13ปีที่ตามหาเธออยู่ รักวัยเด็ก ณ หว้ากอ กับเรื่องราวสุดอินเลิฟและความรู้สึกผิดที่ไม่เคยลืม

สวัสดีครับทุกๆท่าน นี่เป็นกระทู้แรกของผม จริงๆก็ตั้งใจสมัครมาเพื่อบอกเล่าเรื่องราวนี้โดยเฉพาะ ก่อนอื่นต้องขอออกตัว ขอโทษ ทุกๆท่านก่อนนะครับ เนื่องจากกระทู้แนวตามหาคนมีเยอะ และผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ผมก็อยากให้หลายๆคนลองรับฟังเรื่องราวนี้ก่อนนะครับ ผมพยายามตามหาคนๆนี้มานานหลายปีแล้ว
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อ 13 ปีก่อน(ตอนนี้ผมอายุ 26 ปีครับ) ตอนนั้นผมอยู่ ป.6 ช่วงปิดเทอมใหญ่ น้าผมชวนให้ไปเที่ยวที่บ้าน จริงๆก็ไปเป็นประจำทุกๆปีอยู่แล้ว แต่ปีนี้มีอะไรที่พิเศษกว่า ยิ้ม เนื่องจากน้าผมทำงานเป็นพี่เลี้ยงค่ายวิทยาศาสตร์ อยู่ที่ อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จ.ประจวบฯ บ้านพักของน้าก็จะอยู่ในค่ายเลย ผมก็จะเป็นลูกมือหยิบจับโน่นนี้นั้นให้เวลาน้าทำงาน ก็สนุกดีนะครับได้เต้น ได้ร้องเพลง ทำอยู่แบบนี้มาหลายค่าย จนมาถึงค่ายๆหนึ่ง
วันนั้นจำได้ว่าผมขี้เกียจออกไปต้อนรับคณะครูและนร.ที่รถบัส แต่กลับมานั่งเล่นกับกระรอกที่น้าเลี้ยงไว้ในกรงหน้าห้องพัก เมื่อการต้อนรับจบนร.ก็จะต้องเดินไปเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าไว้ในห้องพักซึ่งทางเดินไปห้องพักจะต้องผ่านห้องน้าผมก่อน จังหวะที่ผมกำลังเล่นกับกระรอก ไม้กวาดทางมะพร้าวที่พิงไว้กับกำแพงก็ไหลมาตกใส่หัวผม คือรู้เลยยย ว่าต้องมีใครเดินชนมันตกมาโดนหัว ผมนี่รีบหันกลับไปมองเลย ทันใดนั้นผมก็เจอกับนางฟ้านางหนึ่ง55555 คือน่ารักมากกก ผิวขาว ผอม สูงพอๆกับผม พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มๆอ่อนโยนว่า "ขอโทษค่ะ" พร้อมกับยิ้มบางเบาให้ผม โอ้โหหหหห ผมนี่ลอยละล่องไปไกลเลย55555 พอตั้งสติได้ก็พูดไปแบบ ไม่เป็นไรครับๆ พอเธอเห็นผมเล่นกระรอกอยู่ เธอก็สนใจและเข้ามาดูมาถาม และก็จบลงที่เราแนะนำตัวกัน "เราชื่อแบงนะ" "อ่อ เราชื่อเบลนะ" (ลืมบอกไป เธออยู่ ป.6) ตั้งแต่นั้นมา ผมก็จะแอบมองเธอตลอดทุกๆกิจกรรมในค่ายเลย วันแรกจะมีละลายพฤติกรรม มีเกมมีเพลงให้เต้น และแน่นอนทุกๆเพลงค่ายย่อมต้องมีตัวอย่างท่าเต้น