แชร์ประสบการณ์ขอ Schengen Visa (Netherlands) และ Passport หายตอนเที่ยว Swiss

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงสงกรานต์ 2559 ที่ผ่านมา เจ้าของกระทู้และญาติรวมทั้งหมด 4 คนมีโอกาสไปเที่ยว Netherlands, Germany, Switzerland และ Italy ในวันนี้มีความตั้งใจจริงจัง(บางครั้งที่งานยุ่ง+ลืม)เลยขอตั้งกระทู้เพื่อแชร์ประสบการณ์ที่พบเจอตลอดทริปครับ

ขอ Schengen Visa
         
           หลังจากที่ได้แผนเที่ยวสถานที่ต่างๆใน Netherlands, Germany, Switzerland และ Italy แล้ว ก็มาถึงช่วงขอวีซ่าครับ พวกเราเริ่มไปขอวีซ่ากันตอน มีนาคม 2559 โดยจากทริปแล้วประเทศที่อยู่นานพอๆกันคือ Netherlands , Germany และ Switzerland ครับ เลยตัดสินใจให้ทางญาติไปยื่นกับ Netherlands ทริปนี้เป็นทริปแรกของญาติที่จะไปเหยียบแผ่นดินยุโรปประกอบกับหลายกระทู้ที่อ่านเจอบอกที่นี่น่าจะให้ง่ายสุด ประสบการณ์ขอวีซ่าที่จะเล่ามีด้วยกัน 2 ส่วน ของญาติ(ขอแทนเป็นพี่ A) และของ จขกท เองดังนี้ครับ

           1.) กรณีของญาติ(ขอแทนเป็นพี่ A) : คือพี่ A เพิ่งจะออกจากงานประจำและตั้งใจจะมาประกอบธุรกิจค้าขายเล็กๆ ก่อนออกงานประจำพี่ A ได้เงินเดือนราวๆ 25,000 บาท/เดือน แน่นอนว่าแกจะไม่มีหนังสือรับรองใดๆจากบริษัท และ ไม่มี Slip เงินเดือน/หนังสือรับรองเงินเดือน ซึ่งเป็นหนึ่งในเอกสารหลักที่จะต้องใช้ตอนยื่นขอวีซ่า และแกไม่ค่อยเป็นภาษาอังกฤษครับ ตั๋วเครื่องบินก็ได้จองแล้วตั้งแต่กันยายน 2558 ตอนนั้น จขกท ค่อนข้างกังวัลว่าพี่ A จะผ่านไหม เพราะหนังสือรับรองแกไม่มีเลย ไม่มีทางเลือกครับก็ต้องลองขอดู ประกอบกับช่วงนั้น จขกท ก็ได้เริ่มจองตั๋วรถไฟไว้ด้วยแล้ว หลายเส้นทางได้มาในราคาที่ค่อนข้างถูกเพราะจองเนิ่นๆ ผ่าน raileurope.com จองตั๋วทุกอยากให้ตรงตามแผนเที่ยวจริงๆเลย ที่ตัดสินใจจองตั๋วรถไฟเพราะจองเนิ่นๆได้ราคาถูก(ยกเว้น Swiss ไปซื้อที่ counter แบบ Half Price คุ้มกว่า swiss pass ตามแผนเที่ยว จขกท) และต้องการใช้สำเนาตั๋วรถไฟแนบแสดงกับทางสถานทูตด้วยว่าไปเที่ยวจริงๆครับ มีความเสี่ยงครับหากวีซ่าถูกปฏิเสธแต่ก็ต้องเสี่ยงดู เพราะเราไปแบบบริสุทธิ์ใจจริงๆ
           ทีนี้มาถึงการร่างจดหมายแนะนำตัวของพี่ A ผมก็ระบุไปตามความเป็นจริงทุกอย่าง ประมาณว่าเพิ่งออกจากงานและตั้งใจมากประกอบธุรกิจค้าขายส่วนตัวเล็กๆ การไปเที่ยวครั้งนี้ไปกันด้วยกันทั้งหมด 4 คน ต้องการไปเรียนรู้วัฒนธรรมตะวันตก และไปเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวตามแผนเที่ยวที่ส่งมา พร้อมแนบตารางตั๋วรถไฟและตั่วเครื่องบินไปกลับ มาเที่ยวแบบบริสุทธิ์ใจจริงๆไม่ได้มีเจตนาใดๆแอบแฝง (Statement ยื่นไปมีประมาณ 100,000 กว่าบาท เงินในบัญชีของพี่ A เข้าไม่สม่ำเสมอ)
           หลังจากนั้นผ่านไปสองอาทิตย์ก็ลุ้นกันจนตัวโก่ง ในที่สุด พี่ A และ พี่ B (พี่อีกคนที่ไปยื่นพร้อมพี่ A) ก็ได้ Schengen Visa มาครับ 1 เดือน ครอบคลุมช่วงไปเที่ยวพอดี เป็นการขอ Schengen Visa ล่วงหน้าเกือบเดือนเลยครับ พี่ B แกเป็นพนักงานบริษัทเลยไม่มีปัญหาใดๆ เช่นเดียวกับพี่ C แต่พี่ C แกฉายเดี่ยวไปยื่นเอง ก็ได้มาเหมือนกัน 1 เดือน

           2.) กรณีของ จขกท : ส่วนตัวของ จขกท ไม่ได้ขอที่ไทยครับ มาขอที่อินเดียเนื่องจากทำงานอยู่ที่นี่ และได้ลองยื่นกับ Switzerland ก็เตรียมเอกสารทุกอย่างเหมือนที่เตรียมให้กับพี่ๆ A , B , C ที่ยื่นที่ไทย จะต่างก็แค่ หนังสือรับรองบริษัท หนังสือรับรองเงินเดือน และ Statement ของ จขกท เอง  หลังยื่นไปก็ตุ้มๆต่อมๆ เป็นคนต่างชาติด้วยมายื่นที่ประเทศนี้ ไม่ผ่านมีหวังได้บินกลับไปขอที่ไทยแบบฉิวเฉียดแน่ รอประมาณสองอาทิตย์เช่นกันครับได้รับเมลล์และ Message ให้ไปรับเล่มคืน เปิดซองด้วยมือสั่นๆ ปรากฎได้ Schengen Visa มาครับ เกินจากแผนเที่ยวให้ 2 วัน รวมทั้งหมด 13 วัน ไม่ได้ซีเรียสครับผ่านมาได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว สรุปตอนนี้ Visa ไม่ใช่ปัญหาสำหรับทุกคนแล้ว รอวันเดินทางเที่ยวอย่างเดียวครับ
                ขอเสริมอีกหน่อย Case ของ จขกท Passport จะหมดอายุ สิงหาคม 2559 คือตอนขอ Schengen Visa มันมีอายุเกิน 6 เดือนก็จริง แต่ตอนไปเที่ยวเข้ากลุ่ม Schengen เนี่ยซิจะมีปัญหาไหมเหลือไม่ถึง 6 เดือน เลยเกิดข้อกังวลขึ้นมา หลังจากบินกลับไทยเพื่อเตรียมตัวไปเที่ยวก่อนวันเดียว เลยตัดสินใจไปขอ Passport เล่มใหม่ที่กงสุลแจ้งวัฒนะครับ ขอแบบด่วน 3,000 บาท ไปยื่นเรื่องไว้ตอนเช้าบ่ายๆรอรับเล่มได้เลย หลังจากยื่นเรื่อง ชะล่าใจไปทำธุระครับก่ะว่าเสร็จค่อยมารับเล่ม ตอนกลับไปกงสุลเอาเล่มคืนรถดันติดมาก ถึงหน้ากงสุลอีก 10 นาที Counter จะปิด พอลงรถ 4x100 วิ่งสุดชีวิตเลยครับ ได้เล่มคืนเป็นคนสุดท้ายของวันนั้น รอดหวุดหวิด หากพลาดคือพรุ่งนี้อดไปแน่ๆ แผนทั้งหมดอาจล่มหมดเพราะผมคนเดียว (เพราะเป็นคนทำแผนเที่ยวคนเดียวรู้เส้นทางคนเดียว) ไม่แนะนำให้เอาอย่าง จขกท นะครับ ให้อดใจรอรับเล่มใหม่เลย ตอนได้เล่มก็ถามพนักงานว่า Visa ผมอยู่เล่มเก่าจะมีปัญหาไหม เขาบอกมีปัญหาแน่นอนตอนเข้า Schengen โดยปกติ Visa ต้องอยู่เล่มใหม่เท่านั้น เอาหล่ะสิ มีข้อกังวลเพิ่มอีกครั้ง เลยตัดสินใจให้เจ้าหน้าที่ปั้มตรายางครุฑ Endorsement ให้ด้วยเลยครับ ไม่รู้จะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย มาถึงขั้นนี้แล้วเป็นไงเป็นกัน ถือไปยุโรปทั้งสองเล่มเลยครับ ตอนถึง Netherlands จขกท ยื่นเล่มเก่าให้ ตม. แทนไม่ได้ยื่นเล่มใหม่พร้อมกันไปด้วย รอเขาถามก็ค่อยยื่นเล่มใหม่ให้ ก็ผ่านมาด้วยดีครับ ไม่โดนถามหาเล่มใหม่ที่เพิ่งเปลี่ยนไป สงสัยเขาคงดูแค่หน้า Schengen Visa มั้งครั้บ ของ จขกท ดันเป็นของ Switzerland ด้วยซิ ตอนยื่นก็กังวลอยู่ แต่ก็ไม่ติดปัญหาอะไรครับ ผ่าน ตม. มาได้แล้ว เที่ยวแบบสบายใจสักที


