สวัสดีคะ เรามีเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวในตอนที่เราอายุได้11ปี ตอนนั้นก็ประมาณ ปอ5 ครอบครัวอยู่ในชนบท แต่ก็ไม่ถึงกับหลังเขา บ้านเราข้างล่างเป็นปูนข้างบนเป็นไม้ บ้านตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ไม่รู้ว่ากี่ปีแต่ข้างบนเป็นไม้อย่างดี พ่อรับราชการ ส่วนแม่เป็นครูสอนเด็กก่อนอนุบาล สมัยนั้นเรียกเด็กก่อนเกณฑ์และโรงเรียนจะอยู่ในวัด ย้ำอยู่ในวัด ซึ่งเราก็เคยเรียนที่นั้นมาก่อน เข้าเรื่องแม่ของเราเลยละกัน แม่เป็นคุณครูใจดี ที่ไม่ค่อยเจ็บป่วยหรือลา แต่ตอนที่แม่คลอดเรา หมอตรวจพบว่าแม่เป็นโรคคอพอก จะมีอาการเชื่องซึมในเคสของแม่ เหนื่อยง่าย อารมณ์ไม่คงที่ บางทีแม่ก็จะโมโหใส่เราโดยไม่มีเหตุผล พ่อก็จะเป็นคนมาปลอบเสมอ ด้วยที่แม่เริ่มป่วยเลยลาไปพบหมอบ่อยๆ และสุขภาพร่างกายอ่อนแอ บวกกับอารมณ์หงุดหงิดง่าย เหนื่อยเร็ว ที่ทำงานแม่ก็เริ่มนินทา เพราะช่วงนั้นหยุดบ่อยมาก พ่อเลยตัดสินใจให้แม่ออกจากงาน ในตอนนั้น
จากนั้น ช่วงแรกๆที่ออกมาแม่ทำอาหาร ทำงานบ้าน ตามปกติ แต่ผ่านไปสักพักแม่เริ่มขี้เกียจ มีแต่นอน รอนตั้งแต่เช้ายันเย็น บางทีก็ทั้งวันทั้งคืน ตื่นมากินข้าวแล้วก็นอนต่อ บางทีเราเข้าไปคุยด้วยหรือทำอะไรไม่ถูกใจแม่ก็จะตวาด แม่จะไล่ให้เราไปล้างจาน เพราะชอบทิ้งไว้เป็น วันๆ555
แต่อยู่มาวันหนึ่ง พ่อบอกแม่ตื่นเช้ามาก ตื่นขึ้นมาทำกับข้าว พ่อก็แอบดีใจว่าแม่อาการดีขึ้น แต่ที่ตื่นมาทำกับข้าวเนี่ยไม่ได้ทำให้ที่บ้านนะคะ พ่อบอกแม่ทำไปทำบุญที่วัด เช้านั้นเราก็ได้กินกับข้าวฝีมือแม่นิดหน่อย พ่อแอบแบ่งไว้ให้ เราก็ไม่ได้สนใจอะไรเป็นเด็กก็ไปเรียนตามปกติ แม่อาจจะอยากทำบุญ ฟังธรรม จิตใจสงบจะได้ไม่คิดเรื่องโรคภัยก็ได้ วันนั้เราก้อไปเรียนตามปกติ พอกลับมา เจอแม่นอนอยู่ที่เปล เรียกก็ไม่คุยด้วย แต่ยังหายใจนะคะ เราก็ไม่สนใจตามเคย
และทุกๆวันตกดึกแม่จะตื่นขึ้นมาตอนตีสองไปจ่ายตลาด ทำกับข้าว ไปทำบุญทึ่วัด และจะเจาะจงทำบุญให้กับคนๆหนึ่งตลอด ตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร แม่ไม่สนใจจะพูดคุยกับครอบครัว เหมือนเป็นคนอื่นไปเลยอะคะ พ่อก็เริ่มกังวล ว่าแม่จะเป็นอะไร ตอนนั้นพ่อกู้เงินมาประมานสี่แสนได้ เตรียมจะไปซื้อที่ดิน แม่เอ่ยปากขอ จะเอาเงินส่วนหนึ่งไปทำบุญ สร้างเจดีย์ แต่พ่อไม่ยอม พ่อกับแม่ทะเลาะกันในวันนั้น แม่เลยขับรถออกจากบ้าน บอกจะไปหาเงินมาทำบุญ ก่อนหน้านั้นแม่เอาเงินจากพ่อไปทำโรงทานที่วัดประมานสองสามหมื่นได้ และบริจาคให้แก่ทางวัดเป็นกุศลให้ป้าคนหนึ่ง ที่แกตายไปแล้วในหมู่บ้าน พ่อเคยถามว่าทำไมถึงทำให้เขา แมรยอกว่าเขาเคยช่วยเหลือแม่มาก่อน พอเขาตายก็ได้แต่ทำบุญให้ อยากตอบแทนบุญคุณ
