[CR] pERFuME MY OWn [4] รีวิวน้ำหอม Dolce & Gabbana The One EDP

หลังจากรีวิวที่แล้วกับแบรนด์แฟชั่นสุดหรูอย่าง Gucci Guilty Black กันไปแล้ว
คราวนี่ก็ขอพูดถึงอีกหนึ่งแบรนด์ชั้นดีอย่าง Dolce&Gabbana (D&G) กันบ้างครับ
เพราะแบรนด์นี้ทำน้ำหอมออกมาได้ฮิตติดลมบนกันอยู่หลายตัว อย่างเช่น Light Blue ทั้งของผู้หญิงและผู้ชาย
หรือจะเป็นตัวเทพอย่าง D&G Pour Homme แต่ถึงจะมีกลิ่นออกมามากมาย
แต่ตัวที่อยู่ในใจผมจนถึงขั้นต้องหาซื้อทั้ง ver. EDT และ EDP กันเลยทีเดียวนั้นก็คือ

D&G The One (EDP)


สำหรับThe Oneแล้ว ถ้าถามคนที่เล่นน้ำหอม คงน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก เพราะกลิ่นนี้ทำออกมาได้ดีจริงๆ
แต่ver. EDT ที่ออกมาตอนแรกนั้น จะมีปัญหาที่หลายคนพบเจอก็คือ กลิ่นจะติดไม่ทนสักเท่าไหร่
เข้าทำนองที่ว่ามาหลอกให้รัก แล้วก็รีบเดินจากไป ยังไม่ทันได้เชยชม ซึ่งกระแสตรงนี้เองทางD&Gคงรับรู้ได้ไม่น้อย
จึงได้ทำการออก ver.EDP มาแก้ไขปัญหาตรงจุดนี้ ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ เพราะว่ากลิ่นยังคงดีงามเหมือนเดิม
แต่กลิ่นแน่นและทนขึ้นมากพอสมควร

และผู้ที่อยู่เบื้องหลัง The One EDP นี้ก็คือ Olivier Polge ซึ่งถือว่าเป็นperfumerที่มีชื่อเสียงมาก
และยังทำน้ำหอมชายดังๆอีกหลายกลิ่น เช่น F Black , