ศคง.ชี้ไตรมาส 3 คนร้องเรียนปัญหาการให้สินเชื่อ-เงินฝากเพิ่มขึ้น ยอดขอคำปรึกษาการปรับโครงสร้างหนี้โดยเฉพาะบัตรเครดิต-พีโลนเพิ่มขึ้น มีทั้งขอลดค่าฟีและดอกเบี้ย โอดเจ้าหน้าที่สถาบันการเงินดำเนินการล่าช้า ปัญหาภัยการเงินยังคุกคาม จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พนักงานขายผลิตภัณฑ์พ่วง
รายงานข่าวจากศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) ระบุว่า ในช่วงไตรมาส 3/2559 สถิติการให้บริการโดยรวมที่ติดต่อเข้ามาและได้บันทึกในระบบจำนวนรวม 10,269 รายการ พบว่า
1.เป็นการขอข้อมูลและคำปรึกษามากถึง 9,668 รายการ หรือ 94.02% ของยอดรวมจำนวนรายการที่บันทึกไว้ ซึ่งส่วนใหญ่จะขอคำปรึกษาเกี่ยวกับบริการทางการเงินโดยเฉพาะการสอบถามด้านสินเชื่อ เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ ยอดหนี้ไม่ตรงกันตามด้วย
2.การร้องเรียนมีจำนวน 432 รายการ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับบริการทางการเงินของสถาบันการเงิน โดยเฉพาะเรื่องการดำเนินการล่าช้า และวิธีการคำนวณเงินต้น ยอดหนี้
3.อื่น ๆ ได้แก่ การให้ข้อเสนอแนะแก่ ธปท. 75 รายการ ซึ่งส่วนใหญ่เสนอให้ลดค่าธรรมเนียม (ค่าฟี) ของสถาบันการเงิน และการแจ้งเบาะแส 33 รายการที่เกี่ยวกับภัยทางการเงิน โดยเฉพาะการหลอกลวงทางโทรศัพท์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พฤติกรรมพนักงานในการเสนอขายผลิตภัณฑ์และให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ไม่ถูกต้อง
และ 4.การขอความอนุเคราะห์จากผู้ให้บริการทางการเงิน 61 รายการ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยเฉพาะหนี้ที่เกิดจากสินเชื่อส่วนบุคคล (พีโลน) และบัตรเครดิต รองลงมาคือการขอลดยกเว้นค่าฟี ดอกเบี้ย ฯลฯ
ศคง.ยังระบุในรายละเอียดที่เกิดขึ้นในไตรมาส 3/2559 ว่า จำนวนการร้องเรียนด้านเงินให้สินเชื่อ 170 รายการ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าจำนวน 18 รายการ และถือเป็นไตรมาสที่สูงสุดในรอบ 5 ไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องร้องเรียน 3 อันดับแรก คือ เงินต้นและยอดหนี้ไม่ถูกต้อง, ค่าฟีหรือดอกเบี้ย โดยเฉพาะการเก็บค่าฟีไม่เป็นธรรมของบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล และสาม เจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการหรือทำล่าช้าในเรื่องที่ลูกค้ามีการร้องขอ
ขณะที่เรื่องร้องเรียนด้านเงินฝากและตั๋วเงิน128รายการ เพิ่มขึ้นราว 41 รายการจากไตรมาส 2/2559 ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเป็นปัญหาการฝากถอน/โอนเงิน โดยเฉพาะการทำธุรกรรมผ่านตู้เอทีเอ็มหรือตู้ฝากเงินสดอัตโนมัติ เช่น ถอนเงินแล้วไม่ได้รับเงิน หรือได้ไม่ครบถ้วน และปัญหาการอายัด/หักบัญชีเงินฝากเพื่อชำระหนี้โดยไม่แจ้งเจ้าของบัญชีทราบล่วงหน้า
อย่างไรก็ตาม ด้านการร้องเรียนเรื่อง Cross Sell มี 23 รายการ ลดลงจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ซึ่งหลัก ๆ จะเป็นการบังคับซื้อประกันร่วมกับสินเชื่อ ที่มีจำนวนร้องเรียนเพิ่มขึ้น แต่การบังคับซื้อประกันร่วมกับเงินฝาก มีจำนวนร้องเรียนลดลง หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เรียกประชุมสถาบันการเงินดังกล่าวเพื่อสื่อสารให้เข้าใจประเด็นบังคับขาย
นอกจากนี้ยังมีเรื่องการร้องเรียนด้านพฤติกรรมเจ้าหน้าที่สถาบันการเงิน(รวมเจ้าหน้าที่Outsource) มีจำนวน 16 รายการ แต่การร้องเรียนลดลง โดยหลัก ๆ จะร้องเรียนการถูกหลอกให้ซื้อกองทุนโดยพนักงานไม่ได้มีการซื้อให้จริง ถูกเรียกค่าดำเนินการพิเศษในการขออนุมัติสินเชื่อ