Passport ถูกขโมย      

           หลังจากเที่ยวมาถึง Burn, Switzerland พี่ B ก็ถูกล้วงกระเป๋าแถวๆลานน้ำพุ ตอนไปกินข้าวเที่ยงแถวนั้น แกเก็บ Passport ไว้ในกระเป๋าซิปเล็กๆโดยวางไว้ข้างในกระเป๋าสะพายเป้อีกที ปัญหาคือแกสะพายกระเป๋าเป้อยู่ด้านหลังเลยไม่ทันระวังเลยถูกโจรล้วงไป ตอนนั้นแกช๊อคมาก ทุกคนต่างแต่ปลอบใจแก พร้อมทั้งตั้งสติว่าควรทำไงต่อดี ต้องขอบคุณกระทู้ก่อนๆที่มาโพสต์ไว้ด้วยครับ ศึกษามาพอสมควร ก่อนมาได้ให้ทุกคน ถ่ายรูปหน้า Passport และหน้า Visa แล้วส่งเข้าเมลล์เก็บไว้ ไม่ได้คิดอยากจะใช้หรอกนะครับแต่ต้องเตรียมการไว้ก่อน ก็ไม่นึกว่าจะได้ใช้จริงๆ อันดับแรกต้องไปแจ้งความครับ ไปถาม Information ว่าสถานีตำรวจอยู่ไหน เจ้าหน้าที่ก็ชี้ทางไปที่สถานีตำรวจแถวสถานีรถไฟ Burn ตำรวจก็ให้เข้าไปลงบันทึก พร้อมให้ดูกล้องวงจรปิดตรงจุดเกิดเหตุ โชคไม่ดีตรงนั้นเป็นมุมอับเลยไม่เห็นอะไร ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่บ้าง วันนั้นมีพี่คนไทยคนนึงพาน้องชายมาทำเรื่องขอ Passport เล่มเขียวชั่วคราวด้วยเช่นกัน เราเจอกันที่สถานนีตำรวจ ของแกหนักกว่าพวกผมคือแกดันไปหายที่เมืองอื่นเลยต้องนั่งรถมาเมือง Burn แกคงผิดแผนเที่ยวไปพอสมควร แกแนะนำพวกผมเยอะมากว่าต้องทำไงต่อ ผมต้องขอขอบคุณพี่คนนั้นจริงๆนะครับ (ขออภัยด้วยครับจำชื่อแกไม่ได้แล้ว) หลังจากแจ้งความก็ ถ่ายรูป 2 นิ้วครับ ที่หน้าสถานีตำรวจเลย เป็นแบบหยอดเหรีญ น่าจะราวๆ 15 Franc จากนั้นนำใบแจ้งความ(รู้สึกจะเป็นภาษาเยอรมัน)ไปที่สถานทูตไทยครับ ที่ Kirchstrasse 56, 3097 Bern ขออภัยจริงๆครับจำสายรถเมล์และป้ายรถเมล์ไม่ได้แล้ว กดตั๋วจากตู้ครับ ราวๆ 5 Franc/คน พอถึงสถานีก็ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม เดินขึ้นไปเรื่อยๆก็จะเจอธงชาติไทยครับ ความโชคดีในความโชคร้ายอีกข้อของพี่ B คือ บัตรประชาชนแกแยกไว้อีกที่ครับ พอถึงสถานทูตไทยก็กรอกแบบฟอร็ม ยื่นรูปถ่าย 2 นิ้ว บัตรประชาชน แล้วขอเจ้าหน้าที่เข้าเมลล์แล้วปริ้นหน้า Passport และ Visa ออกมาแล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่ครัย รอประมาณ 2 ชม. จ่ายค่าทำ Passport ชั่วคราวเล่มเขียว น่าจะไป 20 Franc ซึ่งเป็นเล่มสีเขียวที่เจ้าหน้าที่เขียนด้วยมือ อายุ Passport 1 ปีครับ หลังจากนั้นเราก็เที่ยวไปตามแผนเราต่อ เสียแผนเที่ยวไปราวๆ 5 ชั่วโมง หลังจากนั้นพวกเราก็เที่ยวตามแผนต่อไป ออกจาก Swiss ไป Italy โดยนั่งรถไฟไปครับ เพราะไม่มีด่านตรวจประหว่างประเทศแน่นอน ฝากถึงคนที่ต้องนั่งเครื่องไปประเทศอื่นๆใน Schengen ด้วยนะครับ ตรวจสอบเงื่อนไขนี้ให้ดี คุณอาจจะโดน ตม. ถามได้ อาจมีปัญหา
           มาถึงข้อกังวลขาอีกข้อ คือวันกลับไทย แต่ต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ Abudhabi, UAE โดย จขกท และญาติต้องนั่งเครื่องกลับไทยจาก Venice, Italy โดยสายการบิน Etihad Airways, operate by Alatalia ตอนออกจากสถานทูตไทยที่สวิส เจ้าหน้าที่บอกว่าอาจมีปัญหานะเพราะ Passport ชั่วคราวออกให้ที่ Swiss และจะออกจาก Schengen ที่ประเทศ Italy คือตอนนั้นไม่มีทางเลือกแล้วครับ เป็นไงเป็นกัน มันไม่ได้เป็นเรื่องที่อยากให้เกิดเลย ประกอบกับตอนนั้นตั้งกระทู้ถาม http://pantip.com/topic/35048217 ต้องขอขอบคุณทุกท่านมากนะครับ ที่ตอนนั้นมาตอบและให้คำแนะนำพร้อมถามไถ่ ขอบคุณจริงๆอีกครั้งครับ ตอนนั้นคิดอยู่ว่าหากมีปัญหาจริงๆอาจจะซื้อตั๋วการบินไทยให้พี่ B นั่งกลับคนเดียวจาก Zurich หลังจากมีคนมาตอบกระทู้แล้วก็ลองชื่นใจมาเปราะนึงครับ ต้องลองดูอีกครั้ง วันกลับไทยเราไป Check In ที่สนามบิน Venice ก็ปกติดี ได้ Boarding Pass มา หลังจากนั้นถึงด่าน ตม. แล้วครับ เจ้าหน้าที่ก็เชคข้อมูลของพี่ B อยู่พักใหญ่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ตม. ไม่ได้ถามอะไรมากมายเลย ส่วนของผมเองที่ยื่น Passport เล่มเก่าก็นานอยู่พักใหญ่เช่นกัน แกคงสงสัยทำไม Visa ไม่ออกให้จากไทย แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเช่นกันครับ ผ่านมาได้ด้วยดีเช่นกัน
           ทีนี้มาถึงตอนเปลี่ยนเครื่องกลับไทยที่ Abudabi, UAE ครับ ตอน Transit ไม่มีการตรวจ ตม. ใดๆนะครับ เพียงผ่านจุด Scan เท่านั้นเอง หลังจากนั้นเราก็รอขึ้นเครื่องครับ พอถึงหน้า Gate เรียกขึ้นเครื่อง Ground Staff ก็แค่ตรวจดูชื่อตรงตาม Passport ไหม โดยพี่ B ยื่นเล่มเขียวไปไม่ติดอะไรนะครับ ไม่ถูกเรียกดูเอกสารใดๆเพิ่มเติมเลย ผมเองก็ยื่น Passport เล่มเก่าก็ไม่ถูกถามอะไร จากนั้นทุกคนก็กลับไทยโดยสวัสดิภาพครับ

