ขอบคุณ.. ที่ทำให้ผมได้....

กระทู้แรกของผมนะครับ ต้องขอโทษด้วยถ้ากระทู้นี้รบกวนท่านใด (อยากระบายครับ)

เกริ่นก่อน ตัวผมเองข้อนข้างเป็นคนประหลาดอยู่ครับ เป็นคนเงียบ ๆ ขี้อาย เก็บตัว โลกส่วนตัวสูง เพื่อนน้อย
ยิ่งวันไหนที่อยู่บ้าน ยังแทบไม่ได้คุยกับใครเลย เผลอ ๆ บางวันที่อยู่บ้านก็ไม่ได้พูดกับใครเลยก็เคย
ด้วยพื้นฐานทางครอบครัวผมเอง ก็ไม่ได้อบอุ่นสักเท่าไรนัก...
ทุกวันนี้ก็มีแค่เพื่อนสนิทจากสมัยมัธยมที่ยังคุยกันอยู่แค่ 6-7คน ไม่มีเพื่อนผู้หญิงเลย จะมีก็แค่แฟนของเพื่อน


เพราะ.. มีปมในใจมาจากสมัย ม.ปลาย ผิดหวังจากความรักมา เป็นได้แค่เพียงพี่ชายของเค้าครับ จากนั้นก็เป็นคนมีกำแพง และปิดกั้นตัวเองมาโดยตลอด

โสดมานาน จนอายุย่างเข้าเลข 3   เพื่อนก็แนะนำให้ลองเล่น App หาแฟนดูเผื่อจะได้มีโอกาสพบเจอใครบ้าง
และแล้ว คนเหงา ๆ เก็บตัว โลกส่วนตัวสูง อย่างผมก็ได้รับโอกาสนั้น...  
ราวกับว่า... ฟ้าได้ส่งของขวัญที่ดีที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นเพียงความทรงจำแล้วก็ตาม

เธอเป็นฝ่ายทักผมมาก่อน หลังจากนั้นราว ๆ 2-3 ชม. ผมก็เห็นข้อความเธอ
ในใจผมเองก็ครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ ๆ และก็ลองเปิดใจตัวเอง ทักเธอกลับไปพร้อมกับแนะนำตัว
ซึ่งเธอเอง ก็ตอบกลับมาประมาณนึกว่าผมจะไม่คุยด้วยกับเธอซะแล้ว พร้อมกับหัวเราะ
นั่นเองเป็นจุดเริ่มต้นของเรา พร้อมกับลดกำแพงภายในใจผมลง

จากนั้นเราก็เริ่มทำความรู้จักกันไปโดยเธอจะเป็นฝ่ายถามผมซะมากกว่า
เธอเป็นคนที่คุยเก่ง อารมณ์ดี เราเลยพัฒนาความสัมพันธ์ได้ข้อนข้างเร็ว และทำให้คนเหงา ๆ อย่างผมเริ่มเปิดใจคุยด้วยได้อยากสบายใจ
จนในที่สุดเธอก็ได้ขอไลน์ผม ซึ่งผมเองก็ยินดี รับแอดไลน์ พร้อมกับลบ App นั้นทิ้งไป

หลังจากนั้นเราก็ได้คุยกันมา สนิทกันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนวันนึงเธอเอ่ยถามผมว่ามีแฟนหรือเปล่า
เหมือนจะต้องการความชัดเจนจากผม ซึ่งผมก็ตอบกลับไปว่าไม่มีครับ

เราได้คุยกันมาจนผมเริ่มเปิดใจบอกเธอไป ว่าตัวผมเองเป็นคนข้อนข้างเก็บตัว กับมีเพิ่อนน้อย
จนกระทั่งเธอแหย่มาว่า ถ้าโทรไลน์จะกล้าคุยมั้ย  ผมเองก็ได้แต่ตอบไปว่า ก็... อาจจะพูดไม่เก่งนะ ต้องชวนเราคุยอ่ะ

หลังจากนั้น ผมเองก็ไปช่วยพี่ยกของไปส่งที่รถ และกลับมาเห็นโทรศัพท์อีกทีก็เห็นเธอ Missed Call มา เลยได้โทรกลับไป
และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่เราได้คุยกัน ผมเองก็รู้สึกดี ได้รู้ว่าหัวใจที่เย็นชา.. ได้เริ่มรู้สึกอบอุ่นขึ้นอีกครั้ง
เพราะได้มีคนคอยคุย คอยรับฟังเรา เคียงข้างและเข้าใจเรา...

