เสน่หาอำมหิตตอนที่ 7



ตอนที่ผ่านมา
ตอนที่ 1
http://pantip.com/topic/35511893
ตอนที่ 2
http://pantip.com/topic/35525322
ตอนที่ 3
http://pantip.com/topic/35548846
ตอนที่ 4
http://pantip.com/topic/35745046
ตอนที่ 5
http://pantip.com/topic/35777648
ตอนที่ 6
http://pantip.com/topic/35830253


เสน่หาอำมหิต


โดย... K. Line




     7.

    ในช่วงเวลาที่ล่วงเลยเที่ยงคืนไปแล้วแบบนี้ แม้แต่ในเมืองหลวงเองหลายที่ก็ยังร้างผู้คนสัญจร หญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินอยู่บนถนนเส้นเล็ก ๆ ที่เป็นทางเข้าหมู่บ้านซึ่งปลูกลึกเข้าไปจากถนนใหญ่ด้วยระยะทางไกลพอสมควร

    เธอนึกกลัวและหวาดระแวงทุกครั้งที่ต้องเดินเท้าเข้าหมู่บ้านในเวลาเช่นนี้ แต่ทำอย่างไรได้ ในเมื่องานที่ทำอยู่บังคับให้เธอต้องเลิกงานตอนเที่ยงคืนอย่างน้อยเดือนละครั้ง รถรับส่งของบริษัทก็มาส่งถึงแค่ปากทางโดยอ้างว่าระยะทางเข้าหมู่บ้านไม่ได้อยู่ในสัญญาจ้าง บ่อยครั้งที่มีอะไรทำให้เธอตกใจในระหว่างเดินเข้าบ้าน เช่น จู่ๆ ก็มีสุนัขกระโจนออกมาจากข้างทางและไล่เห่า และหลังจากนั้นสุนัขอีกเป็นฝูงก็วิ่งกรูออกมาทำแบบเดียวกันจนกระทั่งเธอเดินพ้นเขตของพวกมันไป

    ค้างคาว ลมกรรโชก หรือกิ่งไม้ไหว ทั้งหมดดูน่าหวาดหวั่นยามเมื่อถนนร้างผู้คนและท้องฟ้าถูกความมืดมิดกลืนกิน แต่ทว่าคืนนี้กลับเป็นยิ่งกว่านั้น หญิงสาวต้องพบกับความหวาดกลัวที่สุดในชีวิตตั้งแต่เกิดมา

    แข้งขาอ่อนแรงจนต้องทรุดลงกับพื้น เงาร่างสูงผิดมนุษย์ทั่วไป ทั้งร่างปกคลุมไปด้วยขน มันยืนจังก้าอยู่ห่างออกไปไม่ไกล น้ำลายไหลยืดออกมาจากปากที่ยื่นยาวคล้ายปากสุนัข ไม่ต้องคิดให้มากความก็รู้ได้ว่า อะไรก็ตามที่กำลังขวางทางอยู่มันต้องการตัวเธอ ร่างสยองย่างสามขุมเข้ามาหา เนื้อตัวของหญิงสาวสั่นเทาจนไม่อาจควบคุมเอาไว้ได้ น้ำตาไหลพรากขณะคิดในใจว่าเธอคงไม่มีโอกาสได้กลับบ้านแน่แล้ว

    ฉับพลันนั้น อะไรบางอย่างพุ่งวูบเข้าหานักล่า ชั่วกะพริบตาหัวของมันก็หลุดกระเด็นกลิ้งมาหยุดอยู่ตรงหน้าของหญิงสาว รวดเร็วจนมองไม่ทันว่ามันเกิดอะไรขึ้น และเมื่ออสูรกายไร้หัวล้มลงจึงสังเกตเห็นว่ามีเงาร่างเล็ก ๆ ยืนอยู่ใกล้กันกับร่างไร้ศีรษะ

    “โอ ขอบคุณนะคะ”

    หญิงสาวละล่ำละลักขอบคุณด้วยความปีติจากใจจริง แต่ทว่าไร้เสียงตอบรับใด ๆ กลับมา จนกระทั่งเจ้าของร่างเล็กค่อยๆ หันมาหา เธอจึงเห็นดวงตาแดงก่ำราวกับสีเลือดลุกวาวอยู่ในความสลัว และขณะนี้มันกำลังจ้องมองมาที่เธออย่างประสงค์ร้าย ถ้าหญิงสาวคิดว่าตั้งแต่เกิดมาเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเป็นอะไรที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตนี้ เธอก็รู้แล้วว่าคิดผิด ลางสังหรณ์บอกว่าต่อจากนี้ไปต่างหากคือความน่ากลัวที่แท้จริง

    ร่างเล็กเดินเนิบนาบเข้าหา แสยะยิ้ม ตาเหลือกค้างคล้ายกำลังอยู่ในจินตนาการที่มีความสุขเหลือล้น ฉับพลันนั้นความคิดที่ว่าเธอรอดแล้วเมื่อเสี้ยววินาทีก่อนหน้าก็พลันสลายไป...




    ศักดาเดินเรื่อยเปื่อยอยู่ในห้างสรรพสินค้า ช่วงสองเดือนที่ผ่านมาเกิดเรื่องขึ้นมากมายจนราวกับไม่ใช่เวลาเพียงแค่เท่านั้น มีคดีฆาตกรรมแบบเดียวกันเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ซึ่งคาดว่าเกิดจากฆาตกรรายเดียวกันอย่างน้อยสามคดี ทั้งสามคดีพบเบาะแสเต็มไปหมดในที่เกิดเหตุ ทั้งรูปแบบการสังหารและความเสียหายในที่เกิดเหตุ

    เหยื่อรายล่าสุดเป็นหญิงวัยทำงาน เธอถูกสังหารที่ทางเข้าหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งกลางดึก สภาพศพถูกฉีกทึ้งเป็นชิ้น ๆ ราวกับฆาตกรกำลังคลุ้มคลั่งหรือสำเริงสำราญเบิกบานใจในการทำร้ายเหยื่อจนห้ามอารมณ์ตนเองไม่ได้เหมือนกับผู้เคราะห์ร้ายรายอื่น ๆ

    แต่สิ่งที่ทำให้คดีล่าสุดพิเศษกว่าคดีอื่น ๆ ก็คือ พบเศษชิ้นส่วนอวัยวะของสิ่งมีชีวิตปริศนาที่เหล่าตำรวจไม่รู้จัก ซึ่งแน่นอนว่าเศษซากนั้นคืออสูรกาย...

     ตั้งแต่ทำงานด้านมืดมา ศักดาไม่เคยพบเหตุการณ์ที่อสูรกายนักล่าหมายตาเหยื่อรายเดียวกันจนถึงขั้นสังหารกันเองมาก่อน ซึ่งอาจเป็นเพราะอสูรกายนักล่าแต่ละสายพันธุ์มีความแข็งแกร่งและมีคุณลักษณะเด่นที่แตกต่างกันไป หากต้องต่อสู้กันเองต่อให้ชนะก็ต้องเจ็บหนักจนได้ไม่คุ้มเสีย และนั่นจึงทำให้พวกมันหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากันก็เป็นได้

    ดังนั้น เหตุการณ์สังหารในครั้งนี้จึงเป็นความผิดปกติอย่างยิ่งเพราะมันสังหารโดยไม่เลือกเหยื่อ อะไรก็ตามที่กล้าทำแบบนี้ต้องมั่นใจอย่างมากในพลังของตนเอง หรือไม่เช่นนั้นมันก็ต้องทำลงไปโดยไม่ได้ยั้งคิดอะไรเลย ซึ่งหากยังปล่อยให้เกิดการฆ่าไม่เลือกแบบนี้ต่อไป สักวันก็คงจะปิดข่าวเอาไว้ไม่มิด แต่ปัญหาก็คือ ทั้ง ๆ ที่เหมือนกับว่ามีเค้าเงื่อนอยู่ต่อหน้าเต็มไปหมด แต่ทว่าศักดากลับไม่อาจเชื่อมโยงเบาะแสเหล่านั้นเข้ากับอะไรที่เขารู้จักได้

    ในเมื่อพยายามคิดทบทวนซ้ำไปซ้ำมาแล้วก็ยังไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเอง ชายหนุ่มจึงคิดว่าบางทีหากได้พักสมองเสียบ้างคงเป็นทางเลือกที่ดี และอาจจะมีความคิดอะไรสอดแทรกขึ้นมาได้บ้างยามที่สมองถูกปล่อยให้ว่าง

    “ว่าไงเจ้าศักดิ์ เย็นนี้แกจะมากินข้าวกับพ่อที่บ้านเหมือนที่ตกลงกันไว้มั้ย”

    “ครับพ่อ ยังเหมือนเดิมครับ ไว้เจอกันครับ”

    พอดีกับเมื่อหลายวันก่อน คุณไพบูลย์ผู้เป็นบิดาของเขาโทรศัพท์มาถามย้ำเรื่องที่ทั้งคู่มีนัดทานข้าวเย็นด้วยกัน วันนี้ชายหนุ่มจึงถือโอกาสหยุดงานและมาเดินเล่นในห้างสรรพสินค้า เขาเลยเลือกซื้อข้าวของติดไม้ติดมือกลับบ้านไปเสียด้วยเลย ทว่าการมาเดินเล่นในครั้งนี้กลับไม่เป็นดังหวัง เพราะในสมองของนายตำรวจหนุ่มก็ยังคงหมกมุ่นวนเวียนคิดถึงแต่คดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นจนไม่มีแก่ใจจะสนใจสิ่งของรอบตัว

    “เอ่อ ขอโทษค่ะ”

    เสียงหวานนุ่มดึงสติของชายหนุ่มให้กลับมา เขาหันไปมองและพบว่าเจ้าของเสียงเป็นหญิงสาวท่าทางทะมัดทะแมงคนหนึ่ง ใบหน้าคมขำสมส่วนของเธอทำให้เขาถึงกับสะดุดตาเมื่อแรกเห็น

(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่