เช้าวันต่อมาหลังจากพ่อกับแม่ทะเลาะกัน พ่อได้ข่าวว่าแม่ไปขาเป็นลูกบุญธรรมของ ย่าคนหนึ่งที่มีเชื่อสายแขก ซึ่งเขาเป็นคนรวยนะคะในตอนนั้น เป็นแม่ค้าขายเนื้อวัว เป็นอิสลามอะคะ
แม่ไม่ยอมกลับบ้านไปอยู่กับย่าคนนั้น และยังคงทำบุญอยู่ตลอด วัดไหนมีงานบุญมีแม่เราไปแน่นอน เป็นเจ้าภาพเกือบทุกงาน ชาวบ้านก็เริ่มทักว่าแม่เราเป็นบ้าทำบุญ บ้างก็บอกเป็นคนใจใสสะอาด เข้าทางธรรมมะ
ตอนนั้นสภาพที่บ้านก็มีแต่พ่อเราที่ดูแลเราและพี่ชายของเรา ซึ่งพ่อก็หาวิธีแก้ไขด้วยการไปดูดวงให้แม่ ว่าแม่ดวงตกหรืออะไรหรือป่าว เพราะแปลกไปมาก เราก็คิดนะ แต่ไม่น่าดวงตกเพราะแม่ ทำบุญชะขนาดนั้น
ที่ย้านเราเชื่อเรื่องผีและบรรพบุรุษมาก พ่อเลยเชื่อในเรื่องของการดูดวง อีกอย่างปู่ของเราเป็นหมอธรรม สมัยนั้นก็ประมานว่าเป็นหมอผีประจำหมู่บ้าน ที่แบบช่วยเหลือคน เป่ามนต์คาถาให้หายป่วย ดูดวงชะตาได้ ไรประมานนี้คะ พ่อเลยเดินทางไปหาปู่ในอีกหมู่บ้านหนึ่ง เรากับพี่อยู่บ้านกับสองคน ปรากฎว่าแม่กลับมาบ้านในวันที่พ่อไม่อยู่ กลับมานี้บ่นหิวข้าว ร่างกายอ่อนแอ เราเลยทำพวกไข่เจียวให้แม่กินกับข้าวเหนียว แม่ทานเสร็จก็บอกกับเราว่าเหนื่อย ไม่มีแรง เลยนอนหลับไป
ตื่นเช้ามาแม่ก็ยังไม่ตื่น วันนั้นเป็นวันเสาร์ เรามีงานที่โรงเรียน แต่ไม่ได้ไปกลัวแม่อาการไม่ดี
ตกเย็นแม่ก็ยังไม่ตื่น พ่อกลับจากบ้านปู่ แต่ไม่ได้มาคนเดียวปู่ก็มาด้วย รถของพ่อกับปู่ขับยังไม่ถึงหน้าบ้านแม่สะดุ้งตื่นขึ้นมา และวิ่งลงจากบันได
เดี๋ยวมาต่อนะคะ พอดีพิมมือถือระหว่างนั่งรถกลับบ้านจากที่ทำงานคะ
ตอนอายุ11 ฉันไม่กล้านอนกับแม่ตัวเอง
จากนั้น ช่วงแรกๆที่ออกมาแม่ทำอาหาร ทำงานบ้าน ตามปกติ แต่ผ่านไปสักพักแม่เริ่มขี้เกียจ มีแต่นอน รอนตั้งแต่เช้ายันเย็น บางทีก็ทั้งวันทั้งคืน ตื่นมากินข้าวแล้วก็นอนต่อ บางทีเราเข้าไปคุยด้วยหรือทำอะไรไม่ถูกใจแม่ก็จะตวาด แม่จะไล่ให้เราไปล้างจาน เพราะชอบทิ้งไว้เป็น วันๆ555
แต่อยู่มาวันหนึ่ง พ่อบอกแม่ตื่นเช้ามาก ตื่นขึ้นมาทำกับข้าว พ่อก็แอบดีใจว่าแม่อาการดีขึ้น แต่ที่ตื่นมาทำกับข้าวเนี่ยไม่ได้ทำให้ที่บ้านนะคะ พ่อบอกแม่ทำไปทำบุญที่วัด เช้านั้นเราก็ได้กินกับข้าวฝีมือแม่นิดหน่อย พ่อแอบแบ่งไว้ให้ เราก็ไม่ได้สนใจอะไรเป็นเด็กก็ไปเรียนตามปกติ แม่อาจจะอยากทำบุญ ฟังธรรม จิตใจสงบจะได้ไม่คิดเรื่องโรคภัยก็ได้ วันนั้เราก้อไปเรียนตามปกติ พอกลับมา เจอแม่นอนอยู่ที่เปล เรียกก็ไม่คุยด้วย แต่ยังหายใจนะคะ เราก็ไม่สนใจตามเคย
