สวัสดีครับ ผมมีข้อมูลมาแบ่งปันเพื่อนที่น้องนักลงทุนทุกท่านน่ะครับ ผมอยากจะแบ่งกันการสรุปเนื้อหาของผม ขอฝากตัวด้วยนะครับ
เนื่องจากผมอัพโหลดรูปไม่เป็น หากใครอยากเห็นแบบมีรูปด้วย ข้อมูลเต็มจะอยู่ในลิ้งนี้น่ะครับ อมยิ้ม17อมยิ้ม17อมยิ้ม17อมยิ้ม17
https://www.facebook.com/investdiary/photos/a.872474229554492.1073741831.819249924876923/872474272887821/?type=3&theater
<<< Session 1 introduction >>>
เพิ่มเติม:
https://goo.gl/UCHjC0
- การประเมินมูลค่าหุ้นจริงๆแล้วนั้นง่าย แต่ว่าที่ยากเพราะว่าเราชอบทำให้มันยากเอง
- มันเกี่ยวกับเรื่องราวของบริษัทมากกว่าแค่ตัวเลข
.
อาจารย์ได้เล่าเปรียบเทียบเหตุการณ์ตัว lemming ที่มีพฤติกรรม กระโดดหน้าผาหมู่ฆ่าตัวตาย ใครสงสัยก็ลอง Google ดูได้ แต่ประเด็นคือ
.
.
Lemming ตัวแรกนั้นวิ่งลงหน้าผา และตัวที่สองล้ะ? ก็คงกระโดดตามกันไป ตัวต่อๆมาก็โดดตามไปเรื่อยๆ แต่ตัวหลังๆล้ะ? น่าจะเห็นแล้วว่าเพื่อนนั้นโดดไปตายกันหมด จะหยุดดีมั้ยนะ? แต่พอดีมีเสียงในหัวอีกเสียงนึงที่อันตรายมากก็คือ "พวกเขาอาจจะรู้อะไรที่เราไม่รู้" หลังจากนั้นก็โดดตามกันไปหมด
.
.
อาจารย์ให้จำคำนี้ไว้ดีๆเพราะอันตราย "พวกเขาอาจจะรู้อะไรที่เราไม่รู้"
.
.
อาจารย์แบ่ง นักลงทุนเป็น เป็น 3 พวกคือ
.
1) พวกที่ใครซื้ออะไรซื้อตาม ขายอะไรขายตาม ถ้าถามว่าเขาซื้อเพราะอะไร? ไม่สน!
.
2) พวกที่คิดว่าตัวเองรู้มากกว่าคนทั่วไป จะพยายามวิ่งไปหาหน้าผาเหมือน lemming แต่พอใกล้หน้าผา ถ้าหยุดได้ก็โชคดีไป ได้กำไรเต็มๆ
.
3) เล่นแบบปลอดภัย โดยใช้การประเมินเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวให้เราเชื่อในขณะที่คนอื่นเปลี่ยนใจ ในขณะที่เราอยากซื้อหรือขาย การประเมินมูลค่าจะช่วยชะลอความเร็วในการตัดสินใจโดยนำเหตุผลมาใช้มากขึ้น
.
.
การประเมินนั้นล้มเหลวเพราะสามอย่าง
.
1) การมีอคติกับการประเมิน หากเรามีความชอบบริษัทไปแล้ว เป็นเรื่องอยากที่เราจะไม่ลงทุนในบริษัทนั้น ยิ่งเรารู้จักบริษัทมากเท่าไหร่ เรายิ่งมีความรู้สึกต่อบริษัทนั้นมากขึ้น
.
2) ความไม่แน่นอนในการประเมิน แน่นอนว่าอนาคตไม่แน่นอน หากเราจะคาดเดาอนาคตมันก็มักจะผิดพลาดแน่ๆ
.
3) การใช้ model ในการประเมินแบบยากๆ หากยากเกินไปจะเกิดความเหนื่อยล้าในการหา input และ output ของสมการ
.
.
การประเมินแบ่งเป็น 3 แบบคือ
.
1) การหามูลค่าที่แท้จริง (Intrinsic value) ก็คือหามูลค่าด้วยตัวเลขที่เราคุ้นเคย PE PBV DP ROE .....
.
2) การเปรียบเทียบกับธุรกิจที่คล้ายคลึงเพื่อเป็นบรรทัดฐานว่าบริษัทนี้ดีกว่าหรือไม่ และควรจะมีมูลค่ามากกว่าหรือไม่
.
จริงๆสองอันบนก็ใช้กันส่วนใหญ่เป็นปกติ แต่มีพิเศษคือ
3) การประเมินราคาโดยรวมมูลค่าของ Option ที่จะมีในอนาคต
.
.
แต่ละรูปแบบของการประเมินคือเราจะต้องเชื่อว่าตลาดนั้นผิดพลาดได้ ถ้าหากตลาดนั้นไม่มีทางผิดพลาดเลย ราคาตามตลาดถูกต้องตลอด การประเมินก็ไร้ค่า
จบละครับสำหรับ Session แรก ไว้จะมาต่อน่ะครับ
ที่มา
https://www.facebook.com/investdiary
การประเมินมูลค่าหุ้น บทเรียนที่ 1
เนื่องจากผมอัพโหลดรูปไม่เป็น หากใครอยากเห็นแบบมีรูปด้วย ข้อมูลเต็มจะอยู่ในลิ้งนี้น่ะครับ อมยิ้ม17อมยิ้ม17อมยิ้ม17อมยิ้ม17
https://www.facebook.com/investdiary/photos/a.872474229554492.1073741831.819249924876923/872474272887821/?type=3&theater
<<< Session 1 introduction >>>
เพิ่มเติม: https://goo.gl/UCHjC0
- การประเมินมูลค่าหุ้นจริงๆแล้วนั้นง่าย แต่ว่าที่ยากเพราะว่าเราชอบทำให้มันยากเอง
- มันเกี่ยวกับเรื่องราวของบริษัทมากกว่าแค่ตัวเลข
.
อาจารย์ได้เล่าเปรียบเทียบเหตุการณ์ตัว lemming ที่มีพฤติกรรม กระโดดหน้าผาหมู่ฆ่าตัวตาย ใครสงสัยก็ลอง Google ดูได้ แต่ประเด็นคือ
.
.
Lemming ตัวแรกนั้นวิ่งลงหน้าผา และตัวที่สองล้ะ? ก็คงกระโดดตามกันไป ตัวต่อๆมาก็โดดตามไปเรื่อยๆ แต่ตัวหลังๆล้ะ? น่าจะเห็นแล้วว่าเพื่อนนั้นโดดไปตายกันหมด จะหยุดดีมั้ยนะ? แต่พอดีมีเสียงในหัวอีกเสียงนึงที่อันตรายมากก็คือ "พวกเขาอาจจะรู้อะไรที่เราไม่รู้" หลังจากนั้นก็โดดตามกันไปหมด
.
.
อาจารย์ให้จำคำนี้ไว้ดีๆเพราะอันตราย "พวกเขาอาจจะรู้อะไรที่เราไม่รู้"
.
.
อาจารย์แบ่ง นักลงทุนเป็น เป็น 3 พวกคือ
.
1) พวกที่ใครซื้ออะไรซื้อตาม ขายอะไรขายตาม ถ้าถามว่าเขาซื้อเพราะอะไร? ไม่สน!
.
2) พวกที่คิดว่าตัวเองรู้มากกว่าคนทั่วไป จะพยายามวิ่งไปหาหน้าผาเหมือน lemming แต่พอใกล้หน้าผา ถ้าหยุดได้ก็โชคดีไป ได้กำไรเต็มๆ
.
3) เล่นแบบปลอดภัย โดยใช้การประเมินเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวให้เราเชื่อในขณะที่คนอื่นเปลี่ยนใจ ในขณะที่เราอยากซื้อหรือขาย การประเมินมูลค่าจะช่วยชะลอความเร็วในการตัดสินใจโดยนำเหตุผลมาใช้มากขึ้น
.
.
การประเมินนั้นล้มเหลวเพราะสามอย่าง
.
1) การมีอคติกับการประเมิน หากเรามีความชอบบริษัทไปแล้ว เป็นเรื่องอยากที่เราจะไม่ลงทุนในบริษัทนั้น ยิ่งเรารู้จักบริษัทมากเท่าไหร่ เรายิ่งมีความรู้สึกต่อบริษัทนั้นมากขึ้น
.
2) ความไม่แน่นอนในการประเมิน แน่นอนว่าอนาคตไม่แน่นอน หากเราจะคาดเดาอนาคตมันก็มักจะผิดพลาดแน่ๆ
.
3) การใช้ model ในการประเมินแบบยากๆ หากยากเกินไปจะเกิดความเหนื่อยล้าในการหา input และ output ของสมการ
.
.
การประเมินแบ่งเป็น 3 แบบคือ
.
1) การหามูลค่าที่แท้จริง (Intrinsic value) ก็คือหามูลค่าด้วยตัวเลขที่เราคุ้นเคย PE PBV DP ROE .....
.
2) การเปรียบเทียบกับธุรกิจที่คล้ายคลึงเพื่อเป็นบรรทัดฐานว่าบริษัทนี้ดีกว่าหรือไม่ และควรจะมีมูลค่ามากกว่าหรือไม่
.
จริงๆสองอันบนก็ใช้กันส่วนใหญ่เป็นปกติ แต่มีพิเศษคือ
3) การประเมินราคาโดยรวมมูลค่าของ Option ที่จะมีในอนาคต
.
.
แต่ละรูปแบบของการประเมินคือเราจะต้องเชื่อว่าตลาดนั้นผิดพลาดได้ ถ้าหากตลาดนั้นไม่มีทางผิดพลาดเลย ราคาตามตลาดถูกต้องตลอด การประเมินก็ไร้ค่า
จบละครับสำหรับ Session แรก ไว้จะมาต่อน่ะครับ
ที่มา https://www.facebook.com/investdiary