Mc Donald's สาขาพัทยากลางเก็บค่าถ่ายพรีเวดกิ้ง ชม.ละ 80,000

พี่คะแม็คโดโนลมีนโยบายเก็บค่าถ่ายพรีเว้ดดิ้ง ชม ละ80,000 เลยหรอคะ แม็คสาขาพัทยากลางเส้นสุขุมวิท วันนี้ไปติดต่อมา แค่อยากจะขอเก็บภาพความทรงจำดีๆที่ได้เจอกันกับแฟนครั้งแรกที่นี่ ทั้งๆที่แมคสาขานี้เรา2คนและเพื่อนๆก้อไปใช้บริการเป็นประจำ อาทิตนึงไม่ต่ำกว่า4วันแต่ก้อผิดหวังเมื่อได้คุยกับทางผู้จัดการสาขาว่าทางเราขอเข้าไปถ่ายรูปเพื่อจะเก็บความทรงจำที่ดีไว้หน่อยขอถ่ายแค่โต๊ะที่เราเจอกันครั้งแรกและจะสั่งอาหารเลี้ยงทีมงานกลับได้รับคำตอบว่าต้องเสียค่าลิขสิทธ์ชั่วโมงล่ะ80000 บาท เสียความรู้สึกกับทางแมคโดนัลมากทั้งๆที่เราก้อเป็นลูกค้าประจำ เลยอยากจะทราบว่าทางบริษัทมีนโยบายนี้ด้วยจิงมั้ยคะ

PS.ถ้าทางบริษัทมีนโยบายแบบนี้จริงๆ ทางเราก็ยินดีจ่ายนะคะ

เรื่องนี้เป็นเรื่องของพี่ชายนะคะ แต่เป็นคนไปติดต่อให้ เลยข้องใจในนโยบายของทางแม็คว่าจริงๆแล้วเป็นยังไง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
คือจริงๆแล้วมันก็เป็นสิทธิของทางร้านนะครับจะคิดเท่าไรก็ได้    การที่คุณไปขอเค้าถ่ายรูปหรือวีดีโอ ย่อมต้องมีทีมงานอย่างต่ำ2ถึง3 คนแล้วการถ่ายนี้ย่อมกระทบถึงลูกค้าที่มาใช้บริการ  ฉะนั้นเค้าจะคิดแพงเรื่องปกติ ขอแค่เค้ามีใบเสร็จมาให้ก็โอเคนะผมว่า
ความคิดเห็นที่ 9
McDonald ชื่อนี่เป็นองค์กรการกุศล ?
ความคิดเห็นที่ 53
หลายคนยังไม่เข้าใจว่าแบรนด์ระดับโลกเป็นยังไง ทำไมต้องทำเช่นนั้น คล้ายๆ กรณีสตาร์บังก่อนหน้าโน้น เขาก็ต้องรักษาสิทธิ์ ลิขสิทธิ์ของเขา แบรนด์มันมีมูลค่าของมัน มีผลต่อมูลค่าหุ้น มูลค่าธุรกิจ
แบรนด์ระดับโลกทำธุรกิจทั่วโลก ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่เก่ยวข้องของแต่ละประเทศเหมือนกัน เหตุการณ์หนึ่งที่ประเทศหนึ่งสามารถมีผลกระทบต่อธุรกิจทุกประเทศทั่วโลกเขา ยิ่งโซเซียลรวดเร็วอย่างปัจจุบันอีก
ยิ่งเมืองนักท่องเที่ยวหนาแน่นอย่างพัทยา กฎหมายในแต่ละประเทศก็ต่างกัน เกิดชาวต่างชาติในร้านที่เห็นกลับไปประเทศตนเอง อยากทำกิจกรรมในร้านแบบในประเทศที่ตัวเองไปเจอมาบ้าง ถ้าไม่อนุญาตก็ไปฟ้องว่าเลือกปฏิบัติอีก  เกิดมีสมาชิกกลุ่มผิดกฎหมายทำผิดมา แล้วมาขอทำกิจกรรมฉลองอะไรบังหน้า แล้วไปโฟสต์ลงโซเซียลทีหลัง ร้านแบรนด์ระดับโลกก็จะโดนสอบไปด้วย ข่าวจะจะยิ่งกระจายไปไวทั่วโลกว่าเป็นสถานที่ที่กลุ่มนอกกฎหมายมาใช้ได้สะดวก ลูกค้าทั่วไปคงคิดหนัก
มีหลายๆ กรณีในต่างประเทศลูกค้าฟ้องร้านกาแฟแบรนด์นี้ เช่น ป้าคนหนึ่งบอกน้ำร้อนทำให้เขาบาดเจ็บทั้งที่ไม่ระวังเอง กลับเป็นศาลตัดสินให้แบรนด์กาแฟจ่ายค่าเสียหายหลายล้านดอลลาร์ และยังมีอีกหลายๆๆ กรณี  เกิดกรณีนี้ ลูกค้าต่างชาตคนหนึ่งกลับไปฟ้องที่ประเทศตัวเอง บอกร้านกาแฟทำให้เขาบอบช้ำจิตใจ เขาเพิ่งมีเรื่องราวไม่ดีกับชีวิต อยากมาพักผ่อนจิตใจตามสภาพความเหมาะสมตามบริการปกติของร้าน กลับมาเจองานฉลองงานแต่งแบบนี้อีกซึ่งไม่ใช่บริการปกติที่ประกาศไว้ ยิ่งช้ำใจอีกก็ไปฟ้องร้องได้อีก

