จะทำยังไงให้พ่อแม่เข้าใจเรา หรือมันอยู่ที่เราที่ต้องเข้าใจพวกเขา

เกี่ยวกับผม: เรียนอยู่สวีเดนครับ มาอยู่ที่นี่กับแม่ตั้งแต่10ขวบ แต่ตอนนี้เรียนอยู่ Uppsala universitet, Campus Gotland ปี 1 ครับ ส่วนพ่ออยู่ที่ไทย

เข้าเรื่อง:  พ่อแม่ผมไม่ได้มีคความรู้อะไรมากมายครับ และตอนนี้ผมก็ตกอยู่ในสถานการณที่อยากจะให้เข้าใจว่าที่เขาทำนั้นมีผลต่อผมยังไงบ้าง จะขอย้อนไปเมื่อตอนมาอยู่ที่นี้ก็มากับแม่นะครับ แม่ได้แฟนใหม่เป็นคนสวีเดน ไอ่ผมตอนนั้นก็เรียน ป.4 อย่างเล่นบ้างซนบ้างตามภาษา แต่พอวันนึงแม่ไปรับที่โรงเรียนแล้วบอกว่าจะพาไปสวีเดน จะไปไหม ไอ่ผมก็คงตอบว่า ไป ในตอนนั้น แบบไม่รู้เรื่องอะไรเลย มาจนถึงตอนนี้ก็ยังติดต่อกับพ่อที่ไทยและยังไปมาหาสู่กับบ้าง ปีละครั้งหรือไม่ก็เมื่อมีโอกาศ เพราะต้องเรียนที่นี้ มาตอนนี้แม่ก็เลิกกันกับฝรั่งนั้นมาเมื่อเดือนกุมภาที่ผ่านมา แล้วตอนนั้นผมก็ยังเรียนมัถยมอยู่ แล้วก็เรียนมาได้จนจบ และก็ขึ้นมหาลัยอย่างที่กล่าวไว้ด้านต้น ย้ายมาอยู่ที่หอที่Visbyเพื่อที่จะเรียน ส่วนแม่หลังจากนั้นก็ได้อพาร์ทเม้นท์อยู่ แต่มีสัญญาแต่ปีเดียว เพราะเป็นมือสอง

ปัญหาตอนนี้ที่ผมเผชิญอยู่ก็คือ แม่ ที่ค่อยแต่จะทำโน้นทำนี่ให้ผมต้องปวดหัวอยู่ตลอด ตอนเลิกออกมาแล้วก็เห็นว่าจะตั้งใจทำงานและเก็บตังค์ แล้วพอหมดสัญญาอพาร์ทเม้นท์นี่ก็จะกลับไปบ้านที่ไทย กลับไปอยู่กับพ่อผมอีกครั้ง แต่วันดีคืนงานแกก็ทนความกดดันจากฝรั่งนั้นไม่ไหว เพราะหลังจากที่เลิกออกมาแล้วเขายังมาคอยดูแม่อยู่ตลอด วันดีคืนดีเขาก็ขับรถมาดูแถวอพาร์ทเม้นท์แม่ แม่ทนไม่ไหวก็เลยลงไปไทยแล้วก็ได้ตัดสินใจว่าจะไม่กลับมาสวีเดนอีก แล้วแม่ก็เปิดร้านอาหารแถวบ้านเพราะบอกว่าชอบทำอาหาร แต่ด้วยความรู้ไม่มีและก็เปิดๆแบบไม่รู้อะไร แน่นอนว่าไม่รอด ผลสุดท้ายร้านก็ปิดและไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ก็กลับมาสวีเดนอีก ในตอนที่แม่ลงไปไทยผมก็อยู่อพาร์ทเม้นท์นั้นคนเดียว และด้วยความที่เข้าใจว่าจะไม่กลับมาแล้วก็เลยตกลงกันว่าจะบอกเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ว่าตอนนี้มีแต่ผมอยู่และผมจะไปเรียนที่ Visby อีกเดือนถัดมา ผมขอยกเลิกสัญญาเลยได้ไหม เราจะได้ไม่ต้องจ่ายค่าอพาร์ทเม้นท์ไปมากกว่านี้ ตอนนั้นเขาก็โอเค แถมยังพาเพื่อนมาดูบ้านต่อ เพื่อที่จะได้มีคนมาอยู่ต่อได้ในทันที
และแล้วแม่ก็กลับมา ทำให้อพาร์ทเม้นท์ที่บอกเขาไปแล้วต้องมาขอเขาอยู่ต่อตามสัญญา 1 ปี แม่ผมมาพร้อมกับหนี้ที่ได้ไปกู้มา เพราะไม่มีเงินเหลือเพราะได้ไปลงทุนร้านจนหมด พอที่นี้จะมาเก็บเงินอีกมันก็ช้าไปแล้ว ต้องมาเริ่มใหม่ ผลสุดท้ายก็ต้องมาหาบ้านอีก เพราะสัญญาอพาร์ทเม้นท์นี้จะหมดแล้ว กลายเป็นว่าต้องไปอยู่อพาร์ทเม้นท์คนอื่นที่ไม่รู้จัก เพราะเขาปล่อยห้องให้เช่าหนึ่งห้อง ค่าเช่าก็แพง แถมไม่เป็นส่วนตัว โชคดีที่ไปเจออพาร์ทเม้นท์ของผู้หญิงรุ่นป้าคนนึงที่ดูเหมือนจะโอเค เขาบอกจะย้ายไปหลังสัญญาอพาร์ทเม้นท์หลังนี้หมด เพราะไม่งั้นจะจ่ายค่าเช่าสองที่คงไม่ไหว ก็เลยขอเขาว่าจ่ายครึ้งนึงก่อนได้ไหม แบบว่าจองไว้ และจะย้ายไปหลังเดือนกุมภา นี่ผมก็จะลงไปหาพรุ้งนี้เพราะหยุดช่วงปีใหม่พอดี แต่เขากลับบอกว่าถ้าจะกลับไปเรียนยังไงก็เดี๋ยวช่วยแม่ขนของไปอพาร์ทเม้นท์ใหม่เลย

