มาแชร์อีก1 บันทึกการเดินทาง จาก ความหงุดหงิดทีไปถึงเชียงคานก็ยังไม่เจอหมอก เมื่ออาทิตที่แล้ว ได้ข้อสรุปกันมาว่า อยากไป ปิล้อกสักครั้ง น่าจะดีกับช่วงนี้อาจจะได้เจอหมอกอย่างที่ตั้งใจไว้สักที แพลนการเดินทาง คือวันหยุดติดกัน 3 วัน แต่เราไปแค่เสารือาทิตย์ นอนค้าง 1คืนแล้วกลับ ร่างแพลนเรียบร้อย Let's Go!!
เริ่ม้ตนด้วยการฉีกแพลนเบาๆกับการนัด 6.00 น. แต่ก็กว่าจะออกเดินทาง ปาไป 8โมง 555555 เอาล่ะมาช้ายังดีกว่าไม่มา เราใช้เส้นทางออกนครปฐม-ราชบุรี กาญจนบุรี วิ่งตรงสู่ อำเภอทองผาภูมิ ที่ตั้งหมู่บ้านอิต่อง ปิล๊อก ถนนช่วง ก่อนเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี กำลังทำงาน สำหรับใครที่จะมา ก็ควรระมัดระวังนิดครับเพราะอาจมีการปิดเลนแล้วปล่อยวิ่งสองเลนแต่ไม่มีป้ายบอกเรา ตกใจเล้กน้อยเหมือนกัน ขับกันฝุ่งตลบอลอวนดีครับ 5555
เราเลยตัวเมืองกาญจนบุรีขึ้นมา สักพักได้เวลา เที่ยวกว่า เลยจอดแวะหาของกิน เจอร้านบ้านผักหวาน เลยต้องแวะสักหน่อย รสชาติเด้ดดี สมคำล่ำลือ เนื่องจากมากาญจนบุรีค่อนข้งบ่อย รสชาติอาหารของคนแถวนี้จะเข้มข้น เผ็ดนำ เหมาะสำหรับใครที่ชอบรสชาติจัดๆเลยครับ แน่นอนมาแล้วอย่างลืมสั่งเมนูผักหวานที่มีให้เลือกชิมเยอะเลยครับแถมราคาก็ไม่แพงด้วย
ขับมาถึงช่วงเลยก็แวะเตรียมพวกน้ำแข็งอาหารเครื่องดื่มที่จะเอาขึ้นไปกินกันข้างบน เพราะ จากข้อมูลที่ได้มา ค่อนข้าง ไม่มีร้านขายหรือ อาหารเท่าไรส่วนมาจะต้องเตรียมไป ระหว่างทางช่วงไทรโยคใหญ่ ถึงทองผาภูมิจะมีตลาดอยู่เป็นระยะๆ เตรียมเสบียงเรียบร้อยก้มุ่งหน้าเดินทางต่อ
ทางขึ้นไปยังหมู่บ้าน สมคำล่ำลือ 399 โค้ง ลดเลี้ยวไปตามภูเขา อีกด้านเขาอีกด้านก็เหว 555 แถมรถขาลงก็ สวนลงมาเร็วก็ต้องระวังกันดีๆครับ ถนน ดีบ้างขรุขระบ้างบางช่วงแต่ถนนแคบต้องใช้คำระวังพอสมควร ที่สำคัญใครเมารถนี่เตรียมถุงพลาสติกไว้ได้เลยครับ 55555 โค้งถี่ๆ วนไปครัช แต่ระหว่างทางก็จะมีจุดชมวิว จุดแวะพักเป็นระยะ แต่ไม่มีบ้านคนหรือจุดบริการใดๆ ต้องเตรียมตัวเตรียมรถกันดีๆครับ หากมีปัญหาการเดินทางขึ้นมาน่าจะลำบาก ที่สำคัญ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ให้คุณใช้ในระหว่างมางแน่นอน พิสูจน์มาแล้วทุกเครือข่าย 5555 คนขับนถเองก้ต้องชำนาญพอสมควรหบลหลีไต่ความชันให้ได้ รถเก๋งรถกะบะมาได้ไม่มีปัญหาครับ
ในที่สุดก้มาถึงในหมู่บ้าน ราวๆ บ้าน 4 โมงกว่าครับ คนค่อยข้างเยอะมาก มีการกางเต้นท์จับจองกันเยอะแล้ว เราเลยต้องรีบหาทำเล บังเอิญว่ามาเจอที่ว่าง ด้านบนเนินที่เป็นวัดและจุดประจำการ ตชด. ที่สามารถกางได้ เลยโชคดีเลยครับ ใกล้ห้องน้ำด้วยคนส่วนมากจะกางที่จุด ลานจอด ฮอ ครับไม่แน่ใจว่าช่วงปกติคนจะเยอะแบบนี้ไหม ห้องน้ำมีบริการสามสี่จุดครับ โดนส่วนตัวคิดว่า เขาทำไว้บริการแล้วจะสะอาดน่าใช้ไหมอยู่ที่คนไปใช้อ่ะครับ ไปเจอบางห้องก้ไม่ราดซ่ำจริงๆถ้าจัดการของตัวเองให้ดีมันก็น่าใช้ไม่มีปัญหาครับ
กางเต้นทืเรียบร้อยได้คุยกับพี่ ตดช. บอกว่าด้านล่างมีตลาด มีของขายลงไปเดินเล่นได้ ช่วงเช้าส่วนมาก็จะขึ้นไปชมวิวที่ เขาช้างศึกซึ่งก้ไม่ไกลเท่าไรครับ หรือจะ ขึ้นไปอีกนิดประมาณ 300 ม. คือจุด ชมวิวช่องทางมิตรภาพ ไทย พม่า คุยกันเสร็จกางเต็นท์เรียบร้อยก็ลงมาเดินเล่นชมตลาดครับ
ต้องบอกว่าเป็นตลาดเป็นเหมือนหมู่บ้านเล็กๆกลางเขาล้อมรอบๆครับ อากาสก็เริ่มเย็นๆลง มันเป็นบรรยากาศ สงบๆดีครับ สัญญาณโทรศัพท์บนนี้ ใช้ได้แค่ AIS ครับ ที่เหลือนิ่งสนิท โชคดีที่มีน้องใช้เลยแชร์ Wifiให้กันได้
สำหรับใครที่ไม่ได้เตรียมอาหารการกินมา ก็สามารถมาหาซื้อในตลากนี้ได้ครับส่วนมาจะเป็นอาหารสำเร็จ ไม่มีของสดครับ
มีสระน้ำหน้าหมู่บ้านให้เดินชมได้ถ่ายรุป และอีก 1สิ่งที่คนมาแล้วต้องมาทำกันคือ เขียนป้ายไม้ชื่อเราและคนรัก แขวนไว้ที่สะพานข้างสระน้ำ เป็นสัญญลักษณ์ว่าเราและคนรักได้มาถึงที่นี่แล้วและรักเราจะยั่งยืนครับ อารมณ์คล้านๆที่เกาหลีหรือญี่ปุ่น 5555
เดินเล่นชมนั้นนี่กันเสร็จ ก็ได้เวลากลับมาทำอาหารเย็นกันครับ บรรยากาสกลางคืน เงียบสงบดีครับ สมกับเป็นหมู่บ้านท่ามกลางธรรมชาติ ยังไม่มีร้านเหล้าร้านค้าที่จะมาส่งเสียงดังๆกัน ที่สำคัญเป็นหมู่บ้านที่ดูแลนักท่องเที่ยวดีมากครับ มีการจัดการที่ดี ทั้งน้ำไฟ มีเวลาใช้เพื่อให้เพียงพอกันทุกๆคน กินมื้อเย็น นั่งคุยเล่นกันเรียบร้อย เป้าหมายพรุ่งนี้เช้าจะขึ้นไปชมวิวที่ เขาช้างศึก แล้วลงมาที่จุดมิตรภาพไทย พม่า เผื่อว่าจะได้เห็นหมอก
เช้าวันต่อมา แน่นอนครับ ตื่น...สาย55555 ช่วงเจดโมงกว่า ก็เลยไปที่ จุดมิตรภาพไทยพม่าเลย
ณ ตรงจุดนี้ เป็นเหมือนช่องเขาที่ ขาดเป็นช่องทางเดินยาววเลงไป ด้านล่างเป็นประเทศพม่าเพื่อนบ้านเรา วิวสวยมากครับมองไปได้ไกลๆเขาสลับกันไปมา อากาสก็ลมเย็นๆพัดมาตลอด แน่นอนครับไม่มีหมอก 5555555 แต่วิวก็ต้องบอกว่าสวยมาจริงๆ ถ่ายยังไงก้ไม่สู้ไปเห็นด้วยตาตัวเองครับ
ชมวิวกันเรียบร้อยเริ่มหิวกลับมาทำอาหารเช้า กินกันก่อนเดินทางกลับ
[img]http://f.ptcdn.info/916/047/000/oi68fk66r71sZAS2ruk-o.jpg[/img
]
หลังจากอิ่ม และเก็บของเรียบร้อย ก็เริ่มเดินทางลงจากหมู่บ้าน ขากลับผ่านทางไปเขาช้างศึกเลยแวะไปถ่ายรูปกัน แต่ว่า รถดันขึ้นเนินไม่ไหวเลยได้แค่จอดเดินถ่ายรูปกันตรงก่อนขึ้นไปถึงด้านบนแต่วิวก็สวยมากๆครับ
เสร็จเรียบร้อยก็เดินทางลงมาถึงจุดหมายอีก1 ที่ขึ้นมาแล้วต้องแวะคือ น้ำตก จ้อกกระดิ่น เสียค่าเข้าคนละ 40 บาท เดินตามทางเดินเข้าไปในป่าเล็กน้อยก็จะเจอกับน้ำตก ไหลลงมาจากหน้าผาบนเขา น้ำใสมากครับ ขนาดตนเล่นกันเยอะน้ำก็ยังใส น่าเล่นมาก มีเสื้อชูชีพบริการให้ใส่เล่นน้ำ วางบริการอยู่
หลังจากนั่งชื่นชมกันเรียบร้อยก้ได้เวลาเดินทางกลับ ครับมุ่งตรงสู่กทม .
