แอบรักมา 3 ปี ใกล้ชิดตลอดแต่ทำอะไรไม่ได้

สวัสดีครับบบพอดีผมเรื่องจะมาแชร์ให้เพื่อนๆอ่านกันนะครับ  แต่ขอบอกไว้ก่อนนะครับ ผมเขียนไม่เก่ง งงๆบ้างอย่าว่ากันนพครับ   คือต้องเริ่มจากผมได้ย้ายโรงเรียนครับไกลจากเดิมนิดหน่อยย้ายกลางเทอมเลยตั้งปรับตัวเยอะเลยเพราะสังคมคนละสังคมเลยกับฦโรงเรียนเก่า พอได้เรียนพี่ใหม่ก็มีเพื่อนใหม่ๆ   เพื่อนผมก็แนะนำนู้นนี่นั่นให้ฟังผมก็เป็นคนค่อนข้างมาเรียนเช้าด้วยเน้อก็เลยมีเวลาคุยกับเพื่อนเยอะเลยสนิทเร็ว เปิดเทอมได้ประมาณ 2 อาทิตย์ผมก็มาเข้าแถวตอนเช้าปกติ เคารพธงชาติเสร็จอะไรเสร็จก็ฟังครูอบรมตอนเช้าหน้าเสาธงคืออบรมเฉพาะระดับนะครับ ตอนนั้นผมอยู่ ม.3 แล้วก็จะมีเพื่อนจากห้องอื่นที่มาสายครูก็จะตีอะไรประมาณนี้ ผมก็คุยๆกับเพื่อนตามประสาเด็กอ่ะครับ จนมีเด็กคนหนึ่งมันมาสาย แล้วเพื่อนผู้หญิงพูดชื่อเด็กคนนั้นแล้วก็ซูบซฺบๆประมาณว่าชอบผมก็ไม่ได้สนใจอะไรนะครับ แต่ก็เหลือบไปมองเห็นว่าน่ารักดี แต่เด็กคนนั้นเป็นผู้ชายแต่หน้าหวานมากผมก็รู้สึกชอบนะ แต่ก็ไม่ได้อะไร แล้วพออยู่โรงเรียนนี้นานๆไปก็รู้จักกับเพื่อนห้องอื่นเยอะเพราะว่าผมเป็นเด็กกิจกรรมแล้วก็เล่นกีฬาด้วยครับทุกคนเลยประมาณว่าสนิทกับผมเร็วอีกอย่างผมเฟลนลี่ด้วยไงครับ 55 เพื่อนที่ผมสนิทดันเป็นเพื่อนกับเด็กคนนั้น  แต่เค้ามีแฟนแล้ว ผมเลยไม่ได้ยุ่งแต่ก็รู้สึกชอบไปแล้วเลยทำตัวปกติ แล้วมีวันหนึ่งเล่นบาสอยู่แล้วมันก็เดินผ่าน มันเป็นคนเฉยชากับทุกอย่างตั้งแต่เรียนมาผมไม่เคยเห็นรอยยิ้มมันเลย แต่วันนี้มันเดินผ่านสนามบาสกับเพื่อนมันผมเห็นมันยิ้มครั้งเลยโครตดีใจ แต่ก็ห้ามใจ มั้งงงงงง  ว่ารู้สึกกับใครไม่ได้ เพราะอีกมันก็คงไม่อยากเปิดรับใคร ก็แอบมองมาเรื่อยๆ จนปิดเทอม  แล้วก็ก็สืบหาเฟสมันจนได้ แอดไปยิ้มรับแอดโครตตตตตตตเร็ว  เข้  แต่ผมได้ทักไปอะไรนะครับ ปล่อยไว้ยังงั้นแหละ พอเปิดเทอมมาก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนอย่างเดียวเพราะว่าจะสอบเข้า ม.4 ที่ที่ดังๆเข้ายากๆอ่านหนังสือเก็บคะแนน ทำเกรดนู้นนี่นั้นทุกอย่างทุกสิ่ง สุดท้าย ที่บ้านให้ไปเรียนช่าง  เข้ ผมไม่ต้องการแบบนี้ค่าบบบ ที่บ้านให้ไปเรียนเพราะว่าอธิการบดีของที่นี่เป็นเพื่อนสนิทกับปู่ผม ผมไม่อยากเรียนก็ต้องเรียนแล้วครับ เศร้าา ผมก็เลยคิดซ่ะว่าเรียนมหาลัยแล้วกัน ก็เรียนๆไปให้จบ เลือกเรียนช่างไฟฟ้ากำลัง ครับ  โครตเท่ห์ มอบตัวแล้วทุกสิ่งอย่าง รอแค่วันเปิดเทอม  พอวันปฐมนิเทศเข้โครตตื่นเต้นว่าจะเจอเพื่อนแบบไหนเราจะโดนหาเรื่องรึเปล่าคิดไปไกลโครต พอมาโรงเรียนเท่านั้นแหละ อ้าว ไอ้เด็กคนนั้นมาเรียนด้วยวุ้ย ในใจก็คิดถามว่ามันเรียนสาขาอะไรกันนะ ผมก็ทำกิจกรรมทุกอย่างพยายามรวมกลุ่มกลุ่มมัน พยายามกินข้าวใกล้ๆโต๊ะมันทำทุกอย่างให้ใกล้มันทุกอย่างพยายามเข้าไปอยู่ในสายตามันบ้างเพราะ 1 ปีที่ผ่านมาผมไม่เคยทำอะไรให้มันเห็นผมเลย จนวันสุดท้ายผมต้องไปรวมกลุ่มเฉพาะสาขาที่เลือกเรียนผมก็ไปรวมกับเด็กช่างไฟฟ้าอ้าววววมา ในใจแบบโครตเต้นอ่ะ มันมานั่งต่อผมครับบ อ้าววเด็กโรงเรียนเดียวกันตอน ม.3นิ เข้ จำกูได้  ผมก็ เออๆใช่ๆ เคยเห็นอยู่ๆ แล้วมันก็ทักชื่อผมค่าบ อ้าวรู้จักชื่อเราหรอ มันก็พูดประมาณว่ารู้จักจากเพื่อนในห้อง แค่นี้ผมก็ดีใจแล้ว พอเปิดเทอมมาก็ไม่ได้คุยอะไรกันนะครับเพราะว่าผมเด็กเด็กเรียนแล้วเป็นหัวหน้าห้องเป็นต้นฉบับการบ้านให้เพื่อนหลายครั้งนะที่มันทักมาขอการบ้านผม ก็รู้สึกดีนะที่ได้คุยกับมันแต่ไม่เคยชวนมัรคุยนอกเรื่องสักที มีแต่ขอการบ้านแล้วมันก็หาบไปเลยไอ้เราก็ไม่กล้าชวนคุยเพราะว่าตอนนี้ใช้คำว่าเพื่อนให้ได้เต็มปากเต็มคำ เพราะอยู่ห้องเดียวกัน เลยที่ติดกัน ทุกครั้งที่ต้องเข้าแถวตามเลขที่มันจะนั่งติดผมโครตรู้สึกดีอ่ะครับ  ด้วยความโชคดีอีกอย่างคือมันเป็นเด็กที่ไม่ตั้งใจเรียนไอ้ผมก็ไม่ได้เข้าไปสนใจมันมากเพราะกลัวว่ามันจะสงสัย หรือเพราะว่า ในใจก็ยังคิดว่าเราเป็นผู้ชายแล้วมันก็เป็นผู้ชายเลยไม่กล้าไปอะไรมาก อีกอย่างกลัวเพื่อนในห้องล้อ 55 ตามประสา ผมก็เรียนๆมาจนมีวันหนึ่งมันเลิกกับแฟนมันแล้วมันก็หายไปจากโรงเรียนเกือยเดือนเลยครับ พอมันมาเรียนผมก็ถามมันว่าทำไมไม่มาเรียนก็รู้ว่ามันเลิกกับแฟน ในใจก็สงสารันแหละอีกใจก็ดีใจนะ เผื่อเรามีโอกาสมั้ง  แล้วพอมาตอนเทอม 2 ดันไปสนิทกับมันตอนไหนไม่รู้ทำอะไรด้วยกันหลายๆอย่าง นั่งเรียนก็ใส่หูฟังอันเดียวกัน โทรปลุกมันตอนเช้าทุกเช้า กินข้าวก็ด้วยกันบ่อยๆไปห้องน้ำด้วยกัน พามันไปเกรดแก้ ไปทำธุระทำนู้นนี่นั้น จนเหมือนว่าตอนนี้ขาดมันไม่ได้จริงๆ พอรู้ตัวอีกทีก็สนิทจนแทบคิดอะไรเกินเพื่อนกับมันไม่ได้เลยจริงๆ พอมันเริ่มมีแฟนใหม่มันก็หายจากผมไปโดยไม่สนใจใยดีเลย ผมมีเพื่อนเยอะก็เลยไม่เคยอยู่คนเดียว