ทำไมบริษัทในไทย ต้อง จ้างข้าราชการ นั่งเป็นที่ปรึกษา ด้วย ?

กระทู้คำถาม
จี้ ผบช.น.ลาออกที่ปรึกษา “บ.เบียร์” รับเงินเดือน 5 หมื่น ชี้ไม่เหมาะสม หวั่นเอื้อประโยชน์
โดย MGR Online             
11 ธันวาคม 2559 11:34 น. (แก้ไขล่าสุด 11 ธันวาคม 2559 12:12 น.)

จี้ ผบช.น.ลาออกที่ปรึกษา “บ.เบียร์” รับเงินเดือน 5 หมื่น ชี้ไม่เหมาะสม หวั่นเอื้อประโยชน์
พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร

        นักกฎหมายจี้ ผบช.น. “ศานิตย์” ลาออกจากที่ปรึกษาบริษัทเบียร์ “ไทยเบฟ” กรณีรับเงินเดือน 5 หมื่น หลังถูกวิจารณ์ไม่เหมาะสม เอื้อประโยชน์ ด้านกลุ่ม “แอลกอฮอล์วอช” ถามหาธรรมาภิบาลนายทุน เชื่อยังมีเจ้าหน้าที่รัฐหลายรายที่บริษัทน้ำเมาอุปถัมภ์
      
       จากกระแสวิพากษ์วิจารย์ถึงความไม่เหมาะสม กรณีที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินของ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เนื่องจากต้องชี้แจงต่อ ป.ป.ช. อย่างละเอียด นอกจากรายการทรัพย์สินแล้ว พล.ต.ท.ศานิตย์ ยังมีรายได้จากการเป็นที่ปรึกษาบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่ปี 2558 ได้เงินเดือนๆ ละ 50,000 บาท

จี้ ผบช.น.ลาออกที่ปรึกษา “บ.เบียร์” รับเงินเดือน 5 หมื่น ชี้ไม่เหมาะสม หวั่นเอื้อประโยชน์
นายคำรณ ชูเดชา

        วันนี้ (11 ธ.ค.) นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา (Alcohol Watch) กล่าวว่า ขอตั้งคำถามถึง พล.ต.ท.ศานิตย์ ที่เป็นถึงข้าราชการระดับสูง เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นผู้รักษากฎหมายในบ้านเมือง แต่ไปรับเงินจากบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ พฤติกรรมนี้เหมาะสมหรือไม่ และข้าราชการคนอื่นๆ จะมีการเปิดเผยข้อมูลรายได้ หรือรับเงินในลักษณะนี้หรือไม่ เพราะเชื่อว่ายังไม่อีกจำนวนไม่น้อย และกรณีนี้เป็นหลักฐานได้หรือไม่ว่าธุรกิจน้ำเมาอุปถัมภ์ข้าราชการ ตลอดจนนักการเมืองทุกระดับ ซึ่งอาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการเข้ามาแทรกแซงการบังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้การบังคับใช้กฎหมายหย่อนยาน ไร้ประสิทธิภาพ
      

       “ขอเรียกร้องให้สังคมและสื่อมวลชนช่วยกันตรวจสอบความเหมาะสม หากยังปล่อยให้เป็นแบบนี้ ก็ไม่ต่างอะไรจากการตกเขียวข้าราชการ ที่สำคัญ นี่เป็นการส่งสัญญาณที่ผิดๆ ทำให้เจ้าหน้าที่ระดับล่างอาจนำมาอ้างเพื่อรับเงินจากธุรกิจร้านเหล้าผับบาร์ในรูปแบบต่างๆ ได้เช่นกัน จึงไม่แปลกใจที่ทุกวันนี้จะเห็นคนมีสีเข้าไปเกี่ยวข้องกับร้านเหล้าผับบาร์ ซึ่งนี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การบังคับใช้กฎหมายน้ำเมาอ่อนแอยิ่ง และขอฝากถึงบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องมีธรรมาภิบาล สร้างความโปร่งใสให้สังคม ประกอบธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา อย่าดึงข้าราชการมาเกี่ยวข้องเพื่อหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง” นายคำรณ กล่าว
      
       ด้าน ว่าที่ร้อยตรี สมชาย อามีน นายกสมาคมนักกฎหมายคุ้มครองสิทธิและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ พล.ต.ท.ศานิตย์ ลาออกจากการเป็นที่ปรึกษาบริษัท ไทยเบฟ เนื่องจากการที่ข้าราชการระดับสูงเข้าไปเป็นที่ปรึกษา แล้วยังกำกับดูแลกฎหมายตาม พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และกฎหมายอื่นอีกหลายฉบับ ถือว่าสวนทางกับนโยบายรัฐบาลที่ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ เรื่องหลักธรรมาภิบาล ความโปร่งใส ต่อต้านการทุจริต อย่าลืมว่าบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกควบคุมโดยพ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ ดังนั้น หากมีการแทรกแซงจะทำให้การกวดขันเข้มงวดอาจทำได้ยาก อำนาจหน้าที่การบังคับใช้กฎหมายจะเกิดปัญหา เรื่องจรรยาบรรณข้าราชการที่รับของกำนัลจากบุคคลอื่นที่มีมูลค่าเกินสามพันยังไม่ได้ แต่กลับถูกจ้างเป็นที่ปรึกษารับเงินเดือนประจำ ทั้งที่ตนเองมีอำนาจบังคับใช้กฎหมายก็เศร้าใจ ทั้งนี้หากข้าราชการระดับสูงทำได้ ถ้าข้าราชการระดับล่างไปเป็นที่ปรึกษา รับเงินกิจการสถานบันเทิงที่มีเกลื่อนเมืองจะเกิดอะไรขึ้น
      
       “สนช. เปิดเผยที่มาของรายได้ข้าราชการ เป็นเรื่องที่ทำถูกต้องแล้ว เพราะลำพังประชาชนไม่มีสิทธิได้รับรู้ข้อมูลเหล่านี้เลย และเชื่อว่า มีข้าราชการที่รับตำแหน่งต่างๆแต่ยังไม่ถูกเปิดเผย อย่างไรก็ตาม แม้ในทางกฎหมายอาจจะไม่ผิด แต่ก่อนจะรับตำแหน่งใดๆ ต้องมีดุลพินิจในทางที่ถูกต้อง มีจริยธรรมมีจรรยาบรรณมากพอ ข้าราชการต้องทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดี ไม่ให้ถูกครหาในลักษณะที่อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อน และขอฝากไปถึงข้าราชการท่านอื่น โดยเฉพาะผู้บริหารระดับสูง ต้องวางตัวให้เหมาะสม ไม่ควรตกเป็นเครื่องมือใคร ความถูกต้องและความสง่างามเป็นเรื่องใหญ่” ว่าที่ร้อยตรี สมชาย กล่าว
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9590000123262
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
...ถ้าภาษาชาวบ้านก็ จ้างไปเป็นไม้กันหมา...



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่