หลังจากส่องกระทู้มานานนับปีในที่สุดก็ถึงคราวที่หมีไทยอย่างพี่จะลุกขึ้นมาเขียนกระทู้กับเขาบ้างแล้ว! ออกตัวก่อนว่าการตั้งกระทู้ท่องเที่ยวเป็นมิชชั่นของหมีไทยในปีนี้ นี่ก็ใกล้จะหมดปีขอสักทีก็แล้วกัน
หนนี้มีโอกาสได้ไปเที่ยวโอมานแบบตั้งใจก็ดีไม่ตั้งใจก็ดี จริงๆ หมีได้ยินชื่อประเทศนี้มาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วแต่ยังไม่นึกว่าจะไป จนวันหนึ่งเพื่อนรุ่นพี่ที่เคารพและหมีชอบติดสอยห้อยตามไปเป็นตัวแถมอยู่เสมอๆ มาชวน
เจ้ : ไปโอมานกันมั้ย แอร์เอเชียมีตั๋วถูกไปกลับ 7 พัน
หมี : หนูยังไม่แน่ใจนะคะพอดีมีทริปช่วงนั้นแล้ว ขอเวลาคิดแพพนะคะเจ้
หลังจากบทสนทนาสั้นๆ จบลงหมีไทยอย่างพี่เลยไปหาข้อมูลประเทศโอมานทันที อยากจะบอกว่าคำว่าตั๋วถูกนี่คือการสะกดจิตดีๆ นี่เอง หลัง
จากส่องทู้เสร็จก็ทำให้รู้ว่า แม่เจ้า!!! โอมานน่าเที่ยวมาก ทะเลทรายที่หมีใฝ่ฝัน อูฐ โอเอซิส...หมีควรต้องไปตามหาชารีฟ
ชารีฟจ๋า....มิเชลอยู่นี่...(เจ้บอกว่าหมีเป็นมิชาริน ม่ายจริงนะ!)
ตอนแรกเลยเราตั้งใจว่าจะเดินทางกันวันที่ 19-22 พ.ย. ตะ...แต่...หางแดงยกเลิกวันเดินทางกลับซึ่งเป็นวันอังคารทั้งหมด...หมีเสียไต เอ๊ย ใจมากกกกก เลยปรึกษากับเจ้ใหม่
หมี : เจ้เอาไงดีคะ อยู่ต่อหรือยกเลิก
เจ้: เอาไงกันดี แต่ราคานี้ไม่ได้หากันง่ายๆ นะ เราไปกันสามวันมั้ย แต่คงต้องเลือกว่าจะเที่ยวในเมืองหรือนอกเมือง
หมี: เจ้คะ ถ้าหนูไม่ได้ไปดูโอเอซิสกับทะเลดาวหนูไม่อยากไปค่ะ เพราะมัสยิดสวยๆ หนูเคยดูมาจากที่อื่นแล้ว (ม่ายนะหมีจะไปหาชารีฟ)
เจ้ :โอเคงั้นเราไปกัน
บทสนทนานี้จึงเป็นที่มาของ 72 ชั่วโมงในโอมาน เอาเข้าจริงๆ ไม่ถึงด้วยซ้ำเพราะเราบินไปถึงค่ำแล้ววันนั้นแค่นอนเฉยๆ ถึงเราจะมีเวลาน้อยแต่เราก็ไม่ได้ไปแบบชะโงกทัวร์แน่นอน!!
เปลี่ยนตั๋วได้ กายพร้อม ใจพร้อม หมีไปได้ เดี๋ยวนะไม่ใช่แระ หมียังต้อมีเรื่องจัดการอีกหลายอย่าง ยกเลิกโปรแกรมทัวร์ที่จองไว้แล้วจองใหม่ ทัวร์เจ้าเดิมที่เปลี่ยนไปคือไกด์ฮะ และเรื่องโรงแรมถือว่าโชคดีมากที่จองไว้แต่ยังไม่ถึงวันจ่ายเงิน เลยยกเลิกได้สบายๆ แบบไม่ต้องรอเงินคืนแบบวนไปค่ะ
จัดการทุกอย่างเสร็จนับถอยหลังรอเที่ยวทันที!! (ใช่หราได้ข่าวว่านางทำงานหัวหมุนนะและสุดท้ายก็เทงานแล้วเที่ยวก่อนจะกลับมาทำใหม่)
ในที่สุดก็ถึงวันเดินทาง วันที่หมีรอคอย แต่ดูเหมือนอะไรจะไม่ได้มาง่ายๆ ซะแว้ววววว ทำไมหมีถึงไม่คิดนะว่ามีอุปสรรคที่หนึ่งแล้ว เราควรต้องคิดว่าอาจจะมีอะไรอีก หมีคิดไว้อยู่แล้วว่าถ้าไปโอมานคงต้องเตรียมเอกสารทุกอย่างไปให้พร้อมทั้งบุกกิ้งโรงแรม โปรแกรมทัวร์(หมีให้ทางบริษัททัวร์ทำเอกสารยืนยันให้) รวมถึงแลกเงินไปให้เพียงพอ(เพราะถ้าไปแลกที่นู้นแพงมาก แอบเห็นว่า 101 บาทต่อ1เรียลโอมาน หมีแลกจาก Value plus มาได้92.40 ต่อ1 เรียลโอมาน)
วันที่หมีไปนั้นหมีทำทำเว็บเช็กอินไปเรียบร้อยเพราะไม่ได้โหลดกระเป๋า ร่วมถึงพี่ร่วมเดินทางอีกสองคน เมื่อ Gate เปิดเราก็เดินเข้าไปด้านในเพื่อรอขึ้นเครื่อง แต่เจ้าหน้าที่ขอตรวจเอกสารก่อน เจ้าหน้าที่บอกกับหมีว่า เราต้องจองโรงแรมสี่ดาวขึ้นไป อ้าวววว...ไม่เหมือนกับที่คิดไว้นี่หว่า
งานเข้าแล้วมั้ยล่ะ เจ้ของหมีเลยบอกคุยกับเจ้าหน้าที่ว่าทำไมทางสายการบินจึงไม่แจ้งตอนจองหรือตอนทำเว็บเช็กอิน แล้วเราจะรู้ได้ยังไง เจ้าหน้าที่ให้คำตอบว่าทางโอมานยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการจึงให้ทางสายการบินช่วยตรวจเช็กให้หน่อย เนื่องจากเราไปกันแต่หญิงหญิง เขากลัวว่าเราจะลักลอบไปทำงาน
หมีอยากจะบอกว่าดูหน้าหมีด้วย...หมีไม่ใช่ target
ดังนั้นถ้าเพื่อนๆ ที่จะไปเที่ยวช่วงนี้ จองโรงแรมสี่ดาวขึ้นไปนะคะ แล้วเตรียมเอกสารการเดินทางให้พร้อมบวกกับเงินที่ใช้จ่ายครอบคลุมตลอดทริป เขาบอกว่าบัตรเครดิตไม่นับนะจ๊ะ มีงี้ด้วยหมีงง...
เราใช้เวลาเดินทางจากพระนครไปมัสกัตห้าชั่วโมงกว่าๆ และเวลาที่นู้นช้ากว่าเมืองไทยสามชั่วโมงค่ะ ในที่สุดหมีและผองเพื่อนก็ถึงโอมาน...
