จากกิจการทำรองเท้ารุ่นพ่อเปลี่ยนสู่รุ่นลูก.. ทำไม??? คนข้างบ้านต้องรับผลเดือดร้อนด้วย

ผมอาศัยอยู่ย่านฝั่งธนฯมา 30 กว่าปี ภายในซอยเป็นตึกแถวแต่ละบ้านก็ทำมาหากินต่างกันออกไป แน่ละ..บ้านที่ทำรองเท้า อย่างที่รู้กันสำหรับ
คนเคยสัมผัสบรรยากาศ ทั้งเสียงดังรำคาญจากการทุบ ตอก กลิ่นกาว เศษตะปู แต่นั่นเขาทำในที่บริเวณบ้านเขา ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้าน.. เสียงที่ดัง
จากการทุบ แน่นอนครับว่าได้ยิน แต่อาศัยปิดหน้าต่าง เสียงเลยเบาลง กลิ่นกาวก็ไม่รบกวนมากนัก และเพราะว่าอาศัยบ้านในซอยเดียวกัน
ก็อะลุ้มอะล่วย ไม่มีเรื่อง ต่างคนต่างอยู่ทำหากินกันไป ผ่านไปหลายปี.. บ้านนี้ได้ออเดอร์จากต่างประเทศ ทำกำไรจากค่าเงินจนมีฐานะซื้อรถเบนซ์
และก็ได้มาซื้อตึกคูหาท้ายซอยข้างบ้านผม โดยปรับปรุงชั้นล่างทำเป็นสำนักงาน จดทะเบียนเป็นบริษัท นั่นคือรุ่นพ่อเขาที่ทำมา ดีใจด้วยครับ
ทำมาหากินจนประสบผลสำเร็จ มีเงิน มีคนงาน

จนมาช่วงหลังเมื่อกิจการรองเท้าไม่รุ่งเหมือนก่อน มาสู่รุ่นลูก เลยอยากสานต่อ แต่หันมาทำกระเป๋าแฟชันเพิ่มเติม ความซวยที่บังเกิดสิครับ..
ตัวพ่อก็เอาใจตัวลูก สั่งคนงานย้ายเครื่องจักร มาที่คูหาข้างบ้านโดยทำชั้น 2 ชั้น 3 เป็นที่ๆ ทำกระเป๋าซะเลย ลองนึกดูครับ บ้านตึกแถวส่วนใหญ่
ชั้นบนๆ มักถูกใช้เป็นที่นอน ที่พักผ่อนหลับนอน...  

ต้งแต่วันนั้นจนวันนี้.. การดำเนินชีวิตแบบปกติก็เปลี่ยนไป ผมต้องทนเสียงจากการทุบ ตอก ลาก เลื่อน ของหนักร่วงตกพื้น เป็นเสียงดังสะเทือน
เป็นที่น่ารำคาญ ไม่หยุดไม่หย่อน จนสุขภาพจิตเสื่อม ปิดหน้าต่างก็ไม่ช่วยอะไร เพราะมันเกิดจากเสียงเดินทางผ่านตัวอาคารที่โครงสร้างติดกัน
ก็ไม่รู้จะว่ายังไง เวลาตี 4 ตี 5 เสียงของหล่นก็เริ่มแล้ว ระหว่างวันก็เสียงทุบๆๆๆๆ ทำบ้าง หยุดบ้าง เพราะใช้แรงงานคน จนถึง 3 ทุ่มจึงจะเลิกทำกัน

ส.ค. 2558 - ได้บอกกับคนงานว่าช่วยแก้ไขให้เสียงดังลดลงหน่อย
                 (ไม่มีอะไรดีขึ้น)
ก.ย. 2558 - ส่งอีเมล์ผ่านเวบให้นายจ้างได้รู้ปัญหา เพราะไม่อยากเผชิญหน้าต่อว่า เพราะบ้านเขาคนเยอะกว่า  
                 (เสียงเบาลง แต่ความสั่นสะเทือนไม่หมดไป ทุกการกระทำเหมือนเดิม แค่เบาลงหน่อย)

