
สวัสดีสมาชิกพันทิป ทุกครั้งที่ได้มีโอกาสได้ออกจากบ้านก็ไม่ลืมที่จะนำบรรยากาศช่วงการเดินทางมาฝากเช่นเคยครับ
นี้เป็นกระทู้รีวิวที่ 3 แล้วครับ
สืบเนื่องจากทริปนี้ได้มีโอกาสนำนักเรียนร่วมแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือครั้งที่ 66 โดยทาง จ.หนองคาย และบึงกาฬได้เป็นเจ้าภาพหลัก หลังจากที่พวกเราเหน็ดเหนือยกับการเตรียมการแข่งขัน ฝึกซ้อม ตลอดการแข่งขันจนเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะได้ผ่อนคลายตามสถานที่ต่างๆก่อนเดินทางกลับ และสถานที่ไปคือป่าคำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี
โดยสถานที่นั้นห่างจากตัวอำเภอบ้านดุงประมาณ 17 กิโลเมตร เป็นทางค่อนข้างลำบากเรื่องพื้นถนนมีหลุมบ่อบางจุด แต่ถ้าเป็นรถกระบะยกสูงถือว่ายังเดินทางได้คล่องตัวอยู่ครับ

ภาพจากgoogle steet view

เดินทางออกจะตัวอำเภอประมาณ 25 นาทีก็ถึงครับ
วันนั้นด้วยความเร่งรีบมัวแต่หาที่จอด ติดเลนส์fisheye ไปตัวเดียวภาพหลายๆภาพที่เห็นอาจจะบิดๆเบียวๆตามคุณสมบัติของเลนส์ แต่ดีที่สมาชิกที่ไปด้วยกันติดกล้องไปคนละตัวเลยได้ขอภาพจากสมาชิกมาร่วมริวิวเพื่อให้เห็นภาพหลายๆมิติด้วยครับ

ดูจากภาพเเล้วเป็นเเหล่งที่มีต้นไม้เยอะมากๆ เช่นต้นชะโนด ซื้อผมเองก็พึ่งจะเคยเห็น มองเเรกๆไกลๆนึกว่าต้นตาลครับ เพราะว่าใบมันคล้ายมาก แต่ถ้าก้มลงมาอ่าวเห้ยไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา... ไปเป็นเพลงซะงั้น
มันเหมือนต้นมะพร้าว เลยคิดในใจว่ามันเป็นลูกครึ่งตาล+มะพร้าวหรือเปล่า พอลงจากรถก็ได้สอบถามแถวนั้นว่าต้นชะโนด เป็นพืชตะกูลปาล์ม
พอไปถึงนี้เลยครับ ที่วางรองเท้าฝากไว้ไม่มีใบฝากครับ ทุกคนต้องถอดไว้เเละเดินเท้าเปล่าเท่านั้น เเต่ดีนะที่เราใส่แตะมาไม่ต้องกลัวหาย ใครที่จะมาก่อนลงจากรถแนะนำว่าหารองเท้าที่พร้อมสละได้มาดีกว่าจะได้เข้าไปอย่างสบายใจ


หลายๆภาพก็ให้ลูกศิษย์นี้เเหละครับเป็นคนถ่าย เห็นชอบแบกกล้องก็เลยฝากงานให้ไปถ่ายเก็บบรรยากาศมาให้

หลังจากที่ถอดรองเท้าเรียบร้อยเเล้วก็จะเป้นทางเดิน ซึ่งข้างๆสะพานจะเป็นลำตัวของพญานาคเดินไปประมาณหลายร้อยเมตรครับ เเต่บรรยากาศและพื้นในนั้นต้องขอบอกเลยว่าเย็นมากๆ เย็นจนนึกว่าใครเอาน้ำเเข็งไปซ่อนไว้ใต้พื้นหรือเปล่า

ผู้คนเยอะมากครับ เลยหยุดเก็บภาพกันนิดหน่อย

เดินๆไปก็มาเจอเหล็กแบ่งกั้นระหว่างพื้นทั้งสองข้าง ซึ่งเป็นสะพานที่แยกไม่ได้ต่อเป็นแผ่นเดียวกันเหมือนคอนกรีตทั่วไป ซึ่งพอมองไปเเล้วจะเห็นว่ารอยแยกนั้นห่างกันเกือบ 20 cm เห็นจะได้ครับ เราก็งงว่าทำไมต้องมีแผ่นเหล็กตรงนี้ทำไมไม่เทให้ติดกันไปเลย

แต่ด้วยความที่เราสงสัย และพูดออกมาเป็นคำถาม ก็มีคนเดินไปมาบริเวณนั้นบอกว่าตรงนี้เป็นเขตแบ่งระหว่างเเดนมนุษย์กับ*#$@ ผมฟังไม่ชัดเจนว่าจะถามอีกรอบเเต่แกเดินไปห่างเเล้วแต่เท่าที่จำได้แกบอกว่าตรงนี้สร้างติดกันที่ไรก็จะต้องแตกแยกออกเป็น 2 แผ่นทุกที เลยต้องเอาเหล็กมาวางกั้นไว้เพื่อให้เดินอย่างปลอดภัยนั้นเอง
ไปถึงก็เลี้ยวซ้ายก็ไปเจอชาวบ้านกำลังเอาน้ำมาพรมศีรษะ ลูบตามตัวต่างๆ และเดินไปอีกนิดจะเป็นบ่อน้ำมีผู้คนล้อมรอบทุกทิศทาง



