“ตอบข้อสงสัยเรื่องการสักคิ้ว”
สำหรับผู้ที่กำลังหาข้อมูล ผู้ที่กำลังคิดอยากจะทำ กล้าๆ กลัวๆ แต่อยากสวย...เพราะสมัยนี้การสักคิ้วเป็นการเสริมความงามขั้นพื้นฐานของผู้หญิงทุกคนไปแล้ว บางทียังไม่เข้ามหาวิทยาลัยก็มีคิ้วกันทั่วหน้า....เพื่อให้เป็นข้อมูลสำหรับป้องกันความผิดพลาด อาจจะไปโดน “คิ้วปลิง” ไปทำแล้วเจ็บมาก ทำมาแล้วไม่ติด เพราะอะไร? หรือ อ่าวเฮ้ย!!! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หน่า
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนนะค่ะว่าการสักคิ้ว เราจะสักให้เสมือนว่าเรามีคิ้ว บางคนบอกว่าสักคิ้วเพื่อเวลาแต่งหน้าจะได้ไม่ต้องเขียนคิ้ว ถ้าต้องเขียนอีกแล้วจะไปสักทำไม (อันนี้เป็นความใจที่ผิด) เพราะถ้าเราสักคิ้วให้สีเข้มเท่ากับเวลาเราแต่งหน้า นั่นหมายความว่าเวลาเราไม่ได้แต่งหน้า คิ้วจะลอยเด่นออกมาเวลาหน้าสด (แล้วก็จะโดนเพื่อนล้อว่าเป็นชินจัง 555) จริงๆแล้วเราควรจะสักคิ้วให้เหมือนเรามีคิ้วปกติ แล้วเวลาแต่งหน้าก็เขียนเพิ่มอีกนิดหน่อย หรือ เขียนให้ได้ความเข้มเท่ากับ ปริมาณการแต่งหน้าของวันนั้น....ซึ่งก็จะเป็นการลดเวลาสำหรับการแต่งหน้าได้มาก แล้วมีโคลงคิ้วให้เขียน สำหรับคนที่เขียนคิ้วเองไม่สวย
****** ก่อนทำคิ้วเราต้องพิจารณาโครงหน้าเราด้วย ไม่ใช่ทุกคนคิ้วเท่ากันเป๊ะตั้งแต่เกิด หรือโครงหน้าสวยมนเท่ากันทุกองศา จะหันซ้ายหันขวาก็เป๊ะ เพราะงั้นการสักคิ้วจะช่วยเติมเต็มในสิ่งที่มันบกพร่อง เพราะงั้นเวลาที่คุณเขียนคิ้ว แล้วไม่เท่ากันซักทีก็เพราะว่าโครงหน้าของคนเราไม่ได้โค้งเท่ากันทุกมุม การสักคิ้วจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ โดยจะสร้างความสมดุลให้ใบหน้า แต่เดี๋ยวค่ะ !!การสักคิ้วไม่ใช่โบท็อก อย่าคาดหวังไปถึงขั้นนั้น แต่อย่างน้อยมงกุฏของคุณจะดูสง่างามกว่าที่เคย
1. คิ้วปลิง (คิ้วถาวร), คิ้ว สไลด์ (เกาหลี) , 3 มิติ , 6 มิติ, ต่างกันยังไง
คิ้วถาวร (คิ้วปลิง) ท่านผู้สูงอายุ ที่เคยไปทำสักคิ้วมากเมื่อซัก 15-20 ปีที่แล้วจะพบว่าเป็นคิ้วสีดำเท่ากันทั้งเส้น บางคนเป็นเส้นเล็กๆ เหมือนเอาเมจิกขีดเป็นเส้นโค้ง ซึ่งถามว่าผิดมั้ย ก็ตอบว่า ไม่ผิดค่ะ เพราะเป็นวิวัฒนาการในสมัยนั้น แต่จะผิดมาก ถ้าคุณทำคิ้วมาภายใน 5 ปีย้อนหลังไป แล้วได้คิ้วแบบนี้มา แต่ขนาดกลับใหญ่ตามเทรนด์ ที่เรียกว่า “คิ้วปลิง” นั่นแปลว่า “คุณพลาด” ยกเว้นคุณชอบเป็นส่วนตัวนะค่ะ คิ้วปลิง หรือ คิ้วถาวร ถ้าใช้สีที่ไม่ได้คุณภาพ หรือใช้หมึกสักตัว มาระบายลงไปบนโคลงคิ้วโดยมีความเข้มของสีเท่ากันทั้งหมด ซึ่งนิยมมากเมื่อ 10-20ปี ที่แล้ว สมัยนั้นถ้าจำไม่ผิด ที่จำได้เพราะคุณแม่เคยไปทำมาตอนสาวๆค่ะ หืม... (การสักแบบนี้จะใช้เครื่องสักแบบไฟฟ้า)
