ปีนัง ปีนังอีกแล้วหรอ? กระทู้ปีนังนี่มาเป็นสิบเป็นร้อยแล้วมั้งเนี่ย
หลายคนอาจคิดในใจแบบนี้ แม้แต่คนเขียนก็เช่นกัน
ฮ่าๆ ก็เพิ่งมีโอกาสได้ไปปีนังมานี่น่า เลยอยากจะมาแชร์มุมมองของเรากับเมือง Art เล็กๆ อย่างปีนังที่ไปง่ายสุดๆ
.
เริ่มต้นการเดินทาง

ช่วงนี้มันว่างพอดี อยู่ดีๆ ก็มีเหตุให้ว่าง ไม่รู้จะไปไหน ทำอะไร เลยไปเที่ยวกันดีกว่า
ปีนังก็ดีไปใกล้ มีกระทู้รีวิวเยอะมากมาย แถมนั่งรถไฟไปก็ได้ เอ้อ ง่ายดี!
เราเลยจองตั๋วนอนจากหัวลำโพงเพื่อจะไปลงบัตเตอร์เวิร์ธฝั่งมาเลเซียเลย
แต่ปรากฎว่า ตั๋วรถไฟมีไปแค่ปาดังเบซาร์ เราเลยคิด เห้ยเอาไงดีวะ ปาดังเบซาร์นี่อยู่ตรงไหน
แล้วจะไปถึงปีนังได้ยังไง!? ผู้หญิงคนเดียวเลยต้องเซฟหน่อย
เปลี่ยนแผนเลยไปลงแค่หาดใหญ่แล้วต่อรถตู้จากหากใหญ่ไปปีนังได้เลย
แถมยังไปส่งถึงหน้าโรงแรม เห้ยอันนี้ดี คุ้ม!
.
โย่ Penang Here i am!

เย้ๆ ในที่สุดหลังจากที่นั่งรถไฟจนตรูดดดดดดชา และไปทรหดอดทนกันบนรถตู้เป็นเวลารวมแล้ว 24 ชั่วโมง กรี้ด
ฉันทำได้ ฉันมาถึงปีนังแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยย แหม มันช่างดีอะไรแบบนี้
พอมาถึงโฮสเทลชื่อ Noob ที่ปีนัง ก็นั่งรอเช็คอินประมาณ 3 ชั่วโมงได้ แทบจะกรี้ด
เพราะความจริงแล้วเจ้าของโฮสเทลให้เราเช็คอินด้วยตัวเองได้ โดยเขาใส่ชื่อเราไว้หน้าประตูแล้ว
โกรธมากที่นั่งรอตั้งนาน โกรธตัวเอง 55555555 ทำไมกรุง่าวจ๊าดแบบเน้ นั่งตัวเหม็นเน่า น้ำไม่ได้อาบอยู่ตั้งนาน แหม!
ปีนังวันแรกไม่เป็นใจให้เราเท่าไหร่ กว่าจะเช็คอินเก็บของอาบน้ำเสร็จ ก็เย็นแล้ว
เลยแค่เตรียมตัวไปตึกคอมต้า ที่รวบรวมทุกสรรพสิ่ง หาอะไรกินและจะซื้อตั๋วรถทัวร์ไปจุดหมายต่อไป
คือมะละกานั่นเอง เย้!
แต่ปีนังวันแรกก็ไม่เป็นใจให้เราจริงๆ เพราะ อยู่ดีๆ ฝนก็ตก เห้อออออ ถอนหายใจเป็นร้อยที่สิบแปดล้านแล้วในวันนี้
ไม่มีอะไรหยุดเราได้แม้แต่ฝนก็เหอะ แต่ยังเดินทางไปตึกคอมต้าอยู่ดี อิฝน ยังไงเธอก็หยุดฉันไม่ได้
ผ่านไปวันแรกด้วยความเหนื่อยล้า พร้อมกับคิดว่า เอาดีๆ นี่กรุมาทำอะไรที่นี้วะเนี้ย (หยาบเพื่อความอรรถรส)
เหงาหรอถามจริง หรือติสแตก หรืออะไร มาทำไม อยากมาจริงหรอ มีปัญหาเรื่องหัวใจถูกมะ (คุยกับตัวเอง)
นั่งไปนั่งมาในโฮสเทล เหงาซะงั้น ร้องไห้เลย อยากกลับบ้าน
เออ ยอมรับเลยว่ามีปัญหาเรื่องหัวใจ อยากออกเดินทางให้ลืมเรื่องอะไรบ้างอย่างไป
แล้วก็อยากจะกลับมายืนด้วยตัวเองอีกครั้งโดยที่ไม่ต้องให้ใครมามีอิทธิพลกับใจเรามากขนาดนั้น
เราออกเดินทางมาเพื่อให้เรารู้ว่าเราเข้มแข็งมากแค่ไหน
คิดได้ดังนั้นก็ปาดน้ำตาทิ้งไปเบาๆ เอาวะ ยังไงก็ต้องไปต่อ
.
