📍ค้าปลีกอย่างไร ให้รุ่งเรือง📍
หากเราต้องการทำอาชีพค้าขายนั้นต้องคำนึงถึงหลายๆ เรื่องไม่ว่าจะเป็นที่ทาง ทำเล สินค้า กลุ่มลูกค้าหรือความต้อง การของลูกค้าจึงจะสามารถทำให้การค้าขายเราประสบความสำเร็จ การจัดร้านค้าอย่างไรค้า ก็เป็นส่วนหนึ่งน่ะคับ ในการ กระตุ้นการขายสินค้า ซึ่งบาง คนนำสิ่งของมาประดับ ภายใน ร้านเพื่อเป็นการดึงดูดผู้ชมให้เกิด ความสนใจและแวะเวียนเข้ามาเลือกซื้อสินค้าของร้าน ซึ่งการจัดร้านค้าอย่างไรให้ค้าขายรุ่งเรื่องต้องไม่ลืมคำนึงถึงในสอง ส่วนนี้ คือ “ เหม่งตึ๊ง และ ทางเดินภายในร้านคับ
ทุนนอกประเทศที่ค่อยๆคืบคลานเข้ามาอย่างเลี่ยงไม่ได้ในรูปแบบซุปเปอร์สโตร์ขนาดใหญ่ และความท้าทายสำคัญที่เป็นเหตุผลทำให้ธุรกิจค้าปลีกค่อยๆถูกกลืนกิน คือ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้น หากค้าปลีกไทยรายเล็กไม่คิดปรับตัว อยากอยู่ไปวันๆ อาจจะเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ต้องหายไปจากสังคมไทยอย่างแน่นอน ดังนั้น มาดูกันว่ามีเคล็ดลับอะไรบ้างที่ช่วยต่ออายุค้าปลีกให้ยืนยาวต่อไปได้
เคล็ดลับการปรับหน้าร้าน
1. ลูกค้าคือใคร เราต้องรู้ให้ได้ว่าลูกค้าหลักของเราคือใคร เช่น คนที่เดินผ่านไปมาหน้าร้านเราเป็นใคร เพื่อจะได้ปรับร้านให้เข้ากับลูกค้า
2. สินค้าในร้านต้องโดนใจ ยิ่งสินค้าในร้านเราตอบโจทย์ลูกค้าได้มากเท่าไหร่ เราจะได้เปรียบร้านอื่นมากเท่านั้น และยิ่งถ้าร้านเรามีสินค้าที่ร้านอื่นไม่มี ก็จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น
3. ตกแต่งร้านสวยงาม ทุกสิ่งในร้านที่ได้รับการตกแต่ง ล้วนมีความสำคัญต่อความรู้สึกของลูกค้า ยิ่งร้านที่ตกแต่งสวย มีแสงสว่างอย่างเพียงพอ ใช้สีตกแต่งที่ดึงดูดสายตา จะมีส่วนช่วยดึงดูดให้ลูกค้าอยากเข้าร้านได้มากกว่าร้านที่ไม่มีการตกแต่งให้ดูดี
4. สินค้าต้องเตะตาลูกค้า การวางสินค้าหรือการจัดเรียงสินค้า ควรใช้หลักการที่ว่าสินค้าไหนขายดี สินค้านั้นต้องอยู่ในระดับสายตาลูกค้า เพื่อสะดวกต่อการมองเห็นและหยิบซื้อสินค้าได้ง่าย
5. มนุษยสัมพันธ์เป็นเลิศ การให้บริการของพนักงานและเจ้าของร้าน เป็นจุดขายที่ดีที่สุดของร้านค้าปลีก เพราะการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีจะช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าจนเกิดการใช้บริการซ้ำและบอกต่อ
เคล็ดลับการปรับหลังร้าน
1. หลังร้านต้องจัดระเบียบ แม้ว่าหน้าร้านสวยงาม แต่ถ้าหลังร้านไร้ระเบียบ ก็สร้างปัญหาใหญ่ได้เช่นกัน เพราะการจัดระเบียบหลังร้านช่วยให้ง่ายต่อการจัดสต็อก และทำให้เงินไม่จมไปกับสต็อกค้าง
2. ต้องเก็บข้อมูลสินค้า การเก็บข้อมูลจะทำให้เรารู้ว่าสินค้าที่วางในตำแหน่งไหนขายดี ตำแหน่งไหนขายไม่ดี ช่วยให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ว่า ควรเพิ่มหรือลดสินค้าชนิดใด
3. ทำบัญชีให้เป็นระบบ การเก็บข้อมูลให้เป็นระบบจะเป็นประโยชน์ต่อการวิเคราะห์รายได้ ค่าใช้จ่าย รวมถึงต้นทุน
4. สินค้าค้างสต็อกต้องระบายออก สินค้าในสต็อกคือ ต้นทุนที่จมอยู่ ถ้ามีสต็อกมากต้นทุนยิ่งจมมาก ต้องหาทางระบายสต็อกด้วยการลดราคาหรือจัดโปรโมชั่น นอกจากช่วยระบายของที่มีอยู่แล้วยังสร้างยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้ด้วย
เคล็ดลับง่ายๆ เพียงไม่กี่ข้อ ที่ช่วยพลิกโฉมร้านค้าปลีกธรรมดาๆ ให้กลายเป็นร้านที่ไม่ธรรมดาอีกต่อไป แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
ความรุ้เล็กๆน้อยๆ เกี่ยวกับธุรกิจค้าปลีก...ค้าปลีกอย่างไรให้รุ่งเรือง ?