ค่าทำวีซ่าอยู่ไม่เกิน 10 วัน 5 เรียล เราแค่เดินไปสแกนนิ้วชี้ทั้งสองนิ้วจากนั้นก็กลับมาจ่ายเงินค่าวีซ่าเสร็จก็ไปต่อแถวให้พ่อหนุ่มตม.ตรวจเลยฮะ
ขอบอกว่าตอนระหว่างรอตรวจนั้นก็แอบกลัวเหมือนกันเพราะหมีเป็นโรคถูกกับตม.มาหลายที่แล้ว ถูกที่ว่าคือถูกตม.เรียกตลอดๆ ทำไมนะหมีไม่เข้าใจ พอถึงคิวหมีก็เดินเข้าไปสวยๆ รอให้ตม.ปั้มพาสปอร์ตและผ่านเข้าไป ตอนนั้นคิดว่าโอ...หมีผ่านแล้ว
แต่หมีคงชะล่าใจเกินไปดังคำที่บอกว่าสงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร เกี่ยวกันมั้ย??? หมีเดินผ่านตม.ด้วยรอยยิ้มสยาม เดินมาถึงที่สแกนกระเป๋าสวยๆ ตามเดิม จากนั้นเห็นพ่อหนุ่มตม.หมีจึงส่งยิ้มสยามไปให้ ได้เรื่องเลยจร้า ตม.กวักมือเรียกหมีเมื่อกระเป๋าเป้ออกมาจากเครื่องสแกน
ฮีขอดูพาสปอร์ตคร่า หมีเลยคิดว่าอีกแล้วเหรอ (เอ๊ะ เหมือนชิน)
customs : มาทำงานเหรอ
หมี : เปล่าค่ะมาเที่ยว
customs : (มองพาสปอร์ตเปิดอยู่หลายหน้า) มาทำงานเหรอ
หมี : มาเที่ยวค่ะ (ยืนยันคำเดิมด้วยใจบริสุทธิ์)
คราวนี้พอหนุ่มเรียกแล้วให้เราเข้าไปในห้องตรวจที่มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงทำงานอยู่ จากนั้นเราก็โดนเปิดกระเป๋าตามสเตปโดยไม่รู้สึกทุกข์ร้อน เพราะเจ้าหน้าที่น่ารักและไม่ดุค่ะ ถามหมีเรื่อยๆ เราก็เต็มใจตอบ เอาที่สบายใจเลยจร้า พอตรวจเสร็จก็เดินออกมา จะบอกว่าพี่ที่ไปด้วยกันและรอหมีก็โดนด้วย
งานนี้หมีเลยโดนว่าว่ามีของ!! จริงหรา หมีแค่โดนเข้าห้องเย็นมาหลายหนแล้วเท่านั้นเอง หมีไม่ใช่ target นะจ๊ะ
พวกเรานั่งแท็กซี่จากสนามบินไปที่พักค่ะ เป็นแบบมิสเตอร์เริ่มที่ 6 เรียล เท่านั้นเอ๊ง ราคาเบาๆ (ตัวเรานะที่เบา) กว่าจะถึงโรงแรมตัวเลขขึ้นไปที่ 9 เรียล แต่มีตัวหารค่อยยังชั่ว คืนนั้นกว่าจะถึงโรงแรมก็ราวๆ สามทุ่มกว่าพวกเราต่างแยกย้ายไปนอนพร้อมออกเดินทางในวันพรุ่งนี้
อาหารมื้อแรกในโอมาน
เรานัดไกด์ไว้ตอน 7 โมงเช้า...
ภาพถ่ายหน้าโรงแรมระหว่างรอมิสเตอร์อับดุล
พวกเราตื่นและลงมารอในที่สุดไกด์เราก็มาถึง ภาพจินตนาการของหมีคือไกด์ต้องใส่ชุดสีขาวๆ ที่ยาวกร่อมเท้าแน่เลย รู้ใช่มั้ยคะว่าความจริงกับความฝันต่างกันเสมอ แน่นอนค่ะ! ไกด์ของเราสวมเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นพร้อมกับแว่นตาดำ (ฝันละลายไปในพริบตา)
