สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะคะ
นี่เป็นกระทู้แรกที่เขียนขึ้นมาคะ ถ้าผิดพลาดตรงไหนต้องขอโทษด้วยนะคะ
กล่างถึงตอนสมัครโครงการworkครั้งแรก ตอนนั้นเราเป็นนิสิตปี4 ใกล้จะจบและมีความใฝ่ฝันตั้งแต่ ม.5 ว่าอยากจะไป Work and Travel ที่ อเมริกาสักครั้งในชีวิต
ช่วงนั้นก็เครียดนั่งอ่านรีวิวทุกวันคะ
แต่ถึงระวังขนาดไหน!! ก็ยังพลาดและเกือบตกเป็นเหยื่อของเอเจนซี่นึง
WTF! เป็นคำติดปากตั้งแต่เริ่มต้นสมัครเข้าร่วมโครงการ

หลายคนคงคิดว่าแค่สมัครกับ
เอเจนซี่ก็จบ ง่ายๆ ได้บินปุป แต่มันไม่ใช่อย่างงั้นคะ มาๆเราจะเล่าให้ฟัง
เริ่มด้วยการหาเอเจนซี่ โครงการ Work and Travel summer 2016 เราเริ่มต้นหาเดือน
ธันวา ขอบอกว่ามันยากมากๆ เป็นช่วงที่ใกล้ปิดรับสมัครแล้ว (คำแนะนำ! เพื่อนๆ ควรรีบสมัครตั้งแต่ตุลา) ด้วยความที่เป็นคนเลือกงานเลยอยากได้งานดีๆ เงินเยอะๆ และแล้วเราก็มาเจอเอเจนซี่นึง
เริ่มต้นด้วยตัว L เราติดต่อไป เนื่องจากเขาประชาสัมพันธ์ว่ามีงานดีๆเยอะเยะมากมาย เราก็สมัคร เสียค่าแรกเข้าไป 5500 บาท และบอกให้เราเขียนเลือกงานมา 3 ลำดับ จากนั้นเรารอผลเป็นเดือนๆ ตามแล้วทวงอีก ผลัดวันประกันพรุ่งตลอดทีละเดือน จนสุดท้าย เดือนมีนา เราก็เริ่มโมโห จิกบ้าง แต่ไม่ด่า อิอิ กลัวเขาไม่ดำเนินการให้ 555 แต่สุดท้ายเขาบอกเราว่าไม่มีงานให้
ไม่มีคนรับ เพราะเราความสามารถไม่ถึง เราก็คิดในใจว่า จริงอยู่ว่าเราอาจจะไม่เก่งมาก แต่โทอิคเราก็ได้ 720 เราคิดว่าภาษาเราก็ไม่ได้แย่เกินไป แค่งาน part time ทำไมเด็กอย่างเราจะทำไม่ได้ฟระ !!
เอาละไหนๆก็ไหนๆ เราเลยถามเขาไปว่า "แล้วแบบนี้จะทำยังไง" พี่เขาเลยตอบกลับมาว่า "มีงานแค่งานเดียวเหลืออยู่ น้องจะเอาไหม" ตอนนั้นเราเอาหมดคะ ขอแค่ได้ไป แต่สุดท้ายก็รอ รอๆๆๆ จน ทางเอเจนซี่เงียบหายไป อ่านไลน์แล้วไม่ตอบก็มี ไม่อ่านเลยเป็นอาทิตๆก็มี ทรมานใจมากคะตอนนั้น แต่เรายังโชคดีกว่าเพื่อนคนอื่นในโครงการเพราะคนอื่นโดนเก็บค่างวด2 งวด3 เป็นหมื่นๆกันแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไป ด้วยเหตุผลเดียวกันว่าไม่มีงานไหนรับ ตอนนี้วิตกมาก

คิดว่าเอาไงดี โดนหลอกแล้วแน่ๆ เลยลองโทรไปปรึกษาอีกเอเจนซี่นึง
ขึ้นชื่อด้วยตัว O พี่ที่นี่ดีมากคะ แนะนำทุกอย่าง เป็นขั้นตอน แต่เราโชคร้าย พี่ที่เอเจนซี่บอกว่าปิดรับสมัครไปแล้ว ไม่มีตำแหน่งเหลือแล้ว เราก็พยายามเล่าให้พี่เขาฟังว่าเราโดนหลอกมายังไง และขอให้พี่โทรมาบอกเราถ้ามีตำแหน่งเพิ่ม
