วันนี้ผมไปธนาคาร ธกส. พี่น้องประชาชนล้นประตูออกมาถึงริมถนนเลยครับ รถขายน้ำต่าง ๆ ขายดียังกะเทน้ำทิ้ง
ทิ้งใส่แก้วนี้ หยิบเงิน แล้วก็ทิ้งน้ำใส่แก้วต่อไป หยิบเงิน แล้วก็ทิ้งต่อ ...
สำนวนที่ว่า "น้ำขึ้นให้รีบตัก" ท่าจะจริง ผมเห็นคนขายตักใหญ่เลย
ส่วนอีก 2 ธนาคารรัฐ คือ กรุงไทยและออมสิน ผมไม่ได้ไป แต่เชื่อว่าภาพคงไม่ต่างกัน
จะว่าไปภาพแบบนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรก มีให้เห็นเป็นระยะ ๆ ตามมาตรการการช่วยเหลือพี่น้องจากภาครัฐ
ดู ๆ ไป ผมว่าเราต้องมีปัญหาเรื่องการบริหารงานหรือคนในปริมาณมาก ๆ แน่ ๆ เลยครับ
รัฐช่วยเหลือที ก็ต้องลงทะเบียนที มันต้องลงทะเบียน ซ้ำไปซ้ำมาแทบทุกปี ใช้ข้อมูลเก่าไม่ได้ !? อืม...อาจจะเป็นเพราะต้องการข้อมูลล่าสุด
ตกเย็นมา ผมดูข่าว เห็นพนักงาน ธกส. บอกว่า ส่วนใหญ่มาเปิดบัญชี วันนี้แทบจะยกกันมาเปิดบัญชีทั้งหมู่บ้านเลย
ผมคิดในใจ รัฐเปิดให้ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยตั้งแต่หลายเดือนก่อนแล้ว รัฐก็แจ้งว่าจะโอนเงินเข้าผ่านบัญชีธนาคาร แต่ดูเหมือนผู้ลงทะเบียนก็ไม่ได้เตรียมการเปิดบัญชีธนาคารไว้เลย แห่กันมาเปิดบัญชีภายในอาทิตย์นี้อาทิตย์เดียว พนักงาน ธกส. ก็ต้องเลิกงาน 2-3 ทุ่มไปโดยปริยาย ผู้ลงทะเบียนก็เหนื่อยไม่แพ้กัน เพราะตัวเองไม่ได้เปิดบัญชีไว้ เลยต้องมารอเปิดบัญชีตั้งแต่เช้า กว่าจะทำเสร็จก็บ่าย รอไปคนละ 4-6 ชั่วโมง
คิดไปคิดมา การทำงานแบบ Mass แบบนี้ มันน่าจะมีวิธีการที่ดีกว่านี้ แต่จะว่าไป ถึงมีวิธีการ บางทีก็ใช้ไม่ได้ เพราะติดขัดพี่น้องประชาชนใช้ไม่เป็น ทำไม่เป็น ไม่เข้าใจอีก
ดีที่สุดคือ ลดการลงทะเบียนให้น้อยลง นำข้อมูลเก่ามาใช้ บางกรณีมันควรจะใช้ได้ซัก 3-5 ปี ก่อนที่จะอัพเดทข้อมูลใหม่ และระบบต่าง ๆ มันน่าจะเชื่อมโยงกันให้เกิดภาพการใช้งานได้จริงที่ชัดเจน
เอาจริง ๆ แล้ว สมุดบัญชีธนาคารนี่ จำเป็นต้องมีจริง ๆ เหรอครับ ? ผมไม่ได้ใช้นานแล้ว อีกอย่างธนาคารเค้าจะเชื่อตัวเลขในสมุดธนาคารของเราหรือตัวเลขในระบบเค้ามากกว่ากัน ? ผมไม่คิดว่าจะมีใครเอาสมุดไปปรับปรุงทุกวัน เพื่อที่จะทำหลักฐานเอาไว้ยืนยันกับตัวเลขในระบบของธนาคารหรอกนะครับ
คิดไปคิดมา การเปิดใช้งานธนาคาร เอาบัตรประชาชนเสียบ สแกนนิ้วมือ แล้วเสร็จเลยได้มั๊ย ?
เลขบัญชีเหรอ ? ก็อาจจะเป็นเลขบัตรประชาชนไปเลย
ทำครั้งเดียวที่ธนาคารไหนก็ได้ หลังจากนั้นนำไปใช้ได้กับทุกธนาคารในไทย โดยไม่ต้องไปแยกเปิดบัญชีกับทุก ๆ ธนาคาร
หาก 1 คนต้องการเปิดบัญชีที่ 2 หรือ 3 ก็อาจจะใช้เลขบัตรประชาชนต่อท้ายด้วย -1 หรือ -2 หรือ -3 เอา
ไม่รู้ซิครับ วิธีนี้มันอาจจะไม่ดีก็ได้ ผมแค่จุดประเด็นให้ทุกคนช่วยคิด เลียนแบบเทคนิคโยนหินถามทาง
เพื่อน ๆ ว่า หากเพื่อน ๆ ต้องเปิดบัญชีธนาคารให้คน 1 พันคน จะทำยังไงให้เร็วครับ จะแก้ไขระบบปัจจุบันอย่างไร ให้มันรวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ
ช่วงนี้เห็นใจพนักงานของ 3 ธนาคารของรัฐมาก ๆ ครับ
ทิ้งใส่แก้วนี้ หยิบเงิน แล้วก็ทิ้งน้ำใส่แก้วต่อไป หยิบเงิน แล้วก็ทิ้งต่อ ...