หากเราต้องการทำอาชีพค้าขายนั้นต้องคำนึงถึงหลายๆ เรื่องไม่ว่าจะเป็นที่ทาง ทำเล สินค้า กลุ่มลูกค้าหรือความต้อง การของลูกค้าจึงจะสามารถทำให้การค้าขายเราประสบความสำเร็จ การจัดร้านค้าอย่างไรค้า ก็เป็นส่วนหนึ่งน่ะคับ ในการ กระตุ้นการขายสินค้า ซึ่งบาง คนนำสิ่งของมาประดับ ภายใน ร้านเพื่อเป็นการดึงดูดผู้ชมให้เกิด ความสนใจและแวะเวียนเข้ามาเลือกซื้อสินค้าของร้าน ซึ่งการจัดร้านค้าอย่างไรให้ค้าขายรุ่งเรื่องต้องไม่ลืมคำนึงถึงในสอง ส่วนนี้ คือ “ เหม่งตึ๊ง และ ทางเดินภายในร้านคับ
ทุนนอกประเทศที่ค่อยๆคืบคลานเข้ามาอย่างเลี่ยงไม่ได้ในรูปแบบซุปเปอร์สโตร์ขนาดใหญ่ และความท้าทายสำคัญที่เป็นเหตุผลทำให้ธุรกิจค้าปลีกค่อยๆถูกกลืนกิน คือ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้น หากค้าปลีกไทยรายเล็กไม่คิดปรับตัว อยากอยู่ไปวันๆ อาจจะเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ต้องหายไปจากสังคมไทยอย่างแน่นอน ดังนั้น มาดูกันว่ามีเคล็ดลับอะไรบ้างที่ช่วยต่ออายุค้าปลีกให้ยืนยาวต่อไปได้
เคล็ดลับการปรับหน้าร้าน
1. ลูกค้าคือใคร เราต้องรู้ให้ได้ว่าลูกค้าหลักของเราคือใคร เช่น คนที่เดินผ่านไปมาหน้าร้านเราเป็นใคร เพื่อจะได้ปรับร้านให้เข้ากับลูกค้า
2. สินค้าในร้านต้องโดนใจ ยิ่งสินค้าในร้านเราตอบโจทย์ลูกค้าได้มากเท่าไหร่ เราจะได้เปรียบร้านอื่นมากเท่านั้น และยิ่งถ้าร้านเรามีสินค้าที่ร้านอื่นไม่มี ก็จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น
3. ตกแต่งร้านสวยงาม ทุกสิ่งในร้านที่ได้รับการตกแต่ง ล้วนมีความสำคัญต่อความรู้สึกของลูกค้า ยิ่งร้านที่ตกแต่งสวย มีแสงสว่างอย่างเพียงพอ ใช้สีตกแต่งที่ดึงดูดสายตา จะมีส่วนช่วยดึงดูดให้ลูกค้าอยากเข้าร้านได้มากกว่าร้านที่ไม่มีการตกแต่งให้ดูดี
4. สินค้าต้องเตะตาลูกค้า การวางสินค้าหรือการจัดเรียงสินค้า ควรใช้หลักการที่ว่าสินค้าไหนขายดี สินค้านั้นต้องอยู่ในระดับสายตาลูกค้า เพื่อสะดวกต่อการมองเห็นและหยิบซื้อสินค้าได้ง่าย
5. มนุษยสัมพันธ์เป็นเลิศ การให้บริการของพนักงานและเจ้าของร้าน เป็นจุดขายที่ดีที่สุดของร้านค้าปลีก เพราะการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีจะช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าจนเกิดการใช้บริการซ้ำและบอกต่อ
เคล็ดลับการปรับหลังร้าน
1. หลังร้านต้องจัดระเบียบ แม้ว่าหน้าร้านสวยงาม แต่ถ้าหลังร้านไร้ระเบียบ ก็สร้างปัญหาใหญ่ได้เช่นกัน เพราะการจัดระเบียบหลังร้านช่วยให้ง่ายต่อการจัดสต็อก และทำให้เงินไม่จมไปกับสต็อกค้าง
2. ต้องเก็บข้อมูลสินค้า การเก็บข้อมูลจะทำให้เรารู้ว่าสินค้าที่วางในตำแหน่งไหนขายดี ตำแหน่งไหนขายไม่ดี ช่วยให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ว่า ควรเพิ่มหรือลดสินค้าชนิดใด
3. ทำบัญชีให้เป็นระบบ การเก็บข้อมูลให้เป็นระบบจะเป็นประโยชน์ต่อการวิเคราะห์รายได้ ค่าใช้จ่าย รวมถึงต้นทุน
4. สินค้าค้างสต็อกต้องระบายออก สินค้าในสต็อกคือ ต้นทุนที่จมอยู่ ถ้ามีสต็อกมากต้นทุนยิ่งจมมาก ต้องหาทางระบายสต็อกด้วยการลดราคาหรือจัดโปรโมชั่น นอกจากช่วยระบายของที่มีอยู่แล้วยังสร้างยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้ด้วย
เคล็ดลับง่ายๆ เพียงไม่กี่ข้อ ที่ช่วยพลิกโฉมร้านค้าปลีกธรรมดาๆ ให้กลายเป็นร้านที่ไม่ธรรมดาอีกต่อไป แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