ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา ไม่ได้มีความประสงค์จะทำให้กระทบ สถาบันศาสนาแต่ อย่างไร แต่เพื่อการเปรียบเทียบในสิ่งที่ผมกำลังจะเล่าต่อไปนี้
คำเตือน โปรดใช้ วิจารณญาณในการอ่าน ข้อความในกระทู้นี้ ให้มากๆ และไม่ต้องเชื่อที่ผมกำลังจะเล่าก็ได้ แต่ได้โปรด ลองคิดว่า ถ้า มันเป็น
อย่างที่เล่ามาจริงๆ คุณคิดยังไงกับเรื่องที่ผมเล่า ไม่ว่าสิ่งที่ผมกำลังจะเล่าต่อไปนี้ จะจริงหรือไม่ อย่างไร กรุณาคิดด้วยตัวเอง ว่าจริงไหม
ป.ล. ผมไม่สามารถเปิดแผยร้ายละเอียด มากว่านี้ได้ ด้วยความจำเป็น อันมีเหตุผล แต่ก็สามารถเล่ารายละเอียดที่ทุกท่านพอทราบได้
ในยุคปัจจุบัน พอเป็นเรื่องการทำบุญแล้ว คุณคิดถึงพระสงฆ์ รูปไหนเป็นพิเศษ ถ้าคุณเป็นเศรษฐี คุณคงคิดถึง พระสงฆ์ มี บรรรดาศักดิ์ ทั้งหลาย ทั้งปวง
หรือ เรียกกันว่า สมณะศักดิ์ ถ้าคุณเป็นนักเสี่ยงดวง คงคิดถึงพระที่มีชื่อเสียงด้าน โชคลาภ ทั้งหลายทั้งปวง ถ้าเป็นคนทั่วไป คงจะรูปไหนก็ได้
ยกเว้น สามเณร เพราะคนทั่วไปคิดว่า เณร ศิล 10 ไม่ค่อยต่างจากโยม เท่าไหร่ ถ้า เดินเข้ามาทำบุญในวัด พระที่เป็นเจ้า อาวาส ไม่อยู่ เหลือแต่ สามเณร โยมเหล่านั้น ก็จะกลับทันที และ ไปวัดอื่นเสีย ( นี้เป็นวัดที่ไม่ค่อยมีพระอยู่หรือเรียกว่า วัดบ้านนอก ) จากการสอบถาม คนทั่วไป ว่า ทำไม่ ไม่ชอบ
ทำบุญกับสามเณร คำตอบที่ได้ คือ กลัวไม่ได้บุญ เยอะเท่าที่ควร เป็นคำตอบ ที่ผมได้ยินแล้ว คือ มันไม่ได้สัทธาในพระพุทธศาสนาจริงๆ ก็แค่พวกที่ ทำบุญเอาหน้าเท่านั้นเอง หารู้ไม่ว่า ทำบุญกับเณร อาจได้บุญเยอะกว่า ทำกับ พระ อีก เพราะ สามเณร ยังเป็นผ้าสะอาด และ สามเณร ยังต้องศึกษาพระธรรม
วินัย ภาษาบาลี และยังต้องเรียนทางโลก อีก แต่ พระบางรูป อย่าว่าแต่เรียนเลย วันๆ ไม่ทำอะไร นอกจากรอเงินบริจาค อย่างเดียว ขอเข้าเรื่องเลย
เป็นเรื่องที่ เพื่อนของผม ไม่ค่อยสนิทกันเท่าไร แต่บางครั้งต้องทำงานกลุ่ม ด้วยกัน แต่ก็พอรู้ว่า มันเป็น เกย์ เพราะเพื่อนผู้หญิงเค้าลือกัน แต่ ยังไง ผมก็รู้สึกว่า เป็นเรื่องส่วนตัว และผมไม่ควรยุ่ง แต่ผมเป็นคนสองหน้าต่อให้ไม่พอใจหรือขัดใจ ต้องยิ้มเข้าไว้ ไม่แสดงความคิดโดยไม่จำเป็น ที่อาจทำให้
ผมเสียประโยชน์ เพราะผมถือคิติที่ว่า คนตายเพราะปากมามากแล้ว และผมก็เป็นผู้ฟังที่ดี ลืมบอกไปว่า ผมเรียนจุฬา และวันหนึ่ง เพื่อนคนที่เป็นเกย์
ก็มาบอกว่า เขาต้องการคนขับรถไปส่งสนามบิน มันบอกว่า แค่ขับไปส่งสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วเอารถไปเก็บ ที่คอนโด มันเท่านั้น ผมก็ถามไปว่า จะไปเทียวไหนเหรอ มันบอกว่า แค่ไปเทียวญี่ปุ่น 15 วันเอง ตอนนั้น รู้สึกหมั้นใส้ ผมคิดอยู่ในใจว่า จะอวดกันเหรอ ตอนแรกผมปฎิเสธ เหตุผลเพราะ เครื่องบิน ออกเช้ามาก ออก ตี 5 ต้องไปเช็คอิน ตอน ตี 4 ตื่นตอน ตี 2 ไปส่งตอน ตี 3 คิดว่า ทำไมผมต้องไปส่งมันด้วยไปหาคนอื่นเถอะ ผมก็บอกบอกว่า
มันเช้าไป ถ้าไปส่งผมก็แทบไม่ได้นอนเลยนะ มันบอกว่า ไม่ได้ให้ไปฟรี หลอก มันจะจ้างผมไปส่ง ในตอนนั้นกำลังเงินช็อด มันจ่ายผมแบบไม่ลังเลย์
เลย 5000 บาท แล้วบอกผมว่า เจอหน้าคอนโด ตอนตี 2 และมันจะไปรับแฟน มันไปด้วย ในตอนนั้น ผมคิดไม่ออกว่า คนเป็นเกย์ จะมีแฟน ผู้ชาย แบบ
ไหน ตอนไปรับถึงกับ ช็อค เป็นพระ ยังไม่ถึงกับ แก่ แต่ก็พอมีอายุ อายุ ราวๆ 40 กว่า และ ก็บอกให้ผมขับรถไปจอดข้างทางก่อน หลังจากนั้น
พระรูปนั้น ก็เปลื่อนชุด ผมบอกว่าผมหิว เดียวจะไป ซื้อ ของที่ 7-eleven ทานหน่อย เพื่อนที่เป็น เกย์บอกว่า ไม่ต้องรีบหลอก เพราะเหลื่อเวลา อีกเยอะ
พอกลับมาที่รถ ผมแทบไม่เชื่อเลย เปลื่อนชุด และใส่วิกผม ใช้สีเขียนคิ้ว กลายเป็นแค่ นักท่องเทียวธรรมดา และผมก็ถามไปว่า พาสปอต์ ไม่มี ปัญหา นะครับ พระรูปนั้นตอบมาว่า พึ่งถ่ายไม่กี่เดือนเอง ทั้งรูป ถ่ายในพาสปอสต์ หรือ บัตรประชาชน ก็เป็น คนทั้วไปหมดเลย ผมถึงกับอึ้ง หลังจากนั้น พอไปถึง
สนามบิน พระในคราบชายแก่ ก็เปิด กระเป๋าตั้ง แล้วจ่ายค่าทริปให้ผม 10000 บาท ผมถึงกับพูดไม่ออก นั้นเรียกว่าค่าปิดปากสินะ และผมก็ช่วยยกกระเป๋าสัมภาระ ลงจากรถ แล้วเพื่อนที่เป็นเกย์ ก็ถามผมว่า อยากได้ของฝาก อะไรเป็นพิเศษ ไหม ตอนนั้นผมคิด ไม่ออก เลยตอบไปว่า ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ หลอก ถ้าของที่อยากได้ คงเป็นใบชาแท้ แหละ มันก็ตอบว่า เดียวจัดให้ ถ้ากลับมาแล้วจะโทรเรียกให้ไปรับ หลังจากนั้นผมก็รู้สึกสงสัยว่า พระรูปนี้ ทำไมทำอย่างนี้ แต่เดียวก่อนผมลืมเรื่องสำคัญอะไรไป นี้มัน พระเป็นเกย์นี้หว่า ตายโหง พระพุทธศาสนาที่ผมนับถือมาเกือบ 20 ปี พังหมด แต่ด้วยความสงสัย
และคาใจอยู่ว่า พระรูปนี้เป็นใคร ผมก็ไม่รอช้า ก็ขับรถยนต์กลับไปที่วัดที่ไปรับ ผมรอจนถึง 6 โมงเช้า แล้วเข้าไปสำรวจ ผมเดินไปเจอ ธรรมเนียบ
พระภิกษุสามเณรในวัด กลับทำให้ผมตกใจยิ่งกว่าคือ ยศพระครูสัญญาบัตร ตำแหน่งผู้ช่วยเจ้า อาวาส ในตอนนั้นผมเริ่มจะไม่นับถือ พระสงฆ์ ขึ้นมา แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดยาว ผมเลือกที่จะกลับบ้าน เพราะได้เงินใช้ตั้ง 15000 บาท ผมก็เลย กลับเชียงใหม่ หลังจากไปถึงบ้าน แม่ของผมก็ ชวนไป ทำบุญ
ที่วัด เนื่องจากเป็นวันปีใหม่เมื่อง ผมก็ถามแม่ว่า เจ้าอาวาสวัดนี้เป็นคนยังไง แม่ตอบว่า วัดประจำหมู่บ้านนี้ไม่มีเจ้าอาวาส หรอก วัดนี้มีแต่ เณร อยู่
รูปเดียว เพราะมี พระเคยมาอยู่ แต่ การทำบุญ ก็น้อย ก็เลย ย้ายออกไปแล้ว แต่เณรเป็นคนในหมู่บ้าน ก็เลยไม่คอยมีปํญหา ผมก็ลองเข้าไปคุย
ว่า เณรรูปนี้นิสัยเป็นไง พอได้รู้จัก เป็นคนดีมาก คือต้องบอกก่อนว่า ผมไปเรียนอยู่กรุงเทพ ตั้งแต่ ม.ปลาย เลยไม่ค่อยรู้จักคนในหมู่บ้านมากเท่าไร
เป็นสามเณรเปรียญธรรม คุณลองคิดดูว่า อายุ 17 เรียน มหาวิทยาลัย อยู่ปี 4 แล้ว คณะศึกษาศาสตร์ มหามกุฎ ผมเรียนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
20 ยังอยู่แค่ปี 2 เลย ผมคิดไม่ออกเลย ว่า เขาทำได้ยังไง ผมก็เลยถามว่า เณรจะ ศึกไหม หรือจะบวชตลอดเลย เค้าตอบผมว่า ทุกวันนี้ เณร เป็น
ห่วง พ่อ แม่ เพราะ เณร ไม่มีเงินพอจะเลี้ยงพ่อกับแม่ ถ้าทำงานก็จะมีเงินเดือน ผ้าเหลือง ไม่ใช่โซ่ ถ้าอยู่ไม่ได้ก็แค่ ศึก ให้ถูกต้อง ใครจะมา พูดลับหลัง
คงไม่ได้ ถ้าทำให้มันถูกต้อง เพราะทุกวันนี้ ค่าเทอม เณร ยังต้องขอแม่เณร จ่ายให้เลย ทั้งๆ ที่ ไม่ได้มากมายเลย แต่สำหรับ คนหาเช้ากินค่ำ คงพูด ยาก
ว่าเงินไปกี่พัน สำหรับ พระเณรเหล่านี้ มันมีค่า มาก ในความความคิดของผม ผมรู้สึกว่า ถ้าพระเณร ที่ไม่มียศฐานบรรดาศักดฺ์ พวกเข้า อยู่ ไม่ค่อยได้
ทำให้ ต้อง ศึกออกมาทำงาน และด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง คนถึงชอบทำบุญ กับ พระที่มีบรรดาศักดิ์ เลยลืมนึกไปว่า ยังมีพระเณร ที่ยัง ปฎิบัตรดี ปฎิบัตร
ชอบอยู่อีกมาก แต่ ขาดการช่วยเหลือที่เหมาะสม บางคนมองว่า พระเณรเรียนปริญาญาเอาไว้หางาน ไม่สนับสนุน แต่ผมกลับมองว่า ถ้าพระเณรเหล่านี้
ไม่ได้รับการศึกษาที่เหมาะสมแล้ว พวกเค้าจะเอาความรู้ที่ไหนไปสอนญาติโยม เช่น หลวงพ่อ จบ ป.4 ผมเรียนจบ ป.ตรี ทำไมผมต้องเชื่อที่หลวงพ่อ สอนผม อะไรทำนองนี้ เพราะ ฉะนั้นรู้สึกว่า เราควรใส่ใจพระภิกษุสามเณรที่ ปฎิบัตรชอบให้มากกว่านี้ และสุดท้าย ก็บอกได้ว่า มันอยู่ที่คน ไม่ใช่ ศาสนา
ศาสนา สอนให้เราเป็นคนดี
พระภิกษุสงฆ์สามเณร ผู้น้อย ขาดการดูแล อย่างเหมาะสม
คำเตือน โปรดใช้ วิจารณญาณในการอ่าน ข้อความในกระทู้นี้ ให้มากๆ และไม่ต้องเชื่อที่ผมกำลังจะเล่าก็ได้ แต่ได้โปรด ลองคิดว่า ถ้า มันเป็น
อย่างที่เล่ามาจริงๆ คุณคิดยังไงกับเรื่องที่ผมเล่า ไม่ว่าสิ่งที่ผมกำลังจะเล่าต่อไปนี้ จะจริงหรือไม่ อย่างไร กรุณาคิดด้วยตัวเอง ว่าจริงไหม
ป.ล. ผมไม่สามารถเปิดแผยร้ายละเอียด มากว่านี้ได้ ด้วยความจำเป็น อันมีเหตุผล แต่ก็สามารถเล่ารายละเอียดที่ทุกท่านพอทราบได้
ในยุคปัจจุบัน พอเป็นเรื่องการทำบุญแล้ว คุณคิดถึงพระสงฆ์ รูปไหนเป็นพิเศษ ถ้าคุณเป็นเศรษฐี คุณคงคิดถึง พระสงฆ์ มี บรรรดาศักดิ์ ทั้งหลาย ทั้งปวง
หรือ เรียกกันว่า สมณะศักดิ์ ถ้าคุณเป็นนักเสี่ยงดวง คงคิดถึงพระที่มีชื่อเสียงด้าน โชคลาภ ทั้งหลายทั้งปวง ถ้าเป็นคนทั่วไป คงจะรูปไหนก็ได้
ยกเว้น สามเณร เพราะคนทั่วไปคิดว่า เณร ศิล 10 ไม่ค่อยต่างจากโยม เท่าไหร่ ถ้า เดินเข้ามาทำบุญในวัด พระที่เป็นเจ้า อาวาส ไม่อยู่ เหลือแต่ สามเณร โยมเหล่านั้น ก็จะกลับทันที และ ไปวัดอื่นเสีย ( นี้เป็นวัดที่ไม่ค่อยมีพระอยู่หรือเรียกว่า วัดบ้านนอก ) จากการสอบถาม คนทั่วไป ว่า ทำไม่ ไม่ชอบ
ทำบุญกับสามเณร คำตอบที่ได้ คือ กลัวไม่ได้บุญ เยอะเท่าที่ควร เป็นคำตอบ ที่ผมได้ยินแล้ว คือ มันไม่ได้สัทธาในพระพุทธศาสนาจริงๆ ก็แค่พวกที่ ทำบุญเอาหน้าเท่านั้นเอง หารู้ไม่ว่า ทำบุญกับเณร อาจได้บุญเยอะกว่า ทำกับ พระ อีก เพราะ สามเณร ยังเป็นผ้าสะอาด และ สามเณร ยังต้องศึกษาพระธรรม
วินัย ภาษาบาลี และยังต้องเรียนทางโลก อีก แต่ พระบางรูป อย่าว่าแต่เรียนเลย วันๆ ไม่ทำอะไร นอกจากรอเงินบริจาค อย่างเดียว ขอเข้าเรื่องเลย
เป็นเรื่องที่ เพื่อนของผม ไม่ค่อยสนิทกันเท่าไร แต่บางครั้งต้องทำงานกลุ่ม ด้วยกัน แต่ก็พอรู้ว่า มันเป็น เกย์ เพราะเพื่อนผู้หญิงเค้าลือกัน แต่ ยังไง ผมก็รู้สึกว่า เป็นเรื่องส่วนตัว และผมไม่ควรยุ่ง แต่ผมเป็นคนสองหน้าต่อให้ไม่พอใจหรือขัดใจ ต้องยิ้มเข้าไว้ ไม่แสดงความคิดโดยไม่จำเป็น ที่อาจทำให้
ผมเสียประโยชน์ เพราะผมถือคิติที่ว่า คนตายเพราะปากมามากแล้ว และผมก็เป็นผู้ฟังที่ดี ลืมบอกไปว่า ผมเรียนจุฬา และวันหนึ่ง เพื่อนคนที่เป็นเกย์