อ้อ คิวแบบนี้ลบยากมาก และใช้เวลานานมากกว่าจะจางลง บางทีก็จะไม่จางลงเลย
คิ้วสไลด์ อันนี้จะเป็นวิวัฒนาการต่อมาจากคิ้วถาวร ใช้เครื่องสักแบบไฟฟ้าหรือดิจิตอล ฝนสีแบบทึบแต่จะมีการไล่สี เริ่มเป็นที่นิยม เมื่อประมาณ 8-10 ปีที่ผ่านมา เวลาไม่แต่งหน้า คิ้วคุณก็จะยังแน่วแน่ ยืนหยัดอยู่บนใบหน้า เสมือนเขียนคิ้วตลอดเวลา คิ้วแบบนี้จะต่างกับคิ้วถาวรตรงที่มีการแรงเงาให้ช่วงหัวคิ้วสีอ่อน แล้วค่อยๆเข้มขึ้นไปทางหางคิ้ว บางคนเรียกคิ้วแบบนี้ว่าสไลด์แบบเกาหลี (**เอาใจสายเกา สายไอดอลเกาหลีทั้งหลายจะชอบ) แต่จะดูหลอกตา เวลาหน้าสดอยู่ (ความรู้สึกส่วนตัว) ส่วนสีที่ใช้จะดี ร้าย นั้น ขึ้นอยู่กับร้านที่คุณเลือกใช้บริการ ว่าเค้าจะเลือกใช้สีเฉพาะสักคิ้วหรือไม่ และใช้เกรดดีแค่ไหน (ราคาถูกเกินไปก็ไม่ตอบโจทก์นะฮะ พูดเลออออ)
คิ้ว 3 มิติ วิธีสักคือจะใช้ ด้ามเพ้นท์ ใส่เข็มชนิดแบน เป็นเข็มเฉพาะการสักคิ้วแบบลายเส้น จุ่มหมึกแล้ว เพ้นท์เป็นเส้นๆ หมือนกับขนคิ้ว เมื่อเวลาสักเสร็จแล้วจะเป็นเส้นๆ ไม่ทึบ ลายเส้นที่ได้จะเป็นเส้นคิ้วแบบตรงๆ ตั้งๆ เป็นเส้นแบบเว้นช่องไฟเท่ากัน เรียงตัวกันทื่อๆ (เท่าที่เคยเห็นมา) การสักแบบนี้สามารถใช้เครื่องสักแบบไฟฟ้าร่วมได้ แต่เครื่องแบบไฟฟ้าหรือดิจิตอลบางชนิด จะมีความสั่นสะเทือน เมื่อใช้เพ้นท์แล้ว จะทำให้เส้นคิ้วใหญ่ และอาจจะไหลรวมกันเป็นเส้นแบบหนาๆ และจะดูเหมือนระยะห่างขนคิ้วไม่เท่ากัน บางเส้นหนา บางเส้นเล็ก หากร้านไหนใช้เครื่อง ให้หลีกเลี่ยงได้เลยค่ะ เพราะถ้าไม่ใช่ระดับปรมาจารย์มือนิ่งๆ แล้วละก็ เส้นมาม่าแน่นอน (อาจจะดูเว่อร์แต่เพื่อให้นึกภาพออก โดยที่ไม่ต้องไปลองทำเองนะจ๊ะ)
คิ้ว 6 มิติ เป็นการพัฒนาต่อจากคิ้ว 3 มิติ และพัฒนาลายเส้นโดย แชมป์สักคิ้ว 3 มิติ (ขอไม่เอ่ยนาม เพราะไม่รู้ว่าเอ่ยได้ไหม ณ จุดนี้) คิ้ว 6 มิติ เป็นที่นิยมมากในช่วง 4-5 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งมีคำถามมากมายว่าแล้วมันต่างจาก 3 มิติ ยังไง ความต่างก็ ลายเส้นจะมีความละเอียด มีน้ำหนักของเส้น พริ้วไปตามโครงคิ้ว ลายเส้นคมกว่ามาก และเหมือนขนคิ้วจริง การสักแบบนี้ช่างต้องมีฝีมือมากระดับหนึ่ง ซึ่งเอาเข้าจริงต่อให้ช่างเรียนจบจากที่เดียวกัน ก็อาจจะลากเส้นได้แตกต่างกัน ไม่เหมือนกันอยู่ดี มันคือศิลปะ คือความนิ่งมือช่างแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ชอบร้านไหนก็เลือกดูจากรีวิว และลายเส้น เป็นหลักค่ะ ส่วนสีที่ก็ควรให้ความสำคัญ เพราะเป็นการสักลายเส้น ควรมี Pigment ของสีเข้มข้น และปลอดภัยต่อร่างกายด้วย คิ้วแบบนี้เวลาไม่แต่งหน้า จะเหมือนเรามีขนคิ้วจริงแบบธรรมชาติ
****ประเด็นหลัก คือ ลายเส้นของร้านที่คุณเลือก เน้นดูรีวิวหนักๆ แต่ละร้าน สีที่ใช้ อุปกรณ์ มารตฐานเป็นสิ่งที่ตอบคุณได้ว่าคุณควรเลือกร้านไหน ร้านที่มีลูกค้านั่งรอยาวเหยียดเพราะราคาถูกอาจไม่ใช่คำตอบ!!!...สำหรับลูกค้าที่ต้องการงานคุณภาพมาอยู่บนใบหน้า
2. ร้านไหนดี
ตอบตัวเองก่อนค่ะ ว่าชอบให้คิ้วตัวเอง เป็นแบบไหน ถ้าตั้งอกตั้งใจว่าชีวิตนี้ “ข้าจะไม่เขียนคิ้วแล้ว” ก็สไลด์ไปเลยค่ะ คุณจะมีคิ้วติดหนึบ ทั้งยามหลับ ยามตื่น ยามหน้าสดเหมือนเขียนคิ้วตลอด 24hr หรือ ต้องการมีคิ้วธรรมชาติ ตอนแต่งหน้าก็เขียนเติมตามโครงที่สัก ตอนหน้าสดก็เหมือนมีเส้นคิ้ว แต่ทรงเป๊ะมาตั้งแต่เกิด อะไรก็ว่าไป ก็มุ่งไปดูรีวิวต่างๆ ตามแบบที่ชอบ รายละเอียดและลายเส้นของร้านนี้เป็นอย่างไร ความสะอาด สีที่ใช้ละ ดูรีวิวแล้ว เปรียบเทียบทุกรีวิว ของร้านเดียวกันว่า งานเหมือนกันไหม ถ้ารีวิวงานออกมาคล้ายกันทุกคน แปลว่าช่างมือค่อนข้างนิ่งแล้ว
***** ประเด็นสำคัญ คือ ร้านบางร้านจะมีช่างหลายคน ความเสี่ยงก็ยิ่งมากค่ะ ไม่รู้ฝีมือเหมือนกันทุกคนไหม แล้วแบบในริวิว ช่างคนไหนละที่สัก ถ้าไว้ใจคนไหนต้องทำกับคนนั้น บางร้าน ช่างออกแบบคนนึง ช่างสักอีกคนนึง พอทำงานออกมาแล้วไม่ดี ก็โทษกันไป โทษกันมา ช่างสักบอกว่าสักตามที่ออกแบบ คนออกแบบบอกว่าออกแบบดีแล้ว คนสักสักไม่ดีต่างหาก โอ้ว!!! สุดท้าย คิ้วฉันนนนนนละ
3. ราคาเท่าไรดี
ปัจจุบันมีตั้งแต่ 1,500-60,000 บาท ขึ้นอยู่กับรูปแบบที่คุณเลือกค่ะ สไลด์ หรือ ลายเส้น ถ้าเป็นงานลายเส้น ก็ต้องใช้ทักษะ และ ศิลปะ ความชำนาญของช่าง ซึ่งราคาขึ้นอยู่กับผลงาน และอุปกรณ์ และสีที่ใช้ค่ะ ถ้าเราชอบงานร้านนี้เท่าไรก็จ่ายค่ะ เอาที่สมเหตุ สมผล บางคนอาจจะไปเจอร้านฝีมือดีราคาไม่แพงก็โชคดีไป บางคนไปทำมาเป็นหมื่นแต่ได้งานไม่ดีก็มี ของแบบนี้อยู่ที่ความชอบส่วนตัว ลูกค้าตัดสินใจเองค่ะ อ้อ...ระวังบางร้านชอบก๊อบเอารูปงานจากร้านอื่นหรือจากเวปไซท์ต่างประเทศมาโฆษณา คุณอาจจะพลาดได้โทรไปคุยก่อนดีกว่า
4. สักทับรอยสักเดิมได้มั้ย
ได้ค่ะ...แต่จะการสักใหม่จะไม่มีประโยชน์เลยถ้าของเก่าเป็นแบบคิ้วถาวร หรือคิ้วสไลด์แบบสีเข้มมาก หรือดำไปเลย และถ้าสียังไม่จางลง พอที่จะทำให้เห็นลายเส้นของใหม่ได้ แต่ถ้าเคยสักแบบลายเส้นมาแล้วไม่ชอบอยากสักใหม่ อันนี้พอมีหนทาง แต่ต้องรอให้ของเก่าจางลงก่อน
ปัญหานี้พบมากค่ะ ผู้หญิงหลายคนตัดสินใจพลาด ไปทำคิ้วถาวรมา ซึ่งบางคนอาจจะโดนหมึกสักตัวมาสักคิ้ว โอกาสจางลงยากมาก ก็ทำให้ไม่สามารถแก้ไขได้ หรือบางคนทำแบบลายเส้นมาแต่ไม่สวย แต่ใช้สีแบบจางลงได้ก็ไปทำใหม่ได้ค่ะ
5. การเติมสี
เมื่อสักเสร็จไปแล้ว สวยเป๊ะ ถูกใจ.... หลายร้านจะมีให้มาเติมได้ภายในเวลาที่กำหนด อาจจะมีค่าใช้ หรือ ไม่มี แล้วแต่ร้าน การเติมนั้น จริงๆแล้วมีไว้ เผื่อ สำหรับคนที่ผิวมันมากๆ สีอาจจะติดยาก (สีซึมเข้าผิวยาก) เมื่อแผลลอกแล้ว สีติดไม่ครบ ก็มาเติม หรือ การดูแลรักษาหลังการสักไม่ดี ทำให้สีหลุดมาพร้อมการลอก หรือลอกเร็วเกิน แต่สำหรับคนที่สวยแล้ว และสีติดดีก็ไม่จำเป็นต้องไปเติมค่ะ เพราะบางคนบอกต้องการความคุ้ม เค้ามีให้เติมก็เติม
เวลาที่เหมาะสมที่จะกลับมาเติม อันดับ แรก ต้องลอกหมดก่อน สอง คือ ควรจากหลังสักประมาณ 2-3 เดือน เพราะถ้าเร็วกว่านี้ แผลเดิมภายใต้ผิวยังไม่หาย จะทำให้เจ็บมาก ถ้าเป็นลายเส้น เส้นก็จะบานค่ะ ลองคิดดูว่าเราจะต้องเพ้นท์ลงไปบนแผลเก่า อึ๋ยๆ
6. การดูแลหลังสัก อันนี้ไม่มีอะไรมากค่ะ ไม่ควรโดนน้ำบริเวณคิ้ว 4-5 วัน อาจจะรู้สึกคันบ้าง อย่าไปเกานะค่ะ เพราะถ้าเกา เสก็ดหลุดออกมาก่อนเวลา สีจะไม่ติด ถ้าร้านมีวิตามิน สำหรับทาหลังสักขาย ก็ซื้อมาใช้ได้เลย (ห้ามใช้วาสลีน และไม่ควรใช่คลีนซิ่งที่มีส่วนผสมของ Oil) ศัตรูของคนสักคิ้วคือความมัน ค่ะ
7. ความสะอาดและความปลอดภัย
เรืองนี้ส่วนใหญ่ในบ้านเราทุกร้านจะมีความปลอดภัยอยู่แล้ว แต่ถ้าบางท่านยังระแวงก็ให้สังเกตุตามนี้ค่ะ
- อุปกรณ์สะอาด ช่างใส่ถุงมือและผ้าปิดปาก ระหว่างการสัก
- สถานที่ภายในร้าน สถานที่สัก สะอาด (ร้านควรจะเป็นร้านปิดและมีแอร์เพื่อป้องกันฝุ่นหรืออากาศภายนอกเข้ามา)
- ปกติแล้วไม่ควรจะมีครัว หรือ โต๊ะกินข้าว ในบริเวณที่สัก
- เข็มเปลี่ยนทุกครั้ง (อันนี้ส่วนใหญ่เปลี่ยนอยู่แล้วค่ะ หรือขอดูเข็มใหม่ก่อนเปลี่ยนได้)
- ควรจะมียาฆ่าเชื้อใส่ระหว่างสัก (ใส่แล้วจะแสบๆเวลาสัก อันนี้ลองถามช่างได้)
ขอให้บทความนี้เป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังจะสักคิ้วนะค่ะ ว่าไม่ต้องกลัวค่ะ เอาไว้เป็นแนวทางในการปรึกษากับช่างหรือร้านที่เราจะไปทำ ขอให้ได้คิ้วเป๊ะเวอร์ทุกคนนะค่ะ
จบการรีวิว แต่เพียงเท่านี้ หากผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะค่ะ


ขอบคุณค่ะ
สักคิ้ว... ปัญหากล้าๆ กลัวๆ เลือกร้านอย่างไร.. ให้ตรงใจคุณ ทั้งลายเส้น, 3d, 6d ไหนจะมี สไลด์(มีต่อ..เกาหลีอีก)
สำหรับผู้ที่กำลังหาข้อมูล ผู้ที่กำลังคิดอยากจะทำ กล้าๆ กลัวๆ แต่อยากสวย...เพราะสมัยนี้การสักคิ้วเป็นการเสริมความงามขั้นพื้นฐานของผู้หญิงทุกคนไปแล้ว บางทียังไม่เข้ามหาวิทยาลัยก็มีคิ้วกันทั่วหน้า....เพื่อให้เป็นข้อมูลสำหรับป้องกันความผิดพลาด อาจจะไปโดน “คิ้วปลิง” ไปทำแล้วเจ็บมาก ทำมาแล้วไม่ติด เพราะอะไร? หรือ อ่าวเฮ้ย!!! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หน่า
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนนะค่ะว่าการสักคิ้ว เราจะสักให้เสมือนว่าเรามีคิ้ว บางคนบอกว่าสักคิ้วเพื่อเวลาแต่งหน้าจะได้ไม่ต้องเขียนคิ้ว ถ้าต้องเขียนอีกแล้วจะไปสักทำไม (อันนี้เป็นความใจที่ผิด) เพราะถ้าเราสักคิ้วให้สีเข้มเท่ากับเวลาเราแต่งหน้า นั่นหมายความว่าเวลาเราไม่ได้แต่งหน้า คิ้วจะลอยเด่นออกมาเวลาหน้าสด (แล้วก็จะโดนเพื่อนล้อว่าเป็นชินจัง 555) จริงๆแล้วเราควรจะสักคิ้วให้เหมือนเรามีคิ้วปกติ แล้วเวลาแต่งหน้าก็เขียนเพิ่มอีกนิดหน่อย หรือ เขียนให้ได้ความเข้มเท่ากับ ปริมาณการแต่งหน้าของวันนั้น....ซึ่งก็จะเป็นการลดเวลาสำหรับการแต่งหน้าได้มาก แล้วมีโคลงคิ้วให้เขียน สำหรับคนที่เขียนคิ้วเองไม่สวย
****** ก่อนทำคิ้วเราต้องพิจารณาโครงหน้าเราด้วย ไม่ใช่ทุกคนคิ้วเท่ากันเป๊ะตั้งแต่เกิด หรือโครงหน้าสวยมนเท่ากันทุกองศา จะหันซ้ายหันขวาก็เป๊ะ เพราะงั้นการสักคิ้วจะช่วยเติมเต็มในสิ่งที่มันบกพร่อง เพราะงั้นเวลาที่คุณเขียนคิ้ว แล้วไม่เท่ากันซักทีก็เพราะว่าโครงหน้าของคนเราไม่ได้โค้งเท่ากันทุกมุม การสักคิ้วจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ โดยจะสร้างความสมดุลให้ใบหน้า แต่เดี๋ยวค่ะ !!การสักคิ้วไม่ใช่โบท็อก อย่าคาดหวังไปถึงขั้นนั้น แต่อย่างน้อยมงกุฏของคุณจะดูสง่างามกว่าที่เคย
1. คิ้วปลิง (คิ้วถาวร), คิ้ว สไลด์ (เกาหลี) , 3 มิติ , 6 มิติ, ต่างกันยังไง
คิ้วถาวร (คิ้วปลิง) ท่านผู้สูงอายุ ที่เคยไปทำสักคิ้วมากเมื่อซัก 15-20 ปีที่แล้วจะพบว่าเป็นคิ้วสีดำเท่ากันทั้งเส้น บางคนเป็นเส้นเล็กๆ เหมือนเอาเมจิกขีดเป็นเส้นโค้ง ซึ่งถามว่าผิดมั้ย ก็ตอบว่า ไม่ผิดค่ะ เพราะเป็นวิวัฒนาการในสมัยนั้น แต่จะผิดมาก ถ้าคุณทำคิ้วมาภายใน 5 ปีย้อนหลังไป แล้วได้คิ้วแบบนี้มา แต่ขนาดกลับใหญ่ตามเทรนด์ ที่เรียกว่า “คิ้วปลิง” นั่นแปลว่า “คุณพลาด” ยกเว้นคุณชอบเป็นส่วนตัวนะค่ะ คิ้วปลิง หรือ คิ้วถาวร ถ้าใช้สีที่ไม่ได้คุณภาพ หรือใช้หมึกสักตัว มาระบายลงไปบนโคลงคิ้วโดยมีความเข้มของสีเท่ากันทั้งหมด ซึ่งนิยมมากเมื่อ 10-20ปี ที่แล้ว สมัยนั้นถ้าจำไม่ผิด ที่จำได้เพราะคุณแม่เคยไปทำมาตอนสาวๆค่ะ หืม... (การสักแบบนี้จะใช้เครื่องสักแบบไฟฟ้า)
อ้อ คิวแบบนี้ลบยากมาก และใช้เวลานานมากกว่าจะจางลง บางทีก็จะไม่จางลงเลย
คิ้วสไลด์ อันนี้จะเป็นวิวัฒนาการต่อมาจากคิ้วถาวร ใช้เครื่องสักแบบไฟฟ้าหรือดิจิตอล ฝนสีแบบทึบแต่จะมีการไล่สี เริ่มเป็นที่นิยม เมื่อประมาณ 8-10 ปีที่ผ่านมา เวลาไม่แต่งหน้า คิ้วคุณก็จะยังแน่วแน่ ยืนหยัดอยู่บนใบหน้า เสมือนเขียนคิ้วตลอดเวลา คิ้วแบบนี้จะต่างกับคิ้วถาวรตรงที่มีการแรงเงาให้ช่วงหัวคิ้วสีอ่อน แล้วค่อยๆเข้มขึ้นไปทางหางคิ้ว บางคนเรียกคิ้วแบบนี้ว่าสไลด์แบบเกาหลี (**เอาใจสายเกา สายไอดอลเกาหลีทั้งหลายจะชอบ) แต่จะดูหลอกตา เวลาหน้าสดอยู่ (ความรู้สึกส่วนตัว) ส่วนสีที่ใช้จะดี ร้าย นั้น ขึ้นอยู่กับร้านที่คุณเลือกใช้บริการ ว่าเค้าจะเลือกใช้สีเฉพาะสักคิ้วหรือไม่ และใช้เกรดดีแค่ไหน (ราคาถูกเกินไปก็ไม่ตอบโจทก์นะฮะ พูดเลออออ)
คิ้ว 3 มิติ วิธีสักคือจะใช้ ด้ามเพ้นท์ ใส่เข็มชนิดแบน เป็นเข็มเฉพาะการสักคิ้วแบบลายเส้น จุ่มหมึกแล้ว เพ้นท์เป็นเส้นๆ หมือนกับขนคิ้ว เมื่อเวลาสักเสร็จแล้วจะเป็นเส้นๆ ไม่ทึบ ลายเส้นที่ได้จะเป็นเส้นคิ้วแบบตรงๆ ตั้งๆ เป็นเส้นแบบเว้นช่องไฟเท่ากัน เรียงตัวกันทื่อๆ (เท่าที่เคยเห็นมา) การสักแบบนี้สามารถใช้เครื่องสักแบบไฟฟ้าร่วมได้ แต่เครื่องแบบไฟฟ้าหรือดิจิตอลบางชนิด จะมีความสั่นสะเทือน เมื่อใช้เพ้นท์แล้ว จะทำให้เส้นคิ้วใหญ่ และอาจจะไหลรวมกันเป็นเส้นแบบหนาๆ และจะดูเหมือนระยะห่างขนคิ้วไม่เท่ากัน บางเส้นหนา บางเส้นเล็ก หากร้านไหนใช้เครื่อง ให้หลีกเลี่ยงได้เลยค่ะ เพราะถ้าไม่ใช่ระดับปรมาจารย์มือนิ่งๆ แล้วละก็ เส้นมาม่าแน่นอน (อาจจะดูเว่อร์แต่เพื่อให้นึกภาพออก โดยที่ไม่ต้องไปลองทำเองนะจ๊ะ)
คิ้ว 6 มิติ เป็นการพัฒนาต่อจากคิ้ว 3 มิติ และพัฒนาลายเส้นโดย แชมป์สักคิ้ว 3 มิติ (ขอไม่เอ่ยนาม เพราะไม่รู้ว่าเอ่ยได้ไหม ณ จุดนี้) คิ้ว 6 มิติ เป็นที่นิยมมากในช่วง 4-5 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งมีคำถามมากมายว่าแล้วมันต่างจาก 3 มิติ ยังไง ความต่างก็ ลายเส้นจะมีความละเอียด มีน้ำหนักของเส้น พริ้วไปตามโครงคิ้ว ลายเส้นคมกว่ามาก และเหมือนขนคิ้วจริง การสักแบบนี้ช่างต้องมีฝีมือมากระดับหนึ่ง ซึ่งเอาเข้าจริงต่อให้ช่างเรียนจบจากที่เดียวกัน ก็อาจจะลากเส้นได้แตกต่างกัน ไม่เหมือนกันอยู่ดี มันคือศิลปะ คือความนิ่งมือช่างแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ชอบร้านไหนก็เลือกดูจากรีวิว และลายเส้น เป็นหลักค่ะ ส่วนสีที่ก็ควรให้ความสำคัญ เพราะเป็นการสักลายเส้น ควรมี Pigment ของสีเข้มข้น และปลอดภัยต่อร่างกายด้วย คิ้วแบบนี้เวลาไม่แต่งหน้า จะเหมือนเรามีขนคิ้วจริงแบบธรรมชาติ
