สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคนคะ วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน โดยสถานที่ที่พวกเรา 4 คนเลือกไปคือ บ้านผาหมอน ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่เจ้า เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน ก่อนที่เราจะไปกันก็ติดต่อพี่แป๊ะที่เป็นผู้ประสานงานของหมู่บ้านไว้ก่อนว่าเราจะเดินทางไปวันไหนถึงกี่โมงอยู่กี่วัน แล้วเราสามารถตกลงกับพี่เค้าได้ว่าจะให้มารับเราจากที่ไหนไปหมู่บ้าน
Day 1 (กรุงเทพ – เชียงใหม่ – บ้านผาหมอน)
การเดินทางเดินทางโดยเครื่องบินด้วยสายการบิน Vietjet Air ไปขึ้นที่สุวรรณภูมิ ไฟล์ท 6.10 น.
เช้ามากกเพราะอยากให้ไปถึงหมู่บ้านไม่เกินเที่ยง
มาถึงสนามบินก็นั่งแท็กซี่ของสนามบินมาลงที่ประตูเมืองเชียงใหม่เพื่อต่อรถสองแถวไปลงที่ อ.จอมทอง รถสองแถวจะไปจอดที่หน้าวัดพระธาตุศรีจอมทอง ทางเดียวกับที่จะขึ้นไปดอยอินทนนท์เลย
หลังจากมาถึง อ.จอมทองแล้วก็รอพี่เค้ามารับจากหมู่บ้าน
ก่อนขึ้นไปบนดอยเราต้องเสียค่าเข้าอุทยานคนละ 40 บาท บัตรนี้เราจะต้องเก็บไว้เพื่อใช้ผ่านด่านตรวจที่ 2ก่อนขึ้นดอยอินทนนท์ แต่หมู่บ้านที่เราไปมันยังไม่ถึงด่านตรวจที่ 2 แต่วันสุดท้ายเราจะไปดอยอินทนนท์กัน อิอิ
ทางเข้าหมู่บ้านโหดสุดไรสุด ทั้งขึ้นเขาผ่านห้วย ทั้งชั้นทั้งขรุขระ แต่พี่แป๊ะขับรถเก่งมากชำนาญสุดๆ แต่วิวข้างทางก็ดีสุดๆเช่นกัน แถมลมเย็นนิดๆด้วย
มาถึงหมู่บ้านแล้ว โดยเราจะพักอยู่กับชาวบ้านในหมู่บ้านเลย เรามากัน 4 คนก็เลยแยกบ้าน เป็นสองสอง
บ้านที่เราพักเอง แต่ลืมถ่ายมุมหน้าบ้านได้แต่มุมหลังบ้านมา TT
พี่เจ้าของบ้านน่ารักมาก ใจดี นี้เป็นแม่ของพี่เจ้าของบ้านคะ คุณป้ากำลังสีข้าวเลย
เติมพลังก่อนเดินทางชมบรรยากาศรอบๆหมู่บ้าน
อันนี้เป็นร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดในหมู่บ้านก็ว่าได้มีทุกอย่างเลยของแห้งของสดมาครบ
มื้อเย็นก็ขอคุณป้าทำกับข้าวกินกันเอง เมนูที่ขาดไม่ได้เลยคือไข่เจียว 55555
นี้หน้าตาห้องครัว
มีตัวป่วนมากวนเวลากินข้าวตลอดด
ตกเย็นเราก็ไปร่วมตัวกับชาวบ้านที่ร้านค้าขายของเนื่องจากวันนี้ที่บ้านนี้เขามีสวดมนต์กันแล้วทำขนมจีนน้ำเงี้ยวเลี้ยงอีก จัดไปหนึ่งถ้วย 55555
อันนี้เป็นตอนที่คนในหมู่บ้านมารวมตัวกันสวดมนต์ ชาวบ้านที่หมู่บ้านผาหมอนจะเป็นกะเหรี่ยงชนเผ่าปกากะญอที่นับถือศาสนาคริสต์เป็นส่วนใหญ่คะ
Day 2 (สวนกุหลาบ – นาขั้นบันได – ศูนย์เรียนรู้การทอผ้า)
ตอนเช้าอากาศดีมากๆๆ สดชื่น เย็นสบาย เติมพลังก่อนออกไปทำกิจกรรมกับชาวบ้าน
นั่งรถพี่แป๊ะไปบนเขาเพื่อไปดูวิถีชีวิตเกษตรกรรมของชาวบ้าน เช่น กุหลาบ มะเขือเทศ ดอกยิปโซ เป็นต้น ซึ่งผลผลิตที่ได้จะส่งให้กับโครงการหลวงต่อไป
ปลูกมะเขือเทศด้วย ลูกโตๆเลย
หลังจากนั้นก็ไปชมไร่นาขั้นบันได ถือว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี้เลย สวยมากก