ผมนี่ออกไปโชว์ตลอด เพื่อหวังว่าเธอจะชอบใจ พอได้เห็นเธอยิ้มหัวเราะเราก็พลอยหัวใจเต้นแรงไปด้วย พอถึงตอนกลางคืนจะมีกิจกรรมดูดาว วิทยากรจะเอาไฟฉายชี้ท้องฟ้าแล้วบรรยายไปด้วย น้าบอกให้ผมไปนั่งรวมกับนร. ด้วยความที่ว่าผมรู้จักอยู่คนเดียวอ่ะนะก็เลยไปนั่งข้างๆเขา(ข้ออ้างชัดๆ) เรานั่งดูดาวข้างๆกัน ผมเขินมากกกก แต่ก็ยังมีความกล้าชวนคุยเรื่องดาว (คืออยู่มาหลายค่ายก็จะรู้เรื่องดาวอยู่บ้าง) เธอก็รู้สนใจดีนะและชวนคุยกลับ คืนนั้นกลับมานอนแบบว่า ยิ้มไปนอนไป55555 ตั้งแต่นั้นมาทุกครั้งเรื่องถึงช่วงพักค่าย ผมจะชอบไปเล่นกับเธอ เธอเป็นเด็กน่ารัก ขี้เล่นตามวัย เราเล่นซ่อนแอบ หมากเก็บ ก็มันสุดๆแล้วนะตอนนั้น55555 ผมนี่มีความสุขจริงๆ หัวเราะ
แต่เวลาความสุขมันอยู่ไม่นาน ค่าย3วัน2คืนกำลังจะจบ ผมใจหายมากที่จะไม่ได้เจอเธออีก จะขอเบอร์ก็ไม่กล้า สมัยนั้นมีกันแต่โทรศัพท์บ้าน คือถ้าได้เบอร์มาก็ไม่กล้าโทรเพราะกลัวแม่ดุ ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี เลยไปหยิบหินมาก่อนนึง แล้วเอาหินอีกก้อนมาขูดๆเป็นชื่อผม แล้วเดินไปหาเขาบอกว่า "อ่ะเอานี้ไป" เธอไม่เอาครับ55555 แต่เธอหยิบเอาสมุดในกระเป๋ามาฉีกแล้วเขียนเบอร์บ้านพร้อมกับให้ลูกอมมาจำนวนหนึ่ง เราโบกมือบ๊ายบายกันก่อนเธอจะขึ้นรถบัสกลับบ้านไป คืนนั้นผมนอนไม่หลับบบบ คิดถึงเธอ ภาพติดตามสุดๆ T^T
หลังจากค่ายนั้นจบ อีกไม่กี่วันต่อมา ผมก็กลับมาบ้าน (บ้านผมตอนนั้นอยู่สมุทรสาคร) พอถึงบ้านผมก็พยายามหาวิธีโทรหาเธอ แต่คือไม่อยากใช้โทรศัพท์บ้านตัวเองโทรไปเพราะกลัวแม่ดุว่าใช้โทรศัพท์บ้านโดยไม่จำเป็น ตอนนั้นค่าโทรแพงนะครับ ถ้าโทรข้ามจังหวัดนี่คิดค่าโทรเป็นนาทีละกี่บาทไม่รู้ ต้องไปโทรที่ตู้หยอดเหรียญหน้าปากซอย55555 ผมจำได้ว่าผมจะกลัวทุกครั้งที่พ่อเธอรับสาย แต่พ่อก็ไม่ดุนะ เรียกเธอมารับสาย ผมจำรายละเอียดที่เราคุยกันไม่ค่อยได้ เราคุยกันไม่แปบเดียว เพราะผมก็มีเงินคุยแค่ไม่เกิน5บาท แต่ทุกครั้งที่คุยกันคือมันรู้สึกอบอุ่น หัวใจเต้นแรง และสัมผัสได้ว่าเธอเองก็รู้สึกพิเศษเหมือนกัน(หรือผมคิดไปเอง555) พอคุยเสร็จผมก็จะหยิบกระดาษเบอร์เธอไปซ่อนไว้ที่ร่องโซฟา