สวัสดีครับ อันนี้น้องไฟไง

วันนี้พามารีวิวที่เที่ยวข้างบ้าน พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย หรือ MOCA (Museum of Contemporary Art) นั่นเอง น้องไฟเห็นคนรีวิวหลายคนแล้วแหละครับ แต่อยากรีวิวบ้างนี่นาาา ฮ่า ๆๆ บายเดอะเวย์ รีวิวนี้
จะไม่สปอยห้องจัดแสดงเด่น ๆ ใด ๆ ของพิพิธภัณฑ์ทั้งสิ้นครับ เพราะส่วนตัวตอนน้องเห็นของจริง น้องค่อนข้างขนลุกมากกก ยืนปรบมือต่อเนื่องยาวนาน 20 นาที น้องเลยอยากให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ ได้มาชื่นชมกับตาเนื้อของตัวเองโดยแท้จริงเหมือนกัน ... ถ้าพร้อมแล้ว สวมบทบาทอาจารย์เฉลิมชัย แล้วไปตามหาจิตวิญญาณพร้อมกันโลดเลยครับ ลุยยยย !!
*** ขอฝาก Blog ของน้องไฟไว้ในอ้อมอกอ้อมใจลุงป้าน้าอาด้วยนะคร้าบ

***
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/FirexJourney
https://www.instagram.com/FirexJourney

บุกพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย MOCA Museum of Contemporary Art ฉบับอัพเดตล่าสุด !! … ไปกันเล้ยยย !!
รอบนี้น้องไฟขับรถไปครับ วันธรรมดาบ่ายอ่อน ๆ เดินทางสะดวกรถไม่ติด ขับไปถึงพิพิธภัณฑ์ปุ๊บ มุดลงไปจอดรถชั้นใต้ดิน รับบัตรมาแล้วพี่การ์ดบอกว่าอย่าลืมสแตมป์บัตรจอดตรงจุดประชาสัมพันธ์ที่เรากำลังจะไปซื้อบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์มาด้วยนะครับ ไม่งั้นเสียเงินค่าจอด วงวารตัวเอง ฮือออ
พอจอดเสร็จแล้วต้องเดินผ่านทางนี้ขึ้นมาชั้นบนเพื่อซื้อบัตรเข้าพิพิธภัณฑ์กันก่อน
ขึ้นมาก็จะเจอสระน้ำพร้อมพุ่มงานศิลปะดอกไม้ประหลาดตาจากป่าหิมพานต์ ฮือออออ
กำแพงพิพิธภัณฑ์จะประดับเป็นแบบนี้ครับ ด้านในก็จะใช้ธีมแบบนี้ ดูดีมีเอกลักษณ์มาก
ก่อนเข้า เราต้องแวะมาซื้อบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ก่อนนะครับ เดินมาที่จุดประชาสัมพันธ์ตรงนี้ได้เลย
อัพเดตราคาค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ 2559 ดังนี้ครับ
– ผู้ใหญ่ 250 บาท
– นักเรียนและนักศึกษา (ต้องแสดงบัตร) 100 บาท
ทางพิพิธภัณฑ์มีจำหน่ายบัตรแบบอื่น รวมทั้งสิทธิประโยชน์พิเศษต่าง ๆ ด้วย ลองตรวจสอบเงื่อนไขก่อนเข้าชมนะครับ
มีกฎการเข้าชมกันด้วยครับ หลัก ๆ เลยก็คือ
– ห้ามจับงานศิลปะเด็ดขาด
– ห้ามใช้แฟลชถ่ายรูปเด็ดขาด
– ห้ามส่งเสียงดัง
ส่วนเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่นำกระเป๋าขนาดใหญ่มา ทางพี่พนักงานจะขอให้เราฝากกระเป๋าเอาไว้กับจุดจำหน่ายบัตรเลยครับ ถ้าพี่พนักงานแจ้งให้ฝากกระเป๋าก็อย่าขัดขืนเจ้าพนักงานเลยนะ วงวารเค้า ฮือออ ... พอฝากกระเป๋าไว้ ก็รับบัตรเคลือบติดตัวมา ขากลับมารับคืนที่เดิมนะครับ
เมื่อพร้อมแล้ว เชิญเข้ามาด้านในกันได้เลยครับ
รูปหล่อของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยศิลปากร และถือเป็นบิดาแห่งวงการศิลปะไทยร่วมสมัยด้วยครับ
พาเดินชมบรรยากาศชั้นล่างนิดนึงก่อน
ที่ MOCA จะแบ่งนิทรรศการแสดงงานศิลปะออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือ
- นิทรรศกาลหมุนเวียน จะผลัดเปลี่ยนการจัดแสดงงานศิลปะจากศิลปินท่านต่าง ๆ สลับเวียนกันไปเรื่อย ๆ ครับ
- นิทรรศการถาวร อันนี้จัดตลอดปีและตลอดไป
โดยที่วิธีการชมพิพิธภัณฑ์ ทางพิพิธภัณฑ์จะมีเจ้าหน้าที่ยืนประจำจุดต่าง ๆ ทั่วพิพิธภัณฑ์ คอยแจ้งให้เราเดินชมไปในทิศทางที่กำหนด เราสามารถเดินออกนอกเส้นทางได้หากต้องการเดินไปชมจุดใดจุดหนึ่งเป็นพิเศษหลังจากที่เดินตามเส้นทางที่กำหนดแล้วครับ
ชั้น 1 นี้จะมีส่วนตัวนิทรรศกาลหมุนเวียนครับ มามะ เรามาเดินดูกันก่อนเลยยยย
MOCA ประกอบไปด้วยส่วนจัดแสดงทั้งหมด 6 ชั้นครับ แต่ละชั้นมีส่วนจัดแสดงหลัก และส่วนจัดแสดงพิเศษซึ่งเป็นไฮไลท์ในแต่ล่ะชั้นด้วย
เดินเสร็จปุ๊บ ก็ขึ้นบันไดเลื่อนมาที่ชั้น 2 เพื่อมาชมนิทรรศกาลถาวรของพิพิธภัณฑ์กันต่อ
เดินชมชั้น 2 เสร็จปุ๊บ ขึ้นบันไดเลื่อนมาที่ชั้น 3 ต่อ ซึ่งตั้งแต่ชั้น 3 เป็นต้นไป จะเริ่มมีส่วนจัดแสดงพิเศษด้วยครับ
อย่างที่แจ้งว่าที่ MOCA จะมีส่วนแสดงพิเศษทุก ๆ ชั้นด้วย ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ที่ทำให้การเดินชมพิพิธภัณฑ์ยิ่งตื่นเต้นขึ้นไปอีกครับ … อย่างของชั้น 3 เป็น “เรือนนางพิม”
นางพิม ก็คือ นางพิมพิลาลัย ในเรื่องขุนช้างขุนแผนนั่นเอง ในห้องจัดแสดงพิเศษนี้ จะแสดงงานศิลปะที่ต่อยอดมาจากเรื่องขุนช้างขุนแผนทั้งหมดครับ
และตามสัญญา น้องจะไม่สปอย น้องจะไม่สปอย

น้องไฟชอบภาพนี้มากเลย ชื่อภาพ “สนทนากับเธอ” เหมือนคุณยายทวดลุกมาสอนหลานสาวว่าสังขาวก็เงี้ยะ ฮ่า ๆๆ
ขึ้นมายังชั้น 4 จะเริ่มมีการจัดงานแสดงศิลปะสไตล์ไทย ๆ ลายกนก พระพุทธรูป แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ "ร่วมสมัย" อยู่ครับ