สำนวนที่ว่า "น้ำขึ้นให้รีบตัก" ท่าจะจริง ผมเห็นคนขายตักใหญ่เลย
ส่วนอีก 2 ธนาคารรัฐ คือ กรุงไทยและออมสิน ผมไม่ได้ไป แต่เชื่อว่าภาพคงไม่ต่างกัน
จะว่าไปภาพแบบนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรก มีให้เห็นเป็นระยะ ๆ ตามมาตรการการช่วยเหลือพี่น้องจากภาครัฐ
ดู ๆ ไป ผมว่าเราต้องมีปัญหาเรื่องการบริหารงานหรือคนในปริมาณมาก ๆ แน่ ๆ เลยครับ
รัฐช่วยเหลือที ก็ต้องลงทะเบียนที มันต้องลงทะเบียน ซ้ำไปซ้ำมาแทบทุกปี ใช้ข้อมูลเก่าไม่ได้ !? อืม...อาจจะเป็นเพราะต้องการข้อมูลล่าสุด
ตกเย็นมา ผมดูข่าว เห็นพนักงาน ธกส. บอกว่า ส่วนใหญ่มาเปิดบัญชี วันนี้แทบจะยกกันมาเปิดบัญชีทั้งหมู่บ้านเลย
ผมคิดในใจ รัฐเปิดให้ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยตั้งแต่หลายเดือนก่อนแล้ว รัฐก็แจ้งว่าจะโอนเงินเข้าผ่านบัญชีธนาคาร แต่ดูเหมือนผู้ลงทะเบียนก็ไม่ได้เตรียมการเปิดบัญชีธนาคารไว้เลย แห่กันมาเปิดบัญชีภายในอาทิตย์นี้อาทิตย์เดียว พนักงาน ธกส. ก็ต้องเลิกงาน 2-3 ทุ่มไปโดยปริยาย ผู้ลงทะเบียนก็เหนื่อยไม่แพ้กัน เพราะตัวเองไม่ได้เปิดบัญชีไว้ เลยต้องมารอเปิดบัญชีตั้งแต่เช้า กว่าจะทำเสร็จก็บ่าย รอไปคนละ 4-6 ชั่วโมง
คิดไปคิดมา การทำงานแบบ Mass แบบนี้ มันน่าจะมีวิธีการที่ดีกว่านี้ แต่จะว่าไป ถึงมีวิธีการ บางทีก็ใช้ไม่ได้ เพราะติดขัดพี่น้องประชาชนใช้ไม่เป็น ทำไม่เป็น ไม่เข้าใจอีก
ดีที่สุดคือ ลดการลงทะเบียนให้น้อยลง นำข้อมูลเก่ามาใช้ บางกรณีมันควรจะใช้ได้ซัก 3-5 ปี ก่อนที่จะอัพเดทข้อมูลใหม่ และระบบต่าง ๆ มันน่าจะเชื่อมโยงกันให้เกิดภาพการใช้งานได้จริงที่ชัดเจน
เอาจริง ๆ แล้ว สมุดบัญชีธนาคารนี่ จำเป็นต้องมีจริง ๆ เหรอครับ ? ผมไม่ได้ใช้นานแล้ว อีกอย่างธนาคารเค้าจะเชื่อตัวเลขในสมุดธนาคารของเราหรือตัวเลขในระบบเค้ามากกว่ากัน ? ผมไม่คิดว่าจะมีใครเอาสมุดไปปรับปรุงทุกวัน เพื่อที่จะทำหลักฐานเอาไว้ยืนยันกับตัวเลขในระบบของธนาคารหรอกนะครับ
คิดไปคิดมา การเปิดใช้งานธนาคาร เอาบัตรประชาชนเสียบ สแกนนิ้วมือ แล้วเสร็จเลยได้มั๊ย ?
เลขบัญชีเหรอ ? ก็อาจจะเป็นเลขบัตรประชาชนไปเลย
ทำครั้งเดียวที่ธนาคารไหนก็ได้ หลังจากนั้นนำไปใช้ได้กับทุกธนาคารในไทย โดยไม่ต้องไปแยกเปิดบัญชีกับทุก ๆ ธนาคาร
หาก 1 คนต้องการเปิดบัญชีที่ 2 หรือ 3 ก็อาจจะใช้เลขบัตรประชาชนต่อท้ายด้วย -1 หรือ -2 หรือ -3 เอา
ไม่รู้ซิครับ วิธีนี้มันอาจจะไม่ดีก็ได้ ผมแค่จุดประเด็นให้ทุกคนช่วยคิด เลียนแบบเทคนิคโยนหินถามทาง
เพื่อน ๆ ว่า หากเพื่อน ๆ ต้องเปิดบัญชีธนาคารให้คน 1 พันคน จะทำยังไงให้เร็วครับ จะแก้ไขระบบปัจจุบันอย่างไร ให้มันรวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