[REVIEW] Plastic Plastic - Stay At Home (2016)

หากย้อนกลับไป ณช่วงเวลาสัก 4-5ปีที่แล้ว เราจะได้ยินเพลง อยากรู้ ที่เปิดออกมา ณ คลื่นวิทยุหลายๆคลื่นในเมืองไทย
และหลายคนยังจำความน่ารักของ ทั้งคู่ได้และเฝ้ารอคอยจะสัมผัสผลงานเต็มๆสักครั้งหนึ่ง

Plastic Plastic คือ  ป้อง-ปกป้อง จิตดี และ เพลง-ต้องตา จิตดี สองพี่น้องมีของที่เจนจัดในด้านการเล่นดนตรีได้หลายชนิด
จนไปถึงการแต่งทำนอง เขียนเพลง รวมไปถึงการบันทึกเสียงด้วยตัวเอง

จากที่เคยอยู่Believe Records จนมาเป็นศิลปินอิสระ ทำให้สามารถเลือกที่จะกำหนดทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวเองมากขึ้น และแน่นอน บททดสอบแรกพวกเขาสอบผ่าน ได้อย่างฉลุย

ภาคดนตรีที่ใช้เครื่องดนตรีหลากหลายและใช้ในปริมาณที่เรียกว่าพอเหมาะ เช่น เปียนโน คีย์บอร์ด กลอง เครื่องเคาะ เครื่องเป่าหลากหลายชนิดทำ
ให้อัลบัมนี้เป็นที่น่าสนใจและน่าค้นหา

ส่วนเนื้อเพลงนั้น จะมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
โดยเนื้อเพลงที่ทั้งคู่สื่อถึงจะไม่เน้นคำพูดหรือคำคม แต่จะเน้นการเล่าเรื่องจากไดอารี่ บันทึกประจำวันที่เขียนไว้ จึงทำให้เข้าใจในครั้งแรกที่ฟังเลย
เหมือนกับได้ฟังพี่น้องคู่หนึ่งกำลังเล่าเรื่องให้ฟัง โดยมีความเป็นธรรมชาติ ไม่เสแสร้ง และน่าเอ็นดูนับว่าเป็นสเน่ห์อีกอย่างของอัลบัมนี้จริงๆ

Stay At Home เป็นอัลบัมที่สามารถสร้าง บรรยากาศได้ โดยจะให้อากาศอันอบอุ่น จนไปถึงเย็นสบายกาย สบายๆ แต่ไม่ได้จำกัดความ
ว่าต้องฟังเฉพาะที่บ้านแบบชื่ออัลบัมนะครับ

Track By Track

We're Dancing Like Crazy
เปิดมาด้วยอารมณ์ สนุกสนาน ที่เรียกได้ว่าสนุกที่สุดในอัลบัมเลย กับ We're Dancing Like Crazy
ที่ใช้เสียง เปียนโน สวยๆผสาน กับเมโลดีน่ารัก ภาษาอังกฤษ
เพลงนี้เขียนมาจาก ไดอารี่ประสปการ์ณ การไปเต้นในผับครั้งแรก

เปิดประตู
ตามความหมายเป็นเพลงที่เขียนถึง เรื่องง่ายๆ
เรื่องใกล้ตัวของพี่น้อง ที่นำไอเดียมาจาก การเข้าบ้านไม่ได้,ลืมกุญแจ

The Trip
มาถึงเพลงที่มีภาคดนตรี สุดยอดที่สุดในอัลบัม
โดยเพลงนี้ได้ถ่าย MVออกมาเป็นตัวที่ 2ในอัลบัม ที่ลงทุนไปถ่ายทำถึงที่ประเทศนิวซีแลนด์
และเน้นการเล่าเรื่องในแบบสารคดีมากกว่าMVต่างจาก "วันก่อน" ตัวที่แล้ว

The Trip พูดถึงการเดินทาง การท่องเที่ยว ซึ่งตรงกันข้ามกับ Stay At Home โดยสิ้นเชิง
โดยทั้งคู้เขียนเพลงนี้จากการนำเรื่องราว ในไดอารี่ เกี่ยวกับความตื่นเต้นในวันก่อนออกเดินทาง

ด้วยภาคดนตรีที่มีเสียงเปียนโนเพราะๆ เป็นทุนเดิม ผสานกับเสียงร้องประสานของสองพี่น้อง
พร้อมด้วย เสียงอคูสติกกีตาร์สวยๆและเสียงเคาะไม้ดิบๆ ที่บิ๊วให้เราเข้าใจว่า เป็นบทเพลงมาจากกลางป่าจริงๆ
ส่วนพระเอกของเพลงนี้คือ เครื่องเป่า อย่างทรัมเปต ที่บรรเลงขับกล่อมในช่วงท้ายๆเพลงปิดท้ายได้อย่างสวยงาม

วันก่อน
มาถึงเพลงที่ชอบที่สุดในอัลบัมและเป็นMVตัวแรกที่เล่าเรื่องออกมาได้ดีที่สุดในทุกๆMVที่ทำมา

วันก่อน เมื่อวาน หรือวันวานที่เคยมีชีวิตอยู่มาก่อน
ซึ่ง ณ วันเหล่านั้น ยังคงเป็นความทรงจำที่สวยงามที่ยังคงฉุดรั้งเมื่อวานไม่ให้ก้าวข้ามไปหาวันพรุ่งนี้

แทบจะทุกเพลงในอัลบัม ที่จะเน้นความสดใสและอารมณ์ฟิลกู้ด แต่เพลงนี้มีความแตกต่างที่สุดจริงๆ
ด้วยเสียงเปียนโนเศร้าๆที่เรื่มขึ้นในต้นเพลง ผสานกับเสียงฟลุตและเมโลเดี้ยนเหงาๆ ที่บรรเลงราวกับจะสื่อถึงการคิดถึงกันของคนสองคน
เรียกได้ว่าเป็นความคนึงหาแต่แฝงไว้ด้วยความเหงาและความหม่นที่สุดในอัลบัมจริงๆ

เพลงนี้เป็นฝีมือการเขียนทั้งเนื้อเพลงและทำนอง ของพี่แหลม 25 Hoursครับผม

Still Awake
เสียงเปียนโนกวนๆยังคงสร้าง สเน่ห์ได้ดี เช่นเดียวกับเสียงฟลุต และเครื่องเคาะหยาบๆที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้ากันสักเท่าไร
เพลงนี้เคยได้กลองแขกเป็นแขกรับเชิญ

อารมณ์ของเพลงนี้คือความรู้สึก หรือช่วงขณะที่พึ่งถึงบ้านและStill Awake คือภาคต่อจากเพลง Last Weekend เพลงสุดท้ายในอัลบัมครับ

With Me
With Me คือเพลงอารมณ์เกี่ยวกับความรัก
ที่น้องเพลงไม่ได้เขียนในตอนที่กำลังมีความรัก

ด้วยเสียงฟลุต เหงาๆ ผสานกับการเดินเบส ช้าๆ เหมือนกับการเหม่อลอยออกไปนอกหน้าต่าง

เหมือนอารมณ์ที่กำลังจะก้าว แต่ชักเท้ากลับ ไม่ไปดีกว่า
เพราะฉนั้นเราจะรู้สึกถึงความครึ่งๆกลางๆในเพลงนี้

The Moutain Is Calling
เป็นอีกเพลงที่มีการเขียนทำนองมาก่อนเนื้อร้อง
สรุปได้เลยว่าเพลงนี้ใช้ไอเดียของปกป้องเต็มๆในการเขียนทำนอง

ขุนเขากำลังร้องเรียกหา อย่ารอช้าที่จะก้าวข้ามมัน

Gardening
Interlude ซึ่งเป็นชิ้นเดียวในอัลบัมที่มีการนำเพลงบรรเลงไปใช้

โดยช่วงเวลาของเพลงนี้จะเกิดขึ้นในตอนเช้า ที่แสงแดดอ่อนๆสาดแสงเข้ามา
ก่อนที่จะได้ชื่อเพลงมาเป็น จิ๊กซอว์ ตัวสุดท้าย ในการจัดสวนในรุ่งอรุโณทัย นั่นเอง

หยิบแฮมเป็นแผ่นที่หก
หาก การจัดสวยในตอนเช้าแปลกแล้ว มั่นใจได้เลยว่าหยิบแฮมเป็นแผ่นที่หก แปลกประหลาดกว่าแน่นอน

หลายคนอาจจะจำได้ว่าเพลงนี้ เคยอยู่ในอัลบัมประกอบ MARY IS HAPPY, MARY IS HAPPY ที่เอามาทำใหม่ทั้งหมด
ให้เหมาะกับอารมณ์ในอัลบัม Stay At Home โดยเน้นจังหวะให้ช้าลง เพิ่มเมโลดีเข้าไปให้มีสีสันมากขึ้น

ซึ่ง ชิ้นเนื้อสัตว์จากต้นขาหลังของสัตว์ แผ่นที่อยู่ระหว่าง5กับ7นั้น
แน่นอนว่า เกิดจาก ทวีท หนึ่งใน ทวิตเตอร์ของคุณ แมรี่ เมโลนี ซึ่งถ้าหากได้ดูหนังแล้วคงเข้าใจว่าไม่จำเป็นต้องไปหาความหมายอะไรมันหรอก

Last Weekend

เพลงนี้เป็นเพลงหนึ่งที่ปล่อยโดยบ้านหลังเก่า Believe Recordsที่หลายคนอาจจะลองฟังแล้ว

ซึ่งอาทิตย์สุดท้ายนี่เขียนมาจากประสปการ์ณตอนไปเรียนที่ประเทศอังกฤษของน้องเพลง
ที่เขียนถึงอารมณ์ เหงาๆและไม่อยากกลับ และยังคงติดที่อยู่


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่