ก็มาบอกว่า เขาต้องการคนขับรถไปส่งสนามบิน มันบอกว่า แค่ขับไปส่งสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วเอารถไปเก็บ ที่คอนโด มันเท่านั้น ผมก็ถามไปว่า จะไปเทียวไหนเหรอ มันบอกว่า แค่ไปเทียวญี่ปุ่น 15 วันเอง ตอนนั้น รู้สึกหมั้นใส้ ผมคิดอยู่ในใจว่า จะอวดกันเหรอ ตอนแรกผมปฎิเสธ เหตุผลเพราะ เครื่องบิน ออกเช้ามาก ออก ตี 5 ต้องไปเช็คอิน ตอน ตี 4 ตื่นตอน ตี 2 ไปส่งตอน ตี 3 คิดว่า ทำไมผมต้องไปส่งมันด้วยไปหาคนอื่นเถอะ ผมก็บอกบอกว่า
มันเช้าไป ถ้าไปส่งผมก็แทบไม่ได้นอนเลยนะ มันบอกว่า ไม่ได้ให้ไปฟรี หลอก มันจะจ้างผมไปส่ง ในตอนนั้นกำลังเงินช็อด มันจ่ายผมแบบไม่ลังเลย์
เลย 5000 บาท แล้วบอกผมว่า เจอหน้าคอนโด ตอนตี 2 และมันจะไปรับแฟน มันไปด้วย ในตอนนั้น ผมคิดไม่ออกว่า คนเป็นเกย์ จะมีแฟน ผู้ชาย แบบ
ไหน ตอนไปรับถึงกับ ช็อค เป็นพระ ยังไม่ถึงกับ แก่ แต่ก็พอมีอายุ อายุ ราวๆ 40 กว่า และ ก็บอกให้ผมขับรถไปจอดข้างทางก่อน หลังจากนั้น
พระรูปนั้น ก็เปลื่อนชุด ผมบอกว่าผมหิว เดียวจะไป ซื้อ ของที่ 7-eleven ทานหน่อย เพื่อนที่เป็น เกย์บอกว่า ไม่ต้องรีบหลอก เพราะเหลื่อเวลา อีกเยอะ
พอกลับมาที่รถ ผมแทบไม่เชื่อเลย เปลื่อนชุด และใส่วิกผม ใช้สีเขียนคิ้ว กลายเป็นแค่ นักท่องเทียวธรรมดา และผมก็ถามไปว่า พาสปอต์ ไม่มี ปัญหา นะครับ พระรูปนั้นตอบมาว่า พึ่งถ่ายไม่กี่เดือนเอง ทั้งรูป ถ่ายในพาสปอสต์ หรือ บัตรประชาชน ก็เป็น คนทั้วไปหมดเลย ผมถึงกับอึ้ง หลังจากนั้น พอไปถึง
สนามบิน พระในคราบชายแก่ ก็เปิด กระเป๋าตั้ง แล้วจ่ายค่าทริปให้ผม 10000 บาท ผมถึงกับพูดไม่ออก นั้นเรียกว่าค่าปิดปากสินะ และผมก็ช่วยยกกระเป๋าสัมภาระ ลงจากรถ แล้วเพื่อนที่เป็นเกย์ ก็ถามผมว่า อยากได้ของฝาก อะไรเป็นพิเศษ ไหม ตอนนั้นผมคิด ไม่ออก เลยตอบไปว่า ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ หลอก ถ้าของที่อยากได้ คงเป็นใบชาแท้ แหละ มันก็ตอบว่า เดียวจัดให้ ถ้ากลับมาแล้วจะโทรเรียกให้ไปรับ หลังจากนั้นผมก็รู้สึกสงสัยว่า พระรูปนี้ ทำไมทำอย่างนี้ แต่เดียวก่อนผมลืมเรื่องสำคัญอะไรไป นี้มัน พระเป็นเกย์นี้หว่า ตายโหง พระพุทธศาสนาที่ผมนับถือมาเกือบ 20 ปี พังหมด แต่ด้วยความสงสัย
และคาใจอยู่ว่า พระรูปนี้เป็นใคร ผมก็ไม่รอช้า ก็ขับรถยนต์กลับไปที่วัดที่ไปรับ ผมรอจนถึง 6 โมงเช้า แล้วเข้าไปสำรวจ ผมเดินไปเจอ ธรรมเนียบ
พระภิกษุสามเณรในวัด กลับทำให้ผมตกใจยิ่งกว่าคือ ยศพระครูสัญญาบัตร ตำแหน่งผู้ช่วยเจ้า อาวาส ในตอนนั้นผมเริ่มจะไม่นับถือ พระสงฆ์ ขึ้นมา แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดยาว ผมเลือกที่จะกลับบ้าน เพราะได้เงินใช้ตั้ง 15000 บาท ผมก็เลย กลับเชียงใหม่ หลังจากไปถึงบ้าน แม่ของผมก็ ชวนไป ทำบุญ
ที่วัด เนื่องจากเป็นวันปีใหม่เมื่อง ผมก็ถามแม่ว่า เจ้าอาวาสวัดนี้เป็นคนยังไง แม่ตอบว่า วัดประจำหมู่บ้านนี้ไม่มีเจ้าอาวาส หรอก วัดนี้มีแต่ เณร อยู่
รูปเดียว เพราะมี พระเคยมาอยู่ แต่ การทำบุญ ก็น้อย ก็เลย ย้ายออกไปแล้ว แต่เณรเป็นคนในหมู่บ้าน ก็เลยไม่คอยมีปํญหา ผมก็ลองเข้าไปคุย
ว่า เณรรูปนี้นิสัยเป็นไง พอได้รู้จัก เป็นคนดีมาก คือต้องบอกก่อนว่า ผมไปเรียนอยู่กรุงเทพ ตั้งแต่ ม.ปลาย เลยไม่ค่อยรู้จักคนในหมู่บ้านมากเท่าไร
เป็นสามเณรเปรียญธรรม คุณลองคิดดูว่า อายุ 17 เรียน มหาวิทยาลัย อยู่ปี 4 แล้ว คณะศึกษาศาสตร์ มหามกุฎ ผมเรียนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
20 ยังอยู่แค่ปี 2 เลย ผมคิดไม่ออกเลย ว่า เขาทำได้ยังไง ผมก็เลยถามว่า เณรจะ ศึกไหม หรือจะบวชตลอดเลย เค้าตอบผมว่า ทุกวันนี้ เณร เป็น
ห่วง พ่อ แม่ เพราะ เณร ไม่มีเงินพอจะเลี้ยงพ่อกับแม่ ถ้าทำงานก็จะมีเงินเดือน ผ้าเหลือง ไม่ใช่โซ่ ถ้าอยู่ไม่ได้ก็แค่ ศึก ให้ถูกต้อง ใครจะมา พูดลับหลัง
คงไม่ได้ ถ้าทำให้มันถูกต้อง เพราะทุกวันนี้ ค่าเทอม เณร ยังต้องขอแม่เณร จ่ายให้เลย ทั้งๆ ที่ ไม่ได้มากมายเลย แต่สำหรับ คนหาเช้ากินค่ำ คงพูด ยาก
ว่าเงินไปกี่พัน สำหรับ พระเณรเหล่านี้ มันมีค่า มาก ในความความคิดของผม ผมรู้สึกว่า ถ้าพระเณร ที่ไม่มียศฐานบรรดาศักดฺ์ พวกเข้า อยู่ ไม่ค่อยได้
ทำให้ ต้อง ศึกออกมาทำงาน และด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง คนถึงชอบทำบุญ กับ พระที่มีบรรดาศักดิ์ เลยลืมนึกไปว่า ยังมีพระเณร ที่ยัง ปฎิบัตรดี ปฎิบัตร
ชอบอยู่อีกมาก แต่ ขาดการช่วยเหลือที่เหมาะสม บางคนมองว่า พระเณรเรียนปริญาญาเอาไว้หางาน ไม่สนับสนุน แต่ผมกลับมองว่า ถ้าพระเณรเหล่านี้
ไม่ได้รับการศึกษาที่เหมาะสมแล้ว พวกเค้าจะเอาความรู้ที่ไหนไปสอนญาติโยม เช่น หลวงพ่อ จบ ป.4 ผมเรียนจบ ป.ตรี ทำไมผมต้องเชื่อที่หลวงพ่อ สอนผม อะไรทำนองนี้ เพราะ ฉะนั้นรู้สึกว่า เราควรใส่ใจพระภิกษุสามเณรที่ ปฎิบัตรชอบให้มากกว่านี้ และสุดท้าย ก็บอกได้ว่า มันอยู่ที่คน ไม่ใช่ ศาสนา
ศาสนา สอนให้เราเป็นคนดี