ผมละปวดหัวจริงๆ ทำไมถึงต้องทำโน้นนี่ให้มันหลายอย่างหลายอัน ตอนแรกหลังเลิกออกมาก็เห็นบอกว่าจะอยู่ที่นี่ทำงานเก็บเงินแล้วค่อยกลับบ้านหลังสัญญาอพาร์ทเม้นท์หมด เพราะโอกาศได้บ้านมันยากมาก เลยไม่คิดที่จะหาอีกแล้ว หมดสัญญาก็กลับบ้าน ไอ่ผมก็รู้สึกดี ดูมีเป้าหมาย ผมจะได้เรียนอยู่ที่นี่โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะพ่อและแม่ก็อยู่ด้วยกันอีกครั้ง แต่แม่ก็นอกแผนและลงไปไทยแถมไม่ได้อะไรมาและเป็นหนี้มาอีกต่างหาก กลับมาเริ่ม 0 เพื่อ??? จะย้ายบ้านเลยก่อนผมกลับมาเรียนต่ออีก เพื่อ??? ย้ายไปอยู่อพาร์ทเม้นท์ใหม่ก็ต้องจ่ายเขาเต็มราคา ที่นี้ก็เต็มราคาทั้งอพาร์ทเม้นท์ที่อยู่และอพาร์ทเม้นท์ที่จะไปอยู่ แล้วจะเอาเงินมาจากไหน แม่ผมคิดอะไรของเขาอยู่ จะเอาแต่ใจอย่างเดียวเลย พาผมเครียดไปด้วยและจะพาผมเรียนไม่จบเอา ตอนนี่ว่าจะออกหลายครั้งแล้วในเดือนนี่ แต่ด้วยหลายปัจจัยผมก็ต้องมาคิดใหม่ ว่ายังไงก็ต้องเรียนต่อให้จบ ไม่งั้นผมอาจจะไม่ได้มีโอกาศเรียนอีกเลย

ผมไม่รู้จะตัดสินใจยังไงครับ ไม่รู้ว่าจะคุยกับแม่ยังไงด้วย มันมีอีกกหลายๆเรื่องที่ไม่ได้พูดถึงใน กท.นี้ จะทำยังไงให้แม่เข้าใจว่าผมจะไม่ไหวแล้วกับพฤติกรรมที่แม่ทำอยู่ พาผมคิดมาก และ ผมกลัวว่าผมจะตัดสินใจอะไรไปโดยที่มันอาจจะทำให้ชีวิตผมพังเสียเองด้วย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่