ปีนัง เมืองสตรีทอาร์ท

เราคิดว่าปีนังเป็นเมืองเล็กๆ ที่นักท่องเที่ยวเยอะมาก คงเพราะอยากมาสัมผัสเสน่ห์ของปีนัง
เราว่าปีนังเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากนะ ทั้งศิลปะและวัฒนธรรมที่ผสานกันอย่างลงตัว
แต่ได้เดินดูตึกรามบ้านช่องมันก็ดีแล้ว ที่สำคัญหากคุณมีเวลาและมีแข้งขาที่แข็งแรง
จะตามล่าหาสตรีทอาร์ทให้ครบทุกจุดก็ยังไหว

แต่คือเราไร้แพลน ไม่ได้เตรียมตัวจะตามล่าขนาดนั้น แถมมาคนเดียวด้วย
เลยเอาแค่พอประมาณ เดินเจอตรงไหน ก็ถ่าย เก็บไป
แทบไม่ได้ดูรีวิวด้วย มาคิดได้ตอนหลังว่า ถ้าวางแผนดีกว่านี้ก็คงจะดี
แต่ไม่ได้วางแผนแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ
เพราะมันทำให้เราไม่คาดหวังกับอะไรเลย ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายของทริปนี้อยู่แล้ว
ที่เราไม่อยากคาดหวังอะไรแล้ว แม้แต่กับตัวเอง
อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ สบายๆ เพราะชีวิตมันก็มาพร้อมกับความผิดหวังอยู่แล้ว
ลองดูกันสักตั้งวะ ว่าชีวิตที่ไม่ต้องคาดหวังจะเป็นยังไง

.
มองเมืองปีนังผ่านรถเมล์

ความสะดวกสบายของการมาปีนังคือเราเน้นความสบายด้วยการนั่งรถเมล์ฟรี ย้ำว่าฟรี! ชื่อ CAT โดยเราเริ่มต้นขึ้นจากท่าเรือหรือตรงที่เป็นสายรถเมล์เริ่มต้น นั่งวนจนกลับมาลงที่เดิม แล้วก็เดินไปขึ้นรถใหม่ นั่งวนอย่างนี้ประมาณ 3-4 รอบได้ จนหายเหนื่อยแถมยังได้รู้อีกด้วยว่าอะไรอยู่ตรงไหน
มันดีจริงๆ โดยรถนี้จะวนไปเรื่อยๆ ผ่านตึกคอมต้า วนกลับมาผ่านสถานที่สำคัญของจอร์จทาวน์อย่างโบสถ์, Fort Cornwallis, Esplanade Park
ถือว่าเป็นการทัวร์จอร์จทาวน์ได้ดีในระดับนึงเลย ขอแนะนำรถสายนี้เลย ใครไปต้องลองนั่งกันดู
.
