*****อันนี้คือความเห็นส่วนตัวหากไม่พอใจหรือกลัวว่าจะรับไม่ได้ก็หาลูกษรกากบาทแล้วกดได้โลดดดด!!แต่ก็ลองอ่านกันได้นะ*****
ในความคิดของเรานั้นการศึกษาไทยคิดว่าถ้าเราเรียนมากๆจะทำให้เด็กนั้นเก่งขึ้นซึ่งมันอาจจะไม่ถูกเสมอไป ลองคิดตามเราดูนะถ้าสมมุติเราเรียนวิชาที่มันไม่จำเป็นแต่เรียนวิชาหลักๆพอๆกันซึ่งมันจะทำให้เรานั้นเกิดความเครียดได้เพราะเราเรียนกัน5วัน ตั้งแต่ 8.10 น. -16.00 น. หรือไม่ก็ 8.10 น. - 15.00 น. ประมาณนี้ใช่มั้ย อย่างเช่น เราเรียนสายวิทย์-คณิต ซึ่งเราอาจอยากเป็นวิศวะ หมอ หรือพวกที่ต้องมีฟิสิก เคมี ชีวะ เข้ามาเกี่ยวข้องอันนี้เราเข้าใจที่มันจะต้องเรียนหนัก แต่ถ้าลองมาบริหารจัดแผนการเรียนให้ดี ปลูกฝังให้เด็กนั้นได้ลองทำในสิ่งที่ชอบตั้งแต่เด็กๆ มันอาจทำให้เด็กพวกนั้นรู้ตัวว่าต้องการอยากจะเป็นอะไรได้ไวกว่าในปัจจุบันนี้ อย่างเช่นเรา ตอนเราเรียน ม3 (ขอใช้แบบเป็นกันเองละกันนะ ^^) เรายังไม่รู้เลยว่าเราชอบอะไร อยากทำอะไร แล้วเราจะศึกษาต่อในสายไหนดี เราก็เลยไปเข้าสายวิทย์-คณิตที่มันมีทางเลือกมากกว่าสายศิลป์ต่างๆ ซึ่งพอเราเรียนไปเรียนมาก็รู้แล้วว่าพวกนี้มันไม่ใช่แนวเราแล้วเราก็อาจไม่ชอบหรือเรียนไม่ได้ทำให้เกรดแย่ สงผลต่างๆนาๆในอนาคตตอนศึกษามหาวิทยาลัย บลาๆๆ มาต่อกันอันนี้ชั่งมัน เราคิดว่าการที่เราให้เด็กนั้นเรียนแบบต่างประเทศที่เรียนตอนเช้าครึ่งวันครึ่งบ่ายกิจกรรมได้ปฏิบัติจริงหรือทำในสิ่งที่สนใจมันอาจจะดีกว่า ซึ่งถ้าเราทำอย่างนี้ตั้งแต่พวกเรายังเด็กเราก็จะหาสิ่งที่เราอยากจะเป็นได้ง่ายขึ้นและไวขึ้นซึ่งตรงนี้ประเทศของเราอาจทำแบบต่างประเทศไม่ได้แต่ลองถามตัวคุณดูนะทุกๆวันนี้เราเรียนเหนื่อยมั้ย ถ้าหากว่าเราไม่มีกิจการที่บ้าน ฐานะที่บ้านไม่ได้ร่ำรวยมาก แล้วเรานั้นต้องตั้งใจเรียนนะเพื่อใคร?? พ่อ แม่ คนในครอบครัว และตัวเราเพื่อให้ในอนาคตเรามีหน้าที่การงานเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ แล้วแบบตั้งใจเรียนมากกกก แล้วเรียนหนักมากกกก มันจะเครียดมั้ยอย่างวิชาในสายวิทย์-คณิตก็มี คณิตหลัก-เพิ่ม วิทย์ ฟิสิก เคมี ชีวะ ไทย อังกฤษ สังคม ประวัติศาสตร์ แล้วยังไม่รวม รร. เอกชนที่มีวิชาในภาษาอังกฤษ math sci social ไรเงี้ยเผลอๆมีสอบประจำวันในแต่ละคาบๆของวิชานั้นๆอีกวันนี้สอบฟิสิกตอนเช้า บ่ายเคมี อีกวันชีวะ ไรเงี้ย มันเยอะนะ เรียนเหนื่อยแถมหนักด้วยแต่ก็เพื่อตัวเราและคนในครอบครัวยอมเหนื่อยได้ แต่ว่านะถ้าหากเราลองจัดหลักสูตรตั้งแต่ประถมใหม่มันก็อาจจะดีขึ้นก็ได้นะให้เด็กได้เรียนบ้างเล่นบ้างพักผ่อนบ้าง ส่วนเรื่องหลังจากเลิกเรียนก็อยู่ที่ตัวครอบครัวแล้ว ซึ่งเราได้ลองไปดูเวลาต่างประเทศเขาเรียนกันเด็กทุกคนที่เขามีคุณภาพนั้นล้วนมากจากการอบรมในครอบครัวและสถาบันศึกษา(รึป่าว) เราก็เห็นเขาเรียนกันไม่เยอะแบบบ้านเราเขามีกิจกรรมให้นักเรียนพักผ่อนสมองบ้างถ้าเราแบบให้เรียนตลอดมันจะเป็นไง ลองคิดว่าสมองคือเครื่องกลเครื่องหนึ่งถ้าหากเราใช้มันมากไปมันจะเป็นยังไงก้ overheat อาจพังหรือชำรุดอะไรประมาณนั้นแต่สำหรับสมองมันจะแบบตันๆเหมือนไม่สามารถรับอะไรเข้ามาในหัวได้อีกเลยเว้ยย เข้าใจสิ่งที่เราจะบอกป่ะ คือตอนเช้าเรียนมาเหนื่อยละตอนบ่ายช่วยเวลาหลังจากกินข้าวอิ่มๆหนังท้องตึงหนังตาหย่อนอารมณ์อยากเรียนเริ่มลดน้อยลงและจะหลับได้ในเวลาไหนก็ไม่รู้ (แต่เรานี้ไม่มีอ่ะอารมณ์อยากเรียน5555555) แล้วคิดดูนะถ้าเราไม่พักผ่อนมันมั้งมันก็จะไม่สามารถรับอะไรได้เยอะๆใช่มะเผลอๆลืมที่เรียนมาตอนเช้าอีก(ซึ่งเราเป็นคนความจำสั้นด้วยไงก็ไปใหญ่เลยจ้าา) แต่ถ้าแบบเรามีเวลาผ่อนคลายบ้างไรเงี้ยช่วงเช้าเรียนใช่มะ พอพักเที่ยง เรียนอีกนิดๆหน่อยๆก็โอเคแล้วมีกิจกรรมทำตามที่เราต้องการหรือเป็นกิจกรรมไปเลยก็ได้เราไม่ว่าาาาา (ชอบเลย) อะไรเงี้ยยยก็ดีขึ้นมาหน่อยให้สมองมันพักจากการคิดมั้ง ไม่ใช่แบบยัดๆเข้าไปอัดๆๆมันเข้าไปกรูจะเข้าใจมั้ยยยยยยยยย เล่าเยอะละสรุปก็คือ....
น่าจะลองปรับเปลี่ยนรูปแบบการศึกษาสักหน่อยแบบปกติเรียน7-8คาบเงี้ยวิชาการหมดเลยก็เรียนวิชาการสัก5-6คาบแล้วกิจกรรมให้สมองมันพักมั้งงงใช่มะ แล้วก็อีกอย่างอย่าเอาแต่โทษการศึกษาอย่างเดียว(ซึ่งเราทำป่าวน้ะขอโทษก่อนละกัน T^T) ลองหันมาดูตัวเองมั้งว่าเราตั้งใจเรียนพอหรือยัง เราขี้เกียจจริงๆป่าว อะไรเงี้ยลองมองหลายๆแง่เอาแต่สำหรับเราก็ถามเพื่อนๆมามันก็บอกว่าจริงๆมันน่าจะแบบ ม.ปลายเงี้ยมีแบ่งวิชาๆเอาเลยอยากเป็นวิศวะ อยากเป็นหมอไรเงี้ยก็เอามาสิ้ครูฟิสิก เคมี ชีวะมีก็แยกเลย ใครอยากเป็นไรก็เข้าไปเรียนอันนั้นจะได้แบบไม่ต้องมาเรียนหนักหนาสาหัสแล้วสุดท้ายที่เรียนไปไม่ได้ใช้ไรเลย แต่กรณีนี้คือช่วย ป.1-6ก็เรียนหลักสูตรปกติ5-6คาบที่เหลือกิจกรรมให้เด็กๆได้ลองอะไรหลายๆอย่างพอ ม.ต้นจะได้แบบเน้นๆทางนั้นให้เด็กหน่อย ม.ปลายก็จัดแม่มเลยอยากเป้นไรก็เอาไรเงี้ย(แค่ความคิดของคนๆนึงอ่ะนะทำไม่ได้หรอกแต่ว่าประเทศอื่นก็ทำได้เราจะไม่ได้ได้ยังไงใช่มั้ย)