ในที่สุด เธอก็ได้ถามว่าได้ดูหนังเรื่องนี้หรือยัง แล้วเราก็คุยเกี่ยวกับตัวหนังอยู่สักพัก
ผมก็ได้รวบรวมความกล้าถามเธอกลับไป ''เราไปดูกันมั้ยครับ''
เธอเองก็ยิ้ม (emo) และเราก็ได้นัดวันกัน

เราเองก็คุยกันเรื่อยมาจนถึงวันที่เราได้นัดดูหนังกัน
พอใกล้ถึงเวลานัด ก็ได้ไลน์หากันเจอกันที่ไหนดี
เธอก็ได้บอกว่าเจอที่ชั้นโรงหนังละกัน
ดูเหมือนว่าผมจะขึ้นมาถึงก่อน ผมเองก็มองไปรอบ ๆ พร้อมกับความตื่นเต้นในใจ
แต่ก็ยังไม่เห็นเธอเลย ผมก็เดินเรื่อยเปื่อยไปสักพักเธอก็โทรเข้ามา
ผมเห็นเธอแล้วก็เดินเข้าไปหา พร้อมกับโบกมือทักทายให้เธอ แล้วเราก็ได้เจอกัน ต่างก็เขินกันเล็กน้อย
แล้วเราก็เดินไปดูรอบหนังกัน แต่น่าเสียดาย หนังเรื่องที่เราตั้งใจจะมาดูด้วยกัน รอบเหลือแต่สี่ทุ่ม
ซึ่งมันดึกเกินไป เพราะเธอเป็นคนนอนเร็วด้วย เราเลยตัดสินใจไปดูอีกเรื่องนึงแทน ซึ่งไม่ใช่หนังโรแมนติก
กลับกลายเป็นหนังแอ๊คชั่นเลือดสาดแทนซะงั้น - -'  

ระหว่างดูหนัง ผมก็ได้กระซิบถามเธอว่าหนาวหรือเปล่า
เธอก็บอกว่าไม่มาก แต่ผมเองก็เห็นเธอถูมือเล็กน้อย ในใจผมเองนั้นอยากจะขออนุญาตเอามือเธอมากุม
แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่กล้า เราเองก็ต่างก็นั่งดูหนังไปจนจบ ส่วนผมเองก็ทำได้เพียงกอดตัวเองไปจนหนังจบ

หลังจากนั้นเราก็ได้ไปทานข้าวกันต่อ
ระหว่างนั้นเราก็ทานไปคุยไป จนถึงตอนที่เราพูดถึงร้านอาหารร้านนึง ผมก็ได้เสิร์ชแล้วส่งมือถือให้เธอดู
เธอก็นั่งดู แต่ดูอยู่นานอยู่พอสมควร หลังจากเราทานข้าวกันเสร็จเราก็ได้ไป เดินย่อยอาหารกันต่อในสยามสแควร์
เดินไปคุยกันไป ผมเองก็รู้สึกดีนะ แต่ก็ยังไม่กล้าที่จะขอเธอจับมือเดินอยู่ดี ทั้ง ๆ ที่จังหวะข้ามถนน น่าจะจูงมือเธอ
แต่ก็ทำได้แค่ โบกขอทางรถ และจะเอามือประคองหลังเธอ แต่ไม่ได้โดนตัวเธอนะ

เดินคุยกันไปเรื่อย ๆ จนสองทุ่มครึ่ง ก็น่าจะได้เวลากลับบ้านกันแล้ว เพราะกว่าจะถึงบ้านอาบน้ำ ก็น่าจะได้เวลานอนของเธอพอดี
ผมก็เดินไปส่งเธอที่รถ มีรถจอดขวางพอดีจึงช่วยเข็นให้เธอ
ก่อนเธอจะขึ้นรถ เราก็ยิ้มให้กันแล้วโบกมือลา แล้วผมก็ถามเธอว่า วันนี้เป็นไงมั่งเจอกันแล้วโอเคมั้ย พร้อมกับทำนิ้วเป็นรูปโอเค
เธอยิ้ม พร้อมกับตอบว่าโอเค พร้อมทำนิ้วเหมือนกัน แล้วผมก็ยืนรอจนเธอขับรถออกไป จังหวะเธอขับผ่านผมไปนั้น
ผมเห็นกระจกด้านฝั่งซ้ายเปิดอยู่ เหมือนเธอจะพูดอะไรกับผมซักอย่าง แต่ผมไม่ได้ยิน แล้วผมก็เดินต่อไป พร้อมกับที่เธอขับผ่านไป

วันต่อมาเราก็ยังคุยกันโทรคุยกันปกติ
และในค่ำวันนั้น เธอขอแอดเฟรนด์ใน FB ได้มั้ย และผมก็ตอบกลับไปว่า ได้สิ
แล้วผมก็ถามกลับไปว่ารู้ FB ผมได้ไง ผมเองก็แอบงง ๆ แต่ผมก็เดาถูกว่า ตอนที่ทานข้าวกันแล้วเธอดูร้านอาหารที่ผมส่งมือถือให้เธอดูอยู่นานเหมือนกัน
เธอก็ตอบมาว่า เนี่ยรู้ได้ไง   แล้วผมก็รับแอดเธอไป
และแล้วคืนนั้นเธอก็หายไป โดยที่เราไม่ได้แม้แต่จะคุยกันก่อนนอนเหมือนตามปกติ

วันต่อมา ผมทักเธอไป หายไปเลย ไม่สบายหรือเปล่าอ่า : ( หลังจากนั้นพักใหญ่ ๆ ผมโทรหาเธอตอนเช้า แต่เธอไม่ได้รับ
เธอพิมพ์กลับมาตอนบ่าย ซึ่งคุยน้อยมาก ผิดไปจากที่เคยเป็น จนในที่สุดผมเริ่มเครียด
ลองโทรหาเธออีกครั้งในตอนเย็น เธอก็ไม่ได้รับสาย
ค่ำวันนั้นผมถามเธอไปว่า มีอะไรไม่สบายใจมั้ย เราคุยกันได้นะ : )
เธอก็ตอบกลับมาว่า ป่าวค่า แล้วก็คุยไปเรื่องแพ้อากาศ อยากนอนทั้งวัน เธอรู้สึกเพลีย แล้วเธอก็หายไป
คืนวันนั้น ผมรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของเราเริ่มสั่นคลอนแล้ว ผมจึงพิมพ์ไป พอจะว่างคุยกันมั้ย เราไม่ค่อยได้คุยกันเลยนะ > <



แต่แล้วทุกอย่างกลับมาพังทลายลง...  ก่อนคริสมาสต์อีฟ ซึ่งเป็นวันที่ผมตัดสินใจจะสารภาพและขอเธอเป็นแฟน

วันต่อมา เธอบอกผม เธอยังไม่พร้อมจะมีแฟน เธอต้องการดูแลครอบครัวให้ดีก่อน ขอโทษนะคะ

วินาทีที่ผมเปิดอ่านข้อความ ผมรู้สึกชา ๆ เหมือนราวกับว่าหัวใจโดนบีบ หายใจไม่ค่อยออก คิดอะไรไม่ค่อยออก

ทำได้แค่พิมพ์กลับไป ไม่เป็นไรจ้า ขอบคุณนะ : )


คืนนั้นผมนอนไม่หลับ เสียใจ นอนร้องไห้อยู่คนเดียวเงียบ ๆ
ในหัวผม มีคำถามมากมายผุดขึ้นมาเต็มไปหมด มันเกิดอะไรขึ้น งง ทำไมต้องเป็นแบบนี้
พยายามนึกทบทวนทุกสิ่งอย่าง ซึ่งผมนึกออกแค่เพียงสองอย่าง
อย่างแรกคือ เธออาจจะเห็นรูปในกระเป๋าสตางค์ ตอนที่ผมหยิบมาจ่ายค่าตั๋วหนัง
(เป็นรูปที่ผมถ่ายคู่กับพี่สาว ธีมจะออกเป็นคล้าย ๆ กับชุดแต่งงาน เป็นหนึ่งในภาพเซ็ตรูปถ่ายครอบครัว ใส่ไว้ตั้งแต่สมัยที่ผมปิดตัวเอง)
อย่างที่สอง ใน FB ผม มีพี่คนนึงที่เคยเล่นเกมส์ด้วยกัน มาเขียนในเฟสผมว่า "ใกล้แต่งยัง ?" ในวันที่ผมไปงานแต่งของเพื่อนสนิท
(อันนี้คือมุมมองจากความคิดของผมเพียงฝ่ายเดียวนะครับ)

ท้ายที่สุดแล้วผมก็ยอมรับในการตัดสินใจของเธอ
เธอน่าจะมีเหตุผลของเธอ


ขอโทษอีกครั้งนะครับ ถ้ากระทู้นี้รบกวนท่านใด  ความรู้สึกมันอัดอั้น แต่ก็ไม่รู้จะไปคุยกับใครดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่