ที่หมู่บ้านก็มีบ้านพักที่เปิดให้นักท่องเที่ยวมาพักได้ แต่ใครจะพักที่นี้ก็ต้องจองก่อนล่วงหน้าเนื่องจากที่พักจะถูกจองเต็มยาวๆตลอดและส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาพักผ่อน
ชื่อ Bamboo Pink House
ที่หมู่บ้านจะมีสินค้าพื้นเมืองขายก็คือกระเป๋ากับเสื้อผ้าถักนั้นเอง มีโอกาสได้ไปนั่งลองทำเอง รู้เลยว่ากว่าจะได้กระเป๋าแต่ละใบหรือเสื้อแต่ละตัวยากจริงๆต้องใช้เวลา เลยไม่พลาดที่จะซื้อกระเป๋ามาสักใบ พี่เล่าให้ฟังว่าผู้หญิงที่หมู่บ้านทุกคนต้องถักเสื้อเป็น ถ้าถักไม่เป็นจะไม่มีผู้ชายมาชอบ หื้อออมีงี้ด้วย เพราะว่าวันแต่งงานเจ้าสาวจะต้องถักเสื้อผ้ากับกระเป๋าให้เจ้าบ่าวใส่ในวันแต่งงานเอง ถ้าถักไม่เป็นจบกัน 555555
คุณป้าที่บ้านก็ทำเหมือนกัน นั่งดูเพลินๆ
Day 3 (ดอยอินทนนท์ - พระมหาธาตุนภเมทนีดล-พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ – และน้ำตกวชิรธาร)
เวลาประมาณ 7 โมงเช้าก็ขึ้นไปดอยอินทนนท์ หนาวมากกกกก แถมลมก็ตีหน้าพึ่บๆ แถมข้างทางหมอกเยอะมองแทบไม่เห็นอะไรเลย
อากาศตอนนั้น 12-13 องศา หนาวมากกก มือเท้าแข็งไปหมด
มาถึงสูงสุดแดนสยามแล้วว
ต่อไปก็เดินทางไปพระมหาธาตุนภเมทนีดล-พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ วิวบนนี้สวยมากคะฟ้าเริ่มเปิดแล้ว
แถมยังมีดอกไม่นานาพันธุ์ให้เราชมและถ่ายภาพด้วยคะ
ที่สุดท้ายคือน้ำตกวชิรธารคะ
สำหรับคนที่ต้องการความสงบพักผ่อนร่างกายและสมอง แนะนำมาท่องเที่ยวพักผ่อนที่บ้านผาหมอนเลย มันดีจริงๆลืมความเครียดความวุ่นวายไปหมดเลย ชาวบ้านก็น่ารักใจดีสุดๆ มาแล้วไม่อยากกลับจริงๆ สุดท้ายนี้ถ้ามีอะไรผิดพลาดยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะคะเป็นครั้งแรกที่ตั้งกระทู้คะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามชมด้วยนะคะ
[CR] Let's go under the sky @บ้านผาหมอน ดอยอินทนนท์
Day 1 (กรุงเทพ – เชียงใหม่ – บ้านผาหมอน)
การเดินทางเดินทางโดยเครื่องบินด้วยสายการบิน Vietjet Air ไปขึ้นที่สุวรรณภูมิ ไฟล์ท 6.10 น.
เช้ามากกเพราะอยากให้ไปถึงหมู่บ้านไม่เกินเที่ยง
มาถึงสนามบินก็นั่งแท็กซี่ของสนามบินมาลงที่ประตูเมืองเชียงใหม่เพื่อต่อรถสองแถวไปลงที่ อ.จอมทอง รถสองแถวจะไปจอดที่หน้าวัดพระธาตุศรีจอมทอง ทางเดียวกับที่จะขึ้นไปดอยอินทนนท์เลย
หลังจากมาถึง อ.จอมทองแล้วก็รอพี่เค้ามารับจากหมู่บ้าน
ก่อนขึ้นไปบนดอยเราต้องเสียค่าเข้าอุทยานคนละ 40 บาท บัตรนี้เราจะต้องเก็บไว้เพื่อใช้ผ่านด่านตรวจที่ 2ก่อนขึ้นดอยอินทนนท์ แต่หมู่บ้านที่เราไปมันยังไม่ถึงด่านตรวจที่ 2 แต่วันสุดท้ายเราจะไปดอยอินทนนท์กัน อิอิ
ทางเข้าหมู่บ้านโหดสุดไรสุด ทั้งขึ้นเขาผ่านห้วย ทั้งชั้นทั้งขรุขระ แต่พี่แป๊ะขับรถเก่งมากชำนาญสุดๆ แต่วิวข้างทางก็ดีสุดๆเช่นกัน แถมลมเย็นนิดๆด้วย
มาถึงหมู่บ้านแล้ว โดยเราจะพักอยู่กับชาวบ้านในหมู่บ้านเลย เรามากัน 4 คนก็เลยแยกบ้าน เป็นสองสอง
บ้านที่เราพักเอง แต่ลืมถ่ายมุมหน้าบ้านได้แต่มุมหลังบ้านมา TT
พี่เจ้าของบ้านน่ารักมาก ใจดี นี้เป็นแม่ของพี่เจ้าของบ้านคะ คุณป้ากำลังสีข้าวเลย
