เป็นกระทู้แรกที่อยากเอามาแบ่งปัน (สมัครไว้หลายเดือนแล้วแต่ขี้เกียจยืนยัน) สำนวนการเขียนอาจจะดูงึกงักไปหน่อย ทริปนี้ไปมาช่วงที่อากาศยังไม่หนาวเย็นมากเกินไปนัก เพราะโดยส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยถูกกับอากาศเย็นๆสักเท่าไหร่
มาครับ โดดขึ้นรถแล้วไปด้วยกัน
18/11/2559 : วันที่ 1
หลังจากผ่านการวางแผนมาหลายชั่วโมง การลาพักประจำปีของผมได้ลงเป้าไว้ที่เมืองน่าน วางไว้ว่าจะไปขี่รถเล่นที่ถนนสาย 1081 สำรวจเส้นทางไปกลับซักห้าหกวัน เน้นชะโงกทัวร์เป็นหลัก ตื่นมาตีสี่อาบน้ำอาบท่า แว้นออกจากบ้านตีห้า
.........หลังจากนั้นไม่ได้ถ่ายรูปเลย แค่ต่อเน็ตส่งโลเคชั่นให้ทางบ้านเป็นระยะๆ เนื่องจากต้องทำเวลาไปจุดสตาร์ทที่ด่านซ้าย แวะถ่ายรูปตรงสะพานน้ำพุงนิดนึง ระหว่างทางก็มีจุดพักแรมเป็นระยะๆ แต่ไม่จอดซักที่ เพราะไม่ใช่เป้าหมายของการเดินทางในครั้งนี้
บิดต่อสักพัก จากสระแก้วมาถึงด่านซ้ายก็หกโมงครึ่งพอดิบพอดี
ยืนงงอยู่จุดชมวิวสักพัก ก็ลงไปหาที่พักในเมือง อาหารการกินก็หาแถวๆนั้นล่ะ
สี่ทุ่มกรึ่มๆเข้าที่พัก หลับสบายยยย
19/11/2559 : วันที่ 2
พอเช้ามืดก็ตื่นขึ้นไปซ้ำรอยจุดชมวิวผีตาโขน มีกลุ่มคนท่องเที่ยวนอนค้างคืนแถวๆนั้นด้วย โอโห หนาวแย่เลย ก็ถามไถ่กันตามปรกติ ยกเว้นถามชื่อ ซึ่งบางครั้งผมว่ามันก็เป็นนิสัยเสียเหมือนกันที่ไปไหนมาไหนไม่ค่อยถามชื่อใคร(หลังจากนี้ยังมีอีกหลายคน)
ถ่ายรูปไปมา รู้สึกอยากถ่ายเองบ้าง ขี่ลงเขามาเข้าห้องน้ำที่ห้องพัก แล้วก็ขี่ขึ้นไปใหม่ จะขยันไปถึงน๊ายยยยย
ชื่นชมทะเลหมอกเมืองด่านซ้ายจนได้ที่แล้ว ก็ลงไปพระธาตุศรีสองรัก หมอกคลุม ไม่มีแดดซักนิด สะเทือนใจมาก
อะแถมอีกมุม ก่อนเตรียมตัวเผ่น
ก้มๆเงยๆแถวพระธาตุจนไม่รู้จะทำอะไรแล้ว ก็เผ่นกลับที่พัก เช็คโซ่ เช็คไฟ เช็คนู่นนี่นั่น อัดน้ำมันให้เต็มถัง แถมใส่ขวดสำรองอีกลิตรนึง จัดสัมภาระ มุ่งหน้าไปนาแห้ว ย้อนอดีตสมัยวัยรุ่นซักหน่อย
มุ่งหน้าถนน 2113 ดุ่ยๆขึ้นเขาลงเขาไปเรื่อย ไม่ได้มานาน ถนนดีขึ้นเยอะเลย......จริงๆนะ พี่ชายฝากแวะวัดโพธิ์ชัยนาพึง หักขวาเข้าไปโดยฉับพลับ ในวัดเงียบมาก
วัดโพธิ์ชัย นาพึง มีวัดคู่แฝดชื่อวัดศรีโพธิ์ชัย แสงภา เอาจริงๆก็ชวนให้สับสนอยู่บ้างว่าเราจะไปวัดไหนกันแน่ แต่เทียบแล้วผมชอบที่นาพึงมากกว่า ตอนนี้ก็มีโครงเหล็กค้ำยันอุโบสถไว้ ดังนั้น ของดรูปด้านในนะ ผมยังหวั่นใจ เอาหอไตรสูงๆไปดูแทนครับ
ดูนั่นนิด ดูนี่หน่อย ก็บึ่งรถไปชายแดนบ้านเหมืองแพร่ ไม่ได้มาตั้ง 17 ปี ดูเหมือนเดิมเกือบทุกอย่าง ยกเว้นทางข้ามไปฝั่งลาวที่เทปูนกันตลิ่งทรุดทั้งสองฝั่งแล้ว การข้ามถ้ามีน้ำก็ใช้แพ ถ้าแห้งก็เดินข้าม แต่ผมไม่ได้ข้ามไปหรอกนะ จำคนทางฝั่งนู้นไม่ได้แล้ว
แวะตุนเสบียงก่อน เพราะวันนี้เราจะขี่เลียบชายแดน ผ่าป่า ทะลุดง ใช้ถนน 1268 ขึ้นเขาลงเขาเหมือนเดิม สนุกมากเพราะแถวบ้านไม่มีแบบนี้ ผ่านภูสวนทรายไปแบบไม่เหลียวแล และแน่นอนผ่านภูสอยดาวไปเฉยๆเช่นกัน ท่องไว้ในใจ แค่ทางผ่านๆ วันนี้ต้องไปให้ใกล้เมืองน่านที่สุด ถนนจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ขี่มาคนเดียว มีกระบะแซงไปนิดหน่อย รู้ตัวอีกทีก็ไปนั่งซดเตี๋ยวอยู่บ้านโคกแล้ว จากนั้นก็เกาะถนนสายเดิมขึ้นไป หาทางตัดเข้าเมืองน่าน หวยออกถนนสาย 1083 ทีแรกกะว่าจะไปสาย 1243 แต่ดูเวลาแล้ว สงสัยจะมืดกลางป่า ก็ดุ่ยๆตามสไตล์ขึ้นเขาลงเขา ตามทางมีด่าน ตชด. เป็นระยะๆ แถมมีห้องน้ำให้บริการ บางจุดพื้นที่กว้างขวาง ขอกางเต็นท์นอนก็ยังได้อะผมว่า แต่ข้ามไปก่อนนะ ทริปนี้ขอสบาย ถ้าอยากลำบากให้อยู่บ้าน ฮ่าๆๆ

แวะล้างหน้าล้างตา พักเอนหลัง เอนไปเอนมา จะหลับซะให้ได้ ถามทางเจ้าหน้าที่ บอกว่าไปอีกหน่อยก็เข้าเขตตัวเมืองนาน้อยแล้ว ก็บึ่งรถไปอย่างไว ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำน่าน จุดนี้มันสวยนะ แต่ผมรีบ ข้ามไปก่อนละกัน (อ้าว) เกาะไลน์รถตู้ขึ้นดอย สะดวกมาก ให้เขาเบิกทางแทนเรา แป็บเดียวขึ้นถึงยอดดอยเสมอดาว.....เฮ้ยมาไงอะ มันไม่อยู่ในแผนนะเว้ย สมองประมวลผลอยู่สองวินาที ขี่ผ่านไปหน้าตาเฉย ขอติดไว้ก่อนนะ ระหว่างทางลง เจอกลุ่ม CBR เจ้าถิ่นน้ำมันหมด เลยยกน้ำมันสำรองให้ไป ทางนั้นเลยพาไปเลี้ยงใส้ย่างกะพาไปหาที่พัก ไอ้เราก็ไป แหม่ คนอะไรใจง่ายจริงๆ
20/11/2559 : วันที่ 3
ตื่นเช้ามากับบรรยากาศอันแสนเงียบสงบ จากข้อมูลที่ถามเจ้าถิ่นมา "ในความตั้งใจเดิมของผมนั้น อยากเก็บถนนสาย 1081 ไปจบที่ห้วยโก๋น แต่ดูจากความเร็วของ GD เดิมๆที่แทบเรียกได้ว่าเต่ากัดยาง และความไม่ชินทาง ตามด้วยเงื่อนไขที่ว่าจะกลับมาพักในเมือง จึงได้แผนบ่อเกลือฉบับย่อมาแทน ให้ไปขึ้นทาง 1256 ลงบ่อเกลือแล้วค่อยย้อนกลับมาเข้าเมืองน่านหมดวันนึงพอดี ไม่เหนื่อยมากด้วย" เก็บข้าวของออกเดินทางมุ่งหน้าขึ้นดอยภูคา ระหว่างทางออกจากเวียงสาก็เรียบร้อยดี แต่พอเข้าเมืองน่านนี่สิ……….ไฟเขียวเลี้ยวขวาไม่มีอะคุณ(ผมเจอแค่ที่เดียว ตรงไหนไม่รู้ลืมแล้ว) ทะลุเมืองน่านออกมาข้างรันเวย์สนามบินน่านแบบงงๆ ขี่ต่อไปเรื่อยๆ ช่วงอ.ท่าวังผา ดมฝุ่นไปหนึ่งชุด ซ่อมถนนกันหนักมากกกกกกกกกก แวะจิบกาแฟที่ ปั๊มบางจาก-สหกรณ์การเกษตรปัว เจ้าของร้านกาแฟใช้ CBR500 ก็นั่งคุยกันตามประสาคนชอบขี่มอไซค์ (ลืมถามชื่ออีกแล้ว) พี่เค้าให้แผนที่สำหรับเที่ยวในตัวเมืองน่านมาด้วย ขอบคุณครับๆ
หลังจากจับทางขึ้นดอยได้ ก็ตะบี้ตะบันขี่ แหม่บอกแล้ว ไม่ได้มาเที่ยวมาขี่รถเฉยๆ
อ่า......รู้ตัวอีกทีควักตังค์จ่ายให้ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูคา เพื่อขึ้นไปพบว่ามีแต่บ้าน บ้าน บ้าน และบ้าน นี่ตูขึ้นมาทำไม ไม่ได้จะนอนเว้ย -_-
แค้นมาก งัดเสบียงที่พกขึ้นมา กินตรงลานจอดนั่นล่ะ
ขี่ต่ออีกนิดก็ถึงจุดชมวิว วันอาทิตย์ มีนักท่องเที่ยวประปราย เป็นวัยรุ่นเจ้าถิ่นซะเยอะ ข้ามไปละกัน นี่ไม่ใช่เป้าหมายที่ต้องการจะมา
พอลงได้แป็บๆ อุแม่เจ้า โค้งสวยๆ กลิ่นยางมะตอยกำลังตุ่ยๆ ขอเก็บภาพหน่อย
วาร์ปอีกทีลงมาถึง อ.บ่อเกลือ เข้าไปวนดูข้างใน แต่ร้อนและหิวมาก เลยไม่แวะ(แบบนี้ก็ได้เหรอ) ขี่ขึ้นมาเห็นร้านอยู่ริมถนนร้านนึง “โทษครับน้อง ของหมดพอดี” โอโหชีวิตอ้วน -_- จัดไปขี่ยาวๆจิบน้ำเปล่าแก้ช้ำ มุ่งหน้า อ.สันติสุข ถ.1081 อุปมาได้ดั่งนครเมกกะของคนขี่มอเตอร์ไซค์ (โบกมือลาบ่อเกลือโดยไม่ได้ซื้ออะไรซักอย่าง ฮ่าๆๆ)

ระหว่างทางก็จอดโน่น จอดนี่ ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย ขึ้นเขาลงเขาอย่างมีความสุขที่ได้มาเยือนสมความตั้งใจ
อ้าว เจอพระอีกแล้ว พระทันใจทุกแห่งหน
เนินนี้ผมชอบมาก ดักซุ่มดูรถโผล่ได้พอดี แถมตรงนั้นมีลานกว้าง กว้างจนผมคิดว่า ถ้ามีเต็นท์มาด้วย ผมคงจะกางนอนตรงนั้นล่ะ ไม่เข้าเมืองละ
ดักถ่ายรูปชาวบ้านเขาบ้างนิดหน่อย พอเป็นกระสายยา แล้วก็ได้เวลาเผ่น