รถพร้อม คนพร้อม ล้อหมุน ที่แรกที่มิสเตอร์อับดุลไกด์ของเราพาไปก็คือ Wadi bani khaked ขับรถมาได้สักพักมิสเตอร์อับดุลก็ขับเข้ามาจอดในปั้มน้ำมัน ซึ่งมีร้านขายอาหารเช้าอยู่ เราตกลงกันว่าจะสั่งและกินกันบนรถค่ะ มื้อแรกที่โอมานของหมีจึงเป็นแฮมเบอร์เกอร์กับ Pepsi โปรดอย่าตกใจเลยค่ะ เพราะไกด์เขาตกใจไปแล้ว หมีติดน้ำอัดลมฮะ กินได้ตั้งแต่มื้อเช้าเลย ขอบอกว่าแฮมเบอร์เกอร์ที่นี่สอดไส้เฟร์นฟรายด้วยนะคะ อร่อยถูกใจหมี
เรานั่งรถราวๆ สองถึงสามชั่วโมงก็ถึงค่ะ เวลาผ่านไปไวอย่างกับโกหก อาจจะเพราะมองสองข้างทางก็เป็นได้ ระหว่างทางเราก็คุยกับมิสเตอร์อับดุลบ้าง เช่นว่าที่โอมานมีประชากรแค่สามล้านคน น้อยกว่าพระนครแค่เมืองเดียวเสียอีก และงานไกด์นั้นเป็นพาร์ทไทม์จ็อบของฮีจร้า ปกติแล้วนั้นฮีเป็นวิศวะกร!!! ผิดคาดมากมาย

ระหว่างทาง
อาหารเช้าจร้าาาพร้อมเป๊ปซี่ ดีที่สุด
เมื่อมาถึงเราจอดรถไว้ด้านนอกแล้วเดินต่อไปราวๆ ห้าถึงสิบนาทีก็ได้พบกับโอเอซิส ขอบอกว่าสวยมากกกกกค่ะ น้ำเป็นสีเขียวมรกตใสจนเห็นสาหร่ายใต้น้ำเลย คนนิยมไปเล่นน้ำกันเยอะมากค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นหนุ่มๆ ทั้งนั้นสาวๆ ไม่ค่อยเห็น วันที่หมีไปถือว่าคนไม่เยอะและอากาศกำลังดี สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นอินทผาลัม ความรู้สึกแปลกใหม่และตื่นตาตื่นใจจึงเกิดขึ้นก็บ้านเราไม่มีอะเนอะ
ทางเดินเข้า
หลังจากชื่นชมความงามกันเต็มอิ่มแล้ว เราจึงเดินทางต่อไปดู Hot natural spring กันค่ะ ที่นี่ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจมากนักอาจจะเพราะเป็นจุดเล็กๆ แต่น้ำสีสวยเหมือนเดิม อยากรู้จริงน้ำที่นี่เป็นสีเขียวมรกตหมดเลยรึไงนะ
เด็กน้อยกำลังว่ายน้ำหมีเลยคิดว่าไม่น่าจะ Hot นะ
จากจุดนี้เราก็ขับรถไปหาข้าวกลางวันกินกัน มิสเตอร์อับดุลพาเราไปยังร้านอาหารอินเดีย แน่แล้วค่ะอ่านไม่ผิดหรอก ร้านอาหารอินเดีย ตอนแรกหมีก็สงสัยว่าทำไมถึงพามากินร้านอาหารอินเดีย มาโอมานทำไมถึงไม่ได้กินอาหารพื้นเมือง และแล้วเราก็ได้คำตอบว่าคนอินเดียมาทำงานที่นี่เยอะร้านอาหารอินเดียจึงเยอะตาม