ยิ่งบริษัทอเมริกันเขาไม่ให้บริการอะไรนอกเหนือที่จดทะเบียนไว้ในแต่ละแห่งหรอก ไม่ว่าจะได้วันละหนึ่งล้านก็ตาม กฎหมายกำกับของเขาแรงมาก เอาจริง ทั้งโดนฟ้องจากผู้บริโภคหรือหน่วยงานกำกับ กรณีนี้จะเข้าข่ายให้บริการอื่นโดยไม่ได้จดทะเบียนไว้ หากสอบสอนแล้วผิดจริง ไม่ใช่ปรับไม่กี่พันดอลลาร์ แต่เขาปรับเป็นจำนวนรายได้ที่ได้จากประเทศนั้นนับแต่เกิดการกระทำผิด อาจโดนสอบย้อนหลังไปอีก
ดูกรณี Wolksvaken ที่อเมริกาเป็นตัวอย่าง เข้าข่ายโฆษณาเกินจริง โดนปรับย้อนหลังหลายพันล้าน โดยหลายเด้งจากหลายหน่วยงานอีก สูญเสียความน่าเชื่อถือจากประเทศอื่นทั่วโลกอีก

ผมทำงานในแวดวงบริษัทต่างชาติแบบ global company มามากมาย กฎหมายแรงๆ ที่เขากลัวกันคือ พวกกฎหมายความเป็นส่วนตัว สิทธิของลูกค้า กฎหมายติดสินบน ส่วนใหญ่ผู้บริหารแต่ละประเทศไม่กล้าตัดสินใจเอง ต้องส่งเรื่องไปให้ฝ่ายกฎหมายของบริษัทแม่ที่ต่างประเทศพิจารณาผลกระทบต่างๆ อย่างที่บอกเหตุการณ์ที่ประเทศหนึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อทุกประเทศที่บริษัทนั้นทำธุรกิจ มีมากมายบริษัทใหญ่ๆ โดนปรับมากมายแต่พยายามปิดข่าว
ความคิดเห็นที่ 38
จะเริ่มต้นชีวิตคู่ทั้งที จะสร้างความเดือดร้อนรำคาญ ให้ลูกค้าคนอื่นด่าทำไมล่ะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่