           กระทู้ที่ผมตั้งขึ้นหวังว่าอาจจะเป็นประโยชน์ให้ทุกท่านไม่มากก็น้อย สิ่งที่อยากจะเตือนคือกระเป๋าเป้พยายามสะพายด้านหน้านะครับ อย่าพยายามสะพายด้านหลัง โดยเฉพาะตอนเดินอยู่ย่านคนพลุกพล่าน เอกสารสำคัญควรถ่ายสำเนาส่งเขาเมลล์ครับเผื่อเกิดเรื่องไม่คาดคิดอย่างทีม จขกท ทุกครั้งเกิดอะไรขึ้นต้องมีสติครับ โดยเฉพาะสำหรับคนที่เที่ยวคนเดียว และควรศึกษาที่อยู่และทางไปสถานทูตของแต่ละประเทศไว้ด้วยนะครับ ไปเที่ยวอย่าวิตกกังวลให้มาก ควรทำใจให้สะบายและมีสติอยู่ตลอด ไม่งั้นเที่ยวไม่สนุกแน่ๆ

ทิ้งท้ายด้วยภาพของทริปที่ไปเที่ยวมาครับ สวัสดีครับ

สวน Keukenhof , Amsterdam , The Netherlands



ปราสาท Neuschwanstein , Fussen , Germany



เมือง Burn , Switzerland (จุดที่พี่ B ถูกโจรล้วง Passport)



Venice , Italy

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่