ผมโดน PAYPAL จงใจตัดสิน case ผิดพลาดทำให้สูญเสียเงิน 2 แสนกว่าบาท!!



ผมโดน PAYPAL จงใจตัดสิน case ผิดพลาดทำให้สูญเสียเงิน 2 แสนกว่าบาท!!

เหตุการณ์นี้ผมขอแชร์เพื่อให้เป็นอุทาหรณ์กับคนที่มั่นใจในความปลอดภัยของ Paypal
ว่าตัดสิน Case ได้แบบแย่มากทั้งๆที่หลักฐานชัดเจนมากขนาดนี้ ผมขอไล่ลำดับเหตุการณ์
ตามวันและเวลาที่เกิดขึ้นนะครับ บางเหตุการณ์อาจจะคลาดเคลื่อนเรื่องวันเวลา แต่ก็ประมาณนี้ครับ

- วันที่ 23 ตุลาคม 2016 ผมได้ซื้อของบน Ebay เป็นกล้องและเลนส์ Leica Limited Edition Set
จากคนขายในประเทศอเมริกา Account คนขายบน Ebay คือ Joelovesgina เป็นกล้องรุ่นที่หายากและคนขายไม่ส่งของมาเมืองไทย ผมจึงซื้อและให้ส่งของไปที่บ้านเพื่อนผมซึ่งอยู่รัฐ Califonia ซึ่งที่อยู่นี้อยู่ใน account ebay ของผมถูกต้องครับด้วยยอดเงินมากกว่า 2 แสนบาท

- หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว คนขายก็ได้ใส่เลข Tracking Number ลงไปในระบบทั้ง Ebay และ Paypal เพื่อยืนยันว่าได้ส่งของแล้วโดยเลข Tracking No. คือ 1Z64X17X0352370617 ของบริษัท UPS

- วันที่ 25 ตุลาคม 2016 คนขายได้ส่งอีเมลล์มาหาผมทาง Inbox ของ Ebay ว่าเลข Tracing No. ที่แจ้งในระบบนั้นผิด และได้แจ้งเลข Tracking No. ใหม่มาคือ 9449009699938876090087 ของบริษัท USPS

- ตรงนี้ผมรู้สึกเอะใจและไม่มั่นใจ จึงไปเปิด Dispute Case บน PAYPAL และในวันที่ 25 ต.ค. 2016 ผมได้เข้าไปเช็คเลข Tracking No. ที่คนขายบอกว่าส่งผิดใน UPS พบว่าของได้จัดส่งถึงแล้ว โดยระบบจะโชว์แค่ Zip code และ เมืองที่ของส่งถึงปลายทาง จะไม่โชว์รายละเอียดมากกว่านี้

- วันที่ 26 ต.ค. 2016 ผมได้รับ Email จาก PAYPAL ว่าคนขายได้แจ้งเลข Tracing No. เพื่อยืนยันถึงการส่งของซึ่งคือเลขของ UPS ที่แจ้งผมมาทาง Email ว่าผิด ถึงตรงนี้ผมได้ยกระดับ Case ให้เป็นการ Claim เงินคืนจาก Paypal เพราะมั่นใจแล้วว่าคนขายจงใจโกง พร้อมทั้งให้รายละเอียดส่งที่คนขายส่ง Email มาหาผมเรื่องเลข Tracking No. ที่ผิดพลาดให้กับทาง PAYPAL

- วันที่ 2 พ.ย. 2016 ผมได้รับอีเมลล์จากทาง PAYPAL ได้สรุป Case และปิดโดยการให้ผมแพ้ (ถึงตรงนี้เงินจะถูกปล่อยให้กับคนขาย และแน่นอนมันคงถอนออกไปทันที) หลับหูหลับตาตัดสินมากๆ เท่ากับว่าไม่ได้ดูหลักฐานที่ผมส่งให้เลย เรียกง่ายๆว่า “ชุ่ย”

- PAYPAL ตัดสินผิดพลาดแบบนี้ ผมจึงโทรไปคุยกับทาง PAYPAL ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คนไทยอยู่ในประเทศสิงคโปรคุยกับเรา และได้แนะนำให้ผมส่ง Email ไปอุธรณ์ Case และให้เจ้าหน้าที่ที่ตัดสินรื้อ Case มาทำใหม่อีกรอบ