เติมพลังก่อนเดินทางชมบรรยากาศรอบๆหมู่บ้าน
อันนี้เป็นร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดในหมู่บ้านก็ว่าได้มีทุกอย่างเลยของแห้งของสดมาครบ
มื้อเย็นก็ขอคุณป้าทำกับข้าวกินกันเอง เมนูที่ขาดไม่ได้เลยคือไข่เจียว 55555
นี้หน้าตาห้องครัว
มีตัวป่วนมากวนเวลากินข้าวตลอดด
ตกเย็นเราก็ไปร่วมตัวกับชาวบ้านที่ร้านค้าขายของเนื่องจากวันนี้ที่บ้านนี้เขามีสวดมนต์กันแล้วทำขนมจีนน้ำเงี้ยวเลี้ยงอีก จัดไปหนึ่งถ้วย 55555
อันนี้เป็นตอนที่คนในหมู่บ้านมารวมตัวกันสวดมนต์ ชาวบ้านที่หมู่บ้านผาหมอนจะเป็นกะเหรี่ยงชนเผ่าปกากะญอที่นับถือศาสนาคริสต์เป็นส่วนใหญ่คะ
Day 2 (สวนกุหลาบ – นาขั้นบันได – ศูนย์เรียนรู้การทอผ้า)
ตอนเช้าอากาศดีมากๆๆ สดชื่น เย็นสบาย เติมพลังก่อนออกไปทำกิจกรรมกับชาวบ้าน
นั่งรถพี่แป๊ะไปบนเขาเพื่อไปดูวิถีชีวิตเกษตรกรรมของชาวบ้าน เช่น กุหลาบ มะเขือเทศ ดอกยิปโซ เป็นต้น ซึ่งผลผลิตที่ได้จะส่งให้กับโครงการหลวงต่อไป
ปลูกมะเขือเทศด้วย ลูกโตๆเลย
หลังจากนั้นก็ไปชมไร่นาขั้นบันได ถือว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี้เลย สวยมากก
ที่หมู่บ้านก็มีบ้านพักที่เปิดให้นักท่องเที่ยวมาพักได้ แต่ใครจะพักที่นี้ก็ต้องจองก่อนล่วงหน้าเนื่องจากที่พักจะถูกจองเต็มยาวๆตลอดและส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาพักผ่อน
ชื่อ Bamboo Pink House
ที่หมู่บ้านจะมีสินค้าพื้นเมืองขายก็คือกระเป๋ากับเสื้อผ้าถักนั้นเอง มีโอกาสได้ไปนั่งลองทำเอง รู้เลยว่ากว่าจะได้กระเป๋าแต่ละใบหรือเสื้อแต่ละตัวยากจริงๆต้องใช้เวลา เลยไม่พลาดที่จะซื้อกระเป๋ามาสักใบ พี่เล่าให้ฟังว่าผู้หญิงที่หมู่บ้านทุกคนต้องถักเสื้อเป็น ถ้าถักไม่เป็นจะไม่มีผู้ชายมาชอบ หื้อออมีงี้ด้วย เพราะว่าวันแต่งงานเจ้าสาวจะต้องถักเสื้อผ้ากับกระเป๋าให้เจ้าบ่าวใส่ในวันแต่งงานเอง ถ้าถักไม่เป็นจบกัน 555555
คุณป้าที่บ้านก็ทำเหมือนกัน นั่งดูเพลินๆ
Day 3 (ดอยอินทนนท์ - พระมหาธาตุนภเมทนีดล-พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ – และน้ำตกวชิรธาร)
เวลาประมาณ 7 โมงเช้าก็ขึ้นไปดอยอินทนนท์ หนาวมากกกกก แถมลมก็ตีหน้าพึ่บๆ แถมข้างทางหมอกเยอะมองแทบไม่เห็นอะไรเลย
อากาศตอนนั้น 12-13 องศา หนาวมากกก มือเท้าแข็งไปหมด
มาถึงสูงสุดแดนสยามแล้วว
ต่อไปก็เดินทางไปพระมหาธาตุนภเมทนีดล-พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ วิวบนนี้สวยมากคะฟ้าเริ่มเปิดแล้ว
แถมยังมีดอกไม่นานาพันธุ์ให้เราชมและถ่ายภาพด้วยคะ
ที่สุดท้ายคือน้ำตกวชิรธารคะ
สำหรับคนที่ต้องการความสงบพักผ่อนร่างกายและสมอง แนะนำมาท่องเที่ยวพักผ่อนที่บ้านผาหมอนเลย มันดีจริงๆลืมความเครียดความวุ่นวายไปหมดเลย ชาวบ้านก็น่ารักใจดีสุดๆ มาแล้วไม่อยากกลับจริงๆ สุดท้ายนี้ถ้ามีอะไรผิดพลาดยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะคะเป็นครั้งแรกที่ตั้งกระทู้คะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามชมด้วยนะคะ