ผมขอบอกก่อนนะครับ ว่าเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เกิดขึ้นกับตัวผมจริง
เรื่องนี้เกิดขึ้น เมือไม่นานมาก เดิมทีแล้ว อาชีพหลักของผม คือมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ค้าขาย และดูแลหอพักผม กับภรรยา มีรายได้ทุกวันไม่เคยขาดมือ ส่วนภาระ ผมก็มีแค่เรื่องผ่อนรถยนต์1คัน กับมอเตอร์ไซอีก1คัน
แต่เมือเช้าวันนึง เหตุการในชีวิตประจำวันทุกๆอย่างของผม ก็จบลง ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้า แล้วมองหาภรรยาผม ซึงตอนนั้น เธอก็ได้หายไปจากชีวิตผมเสียแล้ว เธอได้หนีกลับบ้าน ด้วยเหตุผลที่ว่า เช้าวันนั้น เธอได้ส่องเฟสเก่าผมเมือ 4.ปีมาแล้ว ก็เห็นเรื่องราวต่างๆของผม แต่ผมก็ไม่เคยปิดบังเธอ เล่าให้เธอฟังตั่งแต่คบกันใหม่ๆ เธอบอกผมว่า "ผมไม่ได้รักเธอ แค่หลอกเธอไปวันๆ กลับไปหาลูกเมียเธอเถอะ" แต่เรื่องมัน4ปีมาแล้ว แล้วผมก็ไม่เคยโกหกเธอมาก่อน สุดท้าย เธอเลือกที่จะกลับไปอยู่บ้านของเธอ โดยไมกลับมาอีก เธอได้ไลนมาบอกผู้ใหญ่ที่บ้านผม เพื่อให้เก็บของๆเธอไว้ นี้คือสาเหตุที่ทำให้ผม มีความคิดทิ้งชีวิตวุ่นวายในเมือง เพื่อเข้าไปใช้ชีวิตพเนจร ตามหมู่บ้าน เมือผ่านไปได้1วัน หลังจากที่เธอได้หนีไป ผมก็ยังคงทำมาหากินปกติ แต่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว วันที่สองผมเลือกที่จะปิดร้านครึ่งวัน เพื่อขับรถไปหาเธอที่ ตจว จะได้คุยกันรู้เรื่อง ผมคิดเสมอตอนขับรถ ไปง้อก็คงจะกลับ แต่ผลสุดท้าย การไปครั้งนี้ ก็กลับกลายเป็นทะเลาะกัน เธอยกเรื่องราวในอดีตต่างๆที่ผมเคยทำ หรือพูดไม่ดีกับเธอมาทั้งหมด ส่วนตัวผมไม่ได้คิดจะแก้ตัว ผมยอมรับผิดที่ครั้งนึงเคยไม่ดีกลับเธอ ผมเลยตัดสินใจ คุยกับเธอว่า
"เดี๋ยวเราจะกลับไปเครียของสดที่ซื้อมาขายให้หมดก่อน แล้วจะรีบเก็บของมาทำมาหากินที่นี้"
วันนั้นผมจึงขับรถกลับบ้าน เพื่อมาทำมาหากินอีกไม่กี่วัน ผมขับมาได้ครึ่งทาง ที่บ้านผมโทรมาถามว่า
"จะเอายังไงต่อ" ผมตอบกลับไปว่าจะกลับไปขายของให้หมด แต่!! คำตอบที่ได้ "ไม่ต้องขายแล้วไม่ให้ขาย ทุกอย่างวันนี้จะให้คนไปขนของ ขายไปก็มีแต่ปัญหา แล้วก็ไม่ต้องกลับมาทำให้ผิดหวังอีก" ผมชาไปทั้งตัวตอนขับรถ จนผมคิดสงสัยถามตัวเอง ว่าเราทำอะไรผิดที่บ้านเราถึงได้เป็นแบบนี้ ผมไม่เที่ยว ไม่ติดเพื่อน วันๆนึงตื่นเช้าก็ไปตลาดหาของมาขายเพื่อหาเงินผ่อนรถ แต่สิ่งที่ผมได้กลับมานั้น ทั้งจากครอบครัวผม และ ภรรยา มันทำให้ผมท้อแท้ไปหมด ผมจึงตัดสินใจ หันรถกลับไปยังอีกทิกทางนึง ผมไปโคราชเพื่อไปขออาศัยกับเพื่อนของพี่สาว ซึ่งสนิทกัน เพื่อนของพี่สาวมีบ้านพึ่งซื้อใหม่ ไม่มีใครอยู่ พี่แกก็บอกว่า อยู่ที่นี้ไปเลย ไม่ต้องกลับแล้ว พี่จะหางานให้ทำ แต่ในใจผมตอนนั้น คิดถึงแต่ภรรยา คนที่ไม่เคยจากไปไหนเลย ผมจึงเลือกที่จะนอนพักแค่1คืน แล้วเดินทางมาฝั่งตะวันตกในตอนเช้า แต่ระหว่างทางนั้น ผมก็ได้รับไลน์เป็นระยะๆ แฟนผมเธอแคปรูปเฟสเก่าที่ผมเคยโพสต่างๆนาๆไว้มาให้ดู พูดอยู่เสมอว่า"ใครจะไปดีเท่าเมียเธอ" ผมเลยถามเธอว่า "ตกลงแล้วเรากำลังจะไปอยู่กับเธอ โดยไม่คิดกลับ อยู่ตลอดไป เธอจะให้อยู่ไหมจะได้พิสูตจว่ารักเธอ" คำตอบที่ได้รับคือเงียบ ผมจึงตัดสินใจไปอยู่ พอผมไปถึง ทุกอย่างเหมือนคนไม่รู้จักกัน ไม่คุยกัน ผมขอจับมือหรือกอด หรือจูบ ก็กลายเป็นทำให้ลำคาร พอคุยอะไรนิดหน่อยแบบปกติ ก็กลายเป็นทะเลาะกันดึงเรื่องอดีตต่างๆนาๆมาพูด ซึ่งตอนนี้ผมก็ไม่รู้จะทำตัวยังไง จึงตัดสินใจ หนีออกจากบ้านเธอ ปิดโทรศัพท์ ทิ้งทุกอย่างไว้ แล้วเดินทางอย่างไม่มีจุดหมาย จนกระทั้ง รถผมน้ำมันใกล้หมดผมนอนในรถ ตอนเช้าก็รู้ว่าผมมาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนึง เป็นหมูบ้านกระเหรี่ยง ผู้หญิงแก่คนนึง เอาข้าวเอาน้ำมาให้ตอนเช้า แกคงเห็นว่าผมนั่งร้องไห้หมดคืน ไม่เป็นอันกินอันนอน แกคงจะเห็นค่าเราบ้างแหละ พอผมกินแกก็ยืนยิ้มดูผมกิน จนหมด แกก็พูดภาษาไทย พอจับใจความได้ว่า "มานั่งที่บ้านก่อนสิ" ผมก็ล๊อครถและเดินไปที่บ้านของเธอ แต่ผมว่าก็แปลกดีหมู่บ้านอยู่ในเขาแบบนีแต่สัญญาญเน็ตเต็ม พอถึงบ้านแก ผมก็นั่งและขอบคุณยายคนนั้น สักพักก็มีเพื่อนบ้านแกเดินมาหลายคน ทุกคนเริ่มคุยกันเป็นภาษากระเหรี่ยง ซึ่งวันหลังผมได้ถามแล้วว่า เป็นกระเหรี่ยงเผ่าไหน เป็นเผ่าโปว์ พอยายแกคุยกับเพื่อนบ้านสักพัก ก็มีผู้ชายคนนึงพูดว่า ถ้ายังไม่รู้จะไปไหนก็พักที่นี้ ผมเลยตอบตกลง คืนแรกที่ผมอยู่ รู้สึกเหงา คิดมากร้องไห้ และหนาว ในหมู่บ้านตกเย็นก็จะไม่มีอะไรแล้ว แยกย้ายบ้านใครบ้านมัน ผมมานั่งอยู่ที่ม้าไม้ นั่งมองท้องฟ้า รู้สึกได้ว่ามันเงียบสงบ ได้นั่งคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา คิดแล้วก็นึกตลกตัวเอง จากคนที่เคยมีทุกอย่าง มีบ้าน มีรถ มีเงิน มีเมีย แต่ตอนนี้ ผมมีเงินแค่ 70บาท บ้านไม่มีให้กลับ.ไม่มีคนที่เคยรักเรา ไม่มีแม้แต่เพื่อนที่เคยคุยกัน (คงเข้าใจว่าทำไมเพื่อนถึงหายไป ชีวิตครอบครัว)