What I've got from PENANG

ความจริงแล้วเราอยู่ปีนังแค่วันเดียวเต็มๆ ตอนกลางคืนก็นั่งรถทัวร์ต่อไปมะละกา
แต่แค่วันเดียวกับปีนังแล้วความจริงมันจะว่าพอก็พอ ไม่พอก็ไม่พอ ปีนังยังมีมุมเล็กๆ มากมายซ่อนอยู่ที่เรายังไม่ได้ไปเยือน
แต่สิ่งที่ได้รับมาจากปีนังครั้งนี้คือได้รู้ว่าปีนังนี่น่ารักจริงๆ
เป็นเมืองที่สายอาร์ทต้องลองไปสักครั้ง
หรือแค่คุณเป็นคนชอบกิน ปีนังก็น่าจะทำให้คุณหลงรักได้ มีทั้งสตรีทฟู้ด มีฟู้ดคอร์ทที่รวมอาหารอร่อยๆ มากมาย
มีบะหมี่เกี๊ยวที่เหมือนเมืองไทยเด๊ะ มีกลิ่นอายอาหารจีนหน่อยๆ มีความแขกนิดๆ
มันมีความผสมผสานหลากหลายวัฒนธรรมอยู่ในเมืองเล็กๆ แห่งนี้
แถมยังไปได้ง๊ายง่าย ถ้าคุณยังไม่มีแพลนไปไหน ลองมาปีนังดูสิ แล้วคุณจะรู้ว่าความสุข มันหาได้ง่ายแค่นิดเดียวเอง
- การถ่ายรูปสตรีทอาร์ทในปีนังไม่ง่ายเลย กว่าจะหาเจอและพอหาเจอแล้ว คุณจะได้พบกับรถที่จอดอยู่ ถ่ายออกมาสวยๆ เต็มๆ นี่ยากจริงๆ
- การเดินในปีนังนี่ยากพอๆ กับบ้านเรา มีรถมอไซจอดอยู่เต็มฟุตบาธ เดินลงมาจะโดนรถเฉี่ยวไหมก็ไม่รู้ แต่มันสนุกจริงๆ
เชื่อเถอะว่าถ้าคุณยู่รอดปลอดภัยในเมืองไทย จะไปที่ไหนก็สบาย ได้ฝึกสกิลการเอาตัวรอดแบบเต็มขั้น
- ปีนังร้อนจริงๆ แถมเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝนตก อากาศเปลี่ยนมาก ทางที่ดีอย่าลืมพกร่มกันไปด้วยนะจ๊ะ
- เดินเล่นไปเถอะ สนุกดีจริงๆ ตามตรอกซอกซอยมีอะไรซ่อนอยู่ เราเจอร้านก๋วยเตี๋ยวอร่อยในซอยเปลี่ยวมาแล้ว
'Hello from PENANG' นั่งรถไฟไปปีนัง เมืองสุดอาร์ทที่ใครๆ ก็ไปได้ง่ายนิดเดียว :)
หลายคนอาจคิดในใจแบบนี้ แม้แต่คนเขียนก็เช่นกัน
ฮ่าๆ ก็เพิ่งมีโอกาสได้ไปปีนังมานี่น่า เลยอยากจะมาแชร์มุมมองของเรากับเมือง Art เล็กๆ อย่างปีนังที่ไปง่ายสุดๆ
.
เริ่มต้นการเดินทาง
ช่วงนี้มันว่างพอดี อยู่ดีๆ ก็มีเหตุให้ว่าง ไม่รู้จะไปไหน ทำอะไร เลยไปเที่ยวกันดีกว่า
ปีนังก็ดีไปใกล้ มีกระทู้รีวิวเยอะมากมาย แถมนั่งรถไฟไปก็ได้ เอ้อ ง่ายดี!
เราเลยจองตั๋วนอนจากหัวลำโพงเพื่อจะไปลงบัตเตอร์เวิร์ธฝั่งมาเลเซียเลย
แต่ปรากฎว่า ตั๋วรถไฟมีไปแค่ปาดังเบซาร์ เราเลยคิด เห้ยเอาไงดีวะ ปาดังเบซาร์นี่อยู่ตรงไหน
แล้วจะไปถึงปีนังได้ยังไง!? ผู้หญิงคนเดียวเลยต้องเซฟหน่อย
เปลี่ยนแผนเลยไปลงแค่หาดใหญ่แล้วต่อรถตู้จากหากใหญ่ไปปีนังได้เลย
แถมยังไปส่งถึงหน้าโรงแรม เห้ยอันนี้ดี คุ้ม!
.
โย่ Penang Here i am!
