[RIDE NOW - RUN NOW] พักเรื่องซิ่งมาวิ่งดูบ้าง

...

สวัสดีอีกครั้งครับ วันนี้ก็ตามหัวกระทู้นั่นแหล่ะครับ

พักจากการซิ่ง มาวิ่งดูบ้าง

เปลี่ยนจากเคลื่อนที่ดด้วยแรงม้า เป็นเคลื่อนที่ด้วยแรงขาบ้าง

ถ้าเป็นห้องมอเตอร์ไซค์ หลายๆท่านก็คงพอทราบว่า ไอ้มนุษย์ขาสั้นๆคนที่ทำกระทู้นี้เนี่ย ส่วนใหญ่ก็ขับแต่มอเตอร์ไซค์

แล้วไฉนจับผลัดจับพลูมาวิ่ง จริงๆมันไม่มีอะไรมากเลยครับ

ไม่มีเคล็ดลับ ไม่มีวิธีไม่มีอะไรเลยจะมาแนะนำ

มีก็แค่เรื่องเล่า เรื่องราวสั้นๆของคนขาสั้นที่ตะบี้ตะบัน ก้าวข้ามบางสิ่งบางอย่างที่ละเว้นไว้มานานนนนนหลายปีเท่านั้นครับ

จริงๆนับง่ายๆก็ราว11 ปี เพราะจำได้ว่าวิ่งจริงจังครั้งสุดท้ายคือก่อนได้อิกล้วย(อิกล้วยหรือกล้วยหอมคือชื่อมอเตอร์ไซค์ของผมครับ)

นี่คือรถสุดซิ่งที่พาผมมาวิ่งในครั้งนี้


ต้องบอกก่อนว่าการวิ่งครั้งนี้ไม่ได้มีแรงบรรดาลใจมาจากพี่ตูนแต่อย่างใดครับ แต่พี่ตูนก็เป็นแบบอย่างที่ดีมากๆๆๆๆๆ ให้กับหลายๆคน

แต่ที่มาวิ่งเป็นแรงกดดันจากเพื่อนหน้าหนวดคนนึง ที่เอ่ยปากชวนไว้ก่อนที่จะถึงวันเค้ารับสมัคร

ประกอบกับพี่ที่เล่นบาสอยู่ด้วยกัน บอกแบบเบ้ปากมองบนมาว่า ถ้าเดินวิ่งสามกิโล ก็เท่ากับลูกผมวิ่งเลยนะ ถถถถถ

เอาฟระ สิบจุดห้า กิโล คือคำตอบสุดท้าย แกมบังคับตัวเอง

ก่อนหน้านี้คิดมาเสมอครับว่า ปกติก็มีออกกำลังกายอยู่บ้างวิ่งแค่นี้ไม่น่าจะมีอะไรไหวแน่นอน

งาน เดิน – วิ่งมหากุศลนครธน มินิมาราธอน ครั้งที่ 9 ชั้นต้องผ่านไปได้สิน่าาาา

ซึ่งรายละเอียดของงาน เงินสามร้อยบาทที่เราๆท่านๆสมัครไปนั้น แม้เราจะได้หรือไม่ได้สิ่งของอะไรกลับมา แต่สิ่งที่ได้มาคือใจครับ

เพราะรายได้ในการจัดงานนั้นได้มอบให้มูลนิธิ-องค์กรการกุศล 17 แห่ง  และรายชื่อแรกที่เห็นจากหน้าเว็ป ก็เป็นโครงการพ่อหลวงของเรานี่เอง                                                          

1. มูลนิธิชัยพัฒนา

2. มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์

3. มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์

4. มูลนิธิถันยรักษ์ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

5. สภากาชาดไทย

6. มูลนิธิโรคข้อในพระบรมราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี

7. มูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย

8. มูลนิธิโรคหืดแห่งประเทศไทย

9. มูลนิธิกลุ่มแสงเทียน วัดบางไส้ไก่

10. มูลนิธิโรคตับ

11. สมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย

12. วัดพระบาทน้ำพุ

13. ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร

14. มูลนิธิโรงพยาบาลนครธน

15. มูลนิธิโสสะ

16 มูลนิธิรามาธิบดี

17. ศิริราชมูลนิธิ

ปีนี้ตรงกับ วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2559 ภายใต้ชื่อ เดิน – วิ่งมหากุศลนครธน มินิมาราธอน ครั้งที่ 9

ประเภท: วิ่งมินิมาราธอน ระยะทาง 10.5 กม. Start 06.00 น. ชาย/หญิง(ผมลงรุ่นนี้ไว้ครับ)

             อายุต่ำกว่า 15 ปี/16-29 ปี/30-39 ปี/40-49 ปี/50-59 ปี/60-69 ปี/70 ปีขึ้นไป

            : เดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพ ระยะทาง 3 กม. Start 06.10 น. ชาย/หญิง

เราเริ่มจากการมาถึงหน้างานเพื่อสมัครก่อนแม้คนจะดูเยอะวุ่นวายแต่การสมัครก็ไม่ได้วุ่นวายอะไร

คนที่วิ่งเป็นประจำอยู่แล้ว เค้าก็คงทราบกันดีแหล่ะ ว่าอะไรอยู่จุดไหนยังไงบ้าง

แต่กะผมที่ไม่ได้วิ่งงานแบบนี้มานานกว่าจะลงทะเบียนได้ ก็เดินมึนขี้ตาอยู่พักนึงครับ กว่าจะได้ป้าย ได้เบอร์ ได้ฝากของกะเค้า


