หลังจากกลับมาจากไปเที่ยว คิดมานานว่าอยากจะเล่าเรื่องราวดี๊...ดี ที่ไปเจอมามากๆค่ะ
เพราะจากที่เจอมา รู้สึกว่าหาที่ปรึกษาได้ยากมากๆ
เรื่องที่เล่าก็น่าจะเป็นกรณีศึกษา และ เป็นแหล่งข้อมูลให้กับใครสักคนที่เจอปัญหากับการเช่ารถเหมือนๆกัน
โดยเฉพาะมือใหม่ที่หัดเช่ารถขับ แถมต้องเคลมกันตั้งแต่ครั้งแรกเหมือนเรา แถมยังมาเช่าในประเทศที่สภาพอากาศโหดมันฮา แบบไอซ์แลนด์ซะด้วย
ปกติเราจะไม่ค่อยอยากขับรถในต่างประเทศเท่าไหร่ ชอบที่จะวิ่งขึ้นรถบัส หรือรถไฟมากกว่า นั่งชมวิวไป ถ่ายรูปไปดีกว่า สนุกกว่าขับเองเยอะ
อยากจะเล่าตั้งแต่เริ่มจอง เช่า ขับ ไปจนถึงเคลมประกันเลยนะคะ
เริ่มเลยละกันเนอะ มันก็มาจากเราดู The Secret Life of Walter Mitty หลายรอบไปหน่อย
เลยกระเหี้ยนกระหือรือ วางแพลนจะไปเที่ยวไอซ์แลนด์ตามหาแสงเหนือกะเค้าบ้าง
หลังจากทำทุกอย่างเรียบร้อบ ซื้อตั๋วเครื่องบิน จอง รร. ขอวีซ่า จนใกล้จะเดินทาง
ก็รู้สึกว่า รอบนี้เอาละ เที่ยวไอซ์แลนด์คงต้องเช่ารถแล้วล่ะ ก็บรรจงเปิด google ขึ้นมา เซิร์ชหารถเช่า
หาข้อมูลตามเพจที่พี่ๆ คนอื่นๆแนะนำมีทั้งรถบ้าน รถโฟร์วีล แต่เนื่องจากจ่ายทุกอย่างไปหมดแล้ว
มาจองรถอย่างสุดท้าย (เริ่มขี้เหนียว) เลยมองหาเจ้าที่ถูกที่สุด ไม่เอาละโฟร์วีล
เส้นทางที่เราเลือกเที่ยวเนี่ย ถึงจะไม่ใช่ Golden circle แต่ก็ไม่มี F-road เล้ยยย รถธรรมดาดีกว่า ขับชินมือดีด้วย
เริ่มกันเลยจากเปิดเว็บจอง ซึ่งเราได้เช็คราคาจากเจ้าอื่นๆมาแล้วนะ จึงเลือก Economy
กดดูอย่างรอบคอบ เลือกเกียร์ออโต้ก่อนเลยเพราะเราถนัดกว่า ขับแล้วก็รู้สึกปลอดภัยกว่า
(เราเดินทางเดือนตุลานะคะ สภาพถนนยังโอเคอยู่) แต่ก็ยังห่วงๆเรื่องสภาพอากาศ เราก็เลือกที่มียางสำหรับหน้าหนาว winter tyre ไว้ก่อน
เราไปกันสองคน ก็กดแอดคนขับเพิ่มไปด้วย เผื่อช่วยกันขับเวลาเพลีย
ส่วน GPS เราไม่ต้องการ เพราะเราเปิดโรมมิ่งไป เชื่อใน google map มาก อีกอย่างไปกันสองคน ก็ผลัดกันบอกทางได้เราขี้รำคาญเสียง GPS ด้วย
ก่อนจะกดชำระเงิน ทางเว็บก็จะมีถามว่าเราจะเอาประกันไหม เราก็เลือกไว้ด้วย
ส่วนนี่เป็นรายละเอียดที่ประกันของทาง Economy ครอบคลุมค่ะ
อธิบายก่อนว่า Economy เนี่ย เป็นเอเจนซี่จัดหารถเช่า
โดยเราจะไม่รู้เลยว่าเราจะได้รถของบริษัทไหน จนกระทั่งจ่ายเงินเรียบร้อย
เสร็จสรรพแล้ว บริษัทจะส่งอีเมล์มาให้ ซึ่งเราได้เป็นบริษัท Greenmotion
ก็จะได้อีเมล์ ให้ไปกดเอา ซึ่งเราก็ได้มาแบบนี้
ตัว Greenmotion เอง ไม่มีออฟฟิสอยู่ในสนามบินนะคะ
จะเห็นว่าใน voucher ข้างบนมีบอกว่าเค้าจะมาพบเราพร้อมกับป้าย รับเราพาไปรับรถที่ออฟฟิศเค้าอีกที
แต่ไม่ใกลคะ ประมาณห้าถึงสิบนาที ส่วนเรื่องมีทติ้งพ้อย แต่ก็ไม่ต้องกลัวเพราะสนามบินเคฟลาวิคเล็กมาก
จนไม่ต้องกลัวหลงกัน อย่าคิดว่าจะนอนสนามบินที่นี่ได้ มันเล็กเกินไป (เจ้าของกระทู้ตกเครื่องเกือบต้องนอนเหมือนกันค่ะ)
จุดที่เค้าจะมารอเราอยู่ตรงทางออกพอดี สังเกตขวามือจะมีร้านขายของอยู่ร้านเดียวโซนๆนั้นล่ะค่ะ หน้าประตูทางออก
ไอซ์แลนด์ กับการเช่ารถ และเคลม !
หลังจากกลับมาจากไปเที่ยว คิดมานานว่าอยากจะเล่าเรื่องราวดี๊...ดี ที่ไปเจอมามากๆค่ะ
เพราะจากที่เจอมา รู้สึกว่าหาที่ปรึกษาได้ยากมากๆ
เรื่องที่เล่าก็น่าจะเป็นกรณีศึกษา และ เป็นแหล่งข้อมูลให้กับใครสักคนที่เจอปัญหากับการเช่ารถเหมือนๆกัน
โดยเฉพาะมือใหม่ที่หัดเช่ารถขับ แถมต้องเคลมกันตั้งแต่ครั้งแรกเหมือนเรา แถมยังมาเช่าในประเทศที่สภาพอากาศโหดมันฮา แบบไอซ์แลนด์ซะด้วย
ปกติเราจะไม่ค่อยอยากขับรถในต่างประเทศเท่าไหร่ ชอบที่จะวิ่งขึ้นรถบัส หรือรถไฟมากกว่า นั่งชมวิวไป ถ่ายรูปไปดีกว่า สนุกกว่าขับเองเยอะ
อยากจะเล่าตั้งแต่เริ่มจอง เช่า ขับ ไปจนถึงเคลมประกันเลยนะคะ
เริ่มเลยละกันเนอะ มันก็มาจากเราดู The Secret Life of Walter Mitty หลายรอบไปหน่อย
เลยกระเหี้ยนกระหือรือ วางแพลนจะไปเที่ยวไอซ์แลนด์ตามหาแสงเหนือกะเค้าบ้าง
หลังจากทำทุกอย่างเรียบร้อบ ซื้อตั๋วเครื่องบิน จอง รร. ขอวีซ่า จนใกล้จะเดินทาง
ก็รู้สึกว่า รอบนี้เอาละ เที่ยวไอซ์แลนด์คงต้องเช่ารถแล้วล่ะ ก็บรรจงเปิด google ขึ้นมา เซิร์ชหารถเช่า
หาข้อมูลตามเพจที่พี่ๆ คนอื่นๆแนะนำมีทั้งรถบ้าน รถโฟร์วีล แต่เนื่องจากจ่ายทุกอย่างไปหมดแล้ว
มาจองรถอย่างสุดท้าย (เริ่มขี้เหนียว) เลยมองหาเจ้าที่ถูกที่สุด ไม่เอาละโฟร์วีล
เส้นทางที่เราเลือกเที่ยวเนี่ย ถึงจะไม่ใช่ Golden circle แต่ก็ไม่มี F-road เล้ยยย รถธรรมดาดีกว่า ขับชินมือดีด้วย
เริ่มกันเลยจากเปิดเว็บจอง ซึ่งเราได้เช็คราคาจากเจ้าอื่นๆมาแล้วนะ จึงเลือก Economy
กดดูอย่างรอบคอบ เลือกเกียร์ออโต้ก่อนเลยเพราะเราถนัดกว่า ขับแล้วก็รู้สึกปลอดภัยกว่า
(เราเดินทางเดือนตุลานะคะ สภาพถนนยังโอเคอยู่) แต่ก็ยังห่วงๆเรื่องสภาพอากาศ เราก็เลือกที่มียางสำหรับหน้าหนาว winter tyre ไว้ก่อน
เราไปกันสองคน ก็กดแอดคนขับเพิ่มไปด้วย เผื่อช่วยกันขับเวลาเพลีย
ส่วน GPS เราไม่ต้องการ เพราะเราเปิดโรมมิ่งไป เชื่อใน google map มาก อีกอย่างไปกันสองคน ก็ผลัดกันบอกทางได้เราขี้รำคาญเสียง GPS ด้วย
ก่อนจะกดชำระเงิน ทางเว็บก็จะมีถามว่าเราจะเอาประกันไหม เราก็เลือกไว้ด้วย
ส่วนนี่เป็นรายละเอียดที่ประกันของทาง Economy ครอบคลุมค่ะ
อธิบายก่อนว่า Economy เนี่ย เป็นเอเจนซี่จัดหารถเช่า
โดยเราจะไม่รู้เลยว่าเราจะได้รถของบริษัทไหน จนกระทั่งจ่ายเงินเรียบร้อย
เสร็จสรรพแล้ว บริษัทจะส่งอีเมล์มาให้ ซึ่งเราได้เป็นบริษัท Greenmotion
ก็จะได้อีเมล์ ให้ไปกดเอา ซึ่งเราก็ได้มาแบบนี้
ตัว Greenmotion เอง ไม่มีออฟฟิสอยู่ในสนามบินนะคะ
จะเห็นว่าใน voucher ข้างบนมีบอกว่าเค้าจะมาพบเราพร้อมกับป้าย รับเราพาไปรับรถที่ออฟฟิศเค้าอีกที
แต่ไม่ใกลคะ ประมาณห้าถึงสิบนาที ส่วนเรื่องมีทติ้งพ้อย แต่ก็ไม่ต้องกลัวเพราะสนามบินเคฟลาวิคเล็กมาก
จนไม่ต้องกลัวหลงกัน อย่าคิดว่าจะนอนสนามบินที่นี่ได้ มันเล็กเกินไป (เจ้าของกระทู้ตกเครื่องเกือบต้องนอนเหมือนกันค่ะ)
จุดที่เค้าจะมารอเราอยู่ตรงทางออกพอดี สังเกตขวามือจะมีร้านขายของอยู่ร้านเดียวโซนๆนั้นล่ะค่ะ หน้าประตูทางออก