****ประเด็นหลัก คือ ลายเส้นของร้านที่คุณเลือก เน้นดูรีวิวหนักๆ แต่ละร้าน สีที่ใช้ อุปกรณ์ มารตฐานเป็นสิ่งที่ตอบคุณได้ว่าคุณควรเลือกร้านไหน ร้านที่มีลูกค้านั่งรอยาวเหยียดเพราะราคาถูกอาจไม่ใช่คำตอบ!!!...สำหรับลูกค้าที่ต้องการงานคุณภาพมาอยู่บนใบหน้า
2. ร้านไหนดี
ตอบตัวเองก่อนค่ะ ว่าชอบให้คิ้วตัวเอง เป็นแบบไหน ถ้าตั้งอกตั้งใจว่าชีวิตนี้ “ข้าจะไม่เขียนคิ้วแล้ว” ก็สไลด์ไปเลยค่ะ คุณจะมีคิ้วติดหนึบ ทั้งยามหลับ ยามตื่น ยามหน้าสดเหมือนเขียนคิ้วตลอด 24hr หรือ ต้องการมีคิ้วธรรมชาติ ตอนแต่งหน้าก็เขียนเติมตามโครงที่สัก ตอนหน้าสดก็เหมือนมีเส้นคิ้ว แต่ทรงเป๊ะมาตั้งแต่เกิด อะไรก็ว่าไป ก็มุ่งไปดูรีวิวต่างๆ ตามแบบที่ชอบ รายละเอียดและลายเส้นของร้านนี้เป็นอย่างไร ความสะอาด สีที่ใช้ละ ดูรีวิวแล้ว เปรียบเทียบทุกรีวิว ของร้านเดียวกันว่า งานเหมือนกันไหม ถ้ารีวิวงานออกมาคล้ายกันทุกคน แปลว่าช่างมือค่อนข้างนิ่งแล้ว
***** ประเด็นสำคัญ คือ ร้านบางร้านจะมีช่างหลายคน ความเสี่ยงก็ยิ่งมากค่ะ ไม่รู้ฝีมือเหมือนกันทุกคนไหม แล้วแบบในริวิว ช่างคนไหนละที่สัก ถ้าไว้ใจคนไหนต้องทำกับคนนั้น บางร้าน ช่างออกแบบคนนึง ช่างสักอีกคนนึง พอทำงานออกมาแล้วไม่ดี ก็โทษกันไป โทษกันมา ช่างสักบอกว่าสักตามที่ออกแบบ คนออกแบบบอกว่าออกแบบดีแล้ว คนสักสักไม่ดีต่างหาก โอ้ว!!! สุดท้าย คิ้วฉันนนนนนละ
3. ราคาเท่าไรดี
ปัจจุบันมีตั้งแต่ 1,500-60,000 บาท ขึ้นอยู่กับรูปแบบที่คุณเลือกค่ะ สไลด์ หรือ ลายเส้น ถ้าเป็นงานลายเส้น ก็ต้องใช้ทักษะ และ ศิลปะ ความชำนาญของช่าง ซึ่งราคาขึ้นอยู่กับผลงาน และอุปกรณ์ และสีที่ใช้ค่ะ ถ้าเราชอบงานร้านนี้เท่าไรก็จ่ายค่ะ เอาที่สมเหตุ สมผล บางคนอาจจะไปเจอร้านฝีมือดีราคาไม่แพงก็โชคดีไป บางคนไปทำมาเป็นหมื่นแต่ได้งานไม่ดีก็มี ของแบบนี้อยู่ที่ความชอบส่วนตัว ลูกค้าตัดสินใจเองค่ะ อ้อ...ระวังบางร้านชอบก๊อบเอารูปงานจากร้านอื่นหรือจากเวปไซท์ต่างประเทศมาโฆษณา คุณอาจจะพลาดได้โทรไปคุยก่อนดีกว่า
4. สักทับรอยสักเดิมได้มั้ย