- ผมเข้าไปเช็คเลข Tracing No. 9449009699938876090087 ที่คนขายแจ้งผมมาทาง Email ว่าเป็นเลขที่ส่งของถึงผม จนถึงวันนี้ ( 11 ธ.ค. 2016 ) ของยังติดอยู่ In transit และไม่ได้ส่งถึงที่อยู่เพื่อนผมใน CA แต่อย่างใด

- ส่วนเลข Tracking No. ปลอมที่คนขายใช้เป็นหลักฐานกับทาง PAYPAL (ที่แจ้งผมว่าผิดพลาด) ของส่งถึง CA จริง มีผู้รับชื่อ KAREN ซึ่งผมได้เช็คกับเพื่อนแล้วไม่มีคนชื่อ KAREN

- ผมได้คุยกับทาง Citibank ซึ่งเป็นบัตรเครดิตที่ผมจ่ายเงินผ่านทาง Paypal ออกไป เจ้าหน้าที่แนะนำให้ผมทำการ พักชำระยอดเงินนี้ จนกว่า Case จะตัดสินและปิดลง และแน่นอนหากว่า Paypal ตัดสิน Case ให้ผมแพ้ ผมจะต้องชำระยอดเงินเต็มจำนวน พร้อมดอกเบี้ย นับจากวันที่ครบชำระจนถึงปัจจุบัน!!

- ผมได้ส่งหลักฐานกลับไปให้ทาง PAYPAL และได้โทรคุยกับเจ้าหน้าที่คนไทยอีกหลายครั้ง ทุกครั้งเจ้าหน้าที่ก็จะพูดให้ความมั่นใจกับผมว่ายังไงๆ Case นี้ผมต้องได้เงินคืนเพราะยอดเงินสูง และหลักฐานค่อนข้างชัดเจน

- หลังจากยื่นอุธรณ์ Case ไปได้ประมาณ 10 วันได้มีเจ้าหน้าที่คนไทยโทรกลับมา บอกว่าทาง PAYPAL ได้ติดต่อไปยังคนขาย ถ้าภายใน 5 วันทำการของยังส่งไม่ถึง หรือไม่มีการติดต่อกลับมาจากทางคนขาย Case จะปิดลงและคืนเงินให้ผมเต็มจำนวน

- ผ่านไป 15 วันตัว Case ก็ยังไม่ปิดและไม่มีการติดต่อกลับจากทาง PAYPAL ผมจึงได้ตัดสินใจโทรหาเจ้าหน้าที่คนอีกครั้ง (อีกหลายครั้ง) ว่าทำไมยังไม่คืนเงินให้ผม เพราะหลักฐานชัดเจนมากว่าคนขายจงใจที่กะโกง  เจ้าหน้าที่คนไทยก็ได้ให้ความมั่นใจว่าหลักฐานชัดเจน ไม่มีอะไรน่าห่วง และได้ส่งเรื่อง Compalin ไปกับทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นคนต่างชาติแล้วว่าตัดสินผิดพลาด

- วันที่ 10 ธ.ค. 2016 ได้มี Email จาก PAYPAL แจ้งมาว่า Case ที่ผมทำการอุธรณ์ได้ปิดลงพร้อมกับให้คนขายเป็นผู้ชนะและได้รับเงินจำนวน 2 แสนกว่าบาทไป !!!!!

- ผมซึ่งเคยมั่นใจในความปลอดภัยของ PAYPAL จึงยอมจ่ายเงินซื้อของราคาสูงขนาดนี้ แต่กับการตัดสิน Case และหลับหูหลับตา และชุ่ยขนาดนี้ ผมรับไม่ได้ ไม่ว่าเงินจะเป็นจำนวนเท่าใดก็ตาม จะ 2 ร้อย หรือ 2 แสน มันก็ต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้อง

ขอบคุณครับ ช่วยกันแชร์เยอะๆนะครับเรื่องจะได้ถึง Paypal ซึ่งผมปรึกษาเพื่อนแล้ว Paypal ไม่มีบริษัทตั้งอยู่ในประเทศไทย ฉะนั้นการฟ้องร้องจึงทำได้ยากมากครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่