เย้ๆ ในที่สุดหลังจากที่นั่งรถไฟจนตรูดดดดดดชา และไปทรหดอดทนกันบนรถตู้เป็นเวลารวมแล้ว 24 ชั่วโมง กรี้ด
ฉันทำได้ ฉันมาถึงปีนังแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยย แหม มันช่างดีอะไรแบบนี้
พอมาถึงโฮสเทลชื่อ Noob ที่ปีนัง ก็นั่งรอเช็คอินประมาณ 3 ชั่วโมงได้ แทบจะกรี้ด
เพราะความจริงแล้วเจ้าของโฮสเทลให้เราเช็คอินด้วยตัวเองได้ โดยเขาใส่ชื่อเราไว้หน้าประตูแล้ว
โกรธมากที่นั่งรอตั้งนาน โกรธตัวเอง 55555555 ทำไมกรุง่าวจ๊าดแบบเน้ นั่งตัวเหม็นเน่า น้ำไม่ได้อาบอยู่ตั้งนาน แหม!
ปีนังวันแรกไม่เป็นใจให้เราเท่าไหร่ กว่าจะเช็คอินเก็บของอาบน้ำเสร็จ ก็เย็นแล้ว
เลยแค่เตรียมตัวไปตึกคอมต้า ที่รวบรวมทุกสรรพสิ่ง หาอะไรกินและจะซื้อตั๋วรถทัวร์ไปจุดหมายต่อไป
คือมะละกานั่นเอง เย้!
แต่ปีนังวันแรกก็ไม่เป็นใจให้เราจริงๆ เพราะ อยู่ดีๆ ฝนก็ตก เห้อออออ ถอนหายใจเป็นร้อยที่สิบแปดล้านแล้วในวันนี้
ไม่มีอะไรหยุดเราได้แม้แต่ฝนก็เหอะ แต่ยังเดินทางไปตึกคอมต้าอยู่ดี อิฝน ยังไงเธอก็หยุดฉันไม่ได้
ผ่านไปวันแรกด้วยความเหนื่อยล้า พร้อมกับคิดว่า เอาดีๆ นี่กรุมาทำอะไรที่นี้วะเนี้ย (หยาบเพื่อความอรรถรส)
เหงาหรอถามจริง หรือติสแตก หรืออะไร มาทำไม อยากมาจริงหรอ มีปัญหาเรื่องหัวใจถูกมะ (คุยกับตัวเอง)
นั่งไปนั่งมาในโฮสเทล เหงาซะงั้น ร้องไห้เลย อยากกลับบ้าน
เออ ยอมรับเลยว่ามีปัญหาเรื่องหัวใจ อยากออกเดินทางให้ลืมเรื่องอะไรบ้างอย่างไป
แล้วก็อยากจะกลับมายืนด้วยตัวเองอีกครั้งโดยที่ไม่ต้องให้ใครมามีอิทธิพลกับใจเรามากขนาดนั้น
เราออกเดินทางมาเพื่อให้เรารู้ว่าเราเข้มแข็งมากแค่ไหน
คิดได้ดังนั้นก็ปาดน้ำตาทิ้งไปเบาๆ เอาวะ ยังไงก็ต้องไปต่อ
.
ปีนัง เมืองสตรีทอาร์ท
เราคิดว่าปีนังเป็นเมืองเล็กๆ ที่นักท่องเที่ยวเยอะมาก คงเพราะอยากมาสัมผัสเสน่ห์ของปีนัง
เราว่าปีนังเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากนะ ทั้งศิลปะและวัฒนธรรมที่ผสานกันอย่างลงตัว
แต่ได้เดินดูตึกรามบ้านช่องมันก็ดีแล้ว ที่สำคัญหากคุณมีเวลาและมีแข้งขาที่แข็งแรง
จะตามล่าหาสตรีทอาร์ทให้ครบทุกจุดก็ยังไหว
แต่คือเราไร้แพลน ไม่ได้เตรียมตัวจะตามล่าขนาดนั้น แถมมาคนเดียวด้วย
เลยเอาแค่พอประมาณ เดินเจอตรงไหน ก็ถ่าย เก็บไป
แทบไม่ได้ดูรีวิวด้วย มาคิดได้ตอนหลังว่า ถ้าวางแผนดีกว่านี้ก็คงจะดี
แต่ไม่ได้วางแผนแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ
เพราะมันทำให้เราไม่คาดหวังกับอะไรเลย ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายของทริปนี้อยู่แล้ว
ที่เราไม่อยากคาดหวังอะไรแล้ว แม้แต่กับตัวเอง
อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ สบายๆ เพราะชีวิตมันก็มาพร้อมกับความผิดหวังอยู่แล้ว
ลองดูกันสักตั้งวะ ว่าชีวิตที่ไม่ต้องคาดหวังจะเป็นยังไง
.