ลงจากดอยด้วยอาการยิ้มหวาน ความสุขล้นท่วมใจ หาที่พักในตัวเมือง ได้ใกล้ๆโรงพยาบาลน่าน แล้วไปนั่งจิบเบียร์ที่สุดกองดี คุยกะใครมั่งก็ไม่รู้(อ้าว) กลับที่พักไปนอนราวๆเที่ยงคืน
พักร้อน ก่อนจะหนาวที่เมืองน่าน
มาครับ โดดขึ้นรถแล้วไปด้วยกัน
18/11/2559 : วันที่ 1
หลังจากผ่านการวางแผนมาหลายชั่วโมง การลาพักประจำปีของผมได้ลงเป้าไว้ที่เมืองน่าน วางไว้ว่าจะไปขี่รถเล่นที่ถนนสาย 1081 สำรวจเส้นทางไปกลับซักห้าหกวัน เน้นชะโงกทัวร์เป็นหลัก ตื่นมาตีสี่อาบน้ำอาบท่า แว้นออกจากบ้านตีห้า
.........หลังจากนั้นไม่ได้ถ่ายรูปเลย แค่ต่อเน็ตส่งโลเคชั่นให้ทางบ้านเป็นระยะๆ เนื่องจากต้องทำเวลาไปจุดสตาร์ทที่ด่านซ้าย แวะถ่ายรูปตรงสะพานน้ำพุงนิดนึง ระหว่างทางก็มีจุดพักแรมเป็นระยะๆ แต่ไม่จอดซักที่ เพราะไม่ใช่เป้าหมายของการเดินทางในครั้งนี้
บิดต่อสักพัก จากสระแก้วมาถึงด่านซ้ายก็หกโมงครึ่งพอดิบพอดี
ยืนงงอยู่จุดชมวิวสักพัก ก็ลงไปหาที่พักในเมือง อาหารการกินก็หาแถวๆนั้นล่ะ
สี่ทุ่มกรึ่มๆเข้าที่พัก หลับสบายยยย
19/11/2559 : วันที่ 2
พอเช้ามืดก็ตื่นขึ้นไปซ้ำรอยจุดชมวิวผีตาโขน มีกลุ่มคนท่องเที่ยวนอนค้างคืนแถวๆนั้นด้วย โอโห หนาวแย่เลย ก็ถามไถ่กันตามปรกติ ยกเว้นถามชื่อ ซึ่งบางครั้งผมว่ามันก็เป็นนิสัยเสียเหมือนกันที่ไปไหนมาไหนไม่ค่อยถามชื่อใคร(หลังจากนี้ยังมีอีกหลายคน)
ถ่ายรูปไปมา รู้สึกอยากถ่ายเองบ้าง ขี่ลงเขามาเข้าห้องน้ำที่ห้องพัก แล้วก็ขี่ขึ้นไปใหม่ จะขยันไปถึงน๊ายยยยย
ชื่นชมทะเลหมอกเมืองด่านซ้ายจนได้ที่แล้ว ก็ลงไปพระธาตุศรีสองรัก หมอกคลุม ไม่มีแดดซักนิด สะเทือนใจมาก
อะแถมอีกมุม ก่อนเตรียมตัวเผ่น
ก้มๆเงยๆแถวพระธาตุจนไม่รู้จะทำอะไรแล้ว ก็เผ่นกลับที่พัก เช็คโซ่ เช็คไฟ เช็คนู่นนี่นั่น อัดน้ำมันให้เต็มถัง แถมใส่ขวดสำรองอีกลิตรนึง จัดสัมภาระ มุ่งหน้าไปนาแห้ว ย้อนอดีตสมัยวัยรุ่นซักหน่อย
มุ่งหน้าถนน 2113 ดุ่ยๆขึ้นเขาลงเขาไปเรื่อย ไม่ได้มานาน ถนนดีขึ้นเยอะเลย......จริงๆนะ พี่ชายฝากแวะวัดโพธิ์ชัยนาพึง หักขวาเข้าไปโดยฉับพลับ ในวัดเงียบมาก
วัดโพธิ์ชัย นาพึง มีวัดคู่แฝดชื่อวัดศรีโพธิ์ชัย แสงภา เอาจริงๆก็ชวนให้สับสนอยู่บ้างว่าเราจะไปวัดไหนกันแน่ แต่เทียบแล้วผมชอบที่นาพึงมากกว่า ตอนนี้ก็มีโครงเหล็กค้ำยันอุโบสถไว้ ดังนั้น ของดรูปด้านในนะ ผมยังหวั่นใจ เอาหอไตรสูงๆไปดูแทนครับ
