[CR] ไดอารี่ผู้หญิงแบกเป้เที่ยวญี่ปุ่นสุดประหยัด 4วัน3คืน16,000บาท

ก่อนอื่นเกริ่นก่อนว่า รีวิวของเราอาจจะไม่ได้แตกต่างจากคนอื่นมากเท่าไหร่ แต่เราก็อยากเขียนขึ้นมาเพื่อเป็นไดอารี่เตือนความทรงจำให้ตัวเอง ทุกๆปีเราจะแพลนให้กับตัวเอง อย่างแพลนปีนี้
            -    ทำงานเก็บเงินให้ได้ครึ่งล้าน ( เกือบถึงแต่ไม่ถึง ปีหน้าเอาใหม่ขยันกว่านี้T_T)
            -    แบกเป้เที่ยวคนเดว1ที่ในจีน (สำเร็จแล้ว)
            -    เก็บตังไปต่างประเทศอย่างน้อยปีละ1ประเทศ (กำลังจะเป็นจริง)
            -   เปิดเพจ และทำอะไรที่ตัวเองไม่ได้ทำปีที่แล้วอีกมากมาย (สำเร็จแล้ว)

           และนั่นเป็นที่มาของทริปญี่ปุ่นครั้งนี้ จุดหมายปลายทางเราคือ โตเกียวจร้า ทริปเราเน้นประหยัด เที่ยวตามแพลน กินอิ่ม ช๊อปปิ้งได้ ไม่เหมาะกับพวกบ้านรวยเข้ามาอ่านนะคะ ฮ่าๆ เพราะเรามาเพื่อชิมลางก่อน เน้นเดินเล่นชิวๆ พักโรงแรมไม่แพงมาก แต่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า จริงๆแล้วเราตั้งงบไว้ 30,000บาท แต่แลกจากจีนไปแค่เกือบจะ 10,000บาท คิดว่าถ้าใช้เกินค่อยกดเอา ไม่อยากพกเงินสดไปเยอะ แต่สรุปสุดท้ายไม่ต้องกดเลย ดีงาม..เราเลยอยากมารีวิวไว้ เผื่อสำหรับใครที่อยากเที่ยวต่างประเทศ แต่ติดปัญหาเรื่องเงินค่ะ  ซึ่งเราเข้าใจนะ คนเรามีไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะมองว่าหมื่นห้า หาแปบเดียวก้อได้ แต่บางคนกว่าจะได้มาก้อไม่ง่ายเลย เอาเป็นว่าไม่ยากเกินไปค่ะกับการให้รางวัลตัวเองสักครั้งเนาะ

          เริ่มกันด้วยจองตั๋วเครื่องบินค่ะ ตรงนี้เราจะต่างจากเพื่อนๆนะคะ เพราะเราทำงานที่จีน เราจองจากนี้เลย เซี่ยงไฮ้-ญี่ปุ่น 2ชมเอง ใครอยู่จีนก้อดูที่ app- 去哪儿 นะคะ ซึ่งเราจองล่วงหน้า1เดือน ได้ตั๋วไปกลับมาราคา 1225 หยวน (ประมาน6,300บาท)ที่ไทยคิดว่าน่าจะประมานนี้มั้ยคะ เดี๋ยวนี้หลายสายการบินก้อทำโปรโมชั่นอยู่

          จากนั้น เริ่มหาข้อมูลการเดินทางไปเที่ยวที่ต่างๆ เรามีเวลาแค่4วัน3คืน เลยเน้นเที่ยวโตเกียวและแถบนั้นใกล้ๆ ไม่เคยไปมาก่อน เลยแพลนแบบมั่วมาก คร่าวๆคือ
1ไปถึงวันแรกไปnikko
2วันที่สองไปkawagukicho  (รอดูสภาพอากาศ ถ้าวันแรกฟ้าเปิดก็ไปวันแรก
3-4 อย่ในโตเกียว เน้นตระเวนหาของกินทุกซอกทุกมุม ช้อปเล็กน้อย ทริปนี้เน้นกินเพิ่มน้ำหนักอย่างเดว ฮ่าๆ
….และนี่ที่เราทำไว้ในA4 15หน้า บ้าไปแล้ว คิดในใจ ถ้าตอนเรียนขยันแบบนี้ก็ดีสินะ

แพลนและเป๋าเล็กสะพายข้าง เพิ่งถอยมาใหม่จากเถาเป่า ฮ่าๆ เน้นแนวลุยๆ กระทัดลัดแต่จุของได้เยอะอยู่