"จริงๆใครอ่านแล้วอาจไม่เข้าใจ ผมรู้จักที่บ้านผมดี ไม่คือไม่ จนกว่าจะพิสูตจตัวเอง"
ผมเลยตัดสินใจที่จะอยู่ที่นี้ ทานาทำไร่หาของป่า ใช้ชีวิตสงบสุขพอเพียง ถึงแม้ตอนนี้ผมจะเหงาสักเพียงได ท้อแท้สักแค่ไหน แต่ลองคิดดู ยายแก่คนนึงไม่รู้จักผมมาก่อน ไม่ใช่ลูกใช่หลานแก แต่ก็ยังเอาอาหารมาให้ จนผมได้อยู่มาสักพัก ผมได้รู้ถึงความสุข ความเงียบสงบ จิตใจไม่ฟุ่งซ่าน อะไรที่เกิดแล้วผ่านมาแล้วก็ชั่งมัน ตอนนี้เรายังหายใจ ตื่นเช้ายังเห็นแสงจ้า มีข้าวให้กินทุกวัน ถึงจะไม่มีแล้วคนรัก แต่เราก็สุขได้ด้วยใจของเรา ผมคิดเสมอว่า มันผ่านไปแล้วช่วงเวลาแสนเศร้าแสนเจ็บปวด ครั้งนี้เป็นครั้งที่2. ผมคงไม่แกว่งเท้าหาเสี้ยนเป็นครั้งที่3.
"สุดท้ายนี้ มันอาจจะยาวไปหน่อย แต่ขอแค่ให้ผมได้ระบายความรู้สึกเป็นครั้งสุดท้าย เพราะตั่งแต่พรุ่งนี้ไป ผมจะไม่มีวันยิบโทรศัพท์อีก"
ปล.ต้องขออภัยอีกครั้งหากทำให้เปลื่องพื้นที่ของพันทิปนะครับ
หนีความวุ่นวาย ชีวิตในเมือง เข้าสู่ป่า (ขออภัยนะครับแค่อยากระบาย)
เรื่องนี้เกิดขึ้น เมือไม่นานมาก เดิมทีแล้ว อาชีพหลักของผม คือมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ค้าขาย และดูแลหอพักผม กับภรรยา มีรายได้ทุกวันไม่เคยขาดมือ ส่วนภาระ ผมก็มีแค่เรื่องผ่อนรถยนต์1คัน กับมอเตอร์ไซอีก1คัน
แต่เมือเช้าวันนึง เหตุการในชีวิตประจำวันทุกๆอย่างของผม ก็จบลง ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้า แล้วมองหาภรรยาผม ซึงตอนนั้น เธอก็ได้หายไปจากชีวิตผมเสียแล้ว เธอได้หนีกลับบ้าน ด้วยเหตุผลที่ว่า เช้าวันนั้น เธอได้ส่องเฟสเก่าผมเมือ 4.ปีมาแล้ว ก็เห็นเรื่องราวต่างๆของผม แต่ผมก็ไม่เคยปิดบังเธอ เล่าให้เธอฟังตั่งแต่คบกันใหม่ๆ เธอบอกผมว่า "ผมไม่ได้รักเธอ แค่หลอกเธอไปวันๆ กลับไปหาลูกเมียเธอเถอะ" แต่เรื่องมัน4ปีมาแล้ว แล้วผมก็ไม่เคยโกหกเธอมาก่อน สุดท้าย เธอเลือกที่จะกลับไปอยู่บ้านของเธอ โดยไมกลับมาอีก เธอได้ไลนมาบอกผู้ใหญ่ที่บ้านผม เพื่อให้เก็บของๆเธอไว้ นี้คือสาเหตุที่ทำให้ผม มีความคิดทิ้งชีวิตวุ่นวายในเมือง เพื่อเข้าไปใช้ชีวิตพเนจร ตามหมู่บ้าน เมือผ่านไปได้1วัน หลังจากที่เธอได้หนีไป ผมก็ยังคงทำมาหากินปกติ แต่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว วันที่สองผมเลือกที่จะปิดร้านครึ่งวัน เพื่อขับรถไปหาเธอที่ ตจว จะได้คุยกันรู้เรื่อง ผมคิดเสมอตอนขับรถ ไปง้อก็คงจะกลับ แต่ผลสุดท้าย การไปครั้งนี้ ก็กลับกลายเป็นทะเลาะกัน เธอยกเรื่องราวในอดีตต่างๆที่ผมเคยทำ หรือพูดไม่ดีกับเธอมาทั้งหมด ส่วนตัวผมไม่ได้คิดจะแก้ตัว ผมยอมรับผิดที่ครั้งนึงเคยไม่ดีกลับเธอ ผมเลยตัดสินใจ คุยกับเธอว่า
"เดี๋ยวเราจะกลับไปเครียของสดที่ซื้อมาขายให้หมดก่อน แล้วจะรีบเก็บของมาทำมาหากินที่นี้"
วันนั้นผมจึงขับรถกลับบ้าน เพื่อมาทำมาหากินอีกไม่กี่วัน ผมขับมาได้ครึ่งทาง ที่บ้านผมโทรมาถามว่า
"จะเอายังไงต่อ" ผมตอบกลับไปว่าจะกลับไปขายของให้หมด แต่!! คำตอบที่ได้ "ไม่ต้องขายแล้วไม่ให้ขาย ทุกอย่างวันนี้จะให้คนไปขนของ ขายไปก็มีแต่ปัญหา แล้วก็ไม่ต้องกลับมาทำให้ผิดหวังอีก" ผมชาไปทั้งตัวตอนขับรถ จนผมคิดสงสัยถามตัวเอง ว่าเราทำอะไรผิดที่บ้านเราถึงได้เป็นแบบนี้ ผมไม่เที่ยว ไม่ติดเพื่อน วันๆนึงตื่นเช้าก็ไปตลาดหาของมาขายเพื่อหาเงินผ่อนรถ แต่สิ่งที่ผมได้กลับมานั้น ทั้งจากครอบครัวผม และ ภรรยา มันทำให้ผมท้อแท้ไปหมด ผมจึงตัดสินใจ หันรถกลับไปยังอีกทิกทางนึง ผมไปโคราชเพื่อไปขออาศัยกับเพื่อนของพี่สาว ซึ่งสนิทกัน เพื่อนของพี่สาวมีบ้านพึ่งซื้อใหม่ ไม่มีใครอยู่ พี่แกก็บอกว่า อยู่ที่นี้ไปเลย ไม่ต้องกลับแล้ว พี่จะหางานให้ทำ แต่ในใจผมตอนนั้น คิดถึงแต่ภรรยา คนที่ไม่เคยจากไปไหนเลย ผมจึงเลือกที่จะนอนพักแค่1คืน แล้วเดินทางมาฝั่งตะวันตกในตอนเช้า แต่ระหว่างทางนั้น ผมก็ได้รับไลน์เป็นระยะๆ แฟนผมเธอแคปรูปเฟสเก่าที่ผมเคยโพสต่างๆนาๆไว้มาให้ดู พูดอยู่เสมอว่า"ใครจะไปดีเท่าเมียเธอ" ผมเลยถามเธอว่า "ตกลงแล้วเรากำลังจะไปอยู่กับเธอ โดยไม่คิดกลับ อยู่ตลอดไป เธอจะให้อยู่ไหมจะได้พิสูตจว่ารักเธอ" คำตอบที่ได้รับคือเงียบ ผมจึงตัดสินใจไปอยู่ พอผมไปถึง ทุกอย่างเหมือนคนไม่รู้จักกัน ไม่คุยกัน ผมขอจับมือหรือกอด หรือจูบ ก็กลายเป็นทำให้ลำคาร พอคุยอะไรนิดหน่อยแบบปกติ ก็กลายเป็นทะเลาะกันดึงเรื่องอดีตต่างๆนาๆมาพูด ซึ่งตอนนี้ผมก็ไม่รู้จะทำตัวยังไง จึงตัดสินใจ หนีออกจากบ้านเธอ ปิดโทรศัพท์ ทิ้งทุกอย่างไว้ แล้วเดินทางอย่างไม่มีจุดหมาย จนกระทั้ง รถผมน้ำมันใกล้หมดผมนอนในรถ ตอนเช้าก็รู้ว่าผมมาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนึง เป็นหมูบ้านกระเหรี่ยง ผู้หญิงแก่คนนึง เอาข้าวเอาน้ำมาให้ตอนเช้า แกคงเห็นว่าผมนั่งร้องไห้หมดคืน ไม่เป็นอันกินอันนอน แกคงจะเห็นค่าเราบ้างแหละ พอผมกินแกก็ยืนยิ้มดูผมกิน จนหมด แกก็พูดภาษาไทย พอจับใจความได้ว่า "มานั่งที่บ้านก่อนสิ" ผมก็ล๊อครถและเดินไปที่บ้านของเธอ แต่ผมว่าก็แปลกดีหมู่บ้านอยู่ในเขาแบบนีแต่สัญญาญเน็ตเต็ม พอถึงบ้านแก ผมก็นั่งและขอบคุณยายคนนั้น สักพักก็มีเพื่อนบ้านแกเดินมาหลายคน ทุกคนเริ่มคุยกันเป็นภาษากระเหรี่ยง ซึ่งวันหลังผมได้ถามแล้วว่า เป็นกระเหรี่ยงเผ่าไหน เป็นเผ่าโปว์ พอยายแกคุยกับเพื่อนบ้านสักพัก ก็มีผู้ชายคนนึงพูดว่า ถ้ายังไม่รู้จะไปไหนก็พักที่นี้ ผมเลยตอบตกลง คืนแรกที่ผมอยู่ รู้สึกเหงา คิดมากร้องไห้ และหนาว ในหมู่บ้านตกเย็นก็จะไม่มีอะไรแล้ว แยกย้ายบ้านใครบ้านมัน ผมมานั่งอยู่ที่ม้าไม้ นั่งมองท้องฟ้า รู้สึกได้ว่ามันเงียบสงบ ได้นั่งคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา คิดแล้วก็นึกตลกตัวเอง จากคนที่เคยมีทุกอย่าง มีบ้าน มีรถ มีเงิน มีเมีย แต่ตอนนี้ ผมมีเงินแค่ 70บาท บ้านไม่มีให้กลับ.ไม่มีคนที่เคยรักเรา ไม่มีแม้แต่เพื่อนที่เคยคุยกัน (คงเข้าใจว่าทำไมเพื่อนถึงหายไป ชีวิตครอบครัว)
"จริงๆใครอ่านแล้วอาจไม่เข้าใจ ผมรู้จักที่บ้านผมดี ไม่คือไม่ จนกว่าจะพิสูตจตัวเอง"
ผมเลยตัดสินใจที่จะอยู่ที่นี้ ทานาทำไร่หาของป่า ใช้ชีวิตสงบสุขพอเพียง ถึงแม้ตอนนี้ผมจะเหงาสักเพียงได ท้อแท้สักแค่ไหน แต่ลองคิดดู ยายแก่คนนึงไม่รู้จักผมมาก่อน ไม่ใช่ลูกใช่หลานแก แต่ก็ยังเอาอาหารมาให้ จนผมได้อยู่มาสักพัก ผมได้รู้ถึงความสุข ความเงียบสงบ จิตใจไม่ฟุ่งซ่าน อะไรที่เกิดแล้วผ่านมาแล้วก็ชั่งมัน ตอนนี้เรายังหายใจ ตื่นเช้ายังเห็นแสงจ้า มีข้าวให้กินทุกวัน ถึงจะไม่มีแล้วคนรัก แต่เราก็สุขได้ด้วยใจของเรา ผมคิดเสมอว่า มันผ่านไปแล้วช่วงเวลาแสนเศร้าแสนเจ็บปวด ครั้งนี้เป็นครั้งที่2. ผมคงไม่แกว่งเท้าหาเสี้ยนเป็นครั้งที่3.
"สุดท้ายนี้ มันอาจจะยาวไปหน่อย แต่ขอแค่ให้ผมได้ระบายความรู้สึกเป็นครั้งสุดท้าย เพราะตั่งแต่พรุ่งนี้ไป ผมจะไม่มีวันยิบโทรศัพท์อีก"
ปล.ต้องขออภัยอีกครั้งหากทำให้เปลื่องพื้นที่ของพันทิปนะครับ