
ต่อนะครับ ช่วงนั้นแอบชอบสาวในห้อง ก็จะมีการเอากีตาร์ไปเล่นที่ รร ดีดกีตาร์ให้เพื่อนร้องเพลงบ้างครับ เพื่อโชว์ศักยภาพ5555 แต่การเล่นดนตรีใน รร เริ่มเป็นที่นิยมน้อยลง เพราะเวลามีงานดนตรี บรรดาอีกาทั้งหลายก็ไม่รอช้าที่จะแสดงความยิ่งใหญ่ในพวกพ้องของตน กลางเป็นว่า อาจารย์ฝ่ายปกครองขานมาว่า ห้ามจัดงานดนตรีอีก ซึ่งทำไมต้องมาเป็นในยุคของกุด้วยวะเนี่ยยยย ก็ทำได้แค่รองานประกวดครับ ถึงจะมีเวทีเล่น ซึ่งตรงๆ คือค่อนข้างเฟล การมีวงดนตรีในโรงเรียน แต่หมดโอกาสเล่นในโรงเรียนตัวเองมันแย่มากๆ ช่วงนี้การเรียนของผมอยู่ในระดับประคับประคอง เพราะไม่ชอบวิชาคณิตศาสตร์เลย จำไม่ได้เลยว่าทำไมมันมาถึงจุดที่เราตามไม่ทันแล้วได้เร็วขนาดนี้ ซึ่งวิชาคณิตก็ต้องมีคณิตพื้นฐานและเพิ่มเติม และการจัดตารางเรียนก็แปลกๆ ให้เรียนพละ และไปต่อคอม และนั่งเรียนเหม็นเหงื่อเหม็นเท้ากัน ชมนมที่ต้องแย่งกันเข้าก็เพื่อเลือกชุมนุมที่สบายที่สุด หลายๆอย่างใน รร ทำให้ผมรุ้สึกคิดนอกกรอบขึ้นเรื่อยๆ และมีผลต่อการฟังเพลงของผมมากขึ้นๆ ผมเริ่มฟังเพลงหนักขึ้นอีก เพลงที่เนื้อหาเสียดสีสังคม เพราะเอาแค่ในโรงเรียนผมก็ยังเจออะไรที่มันทำให้ผมคิดแบบนั้นมากมากเต็มไปหมด เราเรียนอย่างหนัก ในขณะที่ครูบางคนขอคาบวิชาศิลปะเพื่อมาสอนวิชาของตน เหตุใดวิชาเหล่านั้นถึงถูกมองว่าไม่สำคัญ เพื่อนทุกคนในห้องก็เริ่มๆแข่งขันกันเรียน และเรียนพิเศษกันมากขึ้นๆ ซึ่งผมนั่งคิดประเด็นนี้อยู่บ่อยครั้ง ว่าเรียนมากขนาดนี้จะมีเวลาคิดหรือค้นคว้าอะไร แค่การบ้านก็เยอะมากพอแล้ว
ผมไม่ค่อยทำการบ้านเลยครับ เช่นเดียวกันเพื่อน ผู้ชาย ทั่วไปในวัยเดียวกัน คนนึงที่ทำคือ "ตี๋เล็ก" หนุ่มแว่น ผิวคล้ำ ป้อมๆ หน้าตี๋หน่อย ตี๋เล็กอยากเป็นหมอครับ อยากดูแลพ่อแม่และครอบครัวได้ นอกนั้นส่วนมากก็ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นอะไร แต่นักดนตรีอย่างผมคิดอยู่อย่างเดียวคือศิลปินครับ อยากนำเสนออะไรที่ต้องการให้คนฟัง จากแค่เล่นกีตาร์และตั้งวงหนุกๆ กลายเป็นผมอยากเป็นศิลปินผู้ปลดปล่อยพลังเต็มตัวแล้วครับ แต่ด้วยความคิดแอนตี้นุ่นนี่ของผมก็ทำให้ผมไม่ค่อยเข้าใจอะไรที่คนทั่วไปคิดครับ อย่างเช่นเพลงอะไรดังๆที่เพื่อนฟัง เราเป็นนักดนตรีแท้ๆเรากลับไม่เคยฟังเลย อย่างยุคนี้เค้ากำลังใส่เสื้อผ้าอะไร แฟชั่นอะไร วัฒนธรรมหรือศัพท์อะไรกำลังฮิต นอกจากผมจะไม่รู้อะไรพวกนี้แล้ว ผมยังไม่ได้สนใจจะรู้ด้วยครับ วันๆคิดแต่จะเล่นเพลงอะไร ไปไหนกับไอโลไอโมและชาวแก๊งดี นั่นทำให้ผมเป็นเด็กที่แต่งตัวไม่เป็นและตามเพื่อนวัยเดียวกันไม่ทันในบางเรื่อง ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ควรเอาอย่างแน่นอนครับ 55555 ช่วงนั้นผมแอบชอบ ผญ คนนึงชื่อ "บ" ขอบอกแค่ตัวย่อละกันครับ เพราะจนถึงทุกวันนี้ผมก็ยังไม่เคยบอกว่าจริงๆผมชอบเค้า ผมชอบ ผญ ใกล้ตัวครับ เพราะไม่เคยขอเบอ หรือเข้าไปคุย ไม่เคยแอบชอบหรือจีบรุ่นพี่รุ่นน้อง คนที่ผมชอบคนนี้ ขาวๆ หมวยๆ แต่ไม่เอ๊กนะ5555 เป็นเด็กดีตั้งใจเรียนมากๆ พ่อแม่ดูแลใกล้ชิดออกจากบ้านเฉพาะตอนเรียนพิเศษ เวลาได้คุยกันก็มีแต่น้อยครับ และผมก็ไม่เคยรุกเต็มที่ จะขี้อายไปไหน ก็คนมันไม่หล่อนิครับ 55555 แต่แล้วเรื่องตลกๆก็เกิดขึ้น เมื่อผมได้รู้จักกับ ผญ ชื่อ"ป" ซึ่งคนนี้เป็นพี่ญาติกับ "บ" ที่สนิทกันพอควร หล่อนชอบผมเข้าเต็มเปาครับ หลังจากเห็นผมเล่นกีตาร์วันนึงในห้องซ้อม และผมก็เริ่มๆได้ยินข่าวมาทางเพื่อนๆว่า เค้าชอบผมจริงๆ ก็เลยได้มีโอกาสลองคุยๆกัน ผมก็เขิน พอควร หล่อนเป็นพี่ผม 2 ปีได้ แต่ปัญญาอ่อน ติ๊งต๊อง ขาว หมวย ฟันเหยินมาก เป็นเด็กวงโย คุยกันทุกวันจนเริ่มไปไหนาไหนด้วยกัน จนวันนึงก็เริ่มคบหากันจริงจัง ตัวติดกันมากๆ ไปไหนอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ซึ่งผมไม่เคยคิดอะไรเลยในตอนนั้น ติด..ี ถ้าภาษาวัยรุ่นก็คงคำนั้น วงดนตรีของผมยังคงใช้ชื่อ โยเกิร์ต และฝีมือพัฒนาจนเรียกได้ว่า เป็นวงฝีมือต้นๆใน รร เพราะใน รร มีไม่กี่วงละ 55555 รุ่นพี่เก่งๆจบไปหมดละ ตอนนั้นจำได้ว่าดนตรีเป็นส่วนนึงของชีวิตไปละครับ อยู่ห้องซ้อมกันทุกวันจนพ่อแม่ผมไม่ถาม พ่อแม่ปล่อยเต็มที่ แต่ผมยังคงกลับบ้านปกติ ไม่เกเรหรือเที่ยว ในขณะที่เพื่อนรอบข้างที่เคยสาบานว่าจะไม่กินเหล้า ทุกวันนี้มืงนี่ปีศาจสุราชัดๆเลย กลายเป็นผมลืมเรื่อง "บ" ไปเลย เพราะคบกับ "ป" ไปแล้ว และช่วงนั้นโม มือกลองของผม ก็มีแฟนเช่นกัน และเริ่มมาซ้อมช้า มีปัญหาเรื่องเวลาเป็นประจำ ในขณะเดียวกัน วงรุ่นเดียวกันเพิ่งจะแตก เราเลยไปชวน2สมาชิก มาอยู่กับเรา ชื่อวงตอนนั้นคือ Seven Flush มีสมาชิกคือ โล เพื่อนสนิทผมตั้งแต่เด็ก "เบ้น" อ้วน เตี้ย แต่เป็นคนที่ตีกลองมีสเน่ห์ เห็นเป็นต้องยิ้ม "ท้อป" ร้องนำ ท็อปร้องเพลงเสียงดีครับ แต่ติดนิสัยชอบร้องตามใจตัวเองไปนิด คือใส่ลูกเล่นอะไรที่ตัวเองไม่ได้เชี่ยวชาญและฝึกฝนมาจริงจัง แต่วงเราตอนนั้นก็ถือว่าคอนข้างโอเคมากๆ เราได้ลงแข่งในงานนึง เป็นงานวันสำคัญอะไรซักอย่าง เราลงแข่งกันและมีรุ่นน้องมือกีตาร์ผมคนนึงชื่อ "เจมส์" เจมส์เป็นน้องรักผมคนนึงครับ ที่ชอบมาเล่นบ้านผม จนสนิทกับแม่ผม เหมือนน้องชายแท้ๆคนนึง เลยกลายเป็นเล่น 5 คน ในขณะที่โม ไปตีให้วงรุ่นพี่วงนี้ที่พวกเราแพ้มาตลอด เพลงที่พวกเราใช้แข่งวันนั้นคือ คราม Bodyslam

ซึ่งเราได้ทำท่อนขึ้นบิ้วๆก่อนขึ้นเพลง ถือว่าพัฒนาจากเมื่อก่อนละ 555555 เพราะเบ้นก็เป็นคนมีอินเนอร์ ยิ่งบิ้วๆมา และเห็นเบ้นอิน ผมเลยเริ่มๆรู้ใจละว่า จะทำเพลงๆนึง ควรบิ้วมาก่อน ส่วนโล โลเป็นคนที่สมาธิสั้นครับ เล่นเบสหลุดบ่อย คือชอบลืม ขี้ลืม วอกแวก เพลงครามนี้มีเพียง3คอร์ดทั้งเพลง เลยแก้ปัญหานี้ได้อย่างดี เจมส์น้องผม เล่นกีตาร์ไม่เก่งและไม่ได้เรื่องเลย แต่ด้วยความที่คลุกคลีกับผม ผมเลยแบ่งไลน์ที่น้องเล่นได้สบายๆ ท้อปก็ร้องตามที่ถนัดไม่ได้มีการบอกอะไรเป็นพิเศษ แต่ผลออกมาดีครับ นั่นส่งผลให้เราได้รับรางวัลแรกในชีวิต ในรางวัลอันดับ3 ซึ่งผมดีใจแทนน้องที่เล่นกีตาร์ห่วยๆ ดีใจแทนโลที่เล่นเบสหลุดง่าย ดีใจแทนเบ้น ที่ตีกลองมีวงมาตั้งนานแต่ไม่เคยเข้ารอบ วงผมก่อนหน้ายังเข้ารอบแม้ไม่ได้รางวัล และดีใจแทนตัวเองที่มาถึงวันนี้สักที พ่อกับแม่ผมที่ไปดูวันนั้นเริ่มเห็นแววครับ พ่อด้วยความที่เล่นดนตรีมาก่อนก็ภูมิใจ ในขณะที่โมไม่ได้ได้รางวัลกับวงรุ่นพี่วงนั้น ช่วงนั้นด้วยความที่เพิ่งออกจากวงไป ก็มองหน้ากันลำบากนิดนึงครับ 55555 ส่วนรุ่นพี่ผมแอบเฟลๆนิดๆ ผมเราดีใจจนไม่ได้คิดเลยว่าเงินรางวัลที่เราได้มา มันเทียบไม่ได้กับเงินที่เราเสียค่าห้องซ้อมไปเลย เราเริ่มสนุกกับการทำอะไรเพิ่มไปในเพลงครับ แทนการที่เคยประสบปัญหาหาเพลงยาก ต่อมาเจมส์ต้องออกจากวงไป เพราะไม่มีเวลา
ท้อปเลยเล่นกีตาร์ด้วย ร้องนำไปด้วยครับ ต่อมามีงานประกวดชื่องาน Singha Live 2010 พวกเราก็ลงแข่งในรุ่นเล็ก และเข้ารอบด้วยเพลง เข้ามาเลย Loso และ ของ Socool อีกหนึ่งเพลงผมจำชื่อเพลงไม่ได้เพลงเร็วร้องว่า จะเป็นนก... อะไรสักอย่าง 55555 ผมโซโล่ทั้งสองเพลงและฟิตซ้อมมาอย่างดี ตอนนี้ได้กีตาร์ตัวใหม่ละ แพงกว่าเดิมหน่อยคือ washburn wi14

ในรูปรวม ผู้ใหญ่สองคนนั้นคือพ่อแม่ผมครับ ผมอยู่ข้างล่างซ้ายมือ กับโลขวามือ ขวาบนท้อป ซ้ายบนเบ้น กลางคือเพื่อนห้องเดียวกันชื่อแบงค์ครับ มาดู
กรรมการคอมเม้นชมวงเราว่า เป็นวงที่เล่นเพลงหนักได้ไม่หนวกหู ซึ่งก็ไม่ได้อวยเรามากไป แต่ด้วยความที่เบ้นเป็นคนไม่ได้ตีกลองหวือหวา แต่ตีสะอาด ผมว่ามีส่วนให้มันฟังสะอาดทั้งเพลงมากทีเดียว เราเข้ารอบไป และในรอบชิงเราก็ทำเต็มที่ แต่ก็แน่นอนรอบชิงก็ตื่นเต้นและมีข้อผิดพลาดด้วยความอ่อนประสบการณ์ แต่เบ้นมีความสุขมาก โดนชมหน้าบาน ผมเองก็โดนชมว่าเท่มากๆกับการใส่แว่นดำ เดินขึ้นไปโซโล่บนแท่นข้างหน้าเวที ช่วงนั้นไฟแรงจริง 5555 ผมว่าใส่แว่นละมั่นใจขึ้นนะ ทำให้ไม่กลัวที่จะสบตาใคร ทำให้งานนั้นผมได้รับรางวัลมือกีตาร์ยอดเยี่ยมไปครอง ส่วนวงยังคงได้ที่3 ที่1 เล่นเพลง Chill ของ ETC ซึ่งเป็นเพลงประกวดยอดนิยมเพลงนึงในยุคนั้น ตอนเด็กๆผมค่อนข้างไม่โอเคกับการที่เอาเพลงเดิมๆมาแข่ง แต่ผมเข้าใจแล้วว่ากรรมการส่วนใหญ่เป็นครูดนตรีผ่านการศึกษาแนวดนตรีมามากมาย เพลงรอคใช้ความรู้สึกน้อยกว่าพลัง เพลงเบาๆง่ายบางเพลง แต่ถ้าเล่นสมบูรณ์แบบว่าไดนามิคแต่ละเครื่องดนตรีได้ดี บาลานซ์ได้ดี ก็ประสบความสำเร็จได้ดีทีเดียว แต่เบ้นเฟลเลกๆที่ไม่ได้มือกลองยอดเยี่ยม ทั้งที่โดนชมขนาดนั้น พวกเรามีกำลังใจมากขึ้นมากๆ และเริ่มออกประกวดต่างจังหวัด เราไปทั้งโคราช ขอนแก่น แต่ก้ไม่ได้รับรางวัล แต่ส่วนใหญ่ก็จะเข้ารอบ และเริ่มได้เห็นวงดนตรีแต่ละจังหวัด และวงของ กทม บ้างแล้ว