อีกหนึ่งวันถัดมาเราได้รับโทรศัพท์จากพี่เอเจนซี่ O ว่ามีตำแหน่งแล้ว เพราะมีคนสละสิทธ์ ช่วงนั้นเป็นเดือนเมษาแล้ว เราโล่งใจมากเพราะมันเฉียดฉิวเหลือเกิน ขอบคุณพี่ๆ O มากๆนะคะ

พอเราได้งาน สัมภาษวีซ่าเสร็จสรรพ เราจึงจัดการจองตั๋วเครื่องบิน จนทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว เราจองตั๋วของ American airline operated by Japan airline ตอนนั้นได้ราคาไปกลับ 34,000 บาท เปลี่ยนเครื่องที่ญี่ปุ่น และขากลับแวะเที่ยวอีก 7 วัน แห่ะๆ คิดไว้ว่าขากลับต้องมีเงินมาเที่ยวแน่ๆ
เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้ว เราจึงเตรียมตัวบิน คิดว่าทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว แต่ยังค่ะยัง งานที่สมัครไปไม่มีบ้านให้ เราต้องหาบ้านอยู่เอง ยากอีกแล้ว
มาปวดหัวเรื่องหาบ้านกันต่อ ตอนแรกเรามีกลุ่มเพื่อนที่เจอกันตอนสัมภาษ 4 คน ก็โอเคหาบ้านสำหรับ 4 คนคงไม่ยากเท่าไหร่ แต่ต่อมาก็มีเพื่อนมาเพิ่มเรื่อยๆ กลายเป็นเราต้องหาบ้านให้เพื่อนทั้งหมด 10 คน งานยากละที่นี้ เราต้องนอนตี4 ตี5 ทุกวันเพื่ออยู่ตอบเมล์และโทรทางไกล
ตอนนั้นมีโปรเจคจบ แถมเป็นช่วงสอบไฟนอลจบด้วย เราจึงต้องทำหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน หัวฟูเป็นอีเพิ้งเลยค่ะ 555 แต่ก็นะ ทำไงได้ อยากกไป.....
อีกเรื่องที่ไม่ง่ายเลยสำหรับเด็กเวิร์คคือการหาบ้านเอง บ้านอยู่ไหน ไกลมั้ย มีรถอะไรจากบ้านไปทำงาน ละแวกบ้านเป็นยังไง ห้องโอเคมั้ย รูปที่เค้าส่งให้เราจะหลอกมั้ย บลาๆๆ อีกมากมาย และที่สำคัญ ราคา เราคงไม่อยากทำงานมาแล้วเอาเงินมาจ่ายค่าบ้านหมด เพราะยังเหลือที่ให้รอเที่ยวอีกเยอะค่ะ แหะๆ
หลังจากที่เปรียบเทียบบ้านแต่ละหลัง ทั้งความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย และความสะดวกสบาย สำหรับเพื่อนๆทุกคน เราก็ได้บ้านค่ะ เป็นบ้านที่พี่ๆ O หาข้อมูลติดต่อมาให้ แต่เราต้องติดต่อไปเอง
บ้านที่เราหาได้มีสองหลังค่ะ หลังแรกเป็นบ้านหลังใหญ่ ที่พี่ๆ O ให้เมลติดต่อมา ส่วนอีกหลังเป็นบ้านหลังเล็กสำหรับสองห้องนอนค่ะ เราหามาจากเว็บ
criaglist เจ้าของบ้านบอกว่า มีห้องว่างในบ้านสองห้อง แต่ไม่รู้ว่าตอนเราไปถึงแล้ว จะมีห้องมั้ยนะ เพราะคนติดต่อเค้ามาเยอะมาก ถ้ามาถึงแล้วมีคือมี !! ไม่มีก็คือไม่มี !!