และทุกๆวันตกดึกแม่จะตื่นขึ้นมาตอนตีสองไปจ่ายตลาด ทำกับข้าว ไปทำบุญทึ่วัด และจะเจาะจงทำบุญให้กับคนๆหนึ่งตลอด ตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร แม่ไม่สนใจจะพูดคุยกับครอบครัว เหมือนเป็นคนอื่นไปเลยอะคะ พ่อก็เริ่มกังวล ว่าแม่จะเป็นอะไร ตอนนั้นพ่อกู้เงินมาประมานสี่แสนได้ เตรียมจะไปซื้อที่ดิน แม่เอ่ยปากขอ จะเอาเงินส่วนหนึ่งไปทำบุญ สร้างเจดีย์ แต่พ่อไม่ยอม พ่อกับแม่ทะเลาะกันในวันนั้น แม่เลยขับรถออกจากบ้าน บอกจะไปหาเงินมาทำบุญ ก่อนหน้านั้นแม่เอาเงินจากพ่อไปทำโรงทานที่วัดประมานสองสามหมื่นได้ และบริจาคให้แก่ทางวัดเป็นกุศลให้ป้าคนหนึ่ง ที่แกตายไปแล้วในหมู่บ้าน พ่อเคยถามว่าทำไมถึงทำให้เขา แมรยอกว่าเขาเคยช่วยเหลือแม่มาก่อน พอเขาตายก็ได้แต่ทำบุญให้ อยากตอบแทนบุญคุณ
เช้าวันต่อมาหลังจากพ่อกับแม่ทะเลาะกัน พ่อได้ข่าวว่าแม่ไปขาเป็นลูกบุญธรรมของ ย่าคนหนึ่งที่มีเชื่อสายแขก ซึ่งเขาเป็นคนรวยนะคะในตอนนั้น เป็นแม่ค้าขายเนื้อวัว เป็นอิสลามอะคะ
แม่ไม่ยอมกลับบ้านไปอยู่กับย่าคนนั้น และยังคงทำบุญอยู่ตลอด วัดไหนมีงานบุญมีแม่เราไปแน่นอน เป็นเจ้าภาพเกือบทุกงาน ชาวบ้านก็เริ่มทักว่าแม่เราเป็นบ้าทำบุญ บ้างก็บอกเป็นคนใจใสสะอาด เข้าทางธรรมมะ
ตอนนั้นสภาพที่บ้านก็มีแต่พ่อเราที่ดูแลเราและพี่ชายของเรา ซึ่งพ่อก็หาวิธีแก้ไขด้วยการไปดูดวงให้แม่ ว่าแม่ดวงตกหรืออะไรหรือป่าว เพราะแปลกไปมาก เราก็คิดนะ แต่ไม่น่าดวงตกเพราะแม่ ทำบุญชะขนาดนั้น
ที่ย้านเราเชื่อเรื่องผีและบรรพบุรุษมาก พ่อเลยเชื่อในเรื่องของการดูดวง อีกอย่างปู่ของเราเป็นหมอธรรม สมัยนั้นก็ประมานว่าเป็นหมอผีประจำหมู่บ้าน ที่แบบช่วยเหลือคน เป่ามนต์คาถาให้หายป่วย ดูดวงชะตาได้ ไรประมานนี้คะ พ่อเลยเดินทางไปหาปู่ในอีกหมู่บ้านหนึ่ง เรากับพี่อยู่บ้านกับสองคน ปรากฎว่าแม่กลับมาบ้านในวันที่พ่อไม่อยู่ กลับมานี้บ่นหิวข้าว ร่างกายอ่อนแอ เราเลยทำพวกไข่เจียวให้แม่กินกับข้าวเหนียว แม่ทานเสร็จก็บอกกับเราว่าเหนื่อย ไม่มีแรง เลยนอนหลับไป
ตื่นเช้ามาแม่ก็ยังไม่ตื่น วันนั้นเป็นวันเสาร์ เรามีงานที่โรงเรียน แต่ไม่ได้ไปกลัวแม่อาการไม่ดี
ตกเย็นแม่ก็ยังไม่ตื่น พ่อกลับจากบ้านปู่ แต่ไม่ได้มาคนเดียวปู่ก็มาด้วย รถของพ่อกับปู่ขับยังไม่ถึงหน้าบ้านแม่สะดุ้งตื่นขึ้นมา และวิ่งลงจากบันได
เดี๋ยวมาต่อนะคะ พอดีพิมมือถือระหว่างนั่งรถกลับบ้านจากที่ทำงานคะ