วันนี้ (นายหมายิ้ม) จะขอพาไปเที่ยว...ไต้หวัน...ซึ่งทริปนี้พูดเลยว่าเป็นทริป Calories มีไว้แปรปรวนจริงแท้แน่นอน
รวมถึงหลากหลายเรื่องราวที่จะมาช่วยอัพเดท เผื่อจะเป็นข้อมูลให้สมาชิกที่กำลังมีแพลนไปมาเก็บข้อมูลตามไปสำรวจกันครับ
.
.


ซึ่งในตอนแรก Day 1 Calories มีไว้แปรปรวนที่ Taichung-Sun moon lake >>>Link>>> http://pantip.com/topic/35882188
Day 3 กินอร่อย ปล่อยใจใน Taipei 101- LONGSHAN TEMPLE - Ximending >>>Link>>>http://pantip.com/topic/35920694

หากใครยังไม่อิ่มท้องหรืออิ่มใจ มาติดตามกันใน Day 2 เที่ยวแบบสบาย RAINBOW VILLAGE - TAIPEI - JIUFEN OLD STREET ได้เลยครับ

ตื่นเช้ามาจากวันอันแสนสดใส ที่เมื่อคืนออกไปเปิดพุงสบายกะเพาะกันที่ตลาด Fengjia Night Market  กันมา
แน่นอนฮะเมื่อร่างกายเริ่มการใช้พลังงานความหิวเลยก่อกำเนิด เราจึงใช้บริการอาหารเช้าของทางโรงแรม RED DOT HOTEL อันเป็นที่ประทับใจอย่างมากของพวกเราในทริปนี้



ลงมาถึงห้องอาหาร โอ๊ย!!! ชอบมากอยากมีไว้ที่บ้านมากมาย เนื่องจากห้องอาหารอยู่ในพื้นที่ใต้ดิน
แต่ทางโรงแรมสามารถใช้ Mood & Tone ตามสไตล์ของโรงแรม ทำให้ห้องอาหารไม่รู้สึกถึงความอึดอัด


อาหารก็จะมี Bar Buffet รวมถึงเมนูพิเศษให้เลือกอีก1 อย่าง ซึ่งมีแค่ 2-3 รายการ
เราเลยเลือกมาเป็น ... ไม่รู้จะเรียกชื่ออย่างไรดีแต่มันคือไข่คนราดบนขนมปังราดซอสมายองเนสโรยปลาแห้ง ยาวมาก.....
ให้ง่ายกว่านั้นก็ ไข่ราดซอสทาโกะยากิ


อิ่มท้องปั๊บขึ้นไปเก็บกระเป๋าและบอกลาโรงแรมที่สวยงามแห่งนี้ เพื่อมุ่งตรงไปที่หมู่บ้าน Rainbow village ของคุณปู่
เราให้ทางโรงแรมช่วยเรียก TAXI เช่นเคยเนื่องจากละแวกนั้นเดินทางไปยาก อยู่ใกล้กลับ THSR ใครที่จะเดินทางกลับ TAIPEI
แนะนำให้เหมา TAXI มาเที่ยวที่นี่ได้เลย คชจ. โดยประมาณ จากโรงแรม- Rainbow Village-THSR ให้พี่แท๊กรออีก 30 นาที ประมาณ 470 TWD

ถาพที่คิดไว้ว่า Rainbow village ของปู่คงอลังการใช้เวลาประมาณซักชั่วโมงสองชั่วโมงถ่ายรูป ลงจากรถปุ๊บ 20 นาทีก็เยอะละครับ
แต่เดี๋ยวนะ....Hip STER ต้องมานะจ๊ะ


ระหว่างทางเข้าไปในตัวบ้าน


ตรงนี้คุณลุงจะมี Standee ตั้งไว้ต้อนรับและบอกประวัติความเป็นมาโดยคร่าว ใครอยากทราบแบบละเอียดเข้าไป Speak กับปู่ได้




ภาพที่วาดต่างๆเหล่านี้จะมาเป็นส่วนนึงของของที่ระลึกด้านในครับ






ได้ภาพจนเป็นที่น่าพอใจเราเลยไปนั่งรอเที่ยวรถกลับ TAIPEI กันที่สถานีรถไฟความเร็วสูง
มีความเป็น ญี่ปุ่นผสมผสานในนั้นเสมอ เนื่องจากไต้หวันเคยเป็นเมืองขึ้นจากญี่ปุ่นมาครับ




เร๊ว เร็ว ถ่ายไม่ทันเลยทีเดียว


ถึงไทเปละฮะ เอากระเป๋าไปฝากที่ โรงแรมและอีกเดี๋ยวเราจะไป จิ่วเฟิน กัน เย่ๆๆๆๆ




การออกเดินทางไปจิ่วเฟิ่น ต้องพูดเลยว่าเป็น จุดท่องเที่ยวที่หมายมั่นปั้นมือของทริปการมาไต้หวันในครั้งนี้เป็นที่สุด
หนังเรื่อง Spirit Away สร้าง Imagine ไว้ว่าที่แห่งนี้จะงดงามตามแบบฉบับภาพที่วาดไว้ในหนัง
......
....
..
ระหว่างเดินทางไปขึ้นรถบัส อากาศเริ่มเย็น~~~ฟ้าครึ้มฝน~~~ทุกคนยืนรอรถที่ป้ายรถบัสและคิดในใจ จิ่วเฟิ่นจะสบายดีใช่มั้ย?
รอไปเรื่อยๆจะมีแท๊กซี่ เอา Sale Kit มานำเสนอทางเลือก "ไปมั้ย 200 เองนะต่อคน แต่คันนึงไป 6 คนนะ" ขึ้นรถบัส ก็คนละ 120 ละนะ
ทำเอาพวกเรามีความลังเล แต่เมื่อต่อแถวรอรถละ ก็รอบัสละกันไม่ได้รีบขนาดนั้นนี่เนอะ
พี่แท๊กยังคงวิ่งวุ่นกับการหาลูกค้าต่อไปเพราะเค้าได้ลูกค้ามาละ 2 คน ต้องการหาอีก 4 คนเพื่อจะได้ออกรถ
รถบัสก็มาพอดีพร้อมกับละอองฝนเบาๆ ขึ้นรถบัสไปไม่ยากครับ แตะบัตรตรงทางขึ้น ทั้งขาขึ้นและลงเช่นกัน

75 TWD ต่อเที่ยวเอง.... พี่แท๊ก Sale kit พี่นี่หลอกลวงชัดๆ แต่อย่างว่าหากใครต้องการความสะดวกและรวดเร็วก็ไม่ว่ากัน

ตัดภาพมาจิ่วเฟิ่น... ระหว่างทางที่มา พระพิรุณไม่ปราณีเราเลย วิ่งมาได้ครึ่งทางเทเอาอย่างกับน้ำตกและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
นี่จะโดนบทพิสูจน์ความตั้งใจของเราซะแล้วสิ เมื่อมาแล้วก็ต้องเดินหน้าต่อ The show must go on

ลงรถบัสที่ป้ายก่อนถึง 7-11 คนขับรถจะตะโกนบอกว่าเราถึงแล้วรีบลงได้เลยครับ


ข้างๆจะเป็นทางเข้า JIUFEN OLD STREET เข้ากันไปได้เลย จุดมุ่งหมายคือโรงเตี๊ยม A-MEI
แต่ช้าแต่!!! เรามาเจอกับร้านอันโด่งดัง ไอติมถั่วตัดใส่ผักชี แต่มาถึงผักชีหมดแล้วจ้าาาาาา ก็กินแบบ Original ไม่ใส่ผัก อันละ 40 TWD




อากาศเย็นๆ ไอติมถั่วตัดแบบนี้ช่างดีต่อร่างกายจริงๆครับ เขียนไปมือสั่นไป


เดินต่อกันเลย ด้วยความที่ฝนตกและเริ่มค่ำ ร้านรวงก็ทยอยปิดครับ เพราะฝนตกค่อนข้างหนัก ผ่านไอติมมาก็เจอร้านนี้ต่อครับ
บัวลอยกลอยใจ



ยามเย็นลมโชยมา บัวลอยร้อนๆช่างดีอะไรเช่นนี้
Ps. ท่านไหนที่ชอบทานขนมหวานไทย ขอบอกว่าขนมหวานไต้หวันรสชาติจะออกเป็นหวานน้อยครับ ถึงแม้สั่งหวานปกติจากแม่ค้า
ยิ่งถ้าสั่งลดหวานลง = แทบไม่หวาน อันนี้ต้องลองทดสอบดูครับเพราะว่ารสที่คุ้นลิ้นแต่ละท่านจะไม่เหมือนกัน

มาละต้องลองอันนี้ฮะ มีเย็นและร้อน ตอนนี้ต้องร้อนเท่านั้น


พอสบายใจกับขนมหวานไป ต้องตบด้วยมื้อหนักเลยสิครับ ว่าละอย่ารอช้า จานแรกต้องนี่ ... เสี่ยวหลงเปา


