เหตุการณ์เพิ่งเกิดวันที่ 4 ธ.ค. 2559 เมื่อเวลา 19.50 น. โดยประมาณ ดิฉันและครอบครัวได้เดินมาจากห้างเดอะสตรีทรัชดาไปทางห้วยขวาง หลังจากเดินผ่านซอยรัชดาภิเษก 7 (ซอยนาทอง) และข้ามคลองเล็ก ไปจนเกือบถึงโรงแรมดิเอมเมอรัลด์ ได้พบมอเตอร์ไซค์วิ่งย้อนศรขึ้นบนทางเท้า เปิดไฟหน้าแสงสว่างจ้า ใส่หมวกกันน็อค ทำให้มองเห็นรูปพรรณสัณฐานไม่ชัด สังเกตได้เพียงว่าเป็นผู้ชายรูปร่างปานกลางชุดออกมืดๆดำๆสะพายเป้ข้างหลัง โดยมอเตอร์ไซค์ได้ขับผ่านกลุ่มดิฉันที่เดินกันอยู่สามคนไป
เนื่องจากขับใกล้ผิดสังเกต ดิฉันจึงหันหลังเหลียวมองตามมอเตอร์ไซค์ ซึ่งขับต่อไปยังกลุ่มคุณพ่อและแม่ของดิฉันที่เดินอยู่ข้างหลัง ห่างออกไปประมาณ 3-4 เมตร โดยคุณแม่ดิฉันเดินอยู่ฝั่งด้านในทางเท้าและถือกระเป๋าคล้องแขนไว้ด้านใน ในขณะที่มอเตอร์ไซค์ขับไปถึงจุดที่คุณแม่ดิฉันเดินอยู่นั้น ดิฉันเห็นมอเตอร์ไซค์ซึ่งขับชิดฝั่งด้านในทางเท้า กำลังพยายามกระชากกระเป๋าออกจากแขนคุณแม่ดิฉัน จนคุณแม่ล้มหน้าฟาดกับพื้น แต่กระเป๋ายังอยู่กับตัว แล้วมอเตอร์ไซค์ก็ได้ขับผ่านไป
ดิฉันวิ่งตามและตะโกนบอกคนที่เดินสวนมาว่ามีมอเตอร์ไซค์วิ่งราว จนข้ามคลอง และผ่านซอยรัชดาภิเษก 7 (ซอยนาทอง) ไปจนถึงป้ายรถเมล์ ได้ถามคนบริเวณป้ายรถเมล์ แต่ไม่มีใครเห็นมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านไป จึงเข้าใจว่ามอเตอร์ไซค์ได้เลี้ยวเข้าซอยรัชดาภิเษก 7 ไปแล้ว ก็เลยไม่ได้ตามต่อ
หลังจากนั้นดิฉันกับครอบครัวได้ไปลงบันทึกไว้ที่สน.ห้วยขวาง ระหว่างที่เดินไปสน.ก็ได้ข้อมูลจากคนแถวนั้นว่ามีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ตำรวจที่สน.ก็ทราบว่าในบริเวณนั้นมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อย ซึ่งการติดตามเบื้องต้นคงต้องดูจากกล้องวงจรปิดก่อน
ดิฉันไม่คิดว่าจะจับตัวคนร้ายได้หรอกค่ะ แต่อยากให้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ในเรื่องของการที่มอเตอร์ไซค์ฝ่าฝืนกฎจราจรโดยขับขึ้นบนทางเท้า จนคนทั่วไปเห็นเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว เพราะไม่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งปกติก็อาจจะแค่ริดรอนสิทธิ์คนเดินทางเท้า แต่ในกรณีรุนแรงเช่นนี้ อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและร่างกายได้
ดิฉันอยากเสนอให้มีมาตรการปรับที่รุนแรงกว่านี้ค่ะ อาจจะครั้งละ 5,000-10,000 บาท และแต่ละสน.ก็จัดตำรวจนอกเครื่องแบบเวียนไปดักตามจุดต่างๆ ไม่ต้องเยอะหรอกค่ะ แค่สุ่มไปเรื่อย ปรับครั้งละหนักๆ สักพักก็หมดไปเอง ถ้าคิดจะทำและทำจริงจังนะคะ
ฝากรบกวนช่วยแชร์ส่งต่อไปให้มากที่สุดด้วยนะคะ ช่วยกันเป็นกระบอกเสียงเพื่อกรุงเทพฯ ของเราที่ปลอดภัยมากขึ้นค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
*เพิ่มเติมค่ะ
หลังจากได้สอบถามเพิ่มเติม พบว่าบริเวณดังกล่าวได้เคยเกิดเหตุวิ่งราวชิงทรัพย์ตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว และก่อนหน้านี้ก็เคยมีการติดประกาศเตือน แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว
จริงๆ นอกจากการลาดตระเวน สิ่งที่ทำได้ง่ายๆ คือ การประกาศเตือน ซึ่งทำได้หลายรูปแบบ ทั้งทางใบปลิว โทรโข่ง ติดลำโพงเสียงตามสาย ฯลฯ
นอกจากนั้น การที่ตำรวจบอกว่า "ถึงลาดตระเวน โจรก็ไปก่อเหตุบริเวณอื่นอยู่ดี" ก็ถูกค่ะ อย่างไรแล้วประชาชนก็ต้องเป็นฝ่ายระมัดระวังทรัพย์สินและความปลอดภัยของตนเอง แต่ด้วยบทบาทของตำรวจควรจะมีหน้าที่ช่วยตรวจตรา ดูแลความเรียบร้อยของบ้านเมืองไม่ใช่หรือคะ ถ้าทุกสน.ร่วมมือกันกวดขัน เชื่อค่ะว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลง
เตือนภัย มอเตอร์ไซค์กระชากกระเป๋าบนทางเท้าถนนรัชดาภิเษก ใกล้โรงแรมดิเอมเมอรัล ห้วยขวาง
เนื่องจากขับใกล้ผิดสังเกต ดิฉันจึงหันหลังเหลียวมองตามมอเตอร์ไซค์ ซึ่งขับต่อไปยังกลุ่มคุณพ่อและแม่ของดิฉันที่เดินอยู่ข้างหลัง ห่างออกไปประมาณ 3-4 เมตร โดยคุณแม่ดิฉันเดินอยู่ฝั่งด้านในทางเท้าและถือกระเป๋าคล้องแขนไว้ด้านใน ในขณะที่มอเตอร์ไซค์ขับไปถึงจุดที่คุณแม่ดิฉันเดินอยู่นั้น ดิฉันเห็นมอเตอร์ไซค์ซึ่งขับชิดฝั่งด้านในทางเท้า กำลังพยายามกระชากกระเป๋าออกจากแขนคุณแม่ดิฉัน จนคุณแม่ล้มหน้าฟาดกับพื้น แต่กระเป๋ายังอยู่กับตัว แล้วมอเตอร์ไซค์ก็ได้ขับผ่านไป
ดิฉันวิ่งตามและตะโกนบอกคนที่เดินสวนมาว่ามีมอเตอร์ไซค์วิ่งราว จนข้ามคลอง และผ่านซอยรัชดาภิเษก 7 (ซอยนาทอง) ไปจนถึงป้ายรถเมล์ ได้ถามคนบริเวณป้ายรถเมล์ แต่ไม่มีใครเห็นมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านไป จึงเข้าใจว่ามอเตอร์ไซค์ได้เลี้ยวเข้าซอยรัชดาภิเษก 7 ไปแล้ว ก็เลยไม่ได้ตามต่อ
หลังจากนั้นดิฉันกับครอบครัวได้ไปลงบันทึกไว้ที่สน.ห้วยขวาง ระหว่างที่เดินไปสน.ก็ได้ข้อมูลจากคนแถวนั้นว่ามีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ตำรวจที่สน.ก็ทราบว่าในบริเวณนั้นมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อย ซึ่งการติดตามเบื้องต้นคงต้องดูจากกล้องวงจรปิดก่อน
ดิฉันไม่คิดว่าจะจับตัวคนร้ายได้หรอกค่ะ แต่อยากให้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ในเรื่องของการที่มอเตอร์ไซค์ฝ่าฝืนกฎจราจรโดยขับขึ้นบนทางเท้า จนคนทั่วไปเห็นเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว เพราะไม่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งปกติก็อาจจะแค่ริดรอนสิทธิ์คนเดินทางเท้า แต่ในกรณีรุนแรงเช่นนี้ อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและร่างกายได้
ดิฉันอยากเสนอให้มีมาตรการปรับที่รุนแรงกว่านี้ค่ะ อาจจะครั้งละ 5,000-10,000 บาท และแต่ละสน.ก็จัดตำรวจนอกเครื่องแบบเวียนไปดักตามจุดต่างๆ ไม่ต้องเยอะหรอกค่ะ แค่สุ่มไปเรื่อย ปรับครั้งละหนักๆ สักพักก็หมดไปเอง ถ้าคิดจะทำและทำจริงจังนะคะ
ฝากรบกวนช่วยแชร์ส่งต่อไปให้มากที่สุดด้วยนะคะ ช่วยกันเป็นกระบอกเสียงเพื่อกรุงเทพฯ ของเราที่ปลอดภัยมากขึ้นค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
*เพิ่มเติมค่ะ
หลังจากได้สอบถามเพิ่มเติม พบว่าบริเวณดังกล่าวได้เคยเกิดเหตุวิ่งราวชิงทรัพย์ตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว และก่อนหน้านี้ก็เคยมีการติดประกาศเตือน แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว
จริงๆ นอกจากการลาดตระเวน สิ่งที่ทำได้ง่ายๆ คือ การประกาศเตือน ซึ่งทำได้หลายรูปแบบ ทั้งทางใบปลิว โทรโข่ง ติดลำโพงเสียงตามสาย ฯลฯ
นอกจากนั้น การที่ตำรวจบอกว่า "ถึงลาดตระเวน โจรก็ไปก่อเหตุบริเวณอื่นอยู่ดี" ก็ถูกค่ะ อย่างไรแล้วประชาชนก็ต้องเป็นฝ่ายระมัดระวังทรัพย์สินและความปลอดภัยของตนเอง แต่ด้วยบทบาทของตำรวจควรจะมีหน้าที่ช่วยตรวจตรา ดูแลความเรียบร้อยของบ้านเมืองไม่ใช่หรือคะ ถ้าทุกสน.ร่วมมือกันกวดขัน เชื่อค่ะว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลง