บทเรียนอันยิ่งใหญ่ เพียงผู้ชายคนเดียวกับสาวขายบริการ เค้าจะบอกลูกหลานว่ายังไง อยากรู้ว่าเค้ามีจิตสำนึกบ้างไหม

ก่อนอื่นขอพิมพ์เรื่องของผู้ชายก่อน เนื่องด้วยเราคบกับนาย A (นามสมมุติ) มาตั้งแต่สมัยเรียนตั้งแต่ยังไม่ได้ทำงานกัน จนเข้าสู่วัยทำงาน เป็นระยะเวลา 7 ปี  เริ่มรู้สึกได้ว่าพอนาย A ทำงานมีตังเริ่มเอาเงินไปเลี้ยงผู้หญิง วันหนึ่งนาย A ไปเกาะล้านพัทยา บอกว่าไปทำงาน  แล้วเราก็สงสัยว่าทำไมถึงบอกเราว่าไปคนเดียว แล้วเรามารู้ทีหลังว่าไปกับเพื่อนเราก็พยายามถามว่าทำไมถึงต้องโกหก แล้วเรามารู้ทีหลังจากโทรศัพท์ว่านาย A ไปมีสาวขายบริการซึ่งรูปแก้ผ้าส่งมาทางไลน์  และในโทรศัพท์ก็มีกรุ๊ปไลน์ของสาวไซด์ไลน์ หรือผู้หญิงขายตัวซึ่งพาไปเที่ยวต่างจังหวัด เราเสียใจมากจนเข้าโรงพยาบาลป่วยหนักเพราะเครียดเรื่องนาย A ไปมีสาวขายตัว เราก็ให้นาย A มา เค้าก็มาเค้าก็ดูแลที่โรงพยาบาลนะ แต่ไม่ยอมหยุดเรื่องผู้หญิงขายตัวซักที

                 จนเมื่อเราออกจากโรงพยาบาล เราต้องกินยาเรื่อยๆเพราะยังไม่หายดี และต้องหมอก็ไม่ฟันธงได้ว่าเราจะหายหรือจะกลับมาเป็นใหม่ได้อีก สิ่งที่เราได้ตอนนั้นคือกำลังใจจากครอบครัว เรื่องที่เราป่วยนี้เราไม่ได้บอกท่านว่าเราเครียดจัดที่จับได้ว่านาย A ไปมีผู้หญิงบริการร้องไห้หนักก่อนเข้าโรงพยาบาล เราก็ยังให้อภัย แล้วไปเที่ยวเขาใหญ่ด้วยกันกับครอบครัวของเรา  แต่เราก็ยังแอบเอาโทรศัพท์นาย A มาดู เพราะไม่ไว้ใจ และก็ยังมีสาวไซด์ไลน์คุยอยู่ จนทะเลาะกัน เค้าบอกเบื่อเราว่าเราสารพัดว่าไม่ดีนั่นนี่ เราก็บอกว่าพยายามปรับตัวคุยกันดีๆ และเราก็คุยดีๆกัน และเราให้อภัยได้อีกเพราะรักมาก และอยู่ที่คอนโดด้วยกันทุกๆวัน  จนวันหนึ่งเราต้องกลับบ้านไปทำบุญที่ต่างจังหวัดซึ่งเป็นช่วงเทศกาลหยุดหลายวันก่อนกลับบ้าน นาย A บอกว่าลืมกุญแจรถของนาย A ไว้ในห้องและลืมกุญแจห้องไว้ในห้องต้องให้ช่างคอนโดมาไข  ซึ่งจะเสียเวลาทำงาน จึงขอยืมรถเราก่อนซึ่งเราก็ให้ เราก็ไม่ได้เอ๊ะใจอะไร ก็ให้ยืม  และเราก็นั่งรถตู้กลับบ้าน ส่วนนาย A เอารถเราไปทำงาน เราจึงโทรคุยกันวันแรกที่เรากลับบ้านนาย A บอกว่า ให้เรานั่งรถตู้ไปทำงานวันจันทร์แล้วหลังเลิกงานจะมารับ เราก็ตกลงตามที่นาย A บอก และเราก็เปิดกล้องคุยกันเพราะเราอยากเห็นหน้าแต่นาย A มีท่าทีแปลกๆบอกให้เราเปิดน้องสาวให้ดู (เราไม่ได้เปิดให้ดูนะคะ) นาย A ก็โชว์น้องชายออกมา ซึ่งตั้งแต่คบกันมาไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้

