาว เสื้อแขนยาว มีถุงมือด้วยก็ดี
- ปกติจะใช้เวลาเดินขึ้น 4-5 ชม. เดินลง 2-3 ชม.
- AIS มีคลื่นตลอดเส้นทาง รวมถึงจุดกางเต็นท์ บนสันคมมีด และจุดสูงสุดของยอดเขา แต่จะมีบ้างที่สัญญาณขาดหายหรือขึ้น E ส่วนระบบอื่นไม่แน่ใจ
- ที่จุดกางเต็นท์ ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีร้านค้า ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ ยกเว้นส้วม 3 ห้อง เป็นส้วมหลุม ไม่มีน้ำ ต้องเตรียมน้ำไปเอง ทิชชู่เปียกสำคัญมาก
- อาหารที่เตรียมไป ควรเป็นแบบพร้อมกิน เช่น อาหารกระป๋อง ขนมปัง แซนวิส หรือจะเป็นอาหารที่หุงต้มไม่ยาก โดยสามารถนำแก๊สปิคนิคขึ้นไปได้
- ช่วงกลางวันวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา อุณหภูมิ 19 องศา ไม่ไม่มีแดด มีฝนปรอยๆ นิดหน่อย หมอกลง ส่วนกลางคืนลมแรงมาก อุณหภูมิลดลงเหลือ 14-15 องศา แต่พอวันที่ 17 ธันวาคม แดดจัด ไม่มีฝน ไม่มีหมอก เดาไม่ถูกว่าสภาพอากาศแต่ละวันเป็นยังไง ควรเตรียมพร้อมสำหรับทั้งฝน แดด หนาว
- เมื่อนักท่องเที่ยวขึ้นมาครบ สภาพอากาศเอื้ออำนวย ประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่จะพาเดินขึ้นสันคมมีดเพื่อไปที่จุดสูงสุดของเขาช้างเผือก นี่คือไฮไลต์ของการปีนเขาช้างเผือก
- อนุญาตให้นักท่องเที่ยวพักค้างคืนบนเขาได้ 1 คืนเท่านั้น และไม่อนุญาตให้ปีนแบบไปเช้ากลับเย็น
- ขากลับ จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินลงได้ประมาณ 8 โมง
- เดินลงถึงบ้านอีต่องแล้ว สามารถอาบน้ำได้ที่ป้อมตำรวจ (ฟรี) หรือที่โรงเรียน (ฟรี) หรือร้านอาบน้ำที่อยู่ใกล้ทางออกหมู่บ้านน้ำอุ่น 30 บาท น้ำเย็น 20 บาท หรืออาบที่ที่ทำการอุทยานฯ ก็ได้ (ฟรี)
- เจ้าหน้าที่ยังตอบไม่ได้ว่าจะเปิดให้ขึ้นถึงเมื่อไหร่เพราะต้องประเมินสภาพอากาศ แต่ปีที่ผ่านมาจะเปิดถึงสิ้นเดือนมกราคม บางปีอาจจะเลยไปถึงเดือนกุมภาพันธ์
- การขึ้นเขาโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นการกระทำที่ผิดกฏ มีโทษปรับ และทำให้เจ้าหน้าที่ตกที่นั่งลำบาก อาจมีผลต่อการพิจารณาเปิดเส้นทางในปีต่อ ๆ ไป โปรดทำตามกติกานะครับ