ทำแบบนี้อยู่ครั้ง2ครั้ง เธอก็ขอเบอร์ผมไปแล้วบอกว่าเดี๋ยวโทรไปบ้าง วันนั้นไม่ว่าสายไหนโทรมา ผมก็วิ่งไปแย่งรับสายก่อน จนกระทั่งถึงสายของเธอ จำได้ว่า วันนั้นเธอพูดอะไรสักอย่างผมจำไม่ได้ แต่ผมรู้สึกได้ว่าใจความสำคัญคือเธอเองก็ชอบๆผมเหมือนกันนะ พอว่างสายเสร็จ ผมก็ดันตื่นเต้นหนักไปหน่อย เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้แม่ฟัง แทนที่แม่จะดีใจด้วย แม่กลับรู้สึกเป็นห่วง วันนั้นผมก็โดนเทศไปพักใหญ่เลยยยย แล้วแม่ก็รับสายเธอ คุยกับเธอ แม่ถามว่าเธออยู่ที่ไหน จำได้ว่าเธอยู่ลาดพร้าวผมจำได้แค่นั้น คือตลอดการคุยแม่ไม่ได้ดุเธอนะ แต่ก็ออกแนวสอนๆ ว่าให้ตั้งใจเรียนก่อน ค่อยคิดถึงเรื่องความรัก ตั้งแต่นั้นมา เธอก็ไม่โทรมาอีกเลย แล้วที่แย่คือ ผมหาเบอร์เธอไม่เจอ กระดาษที่เคยซ่อน หายไปไหนไม่รู้ และที่แย่สุดๆคือ ผมกำลังจะย้ายบ้านไปนครปฐม นั้นหมายความว่า ถ้าเธอโทรมา ผมจะไม่รู้เรื่องเลย พอย้ายบ้านไปเรียนม.ต้น ผมก็จะรอให้ถึงปิดเทอม แล้วหาเวลากลับมาเที่ยวที่บ้านเก่าตลอด เพื่อหาเบอร์เธอให้เจอ ทำแบบนี้อยู่จนถึงม.3 ก็ยังไม่เจออ
ผมรู้สึกผิดมากๆที่ทำให้เธอถูกแม่เราดุ แล้วก็รู้สึกเสียใจที่ติดต่อเธอไม่ได้อีก ผมคิดถึงเธอมากๆ และอยากจะติดต่อเธอให้ได้อีกครั้ง ผมไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกนั้นให้ทุกท่านฟังยังไงดี คือมันเสียใจจริงๆนะ
ผมมีข้อมูลที่เกี่ยวกับเธอ มีน้อยมากๆ ถ้ามานั่งทบทวนจริงๆคือ
- เธออายุเท่าผม
- เธอเคยเข้าเคยอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ ตอนปิดเทอมใหญ่
- เธออาศัยอยู่ลาดพร้าว
- เธอชื่อ "เบล"
ผมรู้เกี่ยวกับเธอแค่นี้เอง ผมก็พยายามหาเธออยู่หลายปี ไปดูในเว็บบอร์ดของอุทยานบ้าง ไปขอดูข้อมูลค่ายจากน้าบ้าง ก็หาไม่เจอ ทุกวันนี้ผมก็ยังอยากเจอเธออยู่นะ ถึงมันจะดูไม่มีความหวังเลยก็ตาม แต่ถ้ายังพอมีโอกาสก็จะลองทำต่อไป
ผมทำใจไว้แล้วแหละว่าอาจจะไม่ได้เจอกันอีก แต่ก็อยากจะเขียนเรื่องราวนี้ไว้ให้ทุกๆท่านได้อ่าน
ขอบคุณทุกๆคนที่สละเวลามาอ่านเรื่องราวดีๆของผมนะครับ ยิ้ม
ถ้าได้เจอกันอีก ผมก็อยากจะชวนเธอไปดูดาวอีกครั้งจริงๆนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่