และวินาทีแห่งการเริ่มต้นก็มาถึงครับ

6.00น. ก็เริ่มปล่อยตัว ด้วยความงัวเงียตอนแรกผมจับจอกที่ออกสตาร์ทช่วงหน้าๆเลยนะ แต่ลืมเช็คอิน =_=

เลยต้องเดินย้อนเข้าไปเช็คอินก่อน ถึงเริ่มออกวิ่งกับเค้า

งานวิ่งแบบนี้ มีตากล้องเยอะแยะมากมายครับ ขอบคุณตากล้องทุกๆท่านขอบคุณผู้ร่วมและผู้สร้างกิจกรรมเหล่านี้ขึ้นมา

อันนี้ภาพช่วงออกตัว เครดิตตามภาพเลยครับ งานวิ่งแต่ละงาน น่าจะมีลายน้ำแบบนี้เกือบทุกที่ ^^
SHUTTER RUNNING IMAGE SERVICES [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นั่นเอง เพื่อนผมที่ไปวิ่งๆกันก็ได้ภาพจากที่นี่เยอะเลย


เมื่อปล่อยตัวเสร็จก็ตามภาพครับ ช่วงแรกๆใครแรงดีก็ดีดตัวเองออกมาก่อน เพื่อให้เกิดสภาพคล่องในการวิ่ง อันนี้ผมเดาเอาเองนะ แฮ่ๆ


คร่าวนี้มาดูแผนที่การวิ่งคร่าวๆครับ สังเกตุตรงสะพานสีเหลืองๆนั่นแหล่ะ ที่วัดใจของผู้ชายวัยสามสิบต้นๆ คนที่ไม่ได้วิ่งมินิมาราธอนมานาน

ผมเริ่มมีปัญหากับตัวเองตั้งแต่ก่อนจะขึ้นสะพานแล้วครับ
เริ่มหายใจไม่เป็นจังหวะ แรงยกขาเริ่มถดถอย แต่พอเห็นคนหลายๆคนในช่วงหลายๆวัย ค่อยๆวิ่งๆเดิน ผ่านหน้าเราไป ทำให้เราต้องมีแรงฮึดขึ้นมาครับ
ความสำเร็จไม่ใช่เส้นชัยแต่เป็นการชนะใจตัวเองล้วนๆ

ในครั้งนึงผมมองว่าการวิ่งมันไม่มีอะไรมากอุปกรณ์น้อยๆ ใครๆก็วิ่งได้
แต่พอได้มาวิ่งเองจริงๆทุกสิ่งมันโหดร้ายกว่าที่เคยวาดหวังไว้
ไม่ใช่แค่มีแรงแต่ต้องมีทั้งใจ มีทั้งการเตรียมตัว มีทั้งการซ้อม บลาๆๆ อีกมากมาย

หลังจากข้ามพ้นสะพานช่วงแรกมาได้ กำลังขาที่ลดง มันคงเริ่มเข้าที่เข้าทางบ้าง
ความเร็วในการวิ่งไปข้างหน้าก็สำคัญแต่ที่สำคัญกว่าคือการประคองมันไว้ เพราะถึงคุณจะวิ่งเร็วแค่ไหนแต่ไปไม่ถึงจุดหมายมันก็เท่านั้น
อารมณ์ก็คงเหมือนตอนผมขับมอเตอร์ไซค์นั่นแหล่ะครับ ผมพยายามคิดถึงเวลาที่ตัวเองขับมอเตอร์ไซค์
ว่าถ้าเราวิ่งด้วยแรงขาเท่านี้ แล้วถ้าขาเราเป็นเครื่องยนต์มันต้องแบกรับภาระแบบนี้มาเสมอเลยเหรอ
เราดูแลและทำอะไรให้กับรถ แล้วเราทำอะไรดูแลอะไรให้กับตัวเองบ้างรึยัง
พอคิดได้แบบนั้นแรงเต่าก็เข้าสิง ทำให้วิ่งมาจนถึงจุดหมายได้ครับ

การกลับมาวิ่งทั้งๆที่ทิ้งระยะไปสิบปีนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณ หากผม หากเราๆ ตั้งใจ
ที่สุดแล้ว สุขภาพไม่ได้มีไว้จำหน่ายครับมันไม่ใช่ของแต่งมอเตอร์ไซค์ สุขภาพมีไว้ให้เราสร้างมันขึ้นมาเอง
ที่มาทำกระทู้ก็แค่อยากเก็บความทรงจำของตัวเองไว้ ว่าครั้งนึง เคยมีความตั้งใจว่าจะวิ่งนะ
และทำสัญญาใจกับตัวเองไว้ครับว่า สักวันเวลาจะดีขึ้น ขอบคุณที่อ่านกระทู้กันจนจบครับ

และเช่นเคย

.

.

.

.



หาสาระไม่ได้ ฮ่าๆๆๆๆ

หวังว่านักซิ่งในห้องมอเตอร์ไซค์ จะหันมาใส่ใจเรื่องวิ่งๆกันบ้างนะครับ ^^

นอกจากมอเตอร์ไซค์ที่แรงๆ อย่าลืมเรื่องสุขภาพที่แข็งแรงของตัวเองด้วยเน้อ



และก่อนจบ ขอบคุณช่างภาพทุกๆท่านที่เก็บภาพสเมิร์ฟตอนวิ่งด้วยครับ

chill chill running[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


Boon A[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


Heart Attack Studio[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


K Sportrunning[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


สุดท้ายจริงๆ อย่าไปโฟกัสที่กางเกง เสื้อผ้า หรือรองเท้าที่ผมใส่เลยฮะ ถถถถถถ

ใส่ใจแค่มาออกกำลังกายกันบ้างก็พอเน๊าะ


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่