JJNY : เศรษฐกิจดี๊ดี....Q3 ยอดร้องเรียนปัญหาสินเชื่อบัตรเครดิต-พีโลนพุ่ง
รายงานข่าวจากศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) ระบุว่า ในช่วงไตรมาส 3/2559 สถิติการให้บริการโดยรวมที่ติดต่อเข้ามาและได้บันทึกในระบบจำนวนรวม 10,269 รายการ พบว่า
1.เป็นการขอข้อมูลและคำปรึกษามากถึง 9,668 รายการ หรือ 94.02% ของยอดรวมจำนวนรายการที่บันทึกไว้ ซึ่งส่วนใหญ่จะขอคำปรึกษาเกี่ยวกับบริการทางการเงินโดยเฉพาะการสอบถามด้านสินเชื่อ เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ ยอดหนี้ไม่ตรงกันตามด้วย
2.การร้องเรียนมีจำนวน 432 รายการ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับบริการทางการเงินของสถาบันการเงิน โดยเฉพาะเรื่องการดำเนินการล่าช้า และวิธีการคำนวณเงินต้น ยอดหนี้
3.อื่น ๆ ได้แก่ การให้ข้อเสนอแนะแก่ ธปท. 75 รายการ ซึ่งส่วนใหญ่เสนอให้ลดค่าธรรมเนียม (ค่าฟี) ของสถาบันการเงิน และการแจ้งเบาะแส 33 รายการที่เกี่ยวกับภัยทางการเงิน โดยเฉพาะการหลอกลวงทางโทรศัพท์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พฤติกรรมพนักงานในการเสนอขายผลิตภัณฑ์และให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ไม่ถูกต้อง
และ 4.การขอความอนุเคราะห์จากผู้ให้บริการทางการเงิน 61 รายการ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยเฉพาะหนี้ที่เกิดจากสินเชื่อส่วนบุคคล (พีโลน) และบัตรเครดิต รองลงมาคือการขอลดยกเว้นค่าฟี ดอกเบี้ย ฯลฯ
ศคง.ยังระบุในรายละเอียดที่เกิดขึ้นในไตรมาส 3/2559 ว่า จำนวนการร้องเรียนด้านเงินให้สินเชื่อ 170 รายการ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าจำนวน 18 รายการ และถือเป็นไตรมาสที่สูงสุดในรอบ 5 ไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องร้องเรียน 3 อันดับแรก คือ เงินต้นและยอดหนี้ไม่ถูกต้อง, ค่าฟีหรือดอกเบี้ย โดยเฉพาะการเก็บค่าฟีไม่เป็นธรรมของบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล และสาม เจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการหรือทำล่าช้าในเรื่องที่ลูกค้ามีการร้องขอ
ขณะที่เรื่องร้องเรียนด้านเงินฝากและตั๋วเงิน128รายการ เพิ่มขึ้นราว 41 รายการจากไตรมาส 2/2559 ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเป็นปัญหาการฝากถอน/โอนเงิน โดยเฉพาะการทำธุรกรรมผ่านตู้เอทีเอ็มหรือตู้ฝากเงินสดอัตโนมัติ เช่น ถอนเงินแล้วไม่ได้รับเงิน หรือได้ไม่ครบถ้วน และปัญหาการอายัด/หักบัญชีเงินฝากเพื่อชำระหนี้โดยไม่แจ้งเจ้าของบัญชีทราบล่วงหน้า
อย่างไรก็ตาม ด้านการร้องเรียนเรื่อง Cross Sell มี 23 รายการ ลดลงจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ซึ่งหลัก ๆ จะเป็นการบังคับซื้อประกันร่วมกับสินเชื่อ ที่มีจำนวนร้องเรียนเพิ่มขึ้น แต่การบังคับซื้อประกันร่วมกับเงินฝาก มีจำนวนร้องเรียนลดลง หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เรียกประชุมสถาบันการเงินดังกล่าวเพื่อสื่อสารให้เข้าใจประเด็นบังคับขาย
นอกจากนี้ยังมีเรื่องการร้องเรียนด้านพฤติกรรมเจ้าหน้าที่สถาบันการเงิน(รวมเจ้าหน้าที่Outsource) มีจำนวน 16 รายการ แต่การร้องเรียนลดลง โดยหลัก ๆ จะร้องเรียนการถูกหลอกให้ซื้อกองทุนโดยพนักงานไม่ได้มีการซื้อให้จริง ถูกเรียกค่าดำเนินการพิเศษในการขออนุมัติสินเชื่อ