        ข้อมูลเราเอาจริงๆก็เน้นหาตามพันทิปแหละ มั่วๆไป เพราะว่าเราเห็นคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นเยอะ บางคนแบคแพคไปคนเดียวได้ งั้นก็แปลว่าไม่มีอะไรน่ากลัว หลงก็แค่ถามทาง แต่ถ้าดูรถไฟฟ้าออกวิ่งไปทางไหนคงไม่น่ามีปัญหาสำหรับเรา เพราะเราทำงานที่จีน เราถือคติที่ว่า “ถ้าอยู่จีนรอด ยิ้มอยู่ที่ไหนบนโลกนี้ไม่น่ายาก”ฮ่าๆๆ มโนไปเอง แต่ก้อจริงๆพี่จีนเค้าฮาร์คคอมากกว่านี้เยอะ

        แล้วสองวันก่อนออกเดินทางเราก้อไปแลกเงิน เงินที่ธนาคาร ICBCเห็นเค้าว่าเรทดีนะ แลกไปนิดหน่อยประมาน1หมื่นบาทพอเผื่อเค้าตรวจที่ต.ม
เอาเงินจีนไปแลก 1900หยวน 19ใบ ได้กลับมา 4ใบ(31000เยน) โธ่..หายไปใบนึงนี่ร้องเลย
มานั่งรอคิวแลกเงินจร้าา

        วันออกเดินทาง 24พย 2559 เวลา 01:45  ไม่ชอบขึ้นเครื่องตอนข้ามวันเพราะกลัวจำวันผิดตลอดเลย แล้วเราก้อนั่งจากบ้านไปPudong Airport กับสายการบิน ANA Airlineบริการดีมากก อาหารก้ออร่อยเฟ่อ แต่ไม่ชอบตอนLandingโหดมาก แสบหูไปหลายชมเลย รีวิวบนเครื่องนิสส

เปิดหนังดูจบเรื่องก้อถึงพอดี บินจากเซี่ยงไฮ้ไปแค่2ชม

อาหารเสริฟก้อโอเคเลยนะคะ ชอบๆ อร่อยด้วย ขากลับได้กินแซลมอน ไข่ปลาคาร์เวียร์ คุ้มและแหละ หกพันก่าบาท ฮ่าๆ

        ถึงสนานบินฮาเนดะประมาน 05:00เวลาญี่ปุ่น แล้วเราก็มุ่งหน้าไปทำบัตรSuica เลยจร้า เพราะเหนเค้าบอกมันสะดวกดี ใส่ไป1000เยนก่อน
                ห้องน้ำคร่าา ถึงสนามบินและต้องไปใช้บริการซักหน่อย หุหุ
        แล้วก้อเริ่มออกเดินทาง…การหลงได้เกิดขึ้นแล้ว ณ จุดๆนี้เมื่อเราๆขึ้นไปสามสี่สถานีเริ่มไปแน่ใจจะเข้าตัวเมืองยังไง เลยลงรถมา เอ๋ออ๋ามาก ปรากฎว่าขึ้นผิด เลยงม หาทางเอาใหม่ ปรากฎว่าจากสนามบินต้องนั่งไปถึงJR Yamanoteจร้า..แล้วก้อลงบันได ออกไปข้างนอก เพื่อขึ้นสถานีdaimon ไปAsakusa Line เพื่อที่จะไปcheck-in โรงแรมที่ Hibashi Nihombashi station ออกมาฝนตกและหิมะโปรปรายจร้าา เดินหลงหาโรงแรมถามทางจนเดินมาถึง IroRiที่เราจองไว้ ราคาไม่แพงค่ะ สนใจลองดูในเวปได้นะคะ อย่าง booking.comรีวิวภายในโรงแรมคร่าา

http://pantip.com/topic/35859492 ไปติดต่ามได้ในกระทู้นี้นะคะ

        แพลนวันแรกจะต้องไปนิกโก้ แต่ฝนตกไปไม่ได้แล้ว เราเลยเปลี่ยนแพลนกระทันหัน งั้นวันนี้เที่ยวในโตเกียวก่อนละกัน ถึงไปนั่นก้อคงถ่ายรูปไม่สวยอยู่ดี
         Day1:นอนพักถึงเที่ยง ตื่นมาฝนยังตกจร้า วันแรกก้อไม่ต้อนรับเราซะและ เราเลยเริ่มด้วยการไปตามหาร้านหมูทอดที่ขึ้นชื่อว่า กรอบนุ่ม อร่อย ที่Shinjuku ระหว่างเดินจ้ำเอาจ้ำเอาหาร้านด้วยความหิว ก้อมีผชญี่ปุ่นมาสะกิดไหล่เรา ซึ่งถ้าอยู่จีนตอนนี้เราคงตวาดไปและ กลัวพวกสิบแปดมงกุฎ แต่พอเราหันไป เค้ายื่นถุงมือให้เรา ซึ่งเราทำตกตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ แล้วก้อไม่รู้เค้าเดินตามเอามาคืนให้เรา โอ้ย!ความประทับใจเล็กๆในวันแรกที่มาเยือน หน้าตาดีนิสัยยังน่าร้ากก ต่อๆนอกเรื่องอีกและ ฮ่าๆเดินหาตึก Takashimayaตั้งนานท่ามกลางฝนตก สงสัยเราจะเดินผิด แต่ไม่สนและ เป็นผญเอาแต่ใจอยากกินต้องได้กิน ถึงจนได้ ได้กินสมใจ แนะนำเลย อร่อยจริงๆนะ กัดไปทีดังกรุ๊บ กรอบเนื้อข้างในก้อนุ่มจนแทบไม่ต้องเคี้ยวเลย จิ้มกับซอสของร้าน โอ้ย แซ่บอะ

ตามแพลนที่ลิสมาเลยย ไปหาตึกนี่แล้วกดลิฟท์ขึ้นชั้น13

ถึงแล้วคร่าา ร้าน Katsukura

รสชาติดีเหมือนหน้าตา ไม่ผิดหวังจริงๆที่ตากฝนมากิน หุหุ

           แล้วเราก้อกลับไปที่ Asakusaไปชมวัดเซ็นโซจิ เดินมั่วมากวันนี้เพราะผิดแพลนตั้งแต่เช้า เลยแพลนตามใจตรูและกัน ฮ่าๆ ก้อเดิมชมวัด ถ่ายรูปเดินซื้อขนมกิน ที่นี่เหมาะกับซื้อกินเองและแพคเกจจิ้งสวยๆซื้อฝากค่ะ  บรรยากาศก้อประมานนี้ค่ะ

ถึงแล้วคร่าา กำลังจะข้ามถนนไปแล้ว

ก่อนจะเข้าไปถึงตัววัดมีขนมขบเคี้ยวขายสองข้างทางมากมาย

มีคนบอกว่าขนมอันนี้อร่อย ก้อลองซื้อคละรสกินดีค่ะ เห็นคนต่อแถวซื้อเยอะดี


ก้อเข้าไปไหว้ อธิษญาน ปัดควันธูปเข้าตัวจร้า เห็นเค้าบอกเพื่อความเป็นสิริมงคล ตามๆเค้าไป ฮ่าๆ

           แล้วตอนดึกก้อไปลุยกันต่อที่ Shibuya Harajuku ย่านช๊อปปิ้งของวัยรุ่นทั้งหลาย สวยงามละลานตา แต่เราอยู่เซี่ยงไฮ้ วิวแบบนี้ชินและ เลยไม่ตื่นเต้นมาก ไปหาราเมนกิน ชามใหญ่ น้ำซุปโคตรเข้มข้น มันดีตรงที่ร้านอาหารที่ญี่ปุ่น อากาศหนาวยังเสริฟน้ำเย็นใส่น้ำแข็งนี่แหละ ซึ่งหาไม่ได้เลยในร้านอาหารที่จีนที่เราอยู่ อากาศหนาวก้อกินอุ่นกัน พอเราขอน้ำแข็งมองหน้ายังจะกินเราแหนะ ฮ่าๆ แต่เอาจริงๆเราเคยถามหมอแพทย์แผนจีนเค้าบอกว่า ที่ถูกต้องคือต้องกินของตามฤดูกาลนะ อย่างหน้าร้อนกินของร้อน หน้าหนาวกินไอติมไรพวกนี้ คือกินของเย็นได้ แต่น้ำแข็งไม่ควรกิน เพราะค่อนข้างสกปรก ซึ่งเราก้อไม่รู้จริงป่าวนะ ฟังเค้ามาอีกที นี่ๆมาดูราเมนร้านที่เราสั่ง

อยากกินไรก้อกดๆใส่เงินลงไปจร้า

ชามโต๊ โต น่ากินมั่กมากก อร่อยจริงๆน้ำซุปเข้มข้น

เดินเล่นชิวๆจร้าา

          เย็นนี้ก้อเดินเล่นไปทั่วจร้า ใครชอบวิตามิน DHC Aminoต่างๆไรน้าน ที่ชิบูย่ามีร้าน OS Drugนะ ร้านยานี่ขายวิตามินถูกกว่าร้านยาที่อื่นที่เราดูมา ส่วนที่ฮาราจุกุ มีร้าน Ainz&Tulpe เราซื้อ  Hand cream รูปหมีกลิ่นน้ำผึ้งไป ร้านเครปเยอะมาในย่านนี้ ที่ไทยก้อเห็นจนเบื่อและ เราไม่เห่ออยากกินเท่าไหร่ หมดไปหนึ่งวันจร้า เดินขาลากกลับที่พัก พรุ่งนี้แพลนไปดูภูเขาไฟ เพราะฟ้าเปิด

..............................เดี๋ยวมาอัพ วันที่2ของการเดินทางเพิ่มนะคะ รับรองสนุก โหด มีอะไรให้ทึ่งกว่าวันแรกแน่ หึหึ

ติดตามเรื่องอื่นๆได้ที่เพจ “เขียนเรื่องเขียนราว”
https://www.facebook.com/writesara.story/
ชื่อสินค้า:   เที่ยวญี่ปุ่นสุดประหยัด
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่