สวัสดีครับ วันนี้จะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวชิลล์ๆ อากาศดีๆใกล้กรุงเทพกัน เนื่องจากเป็นกระทู้แรกผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยครับ
ต้องบอกก่อนว่าที่นี่เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทรงเล็งเห็นว่าการจัดทรัพยากรเรื่องน้ำเป็นเรื่องสำคัญ เพราะฉะนั้นอ่างเก็บน้ำนี้จึงมีหน้าที่ส่งน้ำให้กับการประปานครนายก ใช้ในการเพาะปลูกในเขตชลประทานประมาณ 3,000 ไร่ และสนับสนุนน้ำอุปโภคบริโภคให้แก่ราษฎร
ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลยครับกับ อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ จังหวัดนครยายก
ในส่วนของการเดินทางนั้นไม่ยากครับ โดยส่วนตัวถ้ามาจากกรุงเทพฯ
-ผมใช้ทางด่วนหมายเลข9 รามอินทรา-อาจณรงค์ มุ่งหน้าไป ลำลูกกา-บางปะอิน
-ลงที่ทางหลวง305 รังสิต-นครนายก ทีนี้วิ่งตรงไปเรื่อยเลยครับ ประมาณ50กิโลเมตรได้
-เลี้ยวซ้ายครับ มีป้ายเล็กๆทางซ้ายบอกว่าไปถนนเลี่ยงเมือง อันนี้ดูดีๆนะครับ
-เลี้ยวเสร็จ ตรงไปถนนนครนายก-เขาทุเรียน จะมีป้ายเขื่อนขุนด่านบอกอยู่ครับ แต่เราจะไม่ไปเขื่อนขุนด่านเราจะเลี้ยวซ้ายไปบ้านเขาทุเรียน
-หลังจากนั้นจะมีป้ายบอกทางเข้าอ่างเก็บน้ำห้วยปรืออยู่ตามระยะเรื่อยๆเลยครับ ไม่ต้องกลัวหลง
วิวข้างทางสวยใช่เล่นเลยครับ
ผมมาถึงตอนเช้าพอดี พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นเลย นี่เป็นวิวที่อ่างเก็บน้ำครับ
เอาจักรยานมาด้วยครับ ลมเย็นสบายปั่นรับวิตามินตอนเช้ากันหน่อยย
พระอาทิตย์เริ่มขึ้นแล้ว เริ่มมีนักท่องเที่ยวและนักปั่น ออกมากันบ้างแล้วครับ
ไม่ได้มีแต่นักปั่นที่มา เป็นครอบครัวก็มีครับ เป็นยังไงบ้างครับลมเย็นสบายจริงๆนะ ไม่เชื่อก็ดูจากรูปเอาไม่ต้องบรรยายแล้ว ฮ่าๆ
มากันเป็นคู่แบบเพื่อนซี้สองล้อ บรรยากาศดีครับเซลฟี่กันมันส์เลย (ขออนุญาตเอารูปทั้ง2ท่านลงด้วยครับ)
เจ้านี่นางแบบของวันนี้ ผมกำลังถ่ายรูป มันวิ่งมาหาเฉยเลยแล้วมานอนข้างๆ สงสัยนึกว่ามีอะไรให้กิน
ทางเข้าอ่างเก็บน้ำเป็นหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ครับ ใครแค่แวะมาไม่จุใจก็นอนค้างกันไปเลย ทางเจ้าหน้าที่มีเต็นท์ให้บริการครับ
ด้านข้างนี่เป็นศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าภาคกลาง ทางเจ้าหน้าที่จะนำสัวต์ป่าที่ได้รับบาดเจ็บมารักษา เข้าไปดูกันได้นะครับ
ทางเข้าดูลุยๆหน่อย ใครอยากเอาพวกเสือภูเขามาปั่นก็ลุยเลยครับ ผมขอบายดีกว่า
อันนี้เป็นเบื้องหลังอันสวยงามครับ เป็นไงขยะเต็มไปหมด ป้ายด้านหน้าก็มีบอก ถังขยะเขาก็เตรียมไว้ให้ ถือมาได้ถือไปทิ้งไม่ได้นี่แหละครับคนเรา
ขอลาด้วยภาพสุดท้ายนี้ และขอบคุณที่อ่านจนจบครับ เวลาไปเที่ยวไหนก็อยากให้ทุกคนเคารพสถานที่ช่วยกันคนละไม้คนละมือเมืองไทยจะได้น่าอยู่ครับ