ร้านที่มิสเตอร์อับดุลพาเรามากิน หมีคิดว่าคงเหมือนบ้านเราที่ไกด์จะมีร้านประจำพาลูกทัวร์มากินนะคะ เพราะตอนเข้ามาหมีเห็นนักท่องเที่ยวนั่งอยู่ด้วย ห้องที่เราได้เป็นห้องส่วนตัวถือว่าโอเคเลยค่ะมีความเป็นส่วนตัวดี มื้อนั้นหมีสั่ง Briyani chicken ค่ะ รสชาติถือว่าอร่อยเลยล่ะค่ะ ใครที่สามารถกินอาหารอินเดียได้ถ้าไปเที่ยวถือว่าสบายมากหายห่วง แต่เครื่องเทศที่โอมานจะฉุนน้อยกว่าของอินเดียนะคะ รสชาติถูกปากหมีมาก
ลืมบอกไปค่ะ ค่าทัวร์สองวันหนึ่งคืนของเราสามคนคือ 225 เรียล นะคะ ตกคนละ75 เรียล ค่าทริปขึ้นอยู่กับจำนวนคนค่ะ
กำลังอยากกินอาหารอินเดียอยู่พอดีแต่ข้าวแอบแข็งไปนิดค่ะ
72 ชั่วโมงในโอมาน โอเอซิส อูฐ ทะเลทราย...และดวงดาวบนท้องฟ้า
หนนี้มีโอกาสได้ไปเที่ยวโอมานแบบตั้งใจก็ดีไม่ตั้งใจก็ดี จริงๆ หมีได้ยินชื่อประเทศนี้มาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วแต่ยังไม่นึกว่าจะไป จนวันหนึ่งเพื่อนรุ่นพี่ที่เคารพและหมีชอบติดสอยห้อยตามไปเป็นตัวแถมอยู่เสมอๆ มาชวน
เจ้ : ไปโอมานกันมั้ย แอร์เอเชียมีตั๋วถูกไปกลับ 7 พัน
หมี : หนูยังไม่แน่ใจนะคะพอดีมีทริปช่วงนั้นแล้ว ขอเวลาคิดแพพนะคะเจ้
หลังจากบทสนทนาสั้นๆ จบลงหมีไทยอย่างพี่เลยไปหาข้อมูลประเทศโอมานทันที อยากจะบอกว่าคำว่าตั๋วถูกนี่คือการสะกดจิตดีๆ นี่เอง หลัง
จากส่องทู้เสร็จก็ทำให้รู้ว่า แม่เจ้า!!! โอมานน่าเที่ยวมาก ทะเลทรายที่หมีใฝ่ฝัน อูฐ โอเอซิส...หมีควรต้องไปตามหาชารีฟ
ชารีฟจ๋า....มิเชลอยู่นี่...(เจ้บอกว่าหมีเป็นมิชาริน ม่ายจริงนะ!)
ตอนแรกเลยเราตั้งใจว่าจะเดินทางกันวันที่ 19-22 พ.ย. ตะ...แต่...หางแดงยกเลิกวันเดินทางกลับซึ่งเป็นวันอังคารทั้งหมด...หมีเสียไต เอ๊ย ใจมากกกกก เลยปรึกษากับเจ้ใหม่
หมี : เจ้เอาไงดีคะ อยู่ต่อหรือยกเลิก
เจ้: เอาไงกันดี แต่ราคานี้ไม่ได้หากันง่ายๆ นะ เราไปกันสามวันมั้ย แต่คงต้องเลือกว่าจะเที่ยวในเมืองหรือนอกเมือง
หมี: เจ้คะ ถ้าหนูไม่ได้ไปดูโอเอซิสกับทะเลดาวหนูไม่อยากไปค่ะ เพราะมัสยิดสวยๆ หนูเคยดูมาจากที่อื่นแล้ว (ม่ายนะหมีจะไปหาชารีฟ)
เจ้ :โอเคงั้นเราไปกัน
บทสนทนานี้จึงเป็นที่มาของ 72 ชั่วโมงในโอมาน เอาเข้าจริงๆ ไม่ถึงด้วยซ้ำเพราะเราบินไปถึงค่ำแล้ววันนั้นแค่นอนเฉยๆ ถึงเราจะมีเวลาน้อยแต่เราก็ไม่ได้ไปแบบชะโงกทัวร์แน่นอน!!