ตามติดคือไก่บ้านต้ม เนื้อไก่อันเหนี๊ยวเหนียวพอให้กรามได้ออกกำลัง


ซุปลูกชิ้นร้อนๆพอได้รสชาติของลูกชิ้น แต่รสชาติน้ำซุปคือ จืดพอๆกับได้ทานน้ำเปล่าที่ร้านไม่มีขายขายซุปและลูกชิ้นแทน


กับข้าวมาละต้องมีข้าวครับ ข้าวราดพะโล้สามชั้นมันถึงใจ


เช่นเคย....ร้านอาหารไม่มีน้ำดื่มให้บริการนะครับ จากประสบการณ์พวกเราจึงติดน้ำจากโรงแรมมาด้วยอยู่แล้ว
อิ่มท้องมีพลังก็มุ่งไปสู่จุดหมายกันเลยดีฟ่าาา  "โรงเตี๊ยมน้ำชาอาเม่ย"


อย่างที่บอกครับ ฝนตก ทำให้เอากล้องออกมาถ่ายรูปที่สวยอย่างใจไม่ได้ ผิดหวังสุดๆ แต่เมื่อได้มาก็ต้องไปชื่นชมความงดงาม




และก็ถึงเวลากลับ แบบน้ำตาคลอ โอ้ละหนอจิ่วเฟิ่นของพี่เหตุใดใยฝนฟ้าจึงไม่เป็นใจเช่นนี้
เดินย้อนกลับทางเก่าออกมาเจอ 7-11 ที่เดิมที่เข้ามา จะเจอพี่ Taxi เช่นเคย แต่ก็นะครับ มาบัสเราก็กลับบัสสิจะรออะไร
เลี้ยวขวาเดินขึ้นเนินตรงไปนิดหน่อยจะเจอที่รอรถครับ

และแล้วรถก็มา


นับเวลาผ่านไป 1.30 ชั่วโมงโดยประมาณ เราก็มาถึงที่เก่าห้าง SOGO เขียว


ด้วยความพีคยังคงไม่สุด ขอกลับไปอาบน้ำสระผม ให้สบายตัว เป้าหมายต่อไปคือ ตลาดกลางคืน Shilin night market
ออกจาก MRT เตรียมข้ามถนนมาตามป้ายได้เลยครับ




คึกคักสมกับเป็นตลาดกลางคืนที่คนไทเปนิยมมาเดินเล่นกันจริงๆเลยครับ


และการมาตลาดกลางคืนของเราจะทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ นั่นคือการกินแหลกตัวแตกตลอดเวลา
ตามรอยแผนงานของพี่ๆใน PANTIP ที่เคยรีวิวกันไว้นี่แหละครับ

น้ำกบ "น้ำชามะนาวไม่หวานใส่วุ้น" นึกรสชาติได้เลยครับ จืดเช่นเคย


นี่ไงน้ำกบเองนะจ๊ะ


เดินเล่นตามหารองเท้าที่อยากได้กันไปเรื่อยๆ ไม่ได้รองเท้าครับได้ไขมันมาเพิ่ม เจอสิ่งนี้ก็จัดเข้าไปอีก

"ไส้กรอกหมูรสชาติกุนเชียง" 35 TWD หวานและมันหนังกร๊อบกรอบ มาละก็ต้องชิมนะครับ แต่พูดได้เลยว่าแต่ละร้านรสชาติไม่เหมือนกัน


พลาดไม่ได้ ก็นี่ครับ ชานมร้าน 50 แต่วันนี้เมนูนมหมดต้องเอาเป็น ชาคาปูชิโน่ แปลกไปอีกแบบ ไม่ใส่นมแต่เป็น Full Cream รสชาคือดีงามห้ามสั่งหวานน้อยนะจ๊ะ อย่าลืม 555


ใกล้เที่ยงคืนละต้องรีบไปส่งเจ้าหญิงกลับ เดินวนกลับมา MRT เรื่อยๆ เจอร้านนี้คนต่อแถวยาวมากเหมือนไก่ย่างหนังกรอบ
ด้วยความที่กะเพาะไม่มีพื้นที่เหลือให้ใครแล้ว คงต้องเก็บไว้เป็น Check list ของครั้งหน้าครับ


นั่นไง MRT สถานี Jiantan ทางออก 1 ที่เรามา กลับก็ทางเดิมเลยฮะ


จบลงแล้วกับวันที่ 2 ของพวกเราครับ ทิ้งท้ายไว้ด้วยภาพตลาด Shilin Night Market ภาพนี้ครับ


ขอบคุณที่ติดตามกัน รอเจอกันในวันต่อไปนะครับ
ถูกใจก็ฝากกดไลค์ให้ "นายหมายิ้ม" จะได้มีกำลังใจพากิน พาเที่ยวเพื่อทุกคนต่อไปนะคร้าบ