-------------- ทน ทน ทน -------------------------------------

พ.ค. 2559 - เสียงกลับมาดังเหมือนเดิม หลังจากที่ทนสะสมมานาน อารมณ์ก็ระเบิดครับ ทุบมา กูทุบไป ไม่ดีแน่..บ้านอยู่อาศัยมันจะร้าวเอา
มิ.ย. 2559 - พยายามคุมอารมณ์ไปบอกปัญหาที่เกิดขึ้น ผลที่ได้...แก้ไขได้เท่านี้ (ก็กูทำในที่ของกู)

-------------- ทน ทน ทน -------------------------------------

เหตุการณ์ที่ 1 - ผมออกจากบ้านไปซื้อของ เจอะเจอคนบ้านนี้ จะได้ยินเสียงหัวเราะคิกๆ จากคนงานผู้หญิงทั้งคนไทยและต่างชาติ
                     ส่วนคนงานชายก็มองหน้า ก็แบบว่าคนเยอะกว่า นายจ้างรวยกว่า
เหตุการณ์ที่ 2 - เสียงทุบๆๆๆๆ ดังสะเทือน ข่มใจแล้ว แต่มันเกือบทุกวัน ทนไม่ไหว เลยทุบกำแพงกลับไป ผลที่ได้... เสียงได้ยินว่า ""
                     เออ่อ ดีเนอะ ทีทำเขาเดือดร้อนเป็นปีๆ ไม่สำนึก มักอ้างว่าทำมาหากิน (พวกได้เงิน แต่กูไม่ได้อะไร ยังต้องเสียสุขภาพจิตอีก)
เหตุการณ์ที่ 3 - ได้เข้าเนท ไปเห็นโฆษณาขายกระเป๋าของตัวลูกตามสื่อต่างๆ ทั้งหนังสือพิมพ์ ทีวี เฟซบุค เออออ... ก็ดีครับ ก็การสัมภาษณ์
                     ออกสื่อ ดูเหมือนจะไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไร และยังภูมิใจว่ากิจการตนเองเป็นแบบ handcraft ดีไซน์เอง ... ก็ว่ากันไป
เหตุการณ์ที่ 4 - ????
เหตุการณ์ที่ 5 - อาจเป็นข่าว... ข้างบ้านทะเลาะกัน แทงกันตาย

ขอบคุณครับ ที่แวะเข้าอ่าน ผมไม่ได้คาดหวังว่ากระทู้แบบนี้จะทำอะไรๆ ให้เปลี่ยนแปลงได้ ด้วยบ้านคู่กรณีมีเงินเยอะกว่า มีคนมากกว่า
ส่วนผมก็มีข้อจำกัดด้วยอยู่กับพ่อแม่ที่สูงอายุมากแล้ว ก็ได้แต่ต้องฝืนใจทนไปเรื่อยๆ ปลอบใจตัวเองว่ายังมีคนที่ยังเดือดร้อนมากกว่าเรา
ขอบคุณอีกครั้งครับที่ทนอ่านมาถึงจุดนี้..... คนย่านฝั่งธนฯ

นี่เป็นช่วงเวลา 2 ทุ่มกว่าที่ยังทำเสียงรบกวนชาวบ้านครับ
https://www.mx7.com/view2/zyP6PwQ2oIHWWLQA

ป.ล. ผมไม่รู้สึกโกรธ ถ้าจะมีใครยังซื้อกระเป๋า อุดหนุนรองเท้า จากกิจการของบ้านหลังนี้ ก็ถือเป็นเวรเป็นกรรมไปครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
แจ้งเขต เรื่องเดือนร้อนรำคาญ  

เรื่อง ใช้อาคารผิดประเภท ไม่สามารถมีเครื่องจักร ที่มีกำลังไฟฟ้าได้

เรื่อง ทำงาน ในยามวิกาล หลังหกโมงเย็น

เสื่องสั่นสะเทือนโครงสร้าง อาคาร รบกวนการครอบครองทีพักอาศัย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่