มีต้นไม้มากมาย ร่มเย็นมาก


เด็กๆกสนุกันใหญ่เลยหลังจากที่เเข่งขันเสร็จ

มีที่ให้ตักน้ำจากบ่อด้วยครับ

เดินไปเรื่อยๆก็จะเจอผู้คนเอามือลูบฆ้องขนาดใหญ่ หลายๆครั้ง ผมก็ไม่ค่อยเเน่ใจเท่าไหร่ครับ ว่าเขาทำอะไรกันมีคนยืนต่อคิดกันเป็นทางยาวเลย และผมก็ยืนงงๆ ว่าจะถามเพื่อนว่าเขาทำอะไรก็กันหันไปก็หายเเล้ว เลยเก็บภาพไว้ก่อน

ถัดจากนั้นจุดใจกลางบริเวณนี้มีผู้คนเยอะมากครับ และสิ่งที่เห็นตลอดการเดินทางรวมทั้งในสถานที่แห่งนี้ด้วยคือกระทงพญานาค ไม่รู้แถวนั้นเขาเรียกว่าอะไร เป็นลักษณะคล้ายกระทงทั่วไปเเต่มีพญานาคด้วยครับ





เดินไปยังจุดท้ายสุดครับ

จะเป็นต้นไทรขนาดใหญ่ แผ่กิ่งก้าน และรากไม้ออกมาเป็นบริเวณกว้าง
ครับ





ดูภาพไปเรื่อยๆก่อนนะครับ จริงๆและก็อยากจะบรรยาให้เยอะกว่านี้ เเต่ผมไม่ค่อยทราบข้อมูลเท่าไหร่ สมาชิกพาไปผมก็ไปและก็ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีสถานที่แบบนี้ด้วย ตื่นเต้น อากาศสดชืนมากครับ


สุดท้ายเเล้วพวกเราก็เดินทางกลับ อำเภอกระสัง บุรีรัมย์ ถึงบ้านอย่างปลอดภัยกันทุกคนครับ
ต้องขอขอบคุณภาพจากสมาชิก ครูประกิจ และครูนราชิน อีกทางหนึ่งที่ทำให้กระทู้นี้มีบรรยากาศที่หลากหลาย
สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณสมาชิกทีติดตามครับ ข้อมูลผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ครับ
วุฒิไกร ชมถาวร
[CR] รีวิว ป่าคำชะโนด ดินแดนอันน่าทึ่ง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี
นี้เป็นกระทู้รีวิวที่ 3 แล้วครับ
สืบเนื่องจากทริปนี้ได้มีโอกาสนำนักเรียนร่วมแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือครั้งที่ 66 โดยทาง จ.หนองคาย และบึงกาฬได้เป็นเจ้าภาพหลัก หลังจากที่พวกเราเหน็ดเหนือยกับการเตรียมการแข่งขัน ฝึกซ้อม ตลอดการแข่งขันจนเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะได้ผ่อนคลายตามสถานที่ต่างๆก่อนเดินทางกลับ และสถานที่ไปคือป่าคำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี
โดยสถานที่นั้นห่างจากตัวอำเภอบ้านดุงประมาณ 17 กิโลเมตร เป็นทางค่อนข้างลำบากเรื่องพื้นถนนมีหลุมบ่อบางจุด แต่ถ้าเป็นรถกระบะยกสูงถือว่ายังเดินทางได้คล่องตัวอยู่ครับ
วันนั้นด้วยความเร่งรีบมัวแต่หาที่จอด ติดเลนส์fisheye ไปตัวเดียวภาพหลายๆภาพที่เห็นอาจจะบิดๆเบียวๆตามคุณสมบัติของเลนส์ แต่ดีที่สมาชิกที่ไปด้วยกันติดกล้องไปคนละตัวเลยได้ขอภาพจากสมาชิกมาร่วมริวิวเพื่อให้เห็นภาพหลายๆมิติด้วยครับ
มันเหมือนต้นมะพร้าว เลยคิดในใจว่ามันเป็นลูกครึ่งตาล+มะพร้าวหรือเปล่า พอลงจากรถก็ได้สอบถามแถวนั้นว่าต้นชะโนด เป็นพืชตะกูลปาล์ม
พอไปถึงนี้เลยครับ ที่วางรองเท้าฝากไว้ไม่มีใบฝากครับ ทุกคนต้องถอดไว้เเละเดินเท้าเปล่าเท่านั้น เเต่ดีนะที่เราใส่แตะมาไม่ต้องกลัวหาย ใครที่จะมาก่อนลงจากรถแนะนำว่าหารองเท้าที่พร้อมสละได้มาดีกว่าจะได้เข้าไปอย่างสบายใจ
ไปถึงก็เลี้ยวซ้ายก็ไปเจอชาวบ้านกำลังเอาน้ำมาพรมศีรษะ ลูบตามตัวต่างๆ และเดินไปอีกนิดจะเป็นบ่อน้ำมีผู้คนล้อมรอบทุกทิศทาง
ครับ
ต้องขอขอบคุณภาพจากสมาชิก ครูประกิจ และครูนราชิน อีกทางหนึ่งที่ทำให้กระทู้นี้มีบรรยากาศที่หลากหลาย
สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณสมาชิกทีติดตามครับ ข้อมูลผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ครับ
วุฒิไกร ชมถาวร