ดูนั่นนิด ดูนี่หน่อย ก็บึ่งรถไปชายแดนบ้านเหมืองแพร่ ไม่ได้มาตั้ง 17 ปี ดูเหมือนเดิมเกือบทุกอย่าง ยกเว้นทางข้ามไปฝั่งลาวที่เทปูนกันตลิ่งทรุดทั้งสองฝั่งแล้ว การข้ามถ้ามีน้ำก็ใช้แพ ถ้าแห้งก็เดินข้าม แต่ผมไม่ได้ข้ามไปหรอกนะ จำคนทางฝั่งนู้นไม่ได้แล้ว
แวะตุนเสบียงก่อน เพราะวันนี้เราจะขี่เลียบชายแดน ผ่าป่า ทะลุดง ใช้ถนน 1268 ขึ้นเขาลงเขาเหมือนเดิม สนุกมากเพราะแถวบ้านไม่มีแบบนี้ ผ่านภูสวนทรายไปแบบไม่เหลียวแล และแน่นอนผ่านภูสอยดาวไปเฉยๆเช่นกัน ท่องไว้ในใจ แค่ทางผ่านๆ วันนี้ต้องไปให้ใกล้เมืองน่านที่สุด ถนนจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ขี่มาคนเดียว มีกระบะแซงไปนิดหน่อย รู้ตัวอีกทีก็ไปนั่งซดเตี๋ยวอยู่บ้านโคกแล้ว จากนั้นก็เกาะถนนสายเดิมขึ้นไป หาทางตัดเข้าเมืองน่าน หวยออกถนนสาย 1083 ทีแรกกะว่าจะไปสาย 1243 แต่ดูเวลาแล้ว สงสัยจะมืดกลางป่า ก็ดุ่ยๆตามสไตล์ขึ้นเขาลงเขา ตามทางมีด่าน ตชด. เป็นระยะๆ แถมมีห้องน้ำให้บริการ บางจุดพื้นที่กว้างขวาง ขอกางเต็นท์นอนก็ยังได้อะผมว่า แต่ข้ามไปก่อนนะ ทริปนี้ขอสบาย ถ้าอยากลำบากให้อยู่บ้าน ฮ่าๆๆ
แวะล้างหน้าล้างตา พักเอนหลัง เอนไปเอนมา จะหลับซะให้ได้ ถามทางเจ้าหน้าที่ บอกว่าไปอีกหน่อยก็เข้าเขตตัวเมืองนาน้อยแล้ว ก็บึ่งรถไปอย่างไว ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำน่าน จุดนี้มันสวยนะ แต่ผมรีบ ข้ามไปก่อนละกัน (อ้าว) เกาะไลน์รถตู้ขึ้นดอย สะดวกมาก ให้เขาเบิกทางแทนเรา แป็บเดียวขึ้นถึงยอดดอยเสมอดาว.....เฮ้ยมาไงอะ มันไม่อยู่ในแผนนะเว้ย สมองประมวลผลอยู่สองวินาที ขี่ผ่านไปหน้าตาเฉย ขอติดไว้ก่อนนะ ระหว่างทางลง เจอกลุ่ม CBR เจ้าถิ่นน้ำมันหมด เลยยกน้ำมันสำรองให้ไป ทางนั้นเลยพาไปเลี้ยงใส้ย่างกะพาไปหาที่พัก ไอ้เราก็ไป แหม่ คนอะไรใจง่ายจริงๆ
20/11/2559 : วันที่ 3
ตื่นเช้ามากับบรรยากาศอันแสนเงียบสงบ จากข้อมูลที่ถามเจ้าถิ่นมา "ในความตั้งใจเดิมของผมนั้น อยากเก็บถนนสาย 1081 ไปจบที่ห้วยโก๋น แต่ดูจากความเร็วของ GD เดิมๆที่แทบเรียกได้ว่าเต่ากัดยาง และความไม่ชินทาง ตามด้วยเงื่อนไขที่ว่าจะกลับมาพักในเมือง จึงได้แผนบ่อเกลือฉบับย่อมาแทน ให้ไปขึ้นทาง 1256 ลงบ่อเกลือแล้วค่อยย้อนกลับมาเข้าเมืองน่านหมดวันนึงพอดี ไม่เหนื่อยมากด้วย" เก็บข้าวของออกเดินทางมุ่งหน้าขึ้นดอยภูคา ระหว่างทางออกจากเวียงสาก็เรียบร้อยดี แต่พอเข้าเมืองน่านนี่สิ……….