เอาแล้วไง
ใช้ชีวิตแบบเสี่ยงสุดๆ ไอเราเสี่ยงคนเดียวว่าไปอย่าง แต่นี่มีเพื่อนมาเสี่ยงด้วย คงไม่ดี เราจึงตัดสินใจบอกเพื่อนๆ เอาบ้านหลังใหญ่เพราะจุคนได้มากกว่า แถมไม่ต้องมานั่งเสี่ยงว่าไปถึงแล้ว จะมีหรือไม่มี แต่เราก็ยังแอบลุ้นนะคะ ว่า จะมีห้องเหลือให้เรา เพราะบ้านหลังเล็กถูกกว่า และ ใกล้ที่ทำงานมากกว่า
(ขอเตือนเพื่อนๆก่อนนะคะว่าเว็บนี้จะมีพวก scam เยอะ เราก็เคยโดนค่ะ ต้องดูดีๆ ใครให้โอนเงินไปก่อน อย่าโอนนะคะ)
** ขอจบบทแรกไว้ตรงนี้ก่อนนะคะ ต่อไปจะมาเล่าถึงตอนไปถึงอเมริกาครั้งแรก ค่ะ ขอบอกว่าพึ่งหัดเขียนรีวิวครั้งแรก ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะคะ
ป ลอ ลิง จนเราได้บินไปอเมริกา
ก็ยังไม่ได้คำตอบจากเอเจ้นท์ L เลยค่ะ ว่าจะได้งานรึยัง TT **
บทที่สองมาแล้วนะคะ ติดตามได้เลยคะ
https://pantip.com/topic/36041475
มหากาพย์เด็ก WORK เมื่อชีวิตไม่ง่ายตั้งแต่เริ่ม บทที่ 1 ก่อนบิน
นี่เป็นกระทู้แรกที่เขียนขึ้นมาคะ ถ้าผิดพลาดตรงไหนต้องขอโทษด้วยนะคะ
กล่างถึงตอนสมัครโครงการworkครั้งแรก ตอนนั้นเราเป็นนิสิตปี4 ใกล้จะจบและมีความใฝ่ฝันตั้งแต่ ม.5 ว่าอยากจะไป Work and Travel ที่ อเมริกาสักครั้งในชีวิต
ช่วงนั้นก็เครียดนั่งอ่านรีวิวทุกวันคะ
แต่ถึงระวังขนาดไหน!! ก็ยังพลาดและเกือบตกเป็นเหยื่อของเอเจนซี่นึง
WTF! เป็นคำติดปากตั้งแต่เริ่มต้นสมัครเข้าร่วมโครงการ
เริ่มด้วยการหาเอเจนซี่ โครงการ Work and Travel summer 2016 เราเริ่มต้นหาเดือนธันวา ขอบอกว่ามันยากมากๆ เป็นช่วงที่ใกล้ปิดรับสมัครแล้ว (คำแนะนำ! เพื่อนๆ ควรรีบสมัครตั้งแต่ตุลา) ด้วยความที่เป็นคนเลือกงานเลยอยากได้งานดีๆ เงินเยอะๆ และแล้วเราก็มาเจอเอเจนซี่นึง เริ่มต้นด้วยตัว L เราติดต่อไป เนื่องจากเขาประชาสัมพันธ์ว่ามีงานดีๆเยอะเยะมากมาย เราก็สมัคร เสียค่าแรกเข้าไป 5500 บาท และบอกให้เราเขียนเลือกงานมา 3 ลำดับ จากนั้นเรารอผลเป็นเดือนๆ ตามแล้วทวงอีก ผลัดวันประกันพรุ่งตลอดทีละเดือน จนสุดท้าย เดือนมีนา เราก็เริ่มโมโห จิกบ้าง แต่ไม่ด่า อิอิ กลัวเขาไม่ดำเนินการให้ 555 แต่สุดท้ายเขาบอกเราว่าไม่มีงานให้ ไม่มีคนรับ เพราะเราความสามารถไม่ถึง เราก็คิดในใจว่า จริงอยู่ว่าเราอาจจะไม่เก่งมาก แต่โทอิคเราก็ได้ 720 เราคิดว่าภาษาเราก็ไม่ได้แย่เกินไป แค่งาน part time ทำไมเด็กอย่างเราจะทำไม่ได้ฟระ !!
เอาละไหนๆก็ไหนๆ เราเลยถามเขาไปว่า "แล้วแบบนี้จะทำยังไง" พี่เขาเลยตอบกลับมาว่า "มีงานแค่งานเดียวเหลืออยู่ น้องจะเอาไหม" ตอนนั้นเราเอาหมดคะ ขอแค่ได้ไป แต่สุดท้ายก็รอ รอๆๆๆ จน ทางเอเจนซี่เงียบหายไป อ่านไลน์แล้วไม่ตอบก็มี ไม่อ่านเลยเป็นอาทิตๆก็มี ทรมานใจมากคะตอนนั้น แต่เรายังโชคดีกว่าเพื่อนคนอื่นในโครงการเพราะคนอื่นโดนเก็บค่างวด2 งวด3 เป็นหมื่นๆกันแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไป ด้วยเหตุผลเดียวกันว่าไม่มีงานไหนรับ ตอนนี้วิตกมาก
อีกหนึ่งวันถัดมาเราได้รับโทรศัพท์จากพี่เอเจนซี่ O ว่ามีตำแหน่งแล้ว เพราะมีคนสละสิทธ์ ช่วงนั้นเป็นเดือนเมษาแล้ว เราโล่งใจมากเพราะมันเฉียดฉิวเหลือเกิน ขอบคุณพี่ๆ O มากๆนะคะ
เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้ว เราจึงเตรียมตัวบิน คิดว่าทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว แต่ยังค่ะยัง งานที่สมัครไปไม่มีบ้านให้ เราต้องหาบ้านอยู่เอง ยากอีกแล้ว มาปวดหัวเรื่องหาบ้านกันต่อ ตอนแรกเรามีกลุ่มเพื่อนที่เจอกันตอนสัมภาษ 4 คน ก็โอเคหาบ้านสำหรับ 4 คนคงไม่ยากเท่าไหร่ แต่ต่อมาก็มีเพื่อนมาเพิ่มเรื่อยๆ กลายเป็นเราต้องหาบ้านให้เพื่อนทั้งหมด 10 คน งานยากละที่นี้ เราต้องนอนตี4 ตี5 ทุกวันเพื่ออยู่ตอบเมล์และโทรทางไกล
ตอนนั้นมีโปรเจคจบ แถมเป็นช่วงสอบไฟนอลจบด้วย เราจึงต้องทำหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน หัวฟูเป็นอีเพิ้งเลยค่ะ 555 แต่ก็นะ ทำไงได้ อยากกไป.....
อีกเรื่องที่ไม่ง่ายเลยสำหรับเด็กเวิร์คคือการหาบ้านเอง บ้านอยู่ไหน ไกลมั้ย มีรถอะไรจากบ้านไปทำงาน ละแวกบ้านเป็นยังไง ห้องโอเคมั้ย รูปที่เค้าส่งให้เราจะหลอกมั้ย บลาๆๆ อีกมากมาย และที่สำคัญ ราคา เราคงไม่อยากทำงานมาแล้วเอาเงินมาจ่ายค่าบ้านหมด เพราะยังเหลือที่ให้รอเที่ยวอีกเยอะค่ะ แหะๆ
หลังจากที่เปรียบเทียบบ้านแต่ละหลัง ทั้งความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย และความสะดวกสบาย สำหรับเพื่อนๆทุกคน เราก็ได้บ้านค่ะ เป็นบ้านที่พี่ๆ O หาข้อมูลติดต่อมาให้ แต่เราต้องติดต่อไปเอง
บ้านที่เราหาได้มีสองหลังค่ะ หลังแรกเป็นบ้านหลังใหญ่ ที่พี่ๆ O ให้เมลติดต่อมา ส่วนอีกหลังเป็นบ้านหลังเล็กสำหรับสองห้องนอนค่ะ เราหามาจากเว็บ criaglist เจ้าของบ้านบอกว่า มีห้องว่างในบ้านสองห้อง แต่ไม่รู้ว่าตอนเราไปถึงแล้ว จะมีห้องมั้ยนะ เพราะคนติดต่อเค้ามาเยอะมาก ถ้ามาถึงแล้วมีคือมี !! ไม่มีก็คือไม่มี !!
เอาแล้วไง ใช้ชีวิตแบบเสี่ยงสุดๆ ไอเราเสี่ยงคนเดียวว่าไปอย่าง แต่นี่มีเพื่อนมาเสี่ยงด้วย คงไม่ดี เราจึงตัดสินใจบอกเพื่อนๆ เอาบ้านหลังใหญ่เพราะจุคนได้มากกว่า แถมไม่ต้องมานั่งเสี่ยงว่าไปถึงแล้ว จะมีหรือไม่มี แต่เราก็ยังแอบลุ้นนะคะ ว่า จะมีห้องเหลือให้เรา เพราะบ้านหลังเล็กถูกกว่า และ ใกล้ที่ทำงานมากกว่า
(ขอเตือนเพื่อนๆก่อนนะคะว่าเว็บนี้จะมีพวก scam เยอะ เราก็เคยโดนค่ะ ต้องดูดีๆ ใครให้โอนเงินไปก่อน อย่าโอนนะคะ)
** ขอจบบทแรกไว้ตรงนี้ก่อนนะคะ ต่อไปจะมาเล่าถึงตอนไปถึงอเมริกาครั้งแรก ค่ะ ขอบอกว่าพึ่งหัดเขียนรีวิวครั้งแรก ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะคะ
ป ลอ ลิง จนเราได้บินไปอเมริกา ก็ยังไม่ได้คำตอบจากเอเจ้นท์ L เลยค่ะ ว่าจะได้งานรึยัง TT **
บทที่สองมาแล้วนะคะ ติดตามได้เลยคะ https://pantip.com/topic/36041475