ก็ขอขอบคุณที่ผู้อ่านทุกๆคนที่เข้ามาอ่านและก็คนที่มาอ่านๆอ่ะถ้าโตไปแล้วทำงานด้านนี้ก็พิจารณาไว้ด้วยน้ะขอบพระคุณอย่างสูง
ในความคิดของคุณคิดว่าการศึกษาไทยเป็นยังไง มันโอเคหรือไม่?? และจริงๆแล้วการศึกษาหรือว่าเป็นเพราะตัวเราเองที่ไม่ดี
ในความคิดของเรานั้นการศึกษาไทยคิดว่าถ้าเราเรียนมากๆจะทำให้เด็กนั้นเก่งขึ้นซึ่งมันอาจจะไม่ถูกเสมอไป ลองคิดตามเราดูนะถ้าสมมุติเราเรียนวิชาที่มันไม่จำเป็นแต่เรียนวิชาหลักๆพอๆกันซึ่งมันจะทำให้เรานั้นเกิดความเครียดได้เพราะเราเรียนกัน5วัน ตั้งแต่ 8.10 น. -16.00 น. หรือไม่ก็ 8.10 น. - 15.00 น. ประมาณนี้ใช่มั้ย อย่างเช่น เราเรียนสายวิทย์-คณิต ซึ่งเราอาจอยากเป็นวิศวะ หมอ หรือพวกที่ต้องมีฟิสิก เคมี ชีวะ เข้ามาเกี่ยวข้องอันนี้เราเข้าใจที่มันจะต้องเรียนหนัก แต่ถ้าลองมาบริหารจัดแผนการเรียนให้ดี ปลูกฝังให้เด็กนั้นได้ลองทำในสิ่งที่ชอบตั้งแต่เด็กๆ มันอาจทำให้เด็กพวกนั้นรู้ตัวว่าต้องการอยากจะเป็นอะไรได้ไวกว่าในปัจจุบันนี้ อย่างเช่นเรา ตอนเราเรียน ม3 (ขอใช้แบบเป็นกันเองละกันนะ ^^) เรายังไม่รู้เลยว่าเราชอบอะไร อยากทำอะไร แล้วเราจะศึกษาต่อในสายไหนดี เราก็เลยไปเข้าสายวิทย์-คณิตที่มันมีทางเลือกมากกว่าสายศิลป์ต่างๆ ซึ่งพอเราเรียนไปเรียนมาก็รู้แล้วว่าพวกนี้มันไม่ใช่แนวเราแล้วเราก็อาจไม่ชอบหรือเรียนไม่ได้ทำให้เกรดแย่ สงผลต่างๆนาๆในอนาคตตอนศึกษามหาวิทยาลัย บลาๆๆ มาต่อกันอันนี้ชั่งมัน เราคิดว่าการที่เราให้เด็กนั้นเรียนแบบต่างประเทศที่เรียนตอนเช้าครึ่งวันครึ่งบ่ายกิจกรรมได้ปฏิบัติจริงหรือทำในสิ่งที่สนใจมันอาจจะดีกว่า ซึ่งถ้าเราทำอย่างนี้ตั้งแต่พวกเรายังเด็กเราก็จะหาสิ่งที่เราอยากจะเป็นได้ง่ายขึ้นและไวขึ้นซึ่งตรงนี้ประเทศของเราอาจทำแบบต่างประเทศไม่ได้แต่ลองถามตัวคุณดูนะทุกๆวันนี้เราเรียนเหนื่อยมั้ย ถ้าหากว่าเราไม่มีกิจการที่บ้าน ฐานะที่บ้านไม่ได้ร่ำรวยมาก แล้วเรานั้นต้องตั้งใจเรียนนะเพื่อใคร?? พ่อ แม่ คนในครอบครัว และตัวเราเพื่อให้ในอนาคตเรามีหน้าที่การงานเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ แล้วแบบตั้งใจเรียนมากกกก แล้วเรียนหนักมากกกก มันจะเครียดมั้ยอย่างวิชาในสายวิทย์-คณิตก็มี คณิตหลัก-เพิ่ม วิทย์ ฟิสิก เคมี ชีวะ ไทย อังกฤษ สังคม ประวัติศาสตร์ แล้วยังไม่รวม รร. เอกชนที่มีวิชาในภาษาอังกฤษ math sci social ไรเงี้ยเผลอๆมีสอบประจำวันในแต่ละคาบๆของวิชานั้นๆอีกวันนี้สอบฟิสิกตอนเช้า บ่ายเคมี อีกวันชีวะ ไรเงี้ย มันเยอะนะ เรียนเหนื่อยแถมหนักด้วยแต่ก็เพื่อตัวเราและคนในครอบครัวยอมเหนื่อยได้ แต่ว่านะถ้าหากเราลองจัดหลักสูตรตั้งแต่ประถมใหม่มันก็อาจจะดีขึ้นก็ได้นะให้เด็กได้เรียนบ้างเล่นบ้างพักผ่อนบ้าง ส่วนเรื่องหลังจากเลิกเรียนก็อยู่ที่ตัวครอบครัวแล้ว ซึ่งเราได้ลองไปดูเวลาต่างประเทศเขาเรียนกันเด็กทุกคนที่เขามีคุณภาพนั้นล้วนมากจากการอบรมในครอบครัวและสถาบันศึกษา(รึป่าว) เราก็เห็นเขาเรียนกันไม่เยอะแบบบ้านเราเขามีกิจกรรมให้นักเรียนพักผ่อนสมองบ้างถ้าเราแบบให้เรียนตลอดมันจะเป็นไง ลองคิดว่าสมองคือเครื่องกลเครื่องหนึ่งถ้าหากเราใช้มันมากไปมันจะเป็นยังไงก้ overheat อาจพังหรือชำรุดอะไรประมาณนั้นแต่สำหรับสมองมันจะแบบตันๆเหมือนไม่สามารถรับอะไรเข้ามาในหัวได้อีกเลยเว้ยย เข้าใจสิ่งที่เราจะบอกป่ะ คือตอนเช้าเรียนมาเหนื่อยละตอนบ่ายช่วยเวลาหลังจากกินข้าวอิ่มๆหนังท้องตึงหนังตาหย่อนอารมณ์อยากเรียนเริ่มลดน้อยลงและจะหลับได้ในเวลาไหนก็ไม่รู้ (แต่เรานี้ไม่มีอ่ะอารมณ์อยากเรียน5555555) แล้วคิดดูนะถ้าเราไม่พักผ่อนมันมั้งมันก็จะไม่สามารถรับอะไรได้เยอะๆใช่มะเผลอๆลืมที่เรียนมาตอนเช้าอีก(ซึ่งเราเป็นคนความจำสั้นด้วยไงก็ไปใหญ่เลยจ้าา) แต่ถ้าแบบเรามีเวลาผ่อนคลายบ้างไรเงี้ยช่วงเช้าเรียนใช่มะ พอพักเที่ยง เรียนอีกนิดๆหน่อยๆก็โอเคแล้วมีกิจกรรมทำตามที่เราต้องการหรือเป็นกิจกรรมไปเลยก็ได้เราไม่ว่าาาาา (ชอบเลย) อะไรเงี้ยยยก็ดีขึ้นมาหน่อยให้สมองมันพักจากการคิดมั้ง ไม่ใช่แบบยัดๆเข้าไปอัดๆๆมันเข้าไปกรูจะเข้าใจมั้ยยยยยยยยย เล่าเยอะละสรุปก็คือ....
น่าจะลองปรับเปลี่ยนรูปแบบการศึกษาสักหน่อยแบบปกติเรียน7-8คาบเงี้ยวิชาการหมดเลยก็เรียนวิชาการสัก5-6คาบแล้วกิจกรรมให้สมองมันพักมั้งงงใช่มะ แล้วก็อีกอย่างอย่าเอาแต่โทษการศึกษาอย่างเดียว(ซึ่งเราทำป่าวน้ะขอโทษก่อนละกัน T^T) ลองหันมาดูตัวเองมั้งว่าเราตั้งใจเรียนพอหรือยัง เราขี้เกียจจริงๆป่าว อะไรเงี้ยลองมองหลายๆแง่เอาแต่สำหรับเราก็ถามเพื่อนๆมามันก็บอกว่าจริงๆมันน่าจะแบบ ม.ปลายเงี้ยมีแบ่งวิชาๆเอาเลยอยากเป็นวิศวะ อยากเป็นหมอไรเงี้ยก็เอามาสิ้ครูฟิสิก เคมี ชีวะมีก็แยกเลย ใครอยากเป็นไรก็เข้าไปเรียนอันนั้นจะได้แบบไม่ต้องมาเรียนหนักหนาสาหัสแล้วสุดท้ายที่เรียนไปไม่ได้ใช้ไรเลย แต่กรณีนี้คือช่วย ป.1-6ก็เรียนหลักสูตรปกติ5-6คาบที่เหลือกิจกรรมให้เด็กๆได้ลองอะไรหลายๆอย่างพอ ม.ต้นจะได้แบบเน้นๆทางนั้นให้เด็กหน่อย ม.ปลายก็จัดแม่มเลยอยากเป้นไรก็เอาไรเงี้ย(แค่ความคิดของคนๆนึงอ่ะนะทำไม่ได้หรอกแต่ว่าประเทศอื่นก็ทำได้เราจะไม่ได้ได้ยังไงใช่มั้ย)