เปลี่ยนตั๋วได้ กายพร้อม ใจพร้อม หมีไปได้ เดี๋ยวนะไม่ใช่แระ หมียังต้อมีเรื่องจัดการอีกหลายอย่าง ยกเลิกโปรแกรมทัวร์ที่จองไว้แล้วจองใหม่ ทัวร์เจ้าเดิมที่เปลี่ยนไปคือไกด์ฮะ และเรื่องโรงแรมถือว่าโชคดีมากที่จองไว้แต่ยังไม่ถึงวันจ่ายเงิน เลยยกเลิกได้สบายๆ แบบไม่ต้องรอเงินคืนแบบวนไปค่ะ
จัดการทุกอย่างเสร็จนับถอยหลังรอเที่ยวทันที!! (ใช่หราได้ข่าวว่านางทำงานหัวหมุนนะและสุดท้ายก็เทงานแล้วเที่ยวก่อนจะกลับมาทำใหม่)
ในที่สุดก็ถึงวันเดินทาง วันที่หมีรอคอย แต่ดูเหมือนอะไรจะไม่ได้มาง่ายๆ ซะแว้ววววว ทำไมหมีถึงไม่คิดนะว่ามีอุปสรรคที่หนึ่งแล้ว เราควรต้องคิดว่าอาจจะมีอะไรอีก หมีคิดไว้อยู่แล้วว่าถ้าไปโอมานคงต้องเตรียมเอกสารทุกอย่างไปให้พร้อมทั้งบุกกิ้งโรงแรม โปรแกรมทัวร์(หมีให้ทางบริษัททัวร์ทำเอกสารยืนยันให้) รวมถึงแลกเงินไปให้เพียงพอ(เพราะถ้าไปแลกที่นู้นแพงมาก แอบเห็นว่า 101 บาทต่อ1เรียลโอมาน หมีแลกจาก Value plus มาได้92.40 ต่อ1 เรียลโอมาน)
วันที่หมีไปนั้นหมีทำทำเว็บเช็กอินไปเรียบร้อยเพราะไม่ได้โหลดกระเป๋า ร่วมถึงพี่ร่วมเดินทางอีกสองคน เมื่อ Gate เปิดเราก็เดินเข้าไปด้านในเพื่อรอขึ้นเครื่อง แต่เจ้าหน้าที่ขอตรวจเอกสารก่อน เจ้าหน้าที่บอกกับหมีว่า เราต้องจองโรงแรมสี่ดาวขึ้นไป อ้าวววว...ไม่เหมือนกับที่คิดไว้นี่หว่า
งานเข้าแล้วมั้ยล่ะ เจ้ของหมีเลยบอกคุยกับเจ้าหน้าที่ว่าทำไมทางสายการบินจึงไม่แจ้งตอนจองหรือตอนทำเว็บเช็กอิน แล้วเราจะรู้ได้ยังไง เจ้าหน้าที่ให้คำตอบว่าทางโอมานยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการจึงให้ทางสายการบินช่วยตรวจเช็กให้หน่อย เนื่องจากเราไปกันแต่หญิงหญิง เขากลัวว่าเราจะลักลอบไปทำงาน
หมีอยากจะบอกว่าดูหน้าหมีด้วย...หมีไม่ใช่ target
ดังนั้นถ้าเพื่อนๆ ที่จะไปเที่ยวช่วงนี้ จองโรงแรมสี่ดาวขึ้นไปนะคะ แล้วเตรียมเอกสารการเดินทางให้พร้อมบวกกับเงินที่ใช้จ่ายครอบคลุมตลอดทริป เขาบอกว่าบัตรเครดิตไม่นับนะจ๊ะ มีงี้ด้วยหมีงง...
เราใช้เวลาเดินทางจากพระนครไปมัสกัตห้าชั่วโมงกว่าๆ และเวลาที่นู้นช้ากว่าเมืองไทยสามชั่วโมงค่ะ ในที่สุดหมีและผองเพื่อนก็ถึงโอมาน...