ตอนนั้นรุ่นน้องที่มาเล่นกีตาร์แทนเจมส์คือแฟร์ ซ้ายบน น้องที่เล่นกีตาร์เก่งมากๆ มีจิตวิญาณ รู้จักกันครั้งแรก แฟร์เพิ่งย้ายมาเข้าม4 มีข่าวลือว่ามันขี้อวด ว่ามันเนี่ยเล่นกีตาร์เก่งสุดละ ใน รร แต่กลายเป็นเริ่มได้คุยกันและความคิดเปลี่ยนเลยชวนมาเล่นด้วยกัน แฟร์ก็ยอมรับในฝีมือของผมน่าจะเป็นด้านริทึ่ม กับโซโล่ที่ใช้เทคนิค ส่วนแฟร์จะเก่งเรื่องใช้ฟิลลิ่งหรือการอิมโพรไวซ์ ทางบลูส์ แต่โดนจับมาเล่นเมทัล 55555 พวกเราสนุกมากๆครับกับการไปต่างจังหวัด สำหรับพวกเราตอนนั้นไปไหนก็ไปกัน ไม่ได้ต้องสวยหรู หรือพักที่ดีๆ ขอแค่ให้ได้ไปเล่นดนตรี ครั้งนึงที่งาน Klang Villa โคราช ผมเดินหาที่พักใกล้ที่แข่ง แต่ไม่มีเลย มีแต่ โรงแรม แพงๆคืนละ 1200 เราเลยไปหาแฟลตเก่าๆที่นึง เป็นแฟลตไม้ คุณยายเจ้าของคิดเราคืนละ 400 เราก็อยุ่อัดกันสองห้อง ซึ่งถามว่าดีมั้ยไม่เลย แต่ผมว่าในการอยุ่กับเพื่อน อย่ที่ไหนเราก็อยุ่ได้ครับ พอจ่ายเงินเสร็จ ผมเดินออกไปตามเพื่อนที่รอให้เข้ามา ก็โม้แกล้งไปว่า ได้ที่อย่างดีเลย มีน้ำอุ่น แอร์ เตียง พัดลม ทีวี ไอแฟร์อยุ่ข้างๆผมหัวเราะจนสำลัก 55555555 เพื่อนก็ถามกลับ เอาดีๆ ผมทำตะคอกแบบอารมฮาๆว่า "ที่ซุกหัวนอนอ่ะ มีรุ้จักปะ" พอสังคมดนตรีเริ่มใหญ่ขึ้น ก็เริ่มมีรุ่นน้องเข้ามาคลุกคลีกับเราครับ คนนึงคือ"แทงค์" เจ้าของห้องซ้อมที่เราไปซ้อมกันประจำ แต่สนิทกันเหมือนเพื่อน ไปไหนแทงค์พาไป แทงค์เป็นคนใจดีครับ ออกจากเรียน ไปทำงานเล่นดนตรีจริงจัง ตีกลองเก่งและไวมาก ประสบการณ์เยอะ อีกคนคือ ปาล์ม รุ่นน้องที่เป็นเด็กเกเร วันๆหาเรื่องกันตามประสาวัยรุ่นเลือดร้อน แต่อยากจะกลับใจเอาดีกับอะไรซักอย่าง เลยหันมาเล่นดนตรีและคลุกคลีกับพวกผม
อีกคนคือฟลุ๊ค มือกลองรุ่นน้อง ที่ชอบสิงสถิดที่ห้องซ้อมอีกที่นึง ซึ่งเวลาต่อมามีอีกคนเข้ามาและมารวมวงกับฟลุ๊ค คือ ต้น ครับ
หัวหน้าแก๊งเด็กน้อยที่ผมเจอครั้งแรกที่สนามบาสตอนประถม แต่ก่อนหน้าก็เจอกันเรื่อยๆ แต่ตอนนี้มาร่วมเดอะแก๊งเดียวกันละ ตาต้นเป็นคนเล่นกีตาร์สำเนียงโอเคครับ เพลงเยอะ ตีคอร์ดหยอดสาวเนี่ยเรื่องถนัด แต่ด้วยความที่อยู่แต่กับเด็ก และเร่ร่อน เลยมักจะโดนล้อเรื่องสุขลักษณะ เสื้อผ้า และความสะอาดอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพปากและฟัน จนได้ฉายาว่า "ต้น โซเถา" โซเถา แปลว่าปากเหม็น ผมก็ไม่รู้ว่าจริงมั้ย แต่กลายเป็นฉายาเค้าไปแล้ว
ต่อมาพวกเรารู้สึกว่า เราเล่นไปเรื่อยๆ เราเริ่มโดนติว่าวงเราเล่นดีละ แต่นักร้องยังไม่โอเค เราก็เลยคุยกะท๊อปถึงการไม่พัฒนา และเปลี่ยนนิสัยการร้องที่ไม่ดี แต่สุดท้ายก็จบด้วยการที่ท็อปออกครับ พวกเราก็ตัดสินใจกันว่าจะเอายังไงดี สรุปตอนนั้นกำลังฟังเพลงวง Bullet For My Valentine เลยสรุปด้วยการให้ผมเล่นเองและร้องนำเองครับ และเปลี่ยนชื่อวงใหม่เป็น "ไม้กลองคู่ละ30บาท" ส่วนด้านความรักตอนนี้ผมได้เลิกกับ "ป" แล้วครับ เพราะยอมรับเลยว่าผมเริ่มอึดอัดกับการตัวติดกัน และผมเริ่มมีความรู้สึกให้ ผญ คนนึงในห้อง ตอนนี้ประมาณ ม 5 ครับ ไม่รู้เพราะอะไรถึงชอบผู้หญิงคนนี้ เทอมีสเน่เวลาที่เทอยิ้มและเล่นกับ ผช ครับ คือดูเล่นแบบว่าเฮฮา หยอกล้อแซวได้ ไม่โกรธง่าย แต่ก้ยังไม่ได้คิดอะไรจริงจัง แต่ผมเจอเทอบ่อยๆเวลาไปส่งเจมส์กลับหอ หลัง
เส้นทางสายดนตรีที่ไม่ได้เรียบง่ายเหมือนฝัน Part2
ต่อนะครับ ช่วงนั้นแอบชอบสาวในห้อง ก็จะมีการเอากีตาร์ไปเล่นที่ รร ดีดกีตาร์ให้เพื่อนร้องเพลงบ้างครับ เพื่อโชว์ศักยภาพ5555 แต่การเล่นดนตรีใน รร เริ่มเป็นที่นิยมน้อยลง เพราะเวลามีงานดนตรี บรรดาอีกาทั้งหลายก็ไม่รอช้าที่จะแสดงความยิ่งใหญ่ในพวกพ้องของตน กลางเป็นว่า อาจารย์ฝ่ายปกครองขานมาว่า ห้ามจัดงานดนตรีอีก ซึ่งทำไมต้องมาเป็นในยุคของกุด้วยวะเนี่ยยยย ก็ทำได้แค่รองานประกวดครับ ถึงจะมีเวทีเล่น ซึ่งตรงๆ คือค่อนข้างเฟล การมีวงดนตรีในโรงเรียน แต่หมดโอกาสเล่นในโรงเรียนตัวเองมันแย่มากๆ ช่วงนี้การเรียนของผมอยู่ในระดับประคับประคอง เพราะไม่ชอบวิชาคณิตศาสตร์เลย จำไม่ได้เลยว่าทำไมมันมาถึงจุดที่เราตามไม่ทันแล้วได้เร็วขนาดนี้ ซึ่งวิชาคณิตก็ต้องมีคณิตพื้นฐานและเพิ่มเติม และการจัดตารางเรียนก็แปลกๆ ให้เรียนพละ และไปต่อคอม และนั่งเรียนเหม็นเหงื่อเหม็นเท้ากัน ชมนมที่ต้องแย่งกันเข้าก็เพื่อเลือกชุมนุมที่สบายที่สุด หลายๆอย่างใน รร ทำให้ผมรุ้สึกคิดนอกกรอบขึ้นเรื่อยๆ และมีผลต่อการฟังเพลงของผมมากขึ้นๆ ผมเริ่มฟังเพลงหนักขึ้นอีก เพลงที่เนื้อหาเสียดสีสังคม เพราะเอาแค่ในโรงเรียนผมก็ยังเจออะไรที่มันทำให้ผมคิดแบบนั้นมากมากเต็มไปหมด เราเรียนอย่างหนัก ในขณะที่ครูบางคนขอคาบวิชาศิลปะเพื่อมาสอนวิชาของตน เหตุใดวิชาเหล่านั้นถึงถูกมองว่าไม่สำคัญ เพื่อนทุกคนในห้องก็เริ่มๆแข่งขันกันเรียน และเรียนพิเศษกันมากขึ้นๆ ซึ่งผมนั่งคิดประเด็นนี้อยู่บ่อยครั้ง ว่าเรียนมากขนาดนี้จะมีเวลาคิดหรือค้นคว้าอะไร แค่การบ้านก็เยอะมากพอแล้ว
ผมไม่ค่อยทำการบ้านเลยครับ เช่นเดียวกันเพื่อน ผู้ชาย ทั่วไปในวัยเดียวกัน คนนึงที่ทำคือ "ตี๋เล็ก" หนุ่มแว่น ผิวคล้ำ ป้อมๆ หน้าตี๋หน่อย ตี๋เล็กอยากเป็นหมอครับ อยากดูแลพ่อแม่และครอบครัวได้ นอกนั้นส่วนมากก็ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นอะไร แต่นักดนตรีอย่างผมคิดอยู่อย่างเดียวคือศิลปินครับ อยากนำเสนออะไรที่ต้องการให้คนฟัง จากแค่เล่นกีตาร์และตั้งวงหนุกๆ กลายเป็นผมอยากเป็นศิลปินผู้ปลดปล่อยพลังเต็มตัวแล้วครับ แต่ด้วยความคิดแอนตี้นุ่นนี่ของผมก็ทำให้ผมไม่ค่อยเข้าใจอะไรที่คนทั่วไปคิดครับ อย่างเช่นเพลงอะไรดังๆที่เพื่อนฟัง เราเป็นนักดนตรีแท้ๆเรากลับไม่เคยฟังเลย อย่างยุคนี้เค้ากำลังใส่เสื้อผ้าอะไร แฟชั่นอะไร วัฒนธรรมหรือศัพท์อะไรกำลังฮิต นอกจากผมจะไม่รู้อะไรพวกนี้แล้ว ผมยังไม่ได้สนใจจะรู้ด้วยครับ วันๆคิดแต่จะเล่นเพลงอะไร ไปไหนกับไอโลไอโมและชาวแก๊งดี นั่นทำให้ผมเป็นเด็กที่แต่งตัวไม่เป็นและตามเพื่อนวัยเดียวกันไม่ทันในบางเรื่อง ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ควรเอาอย่างแน่นอนครับ 55555 ช่วงนั้นผมแอบชอบ ผญ คนนึงชื่อ "บ" ขอบอกแค่ตัวย่อละกันครับ เพราะจนถึงทุกวันนี้ผมก็ยังไม่เคยบอกว่าจริงๆผมชอบเค้า ผมชอบ ผญ ใกล้ตัวครับ เพราะไม่เคยขอเบอ หรือเข้าไปคุย ไม่เคยแอบชอบหรือจีบรุ่นพี่รุ่นน้อง