                   พอมาอีกวันนาย A ก็ปิดมือถือเราจึงรีบกลับมาที่คอนโดเองโดยที่ไม่รอให้นาย A มารับ  และก็เห็นไฟที่ห้องเปิดอยู่ซึ่งนาย A ไม่ได้กลับบ้านที่อยุธยาอย่างที่บอก  เราจึงเคาะเรียกนาย A และรู้ว่ามีผู้หญิงอยู่ในห้อง ซึ่งในห้องก็ยังมีของของเรา ในรถก็มีของๆเรา ทำไมผู้หญิงไม่สงสัยว่าทั้งรถทั้งห้องมันมีแต่ของผู้หญิงมีของๆเราเต็มรถไปหมด น้ำตาเราไม่ไหลแล้ว เพราะเคยบอกนาย A ว่าจะไม่ร้องให้ให้เห็น เราเข็มแข็ง ทั้งๆที่ในใจมันแตกเป็นเสี่ยงๆ  พูดไม่ออก  ของก็ยังไว้ที่ห้อง เราขอแค่เอาแค่กุญแจรถออกมา อย่างเดียวที่ทำได้ตอนนั้น  นาย A จึงบอกว่า ผู้หญิงในห้องเป็นเด็กดริ้งนั่งร้านโดยเอารถเราไปรับมานอนที่ห้องและตัวผู้หญิงเองก็รู้นะว่าสิ่งของพวกนั้นเป็นของเรา เราหายใจถี่ และยังให้กำลังใจตัวเองว่าผู้หญิงคงไม่ได้คิดอะไรด้วยหรอกมั้ง เพราะจ้างมาค้างคืน ได้แต่หลอกตัวเอง พอออกมาจากคอนโดปุ๊บบ่อน้ำตาแตกเลยคะ  

                     ต่อมาเราก็ลองคุยกับผู้หญิงเราบอกว่าอย่าทำแบบนี้เลย ขอร้องแหละ หน้าตาก็ดี หาผู้ชายได้อีกเยอะ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่มีแฟนอยู่แล้ว  และตัวผู้หญิงตอบกลับมาว่า ไม่เห็นรู้เรื่องเราเลยและบอกว่าอย่าแพ้แล้วพาล เราสับสนกับคำพูดผู้หญิงนะ จะไม่รู้เรื่องได้ยังไง จนที่บ้านเราบอกว่าพอเถอะถอยออกมาเถอะ พ่อแม่เรารับรู้เรื่องนี้หลังจากออกโรงพยาบาลและให้กำลังใจเรามาตลอด ยิ่งมาเจอเรื่องพวกนี้บอกตรงๆคะ ว่าสภาพจิตใจแย่จริงๆ  ผู้หญิงคนนี้ติดตามในเฟสก็เยอะอยู่นะ น่าจะเป็นไอดอลของหลายๆคน ตัวนาย A เองก็บอกว่าเราไม่ดีนั่นนี่  ซึ่งเราก็แปลกใจนะคบกันมา 7 ปี ตั้งแต่สมัยเรียน จบมาคบกับผู้หญิงคนนี้ ไม่ปกป้องเราซักนิดว่าเราสารพัด ว่ายันพ่อแม่เรา บุพการีเราด้วย และโชว์ภาพนอนด้วยกันบนเตียงมาให้เห็น เราถามนาย A นะว่าต้องทำกันขนาดนี้เลยหรอ พอถามปุบก็ยิ่งถ่ายภาพแบบพึ่งมีอะไรกันใหม่ๆ มาให้เห็น เจ็บหนักกว่าเดิมมาก