แล้วกิจกรรมที่เคยทำด้วยกันก็เริ่มหายๆไม่ได้ทำ โทรปลุกก็ไม่ได้ปลุก ไม่ได้นั่งด้วยกัน จะไปไหนก็ไม่กล้าชวนมัน หน้ามันก็แทบไม่กล้ามอง ห่างๆกันมากครับช่วงนั้น เราก็แช่งให้มันเลิกกันเร็วๆ แช่งมันทุกวัน แล้วเหมือนจะได้ผลด้วย มันทะเลาะกัน มันก็กลับมาหาผมนะครับ มันขอมานอนที่บ้านผม ซึ่งไม่เคยมีเพื่อนคนไหนมาบ้านผมเลย มันขอมาทำการบ้านมาแก้งานที่ค้างๆแล้วก็มาขอให้ผมติวให้ เพราะว่าใกล้สอบ ผมก็โอเค พอมันมาก็ซื้อขนมมานั่งกินตกดึกมีคนโทรมาหามันมันก็รับแล้วคุย ผมถามว่าใครมันก็บอกว่าพี่ มันคุยกันจนตี1 ผมไหวไม่ที่จะทนรู้สึกโครตแย่เลยแกล้งบอกมันว่าจะไปเข้าห้องน้ำแล้วก็แอบไปหลับอีกห้องที่อยู่ติดกันกลังจากนั้นอีกครึ่งชั่วโมงมันก็เดินมาตามผมเลยพูดประมาณว่าให้มันคุยกันให้เสร็จก่อนก้ได้ ไม่เป็นไร มันบอกว่าจบแล้วกลับมานอนด้วยกัน ผมก็กลับไปนอน แล้วก่อนนอนผมก็ขอนอนกอดมัน ตลอดทั้งคืนก็ทำได้แค่กอด ทำอะไมากกว่านั้นไม่ได้  พอหลังจากวันนั้นก็สอบปลายภาค พอสอบเสร็จก็ต่างคนต่างหายไปไม่ได้คุยไม่ได้ติดต่ออะไรกันอีกเลยเพราะว่าปิดเทอมมันก็คงทำงานด้วยอะไรด้วย ผมก็ได้แต่อยู่เฉยๆในโลกส่วนตัวของผม เปิดเทอมมาเอาจริงๆมั้ยครับผมห่างกันมากไม่รู้ทำไม เพราะคืนนั้นรึเปล่าผมไม่กล้าถามมัน ผมกลัวว่ามันจะเกลียดมันจริงๆ เหมือนว่ามีช่วงหนึ่งที่มันเข้าหาผม ผมก็ไล่มัน  แล้วมีวันหนึ่งที่มันถามว่าจริงๆแล้วผมคิดอะไรกับมันรึเปล่า  ผมก็บอกว่าคิด ถ้ารู้ว่ากูคิดกับทิ้งกูก็ได้นะ อย่ายุ่งกับกูเลยสัส ก็ผิดเองที่คิดกับมากเกินเพื่อน กูขอโทษนะ   มันก็ได้แค่พูดว่ากูร็ แต่กูไม่อยากเสียเพื่อนไป  ผมเกือบน้ำต่ไหล แต่ก็ไม่ไหลเพราะว่าทำอะไรไม่ได้ มันพูดมาขนาดนี้  มันก็ได้แต่บอกมันว่า กูก็ไม่อยากเสีย  มันก็บอกให้ผมทำตัวเหมือนเดิมเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมทำตัวสนุกๆเหมือนเดิม ผมก็สัญญากับมันนะว่าจะพยายามทำตัวเหมือนเดิม แต่ทุกวันนี้ผมรู้สึกเคล้งคว้างมากเหมือนเลือกอะไรไม่ได้สักอย่าง จะปล่อยมันไปก็ผูกพันธ์จนแทบปล่อยมันไปไม่ได้แล้ว จะทำตัวเกมือนเดิมก็เหมือนว่ารู้สึกเจ็บเองที่พยายามทำอะไรที่ฝืนตัวเองเกินไป   ผมเคยคิดนะครับว่าถ้าวันนั้นผมไม่คิดก็คงจะดีสิ  คือตอนนี้ผมไม่ร็ว่าจะทำไงดีดี ผมควรเจ็บรึเปล่า

ขอบคุณนะครับคนที่เข้ามาอ่าน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่