ได้ค่ะ...แต่จะการสักใหม่จะไม่มีประโยชน์เลยถ้าของเก่าเป็นแบบคิ้วถาวร หรือคิ้วสไลด์แบบสีเข้มมาก หรือดำไปเลย และถ้าสียังไม่จางลง พอที่จะทำให้เห็นลายเส้นของใหม่ได้ แต่ถ้าเคยสักแบบลายเส้นมาแล้วไม่ชอบอยากสักใหม่ อันนี้พอมีหนทาง แต่ต้องรอให้ของเก่าจางลงก่อน
ปัญหานี้พบมากค่ะ ผู้หญิงหลายคนตัดสินใจพลาด ไปทำคิ้วถาวรมา ซึ่งบางคนอาจจะโดนหมึกสักตัวมาสักคิ้ว โอกาสจางลงยากมาก ก็ทำให้ไม่สามารถแก้ไขได้ หรือบางคนทำแบบลายเส้นมาแต่ไม่สวย แต่ใช้สีแบบจางลงได้ก็ไปทำใหม่ได้ค่ะ
5. การเติมสี
เมื่อสักเสร็จไปแล้ว สวยเป๊ะ ถูกใจ.... หลายร้านจะมีให้มาเติมได้ภายในเวลาที่กำหนด อาจจะมีค่าใช้ หรือ ไม่มี แล้วแต่ร้าน การเติมนั้น จริงๆแล้วมีไว้ เผื่อ สำหรับคนที่ผิวมันมากๆ สีอาจจะติดยาก (สีซึมเข้าผิวยาก) เมื่อแผลลอกแล้ว สีติดไม่ครบ ก็มาเติม หรือ การดูแลรักษาหลังการสักไม่ดี ทำให้สีหลุดมาพร้อมการลอก หรือลอกเร็วเกิน แต่สำหรับคนที่สวยแล้ว และสีติดดีก็ไม่จำเป็นต้องไปเติมค่ะ เพราะบางคนบอกต้องการความคุ้ม เค้ามีให้เติมก็เติม
เวลาที่เหมาะสมที่จะกลับมาเติม อันดับ แรก ต้องลอกหมดก่อน สอง คือ ควรจากหลังสักประมาณ 2-3 เดือน เพราะถ้าเร็วกว่านี้ แผลเดิมภายใต้ผิวยังไม่หาย จะทำให้เจ็บมาก ถ้าเป็นลายเส้น เส้นก็จะบานค่ะ ลองคิดดูว่าเราจะต้องเพ้นท์ลงไปบนแผลเก่า อึ๋ยๆ
6. การดูแลหลังสัก อันนี้ไม่มีอะไรมากค่ะ ไม่ควรโดนน้ำบริเวณคิ้ว 4-5 วัน อาจจะรู้สึกคันบ้าง อย่าไปเกานะค่ะ เพราะถ้าเกา เสก็ดหลุดออกมาก่อนเวลา สีจะไม่ติด ถ้าร้านมีวิตามิน สำหรับทาหลังสักขาย ก็ซื้อมาใช้ได้เลย (ห้ามใช้วาสลีน และไม่ควรใช่คลีนซิ่งที่มีส่วนผสมของ Oil) ศัตรูของคนสักคิ้วคือความมัน ค่ะ
7. ความสะอาดและความปลอดภัย
เรืองนี้ส่วนใหญ่ในบ้านเราทุกร้านจะมีความปลอดภัยอยู่แล้ว แต่ถ้าบางท่านยังระแวงก็ให้สังเกตุตามนี้ค่ะ
- อุปกรณ์สะอาด ช่างใส่ถุงมือและผ้าปิดปาก ระหว่างการสัก
- สถานที่ภายในร้าน สถานที่สัก สะอาด (ร้านควรจะเป็นร้านปิดและมีแอร์เพื่อป้องกันฝุ่นหรืออากาศภายนอกเข้ามา)
- ปกติแล้วไม่ควรจะมีครัว หรือ โต๊ะกินข้าว ในบริเวณที่สัก
- เข็มเปลี่ยนทุกครั้ง (อันนี้ส่วนใหญ่เปลี่ยนอยู่แล้วค่ะ หรือขอดูเข็มใหม่ก่อนเปลี่ยนได้)
- ควรจะมียาฆ่าเชื้อใส่ระหว่างสัก (ใส่แล้วจะแสบๆเวลาสัก อันนี้ลองถามช่างได้)
ขอให้บทความนี้เป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังจะสักคิ้วนะค่ะ ว่าไม่ต้องกลัวค่ะ เอาไว้เป็นแนวทางในการปรึกษากับช่างหรือร้านที่เราจะไปทำ ขอให้ได้คิ้วเป๊ะเวอร์ทุกคนนะค่ะ
จบการรีวิว แต่เพียงเท่านี้ หากผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะค่ะ
ขอบคุณค่ะ