คนที่ผมชอบคนนี้ ขาวๆ หมวยๆ แต่ไม่เอ๊กนะ5555 เป็นเด็กดีตั้งใจเรียนมากๆ พ่อแม่ดูแลใกล้ชิดออกจากบ้านเฉพาะตอนเรียนพิเศษ เวลาได้คุยกันก็มีแต่น้อยครับ และผมก็ไม่เคยรุกเต็มที่ จะขี้อายไปไหน ก็คนมันไม่หล่อนิครับ 55555 แต่แล้วเรื่องตลกๆก็เกิดขึ้น เมื่อผมได้รู้จักกับ ผญ ชื่อ"ป" ซึ่งคนนี้เป็นพี่ญาติกับ "บ" ที่สนิทกันพอควร หล่อนชอบผมเข้าเต็มเปาครับ หลังจากเห็นผมเล่นกีตาร์วันนึงในห้องซ้อม และผมก็เริ่มๆได้ยินข่าวมาทางเพื่อนๆว่า เค้าชอบผมจริงๆ ก็เลยได้มีโอกาสลองคุยๆกัน ผมก็เขิน พอควร หล่อนเป็นพี่ผม 2 ปีได้ แต่ปัญญาอ่อน ติ๊งต๊อง ขาว หมวย ฟันเหยินมาก เป็นเด็กวงโย คุยกันทุกวันจนเริ่มไปไหนาไหนด้วยกัน จนวันนึงก็เริ่มคบหากันจริงจัง ตัวติดกันมากๆ ไปไหนอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ซึ่งผมไม่เคยคิดอะไรเลยในตอนนั้น ติด..ี ถ้าภาษาวัยรุ่นก็คงคำนั้น วงดนตรีของผมยังคงใช้ชื่อ โยเกิร์ต และฝีมือพัฒนาจนเรียกได้ว่า เป็นวงฝีมือต้นๆใน รร เพราะใน รร มีไม่กี่วงละ 55555 รุ่นพี่เก่งๆจบไปหมดละ ตอนนั้นจำได้ว่าดนตรีเป็นส่วนนึงของชีวิตไปละครับ อยู่ห้องซ้อมกันทุกวันจนพ่อแม่ผมไม่ถาม พ่อแม่ปล่อยเต็มที่ แต่ผมยังคงกลับบ้านปกติ ไม่เกเรหรือเที่ยว ในขณะที่เพื่อนรอบข้างที่เคยสาบานว่าจะไม่กินเหล้า ทุกวันนี้มืงนี่ปีศาจสุราชัดๆเลย กลายเป็นผมลืมเรื่อง "บ" ไปเลย เพราะคบกับ "ป" ไปแล้ว และช่วงนั้นโม มือกลองของผม ก็มีแฟนเช่นกัน และเริ่มมาซ้อมช้า มีปัญหาเรื่องเวลาเป็นประจำ ในขณะเดียวกัน วงรุ่นเดียวกันเพิ่งจะแตก เราเลยไปชวน2สมาชิก มาอยู่กับเรา ชื่อวงตอนนั้นคือ Seven Flush มีสมาชิกคือ โล เพื่อนสนิทผมตั้งแต่เด็ก "เบ้น" อ้วน เตี้ย แต่เป็นคนที่ตีกลองมีสเน่ห์ เห็นเป็นต้องยิ้ม "ท้อป" ร้องนำ ท็อปร้องเพลงเสียงดีครับ แต่ติดนิสัยชอบร้องตามใจตัวเองไปนิด คือใส่ลูกเล่นอะไรที่ตัวเองไม่ได้เชี่ยวชาญและฝึกฝนมาจริงจัง แต่วงเราตอนนั้นก็ถือว่าคอนข้างโอเคมากๆ เราได้ลงแข่งในงานนึง เป็นงานวันสำคัญอะไรซักอย่าง เราลงแข่งกันและมีรุ่นน้องมือกีตาร์ผมคนนึงชื่อ "เจมส์" เจมส์เป็นน้องรักผมคนนึงครับ ที่ชอบมาเล่นบ้านผม จนสนิทกับแม่ผม เหมือนน้องชายแท้ๆคนนึง เลยกลายเป็นเล่น 5 คน ในขณะที่โม ไปตีให้วงรุ่นพี่วงนี้ที่พวกเราแพ้มาตลอด เพลงที่พวกเราใช้แข่งวันนั้นคือ คราม Bodyslam
ซึ่งเราได้ทำท่อนขึ้นบิ้วๆก่อนขึ้นเพลง ถือว่าพัฒนาจากเมื่อก่อนละ 555555 เพราะเบ้นก็เป็นคนมีอินเนอร์ ยิ่งบิ้วๆมา และเห็นเบ้นอิน ผมเลยเริ่มๆรู้ใจละว่า จะทำเพลงๆนึง ควรบิ้วมาก่อน ส่วนโล โลเป็นคนที่สมาธิสั้นครับ เล่นเบสหลุดบ่อย คือชอบลืม ขี้ลืม วอกแวก เพลงครามนี้มีเพียง3คอร์ดทั้งเพลง เลยแก้ปัญหานี้ได้อย่างดี เจมส์น้องผม เล่นกีตาร์ไม่เก่งและไม่ได้เรื่องเลย แต่ด้วยความที่คลุกคลีกับผม ผมเลยแบ่งไลน์ที่น้องเล่นได้สบายๆ ท้อปก็ร้องตามที่ถนัดไม่ได้มีการบอกอะไรเป็นพิเศษ แต่ผลออกมาดีครับ นั่นส่งผลให้เราได้รับรางวัลแรกในชีวิต ในรางวัลอันดับ3 