ส่วนจัดแสดงพิเศษชั้น 4 สะพานข้ามจักรวาล … ไม่ถ่ายให้ดูด้านในนะ น้องจะไม่สปอย อยากให้เพื่อน ๆ มาชมด้วยตัวเองเลยย
ที่ชั้น 4 มีส่วนจัดแสดงพิเศษอีกจุด ชื่อว่า “ไตรภูมิ” ที่ถือเป็นไฮไลท์ที่ใหญ่ที่สุดในหอศิลป์นี้สำหรับน้องไฟเลยครับ ตรงนี้เป็นส่วนนั่งชม เก้าอี้เยอะกว่าที่อื่นเลยเห็นมั้ย แสดงว่าเด็ดดวงจริง !! … เพราะฉะนั้น เพื่อน ๆ มาชมให้ได้นะครับ
เสร็จปุ๊บก็เดินขึ้นชั้น 5 กันต่อเลยยย
ชั้น 5 จะแสดงงานศิลปะจากนานาชาติ รวมทั้งส่วนจัดแสดงพิเศษของ Richard Green Gallery ด้วยครับ
ส่วนจัดแสดงของ Richard Green งดถ่ายภาพภายในครับ ถ้าให้เล่ารูปแบบงานของเค้า ก็จะเป็นงานสีน้ำมันภาพเหมือน น้องไฟคิดว่าคล้าย ๆ กับรูปวาดใน Harry Potter ประมาณนั้นเลยครับ

น้องถ่ายแค่นี้พอ น้องจะไม่สปอย น้องจะไม่สปอย
เดินทั่วพิพิธภัณฑ์แล้ว !! … เริ่มหิวตะหงิด ๆ แว้บลงไปชั้นล่างสุดกันดีกว่าครับ
ที่ชั้นล่างสุด (ชั้น G) มีคาเฟ่ “รักบ้านเกิด คอฟฟี่” เปิดให้บริการด้วยครับ มีทั้งเครื่องดื่มและขนมนมเนย แอร์เย็น คนน้อย กาแฟดี ราคาไม่แพงอีกตั่งหาก ดีงามด้วยประกาลทั้งปวงงง

ส่วนที่นั่ง เค้าก็มีให้เลือกมากมายทั้งชั้นล่างและชั้นลอยครับ
เต็มอิ่มสุด ๆ ไปเลยครับกับการเดินชมงาศิลปะครั้งนี้ที่ MOCA Museum of Contemporary Art พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย เพื่อน ๆ อย่าลืมหาเวลาไปเสพย์ศิลป์ที่นี่กันให้ได้นะครับ
รักน้า ชุบชุบ
[CR] เด็กสายศิลป์ : พาเที่ยวพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย MOCA – Museum of Contemporary Art ฉบับอัพเดต 2016
*** ขอฝาก Blog ของน้องไฟไว้ในอ้อมอกอ้อมใจลุงป้าน้าอาด้วยนะคร้าบ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บุกพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย MOCA Museum of Contemporary Art ฉบับอัพเดตล่าสุด !! … ไปกันเล้ยยย !!
รอบนี้น้องไฟขับรถไปครับ วันธรรมดาบ่ายอ่อน ๆ เดินทางสะดวกรถไม่ติด ขับไปถึงพิพิธภัณฑ์ปุ๊บ มุดลงไปจอดรถชั้นใต้ดิน รับบัตรมาแล้วพี่การ์ดบอกว่าอย่าลืมสแตมป์บัตรจอดตรงจุดประชาสัมพันธ์ที่เรากำลังจะไปซื้อบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์มาด้วยนะครับ ไม่งั้นเสียเงินค่าจอด วงวารตัวเอง ฮือออ
พอจอดเสร็จแล้วต้องเดินผ่านทางนี้ขึ้นมาชั้นบนเพื่อซื้อบัตรเข้าพิพิธภัณฑ์กันก่อน
ขึ้นมาก็จะเจอสระน้ำพร้อมพุ่มงานศิลปะดอกไม้ประหลาดตาจากป่าหิมพานต์ ฮือออออ