สรุปงบประมาณค่าใช้จ่าย
งบ 6000 บาท (6 คน คนละ 1000 บาท)
- ค่าน้ำมัน 2100
- ค่าอาหาร+ค่าเข้าชม 2900
เหลือ 1000 บาท
*แนะนำว่าหากใครอยากเที่ยวแบบประหยัดก้เตรียมอาหารไปทำเองครับ จะประหยัดได้มากด้านบนก้ไม่มีร้านสะดวกซื้อหรืออะไรให้ซื้อเท่าไรด้วย และ คนขับรถที่อาจต้องขับรถค่อนข้างชำนาญเพื่อรับมือกับถนนและโค้งกันมากมายบนเขาได้ครับ
ความประทับใจ ความเงียบสงบของหมูบ้านที่เป็นหมู่บ้านจริงๆ อากาศที่เย็นๆที่เรารู้สึกสดชื่นแบบสุดๆ วิวทิวเขา ที่ทำให้เราลืมเรื่องหมอกไปเลย
เที่ยวส่งท้าย ปลายปี ที่ ปิล็อก
มาแชร์อีก1 บันทึกการเดินทาง จาก ความหงุดหงิดทีไปถึงเชียงคานก็ยังไม่เจอหมอก เมื่ออาทิตที่แล้ว ได้ข้อสรุปกันมาว่า อยากไป ปิล้อกสักครั้ง น่าจะดีกับช่วงนี้อาจจะได้เจอหมอกอย่างที่ตั้งใจไว้สักที แพลนการเดินทาง คือวันหยุดติดกัน 3 วัน แต่เราไปแค่เสารือาทิตย์ นอนค้าง 1คืนแล้วกลับ ร่างแพลนเรียบร้อย Let's Go!!
เริ่ม้ตนด้วยการฉีกแพลนเบาๆกับการนัด 6.00 น. แต่ก็กว่าจะออกเดินทาง ปาไป 8โมง 555555 เอาล่ะมาช้ายังดีกว่าไม่มา เราใช้เส้นทางออกนครปฐม-ราชบุรี กาญจนบุรี วิ่งตรงสู่ อำเภอทองผาภูมิ ที่ตั้งหมู่บ้านอิต่อง ปิล๊อก ถนนช่วง ก่อนเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี กำลังทำงาน สำหรับใครที่จะมา ก็ควรระมัดระวังนิดครับเพราะอาจมีการปิดเลนแล้วปล่อยวิ่งสองเลนแต่ไม่มีป้ายบอกเรา ตกใจเล้กน้อยเหมือนกัน ขับกันฝุ่งตลบอลอวนดีครับ 5555
เราเลยตัวเมืองกาญจนบุรีขึ้นมา สักพักได้เวลา เที่ยวกว่า เลยจอดแวะหาของกิน เจอร้านบ้านผักหวาน เลยต้องแวะสักหน่อย รสชาติเด้ดดี สมคำล่ำลือ เนื่องจากมากาญจนบุรีค่อนข้งบ่อย รสชาติอาหารของคนแถวนี้จะเข้มข้น เผ็ดนำ เหมาะสำหรับใครที่ชอบรสชาติจัดๆเลยครับ แน่นอนมาแล้วอย่างลืมสั่งเมนูผักหวานที่มีให้เลือกชิมเยอะเลยครับแถมราคาก็ไม่แพงด้วย
ขับมาถึงช่วงเลยก็แวะเตรียมพวกน้ำแข็งอาหารเครื่องดื่มที่จะเอาขึ้นไปกินกันข้างบน เพราะ จากข้อมูลที่ได้มา ค่อนข้าง ไม่มีร้านขายหรือ อาหารเท่าไรส่วนมาจะต้องเตรียมไป ระหว่างทางช่วงไทรโยคใหญ่ ถึงทองผาภูมิจะมีตลาดอยู่เป็นระยะๆ เตรียมเสบียงเรียบร้อยก้มุ่งหน้าเดินทางต่อ
