ทำไมต้องวางรางรถไฟความเร็วสูง 1.435 m ในเมื่อมีรางคู่ทั่วประเทศ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 28
รู้หรือไม่พื้นล้อรถไฟทำไมถึงเป็นทรงกรวยตัด
หลายคนคงไม่รู้ ว่าล้อรถไฟที่เห็นอยู่ทุกวันทั้งรถไฟในเมือง รถไฟระหว่างเมือง หรือแม้แต่รถไฟความเร็วสูงนั้น พื้นล้อไม่ได้เป็นทรงระบอกแต่ว่าพื้นล้อรถไฟทุกชนิดกลับเป็นทรงกรวยตัด เพราะอะไรกัน เรามีคำตอบมาให้
รถไฟนั้นไม่ได้เหมือนรถยนต์ เลี้ยวเองไม่ได้ ต้องถูกบังคับไปตามรางเท่านั้น เพราะฉะนั้นเพื่อให้รถไฟมีการเคลื่อนที่ที่ง่ายเวลาทรงตัวและเข้าโค้ง พื้นล้อรถไฟจึงจะต้องทำมุมเอียงเพื่อให้ล้อรถไฟสามารถปรับสมดุลเองได้ โดยในทางตรงปกติล้อรถไฟจะเกิดอาการที่เรียกว่า Hunting motion, Snake Motion หรือการเคลื่อนไหวแบบงูเลื้อย ซึ่งทำให้ตัวรถปรับเข้าสู่สมดุลแนวกลางได้โดยรถไม่ปีนราง เพราะเมื่อล้อข้างนึงเอียงสูงกว่าล้ออีกข้างนึง(รัศมีไม่เท่ากัน)ล้อจะทำการหมุนปรับสมดุลให้เอียงไปอีกข้างนึงแทน
ส่วนตอนเข้าโค้งนั้น พื้นเอียงของล้อทำให้รถสามารถเข้าโค้งได้ง่ายขึ้น เพราะเมื่อรถเข้าโค้ง ล้อข้างนึงจะเบียดกับราง ล้ออีกข้างจะเยื้องกับราง ทำให้รัศมีของล้อ 2 ข้างไม่เท่ากันและเกิด Self Steering หรือการหมุนด้วยตัวเอง
การทำพื้นล้อให้เอียงนั้นมีประโยนช์ต่อการทรงตัว การเข้าโค้ง และลดการสึกหรอของล้อรถไฟ แต่ว่าการทำพื้นเอียงเองก็มีข้อเสีย คือเมื่อรถวิ่งด้วยความเร็วสูงถึงจุดๆนึง การส่ายตัวของ Hunting motion หรือ Snake Motion จะรุนแรงจนขบวนรถตกรางได้ ในปัจจุบันได้มีการแก้ไขปัญหานี้โดยการออกแบบ Bogie (แคร่) ที่รองรับแรงสั่นสะเทือน 3 แกนเพื่อลดแรงสั่นที่อันตรายในความเร็วสูง โดยการออกแบบนี้เกิดขึ้นในช่วงพัฒนาชินคันเซนและเป็นต้นแบบในการออกแบบ High Speed Bogie จนถึงทุกวันนี้

รูปจาก
http://www.rhinoindustries.co.uk/
http://www.talgo.com/
http://www.sumitomocorp.co.jp/


เคยดูวิศวกรรมรถของฝรั่งเศสเรื่องนึง เค้าปรับแต่แคร่โบกี้ของรถด่วนที่วิ่งความเร็วมากกว่าปกติบนทางทั่วไป(แต่ยังไม่ถึงขั้น HST ) โดยโบกี้จะปรับแต่งมุมโดยอัตโนมัติด้วยระบบคอมพิวเตอร์ควบคุม ผ่าไฮดรอลิก และมีระบบโช๊คปรับตัว Car body ให้เอียงตัวให้จุดศูนย์ถ่วงรถหนีจากโค้งได้ ซึ่งลดอากการ Steering ได้ดี

