ดูคะแนน PISA ของไทยแล้ว ทำไมได้น้อยจัง โดนสิงคโปร์ จีน แม้แต่เวียดนามทิ้งไปไกลมาก แล้วแบบนี้จะไปแข่งขันสู้อะไรกับเขาได้

ใครใจดีแปะรูปใหห้หน่อย

http://postto.me/1h/cu6
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ด็กบ้านเราเค้าทำไรกันครับวันๆ เซลฟี่ เฟสบุค ด่ากันในโซเชี่ยล เที่ยวกันแต่ผับบาร์ บ้าดาราเกาหลี ไปจองที่กรี๊ดกัน
ข้ามวันข้ามคืน ไม่รู้เวลาพ่อแม่มันไม่สบาย มันเคยไปเฝ้าข้ามวันข้ามคืนบ้างไหม สารคดีบน Youtube เผยแพร่กันเป็นปี
คนดูไม่ถึงแสน คลิปเด็กมัธยมตบกัน อาทิตย์เดียวดูกันเป็นแสนๆ เมื่อเทคโนโลยี(ความเร็วอินเตอร์เน็ท)แซงหน้าความรู้
ของประชากร เราจึงเห็นคำแปลกๆ ที่แอบหยาบ อยู่ทั่วไปหมด ...สัส สันตีน พ่อง ฟาย

ส่วนด้านการศึกษา เด็กที่แสวงหาโอกาสทางการเรียนรู้ อย่ากเก่ง อยากทำอะไรแล้วเป็นที่ 1 มีอยู่ไม่น้อย แต่เด็กเหล่านั้น
ส่วนหนึง อ่อนทักษะด้านภาษาและคำนวณ อาจด้วยหลายปัจจัย เช่น ทุนทรัพย์ โรงเรียน ครู บุคคลากรทางการศึกษา
ส่วนเด็กที่มีพร้อมทุกอย่าง พ่อแม่ก้ทุ่มให้สุดกำลัง แม้หมู่บ้านรั้วอยู่ติดโรงเรียน ก็ต้องเอารถดีๆ แพงๆ ไปส่งที่โรงเรียน
แม้ประตูหมู่บ้านกับโรงเรียน ห่างกัน 40 เมตร รถติด 20 นาที ก็ไม่มีปัญหา กลัวลูกเดินไม่เป็นหรือไงก็ไม่ทราบ แต่เด็ก
พวกนี้ส่วนใหญ่ มีทักษะด้านภาษาและคำนวณดีถึงดีมาก พร้อมจะเข้ามหาลัยดังๆหรือเรียนต่อต่างประเทศ แต่ส่วนนึง
พอเข้ามหาลัย แล้ว?? จะไปเรียนยังไง ขึ้นรถเมล์หรอ ไม่ๆๆ ต้องขับรถ งืม...ก็มีกำลังทรัพย์ จะไปกลัวอะไร เว้นแต่
ถ้าไม่ไปเฉี่ยวชนรถตู้ให้คนตาย แล้วยืนเล่นไลน์บนทางด่วน

คุณเห็นเด็กจำพวกไหน แล้วมีมากแค่ไหน ที่คิดอะไรเพื่ออนาคต คิดเพื่อจะเป็นที่หนึ่ง คิดที่จะสร้างอะไรใหม่ๆ คิดจะสร้าง
ชื่อเสียงให้กับประเทศ

แล้วคุณคิดว่ามีกี่คนในประเทศนี้ ที่ชื่นและให้กำลังใจ กับคนที่พยามจะสร้างเครื่องจักรอนันต์ (พวกนี้ไม่ใช่พวกลวงโลก
แต่เป็นพวกที่คิดว่าตัวมีคานยาวๆอันนึง จะงัดโลกให้ได้ แต่ลืมคิดไปว่ามันจะยืนตรงไหนถ้าจะเอาคานมางัดโลก)

ส่วนตัวผม ผมคิดว่า ความฉลาดนั้นเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัว เหมือน ศิลปะ ดนตรี และกีฬา
เช่นเดียวกับ กับ ภาษา และ การคำนวณ ถ้าคุณไม่มีความสามารถได้ ศิลป วาดรูป คุณเรียนมันได้ ฝึกมันได้
หรือเรียนมันจนจบได้ ได้ปริญญา แต่คุณไม่อาจวาดรูปสู้เด็กปี 1 ที่มีความสามรถทางศิลปะได้ เพราะเค้ามีความสามารถพิเศษ
เช่นเดียวกับคนเก่งคำนวณ ที่อ่านหนังสือคืนเดียวก่อนสอบก็แตกฉาน แต่คุณอ่านมันเป็นอาทิตย์ แบบมึนๆ งงๆ

ผมคิดว่าเราไม่น่าจะตกต่ำไปกว่านี้ และยังคงทรตัวไปอย่างนี้อีกสักปีสองปี แล้วเด็กรุ่นหลัง อีก 5 ปี ที่จะเข้าสู่มหาลัย
จะยกระดับการศึกษาขึ้นไปเรื่อยๆ จนสูงกว่าค่าเฉลี่ย เพราะคิดว่า โรงเรียนสอนพิเศษที่เต็มบ้านเต็มเมืองในยุคนี้ คงไม่
ทำให้เงินพ่อแม่พวกเขา สูญปล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่