ประสบการณ์จากการเจรจาการค้าฮาลาลกับอินโดนีเซีย

https://www.facebook.com/drwinaidahlan/posts/1596936820614289

ผมคิดอยู่เสมอว่าตนเองเป็นคนนอกไม่ได้เกี่ยวข้องกับการรับรองฮาลาลของประเทศไทย คิดตั้งแต่ครั้งอยู่นอกกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย จนเดี๋ยวนี้แม้เข้ามาเป็นกรรมการกลางแล้วก็ยังคิดอยู่ เมื่อเกิดปัญหาขึ้น เมื่อไม่มีใครร้องขอมา ผมก็มักอยู่ห่างๆ ช่วยในเชิงวิชาการดีกว่าไม่อยากเข้าไปยุ่งในเชิงธุรกิจหรือการค้า ทว่าหลังจากเจรจาการค้าฮาลาลกับอินโดนีเซียครั้งนี้ ได้พบกับผู้แทนอินโดนีเซีย ได้พบและพูดจากับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยรวมทั้งท่านทูตไทยประจำอินโดนีเซียเริ่มรู้สึกว่าวิธีคิดอย่างที่กล่าวถึงข้างต้นนั้นน่าจะผิด ผมว่าในเรื่องฮาลาล ฝ่ายประเทศไทยต้องทำงานเชิงรุกมากกว่านี้ หากรอให้ปัญหามาถึงตัวก่อนการแก้ไขอาจไม่ทันการ

การค้าระหว่างไทยกับอินโดนีเซียออกอาการลุ่ม ๆ ดอน ๆ มาพอสมควร อินโดนีเซียเป็นประเทศมุสลิมใหญ่ที่สุดในโลกด้วยประชากรมุสลิม 210 ล้านคนเป็นตลาดใหญ่และเป็นโอกาสสำหรับประเทศไทยมากที่สุดทางด้านอาหารฮาลาล แต่เรามักมีปัญหา ผมไม่ทราบว่าปัญหามาจากที่ใด ใครเป็นคนก่อ แต่ผู้ประกอบการที่เกิดปัญหามักกล่าวว่าอินโดนีเซียไม่เชื่อมั่นตราฮาลาลประเทศไทย ถึงขนาดสองเดือนที่ผ่านมามีผลิตภัณฑ์ฮาลาลจากประเทศไทยเข้าอินโดนีเซียไม่ได้ ว่ากันว่านับร้อยบริษัท เสียหายทั้งที่เห็นและไม่เห็นนับได้หลายพันล้าน กระทรวงพาณิชย์แจ้งว่าอินโดนีเซียรับรองฮาลาลไทยแค่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเท่านั้น จะขายผลิตภัณฑ์ในรูปไม่ฮาลาลไม่มีการรับรอง อาจยิ่งมีปัญหาเนื่องจากอินโดนีเซียไม่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่ไม่ฮาลาลสำหรับผู้บริโภคของเขา ใครในเมืองไทยที่ต่อต้านตราฮาลาลอาจต้องไปดูงานทีอินโดนีเซียหน่อยจะได้รู้ว่าเขาคนนั้นกำลังทุบเศรษฐกิจประเทศไทย

เจรจากันแล้วกับผู้แทนที่มีอำนาจเต็มของฝ่ายฮาลาลอินโดนีเซีย นำโดย Dr.Lukmanul Hakim ปรากฏว่าเรื่องโอละพ่อ คำตอบที่ถูกต้องคืออินโดนีเซียเชื่อมั่นระบบ "ศาสนารับรอง วิทยาศาสตร์รองรับ" ของเรามาก เชื่อมั่นในคุณภาพฮาลาลประเทศไทย สิ่งที่เขาบ่นคือเรื่องราวในอดีต เราซึ่งก็ไม่ทราบว่าเป็นใครเคยเจรจากับเขาอย่างไม่เป็นมิตรนัก ทำให้ความมั่นใจหายไปมาก เมื่อติดต่อมาเรากลับเงียบ เรื่องราวอย่างนี้ต้องนับว่าโชคดีที่การเจรจาครั้งนี้ ทีมฮาลาลประเทศไทยไปกันครบครัน ทั้งฝ่ายศาสนา ฝ่ายวิทยาศาสตร์ ผู้มีอำนาจไปกันหมด แถมด้วยผู้แทนจากกระทรวงพาณิชย์ ทำให้ได้รับฟังปัญหากันมาหมด

ก่อนหน้าจะเดินทางมาถึง มีข่าวออกมาว่าอินโดนีเซียขอค่าต่อใบรับรองในราคาแพง เอาเข้าจริงนอกจากจะไม่เก็บค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียวหรือรูเปียเดียว เรานั่งยังไม่ทันก้นร้อน การเจรจายังไม่เริ่ม Dr.Lukmanul Hakim นำเอกสารที่ลงนามเรียบร้อยลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2016 ว่าอินโดนีเซียรับรองฮาลาลประเทศไทยอีกสองปี ท่ามกลางความโล่งอกของพวกเรา

Dr.Lukmanul Hakim พูดถึงเกียรติของครอบครัวของผมในอินโดนีเซีย ฟังแล้วปลื้มใจ ขณะเดียวกันก็หนักใจ ในเมื่อเขาไว้ใจเรา กลับมาแล้วปัญหาต่างๆทางฝั่งเราต้องรีบแก้ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยรับปากไว้แล้ว สุดท้ายสิ่งที่พวกเราทั้งสองฝ่ายภูมิใจร่วมกันคือผลิตภัณฑ์ฮาลาลส่วนใหญ่มาจากโรงงานที่ไม่ใช่มุสลิมแทบทั้งนั้น เมื่อให้มุสลิมรับรอง มุสลิมก็พร้อมจะบริโภค คนได้ประโยชน์ก็คือทุกฝ่ายทั้งที่เป็นมุสลิมและมิใช่มุสลิม โลกเรามันต้องอยู่กันอย่างนั้นจึงจะเป็นสุข
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่