ปล.กระทู้แรกเลย ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ
เส้นทางนักปั่นใกล้กรุง อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ-นครนายก
ต้องบอกก่อนว่าที่นี่เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทรงเล็งเห็นว่าการจัดทรัพยากรเรื่องน้ำเป็นเรื่องสำคัญ เพราะฉะนั้นอ่างเก็บน้ำนี้จึงมีหน้าที่ส่งน้ำให้กับการประปานครนายก ใช้ในการเพาะปลูกในเขตชลประทานประมาณ 3,000 ไร่ และสนับสนุนน้ำอุปโภคบริโภคให้แก่ราษฎร
ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลยครับกับ อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ จังหวัดนครยายก
ในส่วนของการเดินทางนั้นไม่ยากครับ โดยส่วนตัวถ้ามาจากกรุงเทพฯ
-ผมใช้ทางด่วนหมายเลข9 รามอินทรา-อาจณรงค์ มุ่งหน้าไป ลำลูกกา-บางปะอิน
-ลงที่ทางหลวง305 รังสิต-นครนายก ทีนี้วิ่งตรงไปเรื่อยเลยครับ ประมาณ50กิโลเมตรได้
-เลี้ยวซ้ายครับ มีป้ายเล็กๆทางซ้ายบอกว่าไปถนนเลี่ยงเมือง อันนี้ดูดีๆนะครับ
-เลี้ยวเสร็จ ตรงไปถนนนครนายก-เขาทุเรียน จะมีป้ายเขื่อนขุนด่านบอกอยู่ครับ แต่เราจะไม่ไปเขื่อนขุนด่านเราจะเลี้ยวซ้ายไปบ้านเขาทุเรียน
-หลังจากนั้นจะมีป้ายบอกทางเข้าอ่างเก็บน้ำห้วยปรืออยู่ตามระยะเรื่อยๆเลยครับ ไม่ต้องกลัวหลง
วิวข้างทางสวยใช่เล่นเลยครับ
ผมมาถึงตอนเช้าพอดี พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นเลย นี่เป็นวิวที่อ่างเก็บน้ำครับ
เอาจักรยานมาด้วยครับ ลมเย็นสบายปั่นรับวิตามินตอนเช้ากันหน่อยย
พระอาทิตย์เริ่มขึ้นแล้ว เริ่มมีนักท่องเที่ยวและนักปั่น ออกมากันบ้างแล้วครับ
ไม่ได้มีแต่นักปั่นที่มา เป็นครอบครัวก็มีครับ เป็นยังไงบ้างครับลมเย็นสบายจริงๆนะ ไม่เชื่อก็ดูจากรูปเอาไม่ต้องบรรยายแล้ว ฮ่าๆ
มากันเป็นคู่แบบเพื่อนซี้สองล้อ บรรยากาศดีครับเซลฟี่กันมันส์เลย (ขออนุญาตเอารูปทั้ง2ท่านลงด้วยครับ)
เจ้านี่นางแบบของวันนี้ ผมกำลังถ่ายรูป มันวิ่งมาหาเฉยเลยแล้วมานอนข้างๆ สงสัยนึกว่ามีอะไรให้กิน
ทางเข้าอ่างเก็บน้ำเป็นหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ครับ ใครแค่แวะมาไม่จุใจก็นอนค้างกันไปเลย ทางเจ้าหน้าที่มีเต็นท์ให้บริการครับ
ด้านข้างนี่เป็นศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าภาคกลาง ทางเจ้าหน้าที่จะนำสัวต์ป่าที่ได้รับบาดเจ็บมารักษา เข้าไปดูกันได้นะครับ
ทางเข้าดูลุยๆหน่อย ใครอยากเอาพวกเสือภูเขามาปั่นก็ลุยเลยครับ ผมขอบายดีกว่า
อันนี้เป็นเบื้องหลังอันสวยงามครับ เป็นไงขยะเต็มไปหมด ป้ายด้านหน้าก็มีบอก ถังขยะเขาก็เตรียมไว้ให้ ถือมาได้ถือไปทิ้งไม่ได้นี่แหละครับคนเรา
ขอลาด้วยภาพสุดท้ายนี้ และขอบคุณที่อ่านจนจบครับ เวลาไปเที่ยวไหนก็อยากให้ทุกคนเคารพสถานที่ช่วยกันคนละไม้คนละมือเมืองไทยจะได้น่าอยู่ครับ
ปล.กระทู้แรกเลย ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