ทางขึ้นไปยังหมู่บ้าน สมคำล่ำลือ 399 โค้ง ลดเลี้ยวไปตามภูเขา อีกด้านเขาอีกด้านก็เหว 555 แถมรถขาลงก็ สวนลงมาเร็วก็ต้องระวังกันดีๆครับ ถนน ดีบ้างขรุขระบ้างบางช่วงแต่ถนนแคบต้องใช้คำระวังพอสมควร ที่สำคัญใครเมารถนี่เตรียมถุงพลาสติกไว้ได้เลยครับ 55555 โค้งถี่ๆ วนไปครัช แต่ระหว่างทางก็จะมีจุดชมวิว จุดแวะพักเป็นระยะ แต่ไม่มีบ้านคนหรือจุดบริการใดๆ ต้องเตรียมตัวเตรียมรถกันดีๆครับ หากมีปัญหาการเดินทางขึ้นมาน่าจะลำบาก ที่สำคัญ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ให้คุณใช้ในระหว่างมางแน่นอน พิสูจน์มาแล้วทุกเครือข่าย 5555 คนขับนถเองก้ต้องชำนาญพอสมควรหบลหลีไต่ความชันให้ได้ รถเก๋งรถกะบะมาได้ไม่มีปัญหาครับ
ในที่สุดก้มาถึงในหมู่บ้าน ราวๆ บ้าน 4 โมงกว่าครับ คนค่อยข้างเยอะมาก มีการกางเต้นท์จับจองกันเยอะแล้ว เราเลยต้องรีบหาทำเล บังเอิญว่ามาเจอที่ว่าง ด้านบนเนินที่เป็นวัดและจุดประจำการ ตชด. ที่สามารถกางได้ เลยโชคดีเลยครับ ใกล้ห้องน้ำด้วยคนส่วนมากจะกางที่จุด ลานจอด ฮอ ครับไม่แน่ใจว่าช่วงปกติคนจะเยอะแบบนี้ไหม ห้องน้ำมีบริการสามสี่จุดครับ โดนส่วนตัวคิดว่า เขาทำไว้บริการแล้วจะสะอาดน่าใช้ไหมอยู่ที่คนไปใช้อ่ะครับ ไปเจอบางห้องก้ไม่ราดซ่ำจริงๆถ้าจัดการของตัวเองให้ดีมันก็น่าใช้ไม่มีปัญหาครับ
กางเต้นทืเรียบร้อยได้คุยกับพี่ ตดช. บอกว่าด้านล่างมีตลาด มีของขายลงไปเดินเล่นได้ ช่วงเช้าส่วนมาก็จะขึ้นไปชมวิวที่ เขาช้างศึกซึ่งก้ไม่ไกลเท่าไรครับ หรือจะ ขึ้นไปอีกนิดประมาณ 300 ม. คือจุด ชมวิวช่องทางมิตรภาพ ไทย พม่า คุยกันเสร็จกางเต็นท์เรียบร้อยก็ลงมาเดินเล่นชมตลาดครับ
ต้องบอกว่าเป็นตลาดเป็นเหมือนหมู่บ้านเล็กๆกลางเขาล้อมรอบๆครับ อากาสก็เริ่มเย็นๆลง มันเป็นบรรยากาศ สงบๆดีครับ สัญญาณโทรศัพท์บนนี้ ใช้ได้แค่ AIS ครับ ที่เหลือนิ่งสนิท โชคดีที่มีน้องใช้เลยแชร์ Wifiให้กันได้
สำหรับใครที่ไม่ได้เตรียมอาหารการกินมา ก็สามารถมาหาซื้อในตลากนี้ได้ครับส่วนมาจะเป็นอาหารสำเร็จ ไม่มีของสดครับ
มีสระน้ำหน้าหมู่บ้านให้เดินชมได้ถ่ายรุป และอีก 1สิ่งที่คนมาแล้วต้องมาทำกันคือ เขียนป้ายไม้ชื่อเราและคนรัก แขวนไว้ที่สะพานข้างสระน้ำ เป็นสัญญลักษณ์ว่าเราและคนรักได้มาถึงที่นี่แล้วและรักเราจะยั่งยืนครับ อารมณ์คล้านๆที่เกาหลีหรือญี่ปุ่น 5555