แคร่ ( Bogie)
"โบกี้" ในภาษาอังกฤษ หรือคำที่บัญญัติเป็นภาษาไทยตามศัพท์รถไฟคือ "แคร่"
ความเข้าใจของบุคคลทั่วไปนั้น เข้าใจคำว่า "โบกี้รถไฟ" ว่าหมายถึงตู้โดยสาร หรือตู้สินค้า แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น โบกี้ หรือ แคร่ มีความหมายถึงอุปกรณ์ช่วงล่างของรถไฟ ที่เป็นส่วนประกอบของล้อและเพลา และอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อใช้รองรับน้ำหนักของตู้รถไฟ เพื่อลดแรงสั่นสะเทือน และสามารถเข้าโค้งได้ตามสรีระของทาง เดิมทีนั้น รถไฟมีขนาดตู้ไม่ใหญ่มาก จะใช้เพลาเพียงแค่ 2 เพลา ต่อตู้ (4ล้อ) ล้อและเพลาจะเป็นส่วนประกอบที่ติดอยู่กับโครงของตู้รถไฟนั้นๆ เลย และด้วยเหตุที่พื้นของล้อรถไฟนั้นถูกออกแบบมาไม่ให้แบนราบไปกับผิวสัมผัสพื้น เหมือนกับล้อรถยนต์ จักรยาน รถม้า หรือเกวียน แต่จะออกแบบให้เอียงทำมุมระนาบนอนเล็กน้อย เพื่อให้เกิดการส่ายตัวที่จะลดแรงกระแทกระหว่างบังใบล้อกับหัวราง เรียกว่า Self Steering ซึ่งการส่ายของเพลาจะเป็นลักษณะงูเลื้อย (Sinusoidal Motion) ทำให้ขณะที่รถวิ่งจะเกิดแรงสั่นสะเทือน และจะวิ่งเร็วมากไม่ได้
ต่อมา เมื่อตู้รถไฟมีขนาดยาวขึ้น และต้องการความเร็วที่มากขึ้น วิศวกรผู้ออกแบบจึงต้องหาวิธีที่ทำให้รถไฟสามารถใช้ความเร็วที่ดีขึ้นและมีการถ่ายเทน้ำหนัก จึงคิดอุปกรณ์หนึ่งขึ้นมาโดยจำลองเอารถแบบ 4 ล้อมาย่อขนาดให้เล็กลง แล้ววางตู้รถไฟทับลงไปบนอุปกรณ์นั้นอีกทีหนึ่ง อุปกรณ์นั้นเรียกว่า "โบกี้" ซึ่งมีหน้าที่ในการกระจายและถ่ายเทน้ำหนัก รวมถึงทำให้รถไฟสามารถวิ่งได้ไวขึ้นจากแรงสั่นสะเทือนที่น้อยลง และสามารถเข้าโค้งได้อย่างนุ่มนวลด้วยการหมุนที่อิสระจากตัวถังรถนั่นเอง
สามารถค้นภาพใน Google เพิ่มเติมได้ โดยใช้ keyword ว่า "Bogie"
หมายเหตุ : ใน Indian English โบกี้จะมีความหมายว่าเป็นตู้รถไฟ เพียงประเทศเดียว
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
รางคู่เรามันขนาด 1 เมตรครับ คนละขนาดกับคว่มเร็วสูง ระบบก็คนล่ะอย่าง
คนที่ออกมาต่อต้านรถไฟความเร็วสูง ตกลงรู้เรื่องโรจิสติกส์ประเทศตอนนี้แค่ใหน
รู้ใหมว่า สนามบิน เชียงใหม่ ภูเก็ต พังงา สุวรรณภูมิ คนล้นแล้ว
สนามบินสุวรรณภูมิเริ่มสร้างเฟสสองแล้ว ถึงเสร็จคนก็จะล้นเหมือนเดิม
สนามบินภูเก็ต อาคารหลังใหม่พึ่งเปิดเดือนก่อน คนก็ล้นทันที
ทั้งที่มีการสร้างสนามบินพังงา เพื่อแบ่งเบาภาระแล้ว
ตัวเลขนักท่องเที่ยวไทย มันสุดยอดมาก เป็นที่สองในเอเชีย รองแค่จีนเท่านั้น
และอนาคตจะยิ่งมากขึ้นไปอีก
ปีหน้าจะมีการขยายสนามบินอีกหลายที่ แต่สุดท้ายมันก็จะไม่พอเหมือนเดิม
ภายในสิบปีถ้าไม่มีระบบอื่นมาช่วยแบ่งเบาภาระสนามบิน
ระบบการบินเราจะถึงขั้นอัมพาต
คนที่บอกว่าสร้างรถไฟความเร็วสูงมา จะไม่มีคนนั่ง สร้างมาก็ขาดทุน
ถามหน่อยว่านักท่องเที่ยว สามสิบกว่าล้านคนนี่ เคยคิดถึงบ้างใหม
เส้นภาคใต้ไปถึงภูเก็ต สงขลา เชื่อมไปมาเลย์ เส้นนี้ระยะยาว ทำเงินแน่ๆ คนรอนั่งเพียบ
เส้นเชียงใหม่ เอาแค่รถไฟขบวนใหม่มาวิ่ง ไปดูเอาเถอะตอนนี้ จองเต็มไปถึงปีใหม่ ฝรั่งทั้งนั้น
ตัวเลขประมาณนักท่องเที่ยว ที่จะไปเชียงใหม่ สูงขึ้นต่อเนื่อง สนามบินถึงรับไม่ไหวไง
ปีหน้าจะสร้างสนามบินใหม่(ยังเป็นแค่แผนอยู่เลย) ไม่รู้อีกห้าปีจะเสร็จใหม
เส้นตะวันออกไปพัทยา นักท่องเที่ยงก็เพียบ
สามเส้นนี้ อนาคตสดใสมากๆ อย่าจินตนาการเอาเองว่าไม่มีคนนั่ง
ส่วนเส้นอีสาน เส้นนี้สุ่มเสียงว่าจะขาดทุน แต่ก็ได้ความเจริญด้านอื่นมาแทน
และได้การค้ากับจีน ตามนโยบายเส้นทางสายใหมใหม่


สนามบินภูเก็ต เปิดเดือนเดียวล้น เพราะปิดอาคารหลังเก่าปรับปรุง
ถึงเสร็จก็ล้นเหมือนเดิม รถไฟความเร็วสูง จะช่วยได้มาก
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ไม่สร้างตอนนี้ก็ไม่รู้จะสร้างตอนใหนแล้ว น้ำมันจะกลับมาเป็นขาขึ้นอีกแล้ว
จะรอสร้างตอนน้ำมันบาเรลล่ะ 150 รึไง
อัพเดตล่าสุด เส้นไปพิษณุโลก ผ่าน EIA แล้ว รอเข้า ครม.ปีหน้า
เส้นโคราช เห็นว่าพึ่งทำ EIA ไปได้แค่ตรึ่งทาง และยังมีปัญหาอีกหลายข้อ
ดร.สมคิด จะไปเคลียร์กับจีนเดือนนี้
เส้นภาคใต้ จะเข้าให้คณะกรรมการ PPP พิจารณาปีหน้าเช่นกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่