ไฟเขียวเลี้ยวขวาไม่มีอะคุณ(ผมเจอแค่ที่เดียว ตรงไหนไม่รู้ลืมแล้ว) ทะลุเมืองน่านออกมาข้างรันเวย์สนามบินน่านแบบงงๆ ขี่ต่อไปเรื่อยๆ ช่วงอ.ท่าวังผา ดมฝุ่นไปหนึ่งชุด ซ่อมถนนกันหนักมากกกกกกกกกก แวะจิบกาแฟที่ ปั๊มบางจาก-สหกรณ์การเกษตรปัว เจ้าของร้านกาแฟใช้ CBR500 ก็นั่งคุยกันตามประสาคนชอบขี่มอไซค์ (ลืมถามชื่ออีกแล้ว) พี่เค้าให้แผนที่สำหรับเที่ยวในตัวเมืองน่านมาด้วย ขอบคุณครับๆ
หลังจากจับทางขึ้นดอยได้ ก็ตะบี้ตะบันขี่ แหม่บอกแล้ว ไม่ได้มาเที่ยวมาขี่รถเฉยๆ
อ่า......รู้ตัวอีกทีควักตังค์จ่ายให้ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูคา เพื่อขึ้นไปพบว่ามีแต่บ้าน บ้าน บ้าน และบ้าน นี่ตูขึ้นมาทำไม ไม่ได้จะนอนเว้ย -_-
แค้นมาก งัดเสบียงที่พกขึ้นมา กินตรงลานจอดนั่นล่ะ
ขี่ต่ออีกนิดก็ถึงจุดชมวิว วันอาทิตย์ มีนักท่องเที่ยวประปราย เป็นวัยรุ่นเจ้าถิ่นซะเยอะ ข้ามไปละกัน นี่ไม่ใช่เป้าหมายที่ต้องการจะมา
พอลงได้แป็บๆ อุแม่เจ้า โค้งสวยๆ กลิ่นยางมะตอยกำลังตุ่ยๆ ขอเก็บภาพหน่อย
วาร์ปอีกทีลงมาถึง อ.บ่อเกลือ เข้าไปวนดูข้างใน แต่ร้อนและหิวมาก เลยไม่แวะ(แบบนี้ก็ได้เหรอ) ขี่ขึ้นมาเห็นร้านอยู่ริมถนนร้านนึง “โทษครับน้อง ของหมดพอดี” โอโหชีวิตอ้วน -_- จัดไปขี่ยาวๆจิบน้ำเปล่าแก้ช้ำ มุ่งหน้า อ.สันติสุข ถ.1081 อุปมาได้ดั่งนครเมกกะของคนขี่มอเตอร์ไซค์ (โบกมือลาบ่อเกลือโดยไม่ได้ซื้ออะไรซักอย่าง ฮ่าๆๆ)
ระหว่างทางก็จอดโน่น จอดนี่ ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย ขึ้นเขาลงเขาอย่างมีความสุขที่ได้มาเยือนสมความตั้งใจ
อ้าว เจอพระอีกแล้ว พระทันใจทุกแห่งหน
เนินนี้ผมชอบมาก ดักซุ่มดูรถโผล่ได้พอดี แถมตรงนั้นมีลานกว้าง กว้างจนผมคิดว่า ถ้ามีเต็นท์มาด้วย ผมคงจะกางนอนตรงนั้นล่ะ ไม่เข้าเมืองละ
ดักถ่ายรูปชาวบ้านเขาบ้างนิดหน่อย พอเป็นกระสายยา แล้วก็ได้เวลาเผ่น
ลงจากดอยด้วยอาการยิ้มหวาน ความสุขล้นท่วมใจ หาที่พักในตัวเมือง ได้ใกล้ๆโรงพยาบาลน่าน แล้วไปนั่งจิบเบียร์ที่สุดกองดี คุยกะใครมั่งก็ไม่รู้(อ้าว) กลับที่พักไปนอนราวๆเที่ยงคืน