ซึ่งผมดีใจแทนน้องที่เล่นกีตาร์ห่วยๆ ดีใจแทนโลที่เล่นเบสหลุดง่าย ดีใจแทนเบ้น ที่ตีกลองมีวงมาตั้งนานแต่ไม่เคยเข้ารอบ วงผมก่อนหน้ายังเข้ารอบแม้ไม่ได้รางวัล และดีใจแทนตัวเองที่มาถึงวันนี้สักที พ่อกับแม่ผมที่ไปดูวันนั้นเริ่มเห็นแววครับ พ่อด้วยความที่เล่นดนตรีมาก่อนก็ภูมิใจ ในขณะที่โมไม่ได้ได้รางวัลกับวงรุ่นพี่วงนั้น ช่วงนั้นด้วยความที่เพิ่งออกจากวงไป ก็มองหน้ากันลำบากนิดนึงครับ 55555 ส่วนรุ่นพี่ผมแอบเฟลๆนิดๆ ผมเราดีใจจนไม่ได้คิดเลยว่าเงินรางวัลที่เราได้มา มันเทียบไม่ได้กับเงินที่เราเสียค่าห้องซ้อมไปเลย เราเริ่มสนุกกับการทำอะไรเพิ่มไปในเพลงครับ แทนการที่เคยประสบปัญหาหาเพลงยาก ต่อมาเจมส์ต้องออกจากวงไป เพราะไม่มีเวลา
ท้อปเลยเล่นกีตาร์ด้วย ร้องนำไปด้วยครับ ต่อมามีงานประกวดชื่องาน Singha Live 2010 พวกเราก็ลงแข่งในรุ่นเล็ก และเข้ารอบด้วยเพลง เข้ามาเลย Loso และ ของ Socool อีกหนึ่งเพลงผมจำชื่อเพลงไม่ได้เพลงเร็วร้องว่า จะเป็นนก... อะไรสักอย่าง 55555 ผมโซโล่ทั้งสองเพลงและฟิตซ้อมมาอย่างดี ตอนนี้ได้กีตาร์ตัวใหม่ละ แพงกว่าเดิมหน่อยคือ washburn wi14
ในรูปรวม ผู้ใหญ่สองคนนั้นคือพ่อแม่ผมครับ ผมอยู่ข้างล่างซ้ายมือ กับโลขวามือ ขวาบนท้อป ซ้ายบนเบ้น กลางคือเพื่อนห้องเดียวกันชื่อแบงค์ครับ มาดู
กรรมการคอมเม้นชมวงเราว่า เป็นวงที่เล่นเพลงหนักได้ไม่หนวกหู ซึ่งก็ไม่ได้อวยเรามากไป แต่ด้วยความที่เบ้นเป็นคนไม่ได้ตีกลองหวือหวา แต่ตีสะอาด ผมว่ามีส่วนให้มันฟังสะอาดทั้งเพลงมากทีเดียว เราเข้ารอบไป และในรอบชิงเราก็ทำเต็มที่ แต่ก็แน่นอนรอบชิงก็ตื่นเต้นและมีข้อผิดพลาดด้วยความอ่อนประสบการณ์ แต่เบ้นมีความสุขมาก โดนชมหน้าบาน ผมเองก็โดนชมว่าเท่มากๆกับการใส่แว่นดำ เดินขึ้นไปโซโล่บนแท่นข้างหน้าเวที ช่วงนั้นไฟแรงจริง 5555 ผมว่าใส่แว่นละมั่นใจขึ้นนะ ทำให้ไม่กลัวที่จะสบตาใคร ทำให้งานนั้นผมได้รับรางวัลมือกีตาร์ยอดเยี่ยมไปครอง ส่วนวงยังคงได้ที่3 ที่1 เล่นเพลง Chill ของ ETC ซึ่งเป็นเพลงประกวดยอดนิยมเพลงนึงในยุคนั้น ตอนเด็กๆผมค่อนข้างไม่โอเคกับการที่เอาเพลงเดิมๆมาแข่ง แต่ผมเข้าใจแล้วว่ากรรมการส่วนใหญ่เป็นครูดนตรีผ่านการศึกษาแนวดนตรีมามากมาย เพลงรอคใช้ความรู้สึกน้อยกว่าพลัง เพลงเบาๆง่ายบางเพลง แต่ถ้าเล่นสมบูรณ์แบบว่าไดนามิคแต่ละเครื่องดนตรีได้ดี บาลานซ์ได้ดี ก็ประสบความสำเร็จได้ดีทีเดียว แต่เบ้นเฟลเลกๆที่ไม่ได้มือกลองยอดเยี่ยม ทั้งที่โดนชมขนาดนั้น พวกเรามีกำลังใจมากขึ้นมากๆ และเริ่มออกประกวดต่างจังหวัด เราไปทั้งโคราช ขอนแก่น แต่ก้ไม่ได้รับรางวัล แต่ส่วนใหญ่ก็จะเข้ารอบ และเริ่มได้เห็นวงดนตรีแต่ละจังหวัด และวงของ กทม บ้างแล้ว
ตอนนั้นรุ่นน้องที่มาเล่นกีตาร์แทนเจมส์คือแฟร์ ซ้ายบน น้องที่เล่นกีตาร์เก่งมากๆ มีจิตวิญาณ รู้จักกันครั้งแรก แฟร์เพิ่งย้ายมาเข้าม4 มีข่าวลือว่ามันขี้อวด ว่ามันเนี่ยเล่นกีตาร์เก่งสุดละ ใน รร แต่กลายเป็นเริ่มได้คุยกันและความคิดเปลี่ยนเลยชวนมาเล่นด้วยกัน แฟร์ก็ยอมรับในฝีมือของผมน่าจะเป็นด้านริทึ่ม กับโซโล่ที่ใช้เทคนิค ส่วนแฟร์จะเก่งเรื่องใช้ฟิลลิ่งหรือการอิมโพรไวซ์ ทางบลูส์ แต่โดนจับมาเล่นเมทัล 55555 พวกเราสนุกมากๆครับกับการไปต่างจังหวัด สำหรับพวกเราตอนนั้นไปไหนก็ไปกัน ไม่ได้ต้องสวยหรู หรือพักที่ดีๆ ขอแค่ให้ได้ไปเล่นดนตรี ครั้งนึงที่งาน Klang Villa โคราช ผมเดินหาที่พักใกล้ที่แข่ง แต่ไม่มีเลย มีแต่ โรงแรม แพงๆคืนละ 1200 เราเลยไปหาแฟลตเก่าๆที่นึง เป็นแฟลตไม้ คุณยายเจ้าของคิดเราคืนละ 400 เราก็อยุ่อัดกันสองห้อง ซึ่งถามว่าดีมั้ยไม่เลย แต่ผมว่าในการอยุ่กับเพื่อน อย่ที่ไหนเราก็อยุ่ได้ครับ พอจ่ายเงินเสร็จ ผมเดินออกไปตามเพื่อนที่รอให้เข้ามา ก็โม้แกล้งไปว่า ได้ที่อย่างดีเลย มีน้ำอุ่น แอร์ เตียง พัดลม ทีวี ไอแฟร์อยุ่ข้างๆผมหัวเราะจนสำลัก 55555555 เพื่อนก็ถามกลับ เอาดีๆ ผมทำตะคอกแบบอารมฮาๆว่า "ที่ซุกหัวนอนอ่ะ มีรุ้จักปะ" พอสังคมดนตรีเริ่มใหญ่ขึ้น ก็เริ่มมีรุ่นน้องเข้ามาคลุกคลีกับเราครับ คนนึงคือ"แทงค์" เจ้าของห้องซ้อมที่เราไปซ้อมกันประจำ แต่สนิทกันเหมือนเพื่อน ไปไหนแทงค์พาไป แทงค์เป็นคนใจดีครับ ออกจากเรียน ไปทำงานเล่นดนตรีจริงจัง ตีกลองเก่งและไวมาก ประสบการณ์เยอะ อีกคนคือ ปาล์ม รุ่นน้องที่เป็นเด็กเกเร วันๆหาเรื่องกันตามประสาวัยรุ่นเลือดร้อน แต่อยากจะกลับใจเอาดีกับอะไรซักอย่าง เลยหันมาเล่นดนตรีและคลุกคลีกับพวกผม
อีกคนคือฟลุ๊ค มือกลองรุ่นน้อง ที่ชอบสิงสถิดที่ห้องซ้อมอีกที่นึง ซึ่งเวลาต่อมามีอีกคนเข้ามาและมารวมวงกับฟลุ๊ค คือ ต้น ครับ
หัวหน้าแก๊งเด็กน้อยที่ผมเจอครั้งแรกที่สนามบาสตอนประถม แต่ก่อนหน้าก็เจอกันเรื่อยๆ แต่ตอนนี้มาร่วมเดอะแก๊งเดียวกันละ ตาต้นเป็นคนเล่นกีตาร์สำเนียงโอเคครับ เพลงเยอะ ตีคอร์ดหยอดสาวเนี่ยเรื่องถนัด แต่ด้วยความที่อยู่แต่กับเด็ก และเร่ร่อน เลยมักจะโดนล้อเรื่องสุขลักษณะ เสื้อผ้า และความสะอาดอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพปากและฟัน จนได้ฉายาว่า "ต้น โซเถา" โซเถา แปลว่าปากเหม็น ผมก็ไม่รู้ว่าจริงมั้ย แต่กลายเป็นฉายาเค้าไปแล้ว
ต่อมาพวกเรารู้สึกว่า เราเล่นไปเรื่อยๆ เราเริ่มโดนติว่าวงเราเล่นดีละ แต่นักร้องยังไม่โอเค เราก็เลยคุยกะท๊อปถึงการไม่พัฒนา และเปลี่ยนนิสัยการร้องที่ไม่ดี แต่สุดท้ายก็จบด้วยการที่ท็อปออกครับ พวกเราก็ตัดสินใจกันว่าจะเอายังไงดี สรุปตอนนั้นกำลังฟังเพลงวง Bullet For My Valentine เลยสรุปด้วยการให้ผมเล่นเองและร้องนำเองครับ และเปลี่ยนชื่อวงใหม่เป็น "ไม้กลองคู่ละ30บาท" ส่วนด้านความรักตอนนี้ผมได้เลิกกับ "ป" แล้วครับ เพราะยอมรับเลยว่าผมเริ่มอึดอัดกับการตัวติดกัน และผมเริ่มมีความรู้สึกให้ ผญ คนนึงในห้อง ตอนนี้ประมาณ ม 5 ครับ ไม่รู้เพราะอะไรถึงชอบผู้หญิงคนนี้ เทอมีสเน่เวลาที่เทอยิ้มและเล่นกับ ผช ครับ คือดูเล่นแบบว่าเฮฮา หยอกล้อแซวได้ ไม่โกรธง่าย แต่ก้ยังไม่ได้คิดอะไรจริงจัง แต่ผมเจอเทอบ่อยๆเวลาไปส่งเจมส์กลับหอ หลัง