เรื่องมันมีอยู่ว่า.. เมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมาโรงเรียนเรามีการหยุดโรงเรียนภายใน แล้วห้องเราก็จัดทริปไปเที่ยวกันสามวันสองคืนที่ภูกระดึงจังหวัดเลย (ปล.ตอนนี้เราอยู่ ม.ปลายเเล้วน้า) พวกเราทั้ง 26 คน ออกเดินทางกันโดยรสมินิบัส ซึ่งตอนแรกเราก็นั่งข้างๆเพื่อนผู้หญิง (สมมติชื่อว่า น้ำ) คราวนี้ตรงที่เรากับน้ำนั่งแอร์ดันเสียแล้วมันหนาวมาก เราเลยแยกกันไปนั่งคนละที่ น้ำไปนั่งด้านหน้าข้างอัฐซึ่งเหลือที่สุดท้ายพอดี เราเลยต้องไปนั่งด้านหลัง พวกผู้ชายห้องเรามันก็พากันนอนระเกะระกะไปหมด จะเหลือแค่ที่ตรงเดียวที่เรานั่งได้ ซึ่งก็คือข้างๆ เต้ โดยปกติแล้วเราไม่ได้สนิทอะไรกับเต้เลย แค่มีบ้างบางครั้งที่ทำงานกลุ่มด้วยกันเพราะครูเลือกให้ เรานั่งไปนั่งมาก็ง่วงเลยนอน คราวนี้เต้เห็นเรานอนไม่สบายเลยจับหัวเราไปพิงไหล่ พอไปถึงเราก็แบกของลงจากรถ และพากันแยกย้ายไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็ออกเดินเท้าขึ้นภูกัน เราเดินเท้ากันอยู่ครึ่งค่อนวัน พอไปถึงด้านบนเราก็ไปกางเต้น โดยเต้นท์ของพวกเรานั้นจะกางหันเข้าหากันเป็นวงกลม ประมาณแปดเก้าเต้นท์โดยเว้นทางเดินไว้สำหรับเดินเข้าออก และตรงกลางเราก็ปูเสื่อน้ำมันเอาไว้สำหรับนั่งเล่นกันตอนค่ำ หลังจากที่กางเต้นท์และเก็บสัมภาระอะไรเสร็จแล้ว ก็พากันเดินไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก และก็กลับมาที่พักเพื่อทำธุระส่วนตัว ตกค่ำหน่อยเพื่อนผู้ชายห้องเรามันก็เอา 285 กับเหล้าขาวจากกระเป๋ามานั่งกินแล้วก็เล่นน้ำเต้าปูปลากันข้างนอก เพื่อนๆอีกกลุ่มหนึ่งก็เข้าไปเล่นไพ่กันในเต้นท์ (ปล.อันนี้เป็นสิ่งไม่ดีอย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะคะ) ส่วนอีกกลุ่มก็ไปเล่นเกมความจริงความกล้ากันในเต้นท์ และอีกกลุ่มก็ไปนอนเพราะเหนื่อยจากการเดิน เราก็เลยออกมานั่งดูดาวข้างนอก กินขนม และก็ดูพวกผู้ชายมันเล่นน้ำเต้าปูปลากัน แล้วพักนึงเต้มันก็เดินมานั่งข้างๆเรา ตอนนั้นก็เป็นเวลาประมาณสามทุ่มกว่า แล้วเต้มันก็เอาหัวมาซบที่ไหล่เราแล้วมันก็บ่นว่าหนาว พอบ่นเสร็จยังไม่ทันไรมันก็เอามือเราไปจับ เรานั่งแบบนั้นพักนึงจนรู้สึกเซ็งๆ เราเลยหันไปด้านหลังซึ่งเป็นเต้นท์ที่พวกเพื่อนเล่นไพ่กัน เราเลยถามว่าเข้าไปเล่นด้วยได้มั้ย แล้วก็มีเสียงใครสักคนตอบกลับมาว่า ไม่ต้องเข้ามาเต้นท์เต็มแล้ว เราเลยเงียบและค้างอยู่แบบนั้นไปแปบนึง จากนั้นเต้มันก็จู่โจมโดยการที่เข้ามาจุ้บปากเรา เราเลยหันไปมองมันแบบอึ้งๆ มันก็มองเรานิ่งๆ ส่วนเพื่อนรอบข้างตอนนี้ไม่มีใครสนใจเรากับเต้ เพราะว่ามันมัวแต่เล่นน้ำเต้าปูปลากันอยู่ (ตอนนั้นเราคิดว่าเต้มันเมา เพราะว่ามันกินเหล้าขาวกับ 285 ไปเยอะเหมือนกัน) สักพักนึงเจ้าหน้าที่ก็มาไล่พวกเราไปนอน เพราะเราเสียงดังกันมาก มันจะไปรบกวนคนอื่น เต้เลยลุกขึ้นและพยุงเราให้ลุกตาม เพื่อนๆที่เล่นน้ำเต้าปูปลา มันก็พากันแยกย้ายไปนอนบ้าง และก็ออกไปสูบบุหรี่บ้าง (บุหรี่มันเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้นอย่าสูบตามเลยน๊ะจ๊ะ) แล้วเต้ก็เดินจับมือเรามาส่งที่หน้าเต้นท์ (คือเต้นท์เรากับเต้อยู่ข้างๆกัน) เราเลยนั่งลงไปเพื่อจะเปิดซิปเต้นท์ก่อจะลุกขั้นมาเพื่อเข้าไป ตอนนั้นเพื่อนๆผู้หญิงเต้นท์เรานอนหมดเเล้ว เหลือแต่เราคนสุดท้ายที่ยังไม่นอน ทำให้ตอนนี้รอบข้างเราไม่มีใครเหลืออยู่เลย เรากำลังจะหันมาขอบคุณเต้ที่มาส่ง แต่ยังไม่ทันจะได้ขอบคุณ เต้มันเข้ามาก็จูบเรา คือจูบครั้งนี้ไม่ใช่แค่ปากแตะปากแบบเมื่อตอนก่อนหน้านี้ แต่นี่มีมันเป็นการจูบจริงๆ และมีการแลกลิ้นด้วย เราตกใจมากจนทำอะไรไม่ถูกเลยได้แต่หลับตาปี๋ แล้วสักพักมันก็หยุดก่อนจะผละออกจากกันพร้อมกันบอกว่า "ฝันดีนะ" พอเราเข้าไปในเต้นท์ได้ไม่นาน เราก็อยากเข้าห้องน้ำเลยปลุกเพื่อนข้างๆ แต่มันก็ไม่ตื่น เราเลยออกมาคนเดียวแล้วกะว่าจะไปชวนเพื่อนผู้หญิงเต้นท์ใกล้ๆเอา แต่พอออกมาจากเต้นท์แล้วเราก็เจอเต้ยืนอยู่ข้างนอก มันหันมามองเรานิดหนึ่ง ก่อนถามว่า "ยังไม่นอนอีกหรอ" เราเลยตอบว่า "พอดีจะไปเข้าห้องน้ำอ่ะ" มันเลยอาสาไปเป็นเพื่อน เราไปเข้าห้องน้ำ มันก็ยืนรอข้างนอกตรงทางเดิน พอเราออกมามันก็จับมือเราแล้วก็เอาไปซุกในกระเป๋าเสื้อมัน พอมาถึงทางระหว่างเต้นท์เรากับมันเราก็ปล่อยมือเตรียมจะเเยกกัน แต่มันก็ดึงแขนเราจนตัวเราหมุนไปทางมันแล้วมันก็เอามืออีกข้างมาจับหน้าเรา และก็จูบรอบสอง รอบนี้มันยาวนานและหนักหน่วงกว่ารอบที่แล้ว เราเอามือผลักมันให้ออกไป แต่ก็ไม่สะทกสะท้านเลย เนื่องจากอากาศที่หนาวจนปวดกระดูกและความเหนื่อยล้าจากกว่าเดินเท้าเกือบๆ 20 โล ทำให้เเรงที่มีไม่มีผลอะไรเลย พอมันหยุดเราเลยรีบเข้าไปในเต้นท์นอน วันต่อมามันก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนเรื่องเมื่อคืนเห็นแค่ความฝัน แล้วประเด็นคือเต้มันก็มีแฟนอยู่เเล้ว ถามว่าเราสนิทกับมันมั้ย..ก็ไม่เลย ปัจจุบันนี้มันก็ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นด้วยซ้ำ เราเลยสงสัยว่าถ้าคนเราไม่รู้สึกอะไรต่อกันจะจูบกันได้มั้ย?
คนเราจะจูบกันได้มั้ยถ้าไม่รู้สึกอะไรต่อกัน?