ค่าทำวีซ่าอยู่ไม่เกิน 10 วัน 5 เรียล เราแค่เดินไปสแกนนิ้วชี้ทั้งสองนิ้วจากนั้นก็กลับมาจ่ายเงินค่าวีซ่าเสร็จก็ไปต่อแถวให้พ่อหนุ่มตม.ตรวจเลยฮะ
ขอบอกว่าตอนระหว่างรอตรวจนั้นก็แอบกลัวเหมือนกันเพราะหมีเป็นโรคถูกกับตม.มาหลายที่แล้ว ถูกที่ว่าคือถูกตม.เรียกตลอดๆ ทำไมนะหมีไม่เข้าใจ พอถึงคิวหมีก็เดินเข้าไปสวยๆ รอให้ตม.ปั้มพาสปอร์ตและผ่านเข้าไป ตอนนั้นคิดว่าโอ...หมีผ่านแล้ว
แต่หมีคงชะล่าใจเกินไปดังคำที่บอกว่าสงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร เกี่ยวกันมั้ย??? หมีเดินผ่านตม.ด้วยรอยยิ้มสยาม เดินมาถึงที่สแกนกระเป๋าสวยๆ ตามเดิม จากนั้นเห็นพ่อหนุ่มตม.หมีจึงส่งยิ้มสยามไปให้ ได้เรื่องเลยจร้า ตม.กวักมือเรียกหมีเมื่อกระเป๋าเป้ออกมาจากเครื่องสแกน
ฮีขอดูพาสปอร์ตคร่า หมีเลยคิดว่าอีกแล้วเหรอ (เอ๊ะ เหมือนชิน)
customs : มาทำงานเหรอ
หมี : เปล่าค่ะมาเที่ยว
customs : (มองพาสปอร์ตเปิดอยู่หลายหน้า) มาทำงานเหรอ
หมี : มาเที่ยวค่ะ (ยืนยันคำเดิมด้วยใจบริสุทธิ์)
คราวนี้พอหนุ่มเรียกแล้วให้เราเข้าไปในห้องตรวจที่มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงทำงานอยู่ จากนั้นเราก็โดนเปิดกระเป๋าตามสเตปโดยไม่รู้สึกทุกข์ร้อน เพราะเจ้าหน้าที่น่ารักและไม่ดุค่ะ ถามหมีเรื่อยๆ เราก็เต็มใจตอบ เอาที่สบายใจเลยจร้า พอตรวจเสร็จก็เดินออกมา จะบอกว่าพี่ที่ไปด้วยกันและรอหมีก็โดนด้วย
งานนี้หมีเลยโดนว่าว่ามีของ!! จริงหรา หมีแค่โดนเข้าห้องเย็นมาหลายหนแล้วเท่านั้นเอง หมีไม่ใช่ target นะจ๊ะ
พวกเรานั่งแท็กซี่จากสนามบินไปที่พักค่ะ เป็นแบบมิสเตอร์เริ่มที่ 6 เรียล เท่านั้นเอ๊ง ราคาเบาๆ (ตัวเรานะที่เบา) กว่าจะถึงโรงแรมตัวเลขขึ้นไปที่ 9 เรียล แต่มีตัวหารค่อยยังชั่ว คืนนั้นกว่าจะถึงโรงแรมก็ราวๆ สามทุ่มกว่าพวกเราต่างแยกย้ายไปนอนพร้อมออกเดินทางในวันพรุ่งนี้
อาหารมื้อแรกในโอมาน
เรานัดไกด์ไว้ตอน 7 โมงเช้า...
ภาพถ่ายหน้าโรงแรมระหว่างรอมิสเตอร์อับดุล
พวกเราตื่นและลงมารอในที่สุดไกด์เราก็มาถึง ภาพจินตนาการของหมีคือไกด์ต้องใส่ชุดสีขาวๆ ที่ยาวกร่อมเท้าแน่เลย รู้ใช่มั้ยคะว่าความจริงกับความฝันต่างกันเสมอ แน่นอนค่ะ! ไกด์ของเราสวมเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นพร้อมกับแว่นตาดำ (ฝันละลายไปในพริบตา)
รถพร้อม คนพร้อม ล้อหมุน ที่แรกที่มิสเตอร์อับดุลไกด์ของเราพาไปก็คือ Wadi bani khaked ขับรถมาได้สักพักมิสเตอร์อับดุลก็ขับเข้ามาจอดในปั้มน้ำมัน ซึ่งมีร้านขายอาหารเช้าอยู่ เราตกลงกันว่าจะสั่งและกินกันบนรถค่ะ มื้อแรกที่โอมานของหมีจึงเป็นแฮมเบอร์เกอร์กับ Pepsi โปรดอย่าตกใจเลยค่ะ เพราะไกด์เขาตกใจไปแล้ว หมีติดน้ำอัดลมฮะ กินได้ตั้งแต่มื้อเช้าเลย ขอบอกว่าแฮมเบอร์เกอร์ที่นี่สอดไส้เฟร์นฟรายด้วยนะคะ อร่อยถูกใจหมี