มองเมืองปีนังผ่านรถเมล์
ความสะดวกสบายของการมาปีนังคือเราเน้นความสบายด้วยการนั่งรถเมล์ฟรี ย้ำว่าฟรี! ชื่อ CAT โดยเราเริ่มต้นขึ้นจากท่าเรือหรือตรงที่เป็นสายรถเมล์เริ่มต้น นั่งวนจนกลับมาลงที่เดิม แล้วก็เดินไปขึ้นรถใหม่ นั่งวนอย่างนี้ประมาณ 3-4 รอบได้ จนหายเหนื่อยแถมยังได้รู้อีกด้วยว่าอะไรอยู่ตรงไหน
มันดีจริงๆ โดยรถนี้จะวนไปเรื่อยๆ ผ่านตึกคอมต้า วนกลับมาผ่านสถานที่สำคัญของจอร์จทาวน์อย่างโบสถ์, Fort Cornwallis, Esplanade Park
ถือว่าเป็นการทัวร์จอร์จทาวน์ได้ดีในระดับนึงเลย ขอแนะนำรถสายนี้เลย ใครไปต้องลองนั่งกันดู
.
What I've got from PENANG
ความจริงแล้วเราอยู่ปีนังแค่วันเดียวเต็มๆ ตอนกลางคืนก็นั่งรถทัวร์ต่อไปมะละกา
แต่แค่วันเดียวกับปีนังแล้วความจริงมันจะว่าพอก็พอ ไม่พอก็ไม่พอ ปีนังยังมีมุมเล็กๆ มากมายซ่อนอยู่ที่เรายังไม่ได้ไปเยือน
แต่สิ่งที่ได้รับมาจากปีนังครั้งนี้คือได้รู้ว่าปีนังนี่น่ารักจริงๆ
เป็นเมืองที่สายอาร์ทต้องลองไปสักครั้ง
หรือแค่คุณเป็นคนชอบกิน ปีนังก็น่าจะทำให้คุณหลงรักได้ มีทั้งสตรีทฟู้ด มีฟู้ดคอร์ทที่รวมอาหารอร่อยๆ มากมาย
มีบะหมี่เกี๊ยวที่เหมือนเมืองไทยเด๊ะ มีกลิ่นอายอาหารจีนหน่อยๆ มีความแขกนิดๆ
มันมีความผสมผสานหลากหลายวัฒนธรรมอยู่ในเมืองเล็กๆ แห่งนี้
แถมยังไปได้ง๊ายง่าย ถ้าคุณยังไม่มีแพลนไปไหน ลองมาปีนังดูสิ แล้วคุณจะรู้ว่าความสุข มันหาได้ง่ายแค่นิดเดียวเอง
- การถ่ายรูปสตรีทอาร์ทในปีนังไม่ง่ายเลย กว่าจะหาเจอและพอหาเจอแล้ว คุณจะได้พบกับรถที่จอดอยู่ ถ่ายออกมาสวยๆ เต็มๆ นี่ยากจริงๆ
- การเดินในปีนังนี่ยากพอๆ กับบ้านเรา มีรถมอไซจอดอยู่เต็มฟุตบาธ เดินลงมาจะโดนรถเฉี่ยวไหมก็ไม่รู้ แต่มันสนุกจริงๆ
เชื่อเถอะว่าถ้าคุณยู่รอดปลอดภัยในเมืองไทย จะไปที่ไหนก็สบาย ได้ฝึกสกิลการเอาตัวรอดแบบเต็มขั้น
- ปีนังร้อนจริงๆ แถมเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝนตก อากาศเปลี่ยนมาก ทางที่ดีอย่าลืมพกร่มกันไปด้วยนะจ๊ะ
- เดินเล่นไปเถอะ สนุกดีจริงๆ ตามตรอกซอกซอยมีอะไรซ่อนอยู่ เราเจอร้านก๋วยเตี๋ยวอร่อยในซอยเปลี่ยวมาแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้