เดินเล่นชมนั้นนี่กันเสร็จ ก็ได้เวลากลับมาทำอาหารเย็นกันครับ บรรยากาสกลางคืน เงียบสงบดีครับ สมกับเป็นหมู่บ้านท่ามกลางธรรมชาติ ยังไม่มีร้านเหล้าร้านค้าที่จะมาส่งเสียงดังๆกัน ที่สำคัญเป็นหมู่บ้านที่ดูแลนักท่องเที่ยวดีมากครับ มีการจัดการที่ดี ทั้งน้ำไฟ มีเวลาใช้เพื่อให้เพียงพอกันทุกๆคน กินมื้อเย็น นั่งคุยเล่นกันเรียบร้อย เป้าหมายพรุ่งนี้เช้าจะขึ้นไปชมวิวที่ เขาช้างศึก แล้วลงมาที่จุดมิตรภาพไทย พม่า เผื่อว่าจะได้เห็นหมอก
เช้าวันต่อมา แน่นอนครับ ตื่น...สาย55555 ช่วงเจดโมงกว่า ก็เลยไปที่ จุดมิตรภาพไทยพม่าเลย
ณ ตรงจุดนี้ เป็นเหมือนช่องเขาที่ ขาดเป็นช่องทางเดินยาววเลงไป ด้านล่างเป็นประเทศพม่าเพื่อนบ้านเรา วิวสวยมากครับมองไปได้ไกลๆเขาสลับกันไปมา อากาสก็ลมเย็นๆพัดมาตลอด แน่นอนครับไม่มีหมอก 5555555 แต่วิวก็ต้องบอกว่าสวยมาจริงๆ ถ่ายยังไงก้ไม่สู้ไปเห็นด้วยตาตัวเองครับ
ชมวิวกันเรียบร้อยเริ่มหิวกลับมาทำอาหารเช้า กินกันก่อนเดินทางกลับ
[img]http://f.ptcdn.info/916/047/000/oi68fk66r71sZAS2ruk-o.jpg[/img
หลังจากอิ่ม และเก็บของเรียบร้อย ก็เริ่มเดินทางลงจากหมู่บ้าน ขากลับผ่านทางไปเขาช้างศึกเลยแวะไปถ่ายรูปกัน แต่ว่า รถดันขึ้นเนินไม่ไหวเลยได้แค่จอดเดินถ่ายรูปกันตรงก่อนขึ้นไปถึงด้านบนแต่วิวก็สวยมากๆครับ
เสร็จเรียบร้อยก็เดินทางลงมาถึงจุดหมายอีก1 ที่ขึ้นมาแล้วต้องแวะคือ น้ำตก จ้อกกระดิ่น เสียค่าเข้าคนละ 40 บาท เดินตามทางเดินเข้าไปในป่าเล็กน้อยก็จะเจอกับน้ำตก ไหลลงมาจากหน้าผาบนเขา น้ำใสมากครับ ขนาดตนเล่นกันเยอะน้ำก็ยังใส น่าเล่นมาก มีเสื้อชูชีพบริการให้ใส่เล่นน้ำ วางบริการอยู่
หลังจากนั่งชื่นชมกันเรียบร้อยก้ได้เวลาเดินทางกลับ ครับมุ่งตรงสู่กทม .
สรุปงบประมาณค่าใช้จ่าย
งบ 6000 บาท (6 คน คนละ 1000 บาท)
- ค่าน้ำมัน 2100
- ค่าอาหาร+ค่าเข้าชม 2900
เหลือ 1000 บาท
*แนะนำว่าหากใครอยากเที่ยวแบบประหยัดก้เตรียมอาหารไปทำเองครับ จะประหยัดได้มากด้านบนก้ไม่มีร้านสะดวกซื้อหรืออะไรให้ซื้อเท่าไรด้วย และ คนขับรถที่อาจต้องขับรถค่อนข้างชำนาญเพื่อรับมือกับถนนและโค้งกันมากมายบนเขาได้ครับ
ความประทับใจ ความเงียบสงบของหมูบ้านที่เป็นหมู่บ้านจริงๆ อากาศที่เย็นๆที่เรารู้สึกสดชื่นแบบสุดๆ วิวทิวเขา ที่ทำให้เราลืมเรื่องหมอกไปเลย