เรานั่งรถราวๆ สองถึงสามชั่วโมงก็ถึงค่ะ เวลาผ่านไปไวอย่างกับโกหก อาจจะเพราะมองสองข้างทางก็เป็นได้ ระหว่างทางเราก็คุยกับมิสเตอร์อับดุลบ้าง เช่นว่าที่โอมานมีประชากรแค่สามล้านคน น้อยกว่าพระนครแค่เมืองเดียวเสียอีก และงานไกด์นั้นเป็นพาร์ทไทม์จ็อบของฮีจร้า ปกติแล้วนั้นฮีเป็นวิศวะกร!!! ผิดคาดมากมาย
ระหว่างทาง
อาหารเช้าจร้าาาพร้อมเป๊ปซี่ ดีที่สุด
เมื่อมาถึงเราจอดรถไว้ด้านนอกแล้วเดินต่อไปราวๆ ห้าถึงสิบนาทีก็ได้พบกับโอเอซิส ขอบอกว่าสวยมากกกกกค่ะ น้ำเป็นสีเขียวมรกตใสจนเห็นสาหร่ายใต้น้ำเลย คนนิยมไปเล่นน้ำกันเยอะมากค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นหนุ่มๆ ทั้งนั้นสาวๆ ไม่ค่อยเห็น วันที่หมีไปถือว่าคนไม่เยอะและอากาศกำลังดี สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นอินทผาลัม ความรู้สึกแปลกใหม่และตื่นตาตื่นใจจึงเกิดขึ้นก็บ้านเราไม่มีอะเนอะ
ทางเดินเข้า
หลังจากชื่นชมความงามกันเต็มอิ่มแล้ว เราจึงเดินทางต่อไปดู Hot natural spring กันค่ะ ที่นี่ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจมากนักอาจจะเพราะเป็นจุดเล็กๆ แต่น้ำสีสวยเหมือนเดิม อยากรู้จริงน้ำที่นี่เป็นสีเขียวมรกตหมดเลยรึไงนะ
เด็กน้อยกำลังว่ายน้ำหมีเลยคิดว่าไม่น่าจะ Hot นะ
จากจุดนี้เราก็ขับรถไปหาข้าวกลางวันกินกัน มิสเตอร์อับดุลพาเราไปยังร้านอาหารอินเดีย แน่แล้วค่ะอ่านไม่ผิดหรอก ร้านอาหารอินเดีย ตอนแรกหมีก็สงสัยว่าทำไมถึงพามากินร้านอาหารอินเดีย มาโอมานทำไมถึงไม่ได้กินอาหารพื้นเมือง และแล้วเราก็ได้คำตอบว่าคนอินเดียมาทำงานที่นี่เยอะร้านอาหารอินเดียจึงเยอะตาม
ร้านที่มิสเตอร์อับดุลพาเรามากิน หมีคิดว่าคงเหมือนบ้านเราที่ไกด์จะมีร้านประจำพาลูกทัวร์มากินนะคะ เพราะตอนเข้ามาหมีเห็นนักท่องเที่ยวนั่งอยู่ด้วย ห้องที่เราได้เป็นห้องส่วนตัวถือว่าโอเคเลยค่ะมีความเป็นส่วนตัวดี มื้อนั้นหมีสั่ง Briyani chicken ค่ะ รสชาติถือว่าอร่อยเลยล่ะค่ะ ใครที่สามารถกินอาหารอินเดียได้ถ้าไปเที่ยวถือว่าสบายมากหายห่วง แต่เครื่องเทศที่โอมานจะฉุนน้อยกว่าของอินเดียนะคะ รสชาติถูกปากหมีมาก
ลืมบอกไปค่ะ ค่าทัวร์สองวันหนึ่งคืนของเราสามคนคือ 225 เรียล นะคะ ตกคนละ75 เรียล ค่าทริปขึ้นอยู่กับจำนวนคนค่ะ
กำลังอยากกินอาหารอินเดียอยู่พอดีแต่ข้าวแอบแข็งไปนิดค่ะ