เดี๋ยวนี้นักปฏิบัติธรรมต้องใส่หมวกปิดหน้าจนอีกนิดจะเป็นไอ้โม่ง แถมมีการ์ดดูแลความปลอดภัยให้ด้วย พุทธปี 2016?

กราบขอรับ

ยุคสมัยเปลี่ยนไป อะไรๆก็ย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามปกติวิสัย
แต่คำสอนของพระศาสดานั้นใช้ได้ใช้ดีเห็นผลตลอดกาล หาได้เสื่อมไปตามกาลเวลาไม่
ชาวพุทธผู้ศึกษาและปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ย่อมเล็งเห็นได้อย่างชัดแจ้งว่าอะไรเป็นอะไร
นักวิปัสสนาคือผู้มีความเพียรในการขจัดความโง่เขลา ความงมงาย ที่มันเกาะติดอยู่ในกมลสันดารเมื่อครั้งลืมตาสั่งสมข้อมูลผิดๆมาตั้งแต่เด็ก

ผู้ที่หลงอยู่ในความงมงายนั้นย่อมไม่รู้ว่าตนเองงมงาย ย่อมมองไม่เห็นว่าความงมงายคืออะไร
เหมือนปลามองไม่เห็นน้ำ เหมือนคนเมาที่แหกปากว่าตูไม่เมา

วิปัสสนาไม่ใช่เรื่องของบาลีภูมิ
มันคือความเข้าใจที่ผู้ที่ปฏิบัติเท่านั้นจึงจะเข้าใจเองได้

การจะอธิบายความให้แก่คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ประสานั้นว่ายาก
แต่การจะอธิบายความให้แก่คนที่หลงอยู่ในความงมงายนั้นนับว่ายากกว่าเยอะ

วัดที่ตอนนี้ดูราวกับป้อมปราการในเกมเคานท์เตอร์ไสตร์ค
เหล่านักปฏิบัติธรรมที่ใส่หมวกปิดหน้าปิดตาจนอีกนิดก็อาจจะนับว่าเป็นไอ้โม่งได้แล้ว
เหล่าการ์ดที่มาดูแลความปลอดภัยหรือเป้นหน่วยลาดตระเวนภายในวัด
หรือนี่คืออารมณ์พุทธ อารมณ์วัด อารมณ์สถานปฏิบัติธรรม ในปี 2016 ของบ้านเรา?

ลืมตาเถิดท่านเอย
หากท่านเป็นผู้ประกาศตนว่าจะเดินตามพระพุทธเจ้า ท่านพึงเดินตามพระองค์ท่านจริงๆเถิด
สิ่งที่ทำๆกันอยู่นั้นมองมุมไหนก็ไม่ใช่วิถีพระศาสดา ไม่ใช่แนวทางที่พระพุทธเจ้าท่านจะบอกให้ญาติโยมทำแน่ๆ
ท่านถูกล้างสมองไปโดยไม่รู้ตัว
ท่านกำลังทำในสิ่งที่ท่านคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ท่านคิดไปเองขอรับ เพราะความจริงคือท่านกำลังขัดขวางกระบวนการทางกฏหมาย
หากเค้าสอนให้ท่านเป็นคนดีจริงๆ ท่านต้องไม่ทำสิ่งที่กำลังทำๆกันอยู่ตอนนี้
เอาเวลาที่นั่งสวดมนต์เรียงเป็นตับราวกับบังเก้อ รวมพลกันอย่างแออัดบริเวณประตูต่างๆ
ไปวิปัสสนาเพื่อจะได้รู้ได้เห็นได้เข้าใจเสียทีว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านสอนนั้นมันต่างจากสิ่งที่ท่านถูกบอกให้เชื่อถูกบอกให้ทำอย่างไร

ด้วยรักและริวโทรหาผี
กอดแมว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่