ที่มา...
พระองค์ทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยายอย่างนี้ เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ
เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืดด้วยตั้งใจว่า คนมีจักษุจักเห็นรูป
ด้วยเหตุนี้จึงไม่จำเป็นที่พระองค์จะต้องตรัสกับใครๆอีกว่านิพพานเป็นอย่างไร
เช่น
ภ. วิญญาณเที่ยงหรือไม่เที่ยง?
ป. ไม่เที่ยง พระพุทธเจ้าข้า.
ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า?
ป. เป็นทุกข์ พระพุทธเจ้าข้า.
ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่ง
นั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตนของเรา?
ป. ข้อนั้นไม่ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า...........
แค่นี้ก็รู้กันโดยปริยายแล้วว่า นิพพานเป็นตัวตนหรือไม่
เพราะนิพพานกับขันธ็ ๕ มันเป็นคู่ปรับกันอยู่แล้ว
ข้อสังเกตุนี้เห็นด้วยหรือไม่ ?
พระพุทธเจ้าทรงประกาศธรรมโดยเอนกปริยาย
พระองค์ทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยายอย่างนี้ เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ
เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืดด้วยตั้งใจว่า คนมีจักษุจักเห็นรูป
ด้วยเหตุนี้จึงไม่จำเป็นที่พระองค์จะต้องตรัสกับใครๆอีกว่านิพพานเป็นอย่างไร
เช่น
ภ. วิญญาณเที่ยงหรือไม่เที่ยง?
ป. ไม่เที่ยง พระพุทธเจ้าข้า.
ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า?
ป. เป็นทุกข์ พระพุทธเจ้าข้า.
ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่ง
นั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตนของเรา?
ป. ข้อนั้นไม่ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า...........
แค่นี้ก็รู้กันโดยปริยายแล้วว่า นิพพานเป็นตัวตนหรือไม่
เพราะนิพพานกับขันธ็ ๕ มันเป็นคู่ปรับกันอยู่แล้ว
ข้อสังเกตุนี้เห็นด้วยหรือไม่ ?