                    เราก็ไม่คิดว่าผู้ชายที่บวชมานาน 5 เดือน ทำไมถึงผิดศีลข้อมุสากับกาเม อยู่ในโลกของสาวขายบริการ และทำกับเราได้ถึงเพียงนี้ และทำไมตัวผู้หญิงเองถึงไม่รู้ว่ามันเป็นบาปทั้งๆรู้ว่าผู้ชายมีแฟนอยู่แล้ว เหมือนทำกันเพื่อความสะใจ  ทุกวันนี้เราต้องมากินยาตลอดโดยไม่รู้ว่าเราจะหายไหม หรือจะกลับมาเป็นใหม่มากขึ้นไหม เพียงเพราะผู้ชายคนเดียวกับสาวขายบริการ เวรกรรมจะมีจริงหรือไม่เราไม่รู้
เพราะที่เห็นทุกวันนี้ผู้หญิงยังเรียนมหาวิทยาลัยปีแรก ไม่เอ่ยมหาลัยไม่ดีต่อสถาบัน และขายของออนไลน์ดีเป็นเทน้ำเทน่า ลงคลิปเต้นเที่ยวผับเที่ยวบาร์ กินเหล้า อวดฝาชีลงเฟส คนตามกดไลท์มากมาย เราอยู่นิ่งๆของเราไม่ไปยุ่งเกี่ยว วันหนึ่งเรามีความจำเป็นต้องเข้าไปเอาของที่คอนโดของนาย A พอเราไปที่ห้องโวยวาย โพสลงเฟสบุค ว่าเราเผือกที่จะเข้าไปที่ห้อง ว่าเรามันแบบนั้นแบบนี้  และบอกว่าเป็นคนของเค้า

                  "" คือเราแค่จะไปเอาของ ""  เพราะตอนออกมาเราเอามาแค่กุญแจรถ เราจึงไปบอกผู้หญิงว่าที่กระทำกันมาทั้งคู่ยังไม่พอใจกันอีกหรอ ยังจะโพสว่ากันอีก แย่งแฟนไปแล้ว ยังจะอะไรกับเราอีก ผู้หญิงคนนี้เป็นคนเก่งนะเราไม่ทันหรอก  มีตั้งทีมจะแจ้งความเราด้วยข้อหาใส่ความแล้วบอกเราว่าไหนหลักฐานที่ขายบริการกับแย่งแฟน เรางงเลยคะคือปกติถ้าคนจะมีอะไรกันแอบกินกันเค้าคงไม่มีหลักฐานและเราเองคงไม่ไปตามถ่ายภาพถึงบนเตียง เพราะเจ็บมามากพอแล้ว และต้องมาดูแลตัวเอง คอยเข้าโรงพยาบาลและไม่มีเวลาไปถ่ายภาพเพื่อเป็นหลักฐานอะไร และสิ่งที่เราเจอนั้นคือตัวผู้ชายเองไม่ปกป้องเราเลยหาว่าเราไปว่าผู้หญิงและจะฟ้องเราด้วยอีกคน  และผู้หญิงเองโพสบอกว่าในขณะนี้มีผู้ไม่ประสงค์ดีกับเค้าใส่ความเค้าต้องแจ้งความไว้ก่อนเพื่อป้องกันตัว  ใครจะไปแจ้งความกับเค้าตามเค้าไปได้เลย  และทุกคนติดตามในเฟสเค้าต่างพากันว่าเราต่างๆนาๆ จะต้องเป็นทีมของเค้า  คือวันนั้นเราแค่ไปเอาของที่ห้องแค่นั้น  

                 แต่สิ่งที่เค้ากับเรามันไม่ใช่ร่างกายแต่เป็นจิตใจเราเต็มๆ ที่มันแหลกเป็นเสี่ยงๆ และสภาพร่างกายเราก็แย่ตามไปด้วย คนที่มีแพลนจะแต่งงานคิดอนาคตไว้  มันหายไปหมด บางทีเรื่องชู้สาวไม่จำเป็นต้องเล่นกฎหมายอะไรไม่จำเป็นต้องสร้างทีมใครมันอยู่ที่จิตใต้สำนึก และอีกอย่างเราคงไม่ไปทำอะไรเค้าหรอก
                ถึงเราตายไปผู้ชายคนนี้กับสาวขายบริการก็คงไม่สำนึกอะไร แอบมีอะไรกันซื้อตัวกันมานอนด้วยกันถึงที่แล้วยังจะแจ้งความเราอีก อยากรู้ว่าถ้าเค้าแต่งงานกันไม่รู้จะเชิดหน้าชูตากันถึงไหนและอยากรู้ว่าเค้าจะบอกลูกหลานว่ายังไง มีจิตสำนึกกันบ้างไหม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่