กำแพงพิพิธภัณฑ์จะประดับเป็นแบบนี้ครับ ด้านในก็จะใช้ธีมแบบนี้ ดูดีมีเอกลักษณ์มาก
ก่อนเข้า เราต้องแวะมาซื้อบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ก่อนนะครับ เดินมาที่จุดประชาสัมพันธ์ตรงนี้ได้เลย
อัพเดตราคาค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ 2559 ดังนี้ครับ
– ผู้ใหญ่ 250 บาท
– นักเรียนและนักศึกษา (ต้องแสดงบัตร) 100 บาท
ทางพิพิธภัณฑ์มีจำหน่ายบัตรแบบอื่น รวมทั้งสิทธิประโยชน์พิเศษต่าง ๆ ด้วย ลองตรวจสอบเงื่อนไขก่อนเข้าชมนะครับ
มีกฎการเข้าชมกันด้วยครับ หลัก ๆ เลยก็คือ
– ห้ามจับงานศิลปะเด็ดขาด
– ห้ามใช้แฟลชถ่ายรูปเด็ดขาด
– ห้ามส่งเสียงดัง
ส่วนเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่นำกระเป๋าขนาดใหญ่มา ทางพี่พนักงานจะขอให้เราฝากกระเป๋าเอาไว้กับจุดจำหน่ายบัตรเลยครับ ถ้าพี่พนักงานแจ้งให้ฝากกระเป๋าก็อย่าขัดขืนเจ้าพนักงานเลยนะ วงวารเค้า ฮือออ ... พอฝากกระเป๋าไว้ ก็รับบัตรเคลือบติดตัวมา ขากลับมารับคืนที่เดิมนะครับ
เมื่อพร้อมแล้ว เชิญเข้ามาด้านในกันได้เลยครับ
“ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น”
รูปหล่อของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยศิลปากร และถือเป็นบิดาแห่งวงการศิลปะไทยร่วมสมัยด้วยครับ
พาเดินชมบรรยากาศชั้นล่างนิดนึงก่อน
ที่ MOCA จะแบ่งนิทรรศการแสดงงานศิลปะออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือ
- นิทรรศกาลหมุนเวียน จะผลัดเปลี่ยนการจัดแสดงงานศิลปะจากศิลปินท่านต่าง ๆ สลับเวียนกันไปเรื่อย ๆ ครับ
- นิทรรศการถาวร อันนี้จัดตลอดปีและตลอดไป
โดยที่วิธีการชมพิพิธภัณฑ์ ทางพิพิธภัณฑ์จะมีเจ้าหน้าที่ยืนประจำจุดต่าง ๆ ทั่วพิพิธภัณฑ์ คอยแจ้งให้เราเดินชมไปในทิศทางที่กำหนด เราสามารถเดินออกนอกเส้นทางได้หากต้องการเดินไปชมจุดใดจุดหนึ่งเป็นพิเศษหลังจากที่เดินตามเส้นทางที่กำหนดแล้วครับ
ชั้น 1 นี้จะมีส่วนตัวนิทรรศกาลหมุนเวียนครับ มามะ เรามาเดินดูกันก่อนเลยยยย
วาดรูปตัวเอง
MOCA ประกอบไปด้วยส่วนจัดแสดงทั้งหมด 6 ชั้นครับ แต่ละชั้นมีส่วนจัดแสดงหลัก และส่วนจัดแสดงพิเศษซึ่งเป็นไฮไลท์ในแต่ล่ะชั้นด้วย
เดินเสร็จปุ๊บ ก็ขึ้นบันไดเลื่อนมาที่ชั้น 2 เพื่อมาชมนิทรรศกาลถาวรของพิพิธภัณฑ์กันต่อ
ธ สถิตย์ในใจตราบนิรันดร์
เดินชมชั้น 2 เสร็จปุ๊บ ขึ้นบันไดเลื่อนมาที่ชั้น 3 ต่อ ซึ่งตั้งแต่ชั้น 3 เป็นต้นไป จะเริ่มมีส่วนจัดแสดงพิเศษด้วยครับ
มีที่นั่งให้นั่งชื่นชมงานศิลป์ด้วย แค่ม้านั่งก็ชิคล้าววว
อย่างที่แจ้งว่าที่ MOCA จะมีส่วนแสดงพิเศษทุก ๆ ชั้นด้วย ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ที่ทำให้การเดินชมพิพิธภัณฑ์ยิ่งตื่นเต้นขึ้นไปอีกครับ … อย่างของชั้น 3 เป็น “เรือนนางพิม”
นางพิม ก็คือ นางพิมพิลาลัย ในเรื่องขุนช้างขุนแผนนั่นเอง ในห้องจัดแสดงพิเศษนี้ จะแสดงงานศิลปะที่ต่อยอดมาจากเรื่องขุนช้างขุนแผนทั้งหมดครับ
และตามสัญญา น้องจะไม่สปอย น้องจะไม่สปอย
น้องไฟชอบภาพนี้มากเลย ชื่อภาพ “สนทนากับเธอ” เหมือนคุณยายทวดลุกมาสอนหลานสาวว่าสังขาวก็เงี้ยะ ฮ่า ๆๆ
ขึ้นมายังชั้น 4 จะเริ่มมีการจัดงานแสดงศิลปะสไตล์ไทย ๆ ลายกนก พระพุทธรูป แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ "ร่วมสมัย" อยู่ครับ
ส่วนจัดแสดงพิเศษชั้น 4 สะพานข้ามจักรวาล … ไม่ถ่ายให้ดูด้านในนะ น้องจะไม่สปอย อยากให้เพื่อน ๆ มาชมด้วยตัวเองเลยย
ที่ชั้น 4 มีส่วนจัดแสดงพิเศษอีกจุด ชื่อว่า “ไตรภูมิ” ที่ถือเป็นไฮไลท์ที่ใหญ่ที่สุดในหอศิลป์นี้สำหรับน้องไฟเลยครับ ตรงนี้เป็นส่วนนั่งชม เก้าอี้เยอะกว่าที่อื่นเลยเห็นมั้ย แสดงว่าเด็ดดวงจริง !! … เพราะฉะนั้น เพื่อน ๆ มาชมให้ได้นะครับ
เสร็จปุ๊บก็เดินขึ้นชั้น 5 กันต่อเลยยย
ชั้น 5 จะแสดงงานศิลปะจากนานาชาติ รวมทั้งส่วนจัดแสดงพิเศษของ Richard Green Gallery ด้วยครับ
ส่วนจัดแสดงของ Richard Green งดถ่ายภาพภายในครับ ถ้าให้เล่ารูปแบบงานของเค้า ก็จะเป็นงานสีน้ำมันภาพเหมือน น้องไฟคิดว่าคล้าย ๆ กับรูปวาดใน Harry Potter ประมาณนั้นเลยครับ
น้องถ่ายแค่นี้พอ น้องจะไม่สปอย น้องจะไม่สปอย
เดินทั่วพิพิธภัณฑ์แล้ว !! … เริ่มหิวตะหงิด ๆ แว้บลงไปชั้นล่างสุดกันดีกว่าครับ
ที่ชั้นล่างสุด (ชั้น G) มีคาเฟ่ “รักบ้านเกิด คอฟฟี่” เปิดให้บริการด้วยครับ มีทั้งเครื่องดื่มและขนมนมเนย แอร์เย็น คนน้อย กาแฟดี ราคาไม่แพงอีกตั่งหาก ดีงามด้วยประกาลทั้งปวงงง
จิบกาแฟ ชมวิวพานพุ่มจากป่าหิมพานต์ อบอุ่นใจเป็นที่สุด
ส่วนที่นั่ง เค้าก็มีให้เลือกมากมายทั้งชั้นล่างและชั้นลอยครับ
เต็มอิ่มสุด ๆ ไปเลยครับกับการเดินชมงาศิลปะครั้งนี้ที่ MOCA Museum of Contemporary Art พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย เพื่อน ๆ อย่าลืมหาเวลาไปเสพย์ศิลป์ที่นี่กันให้ได้นะครับ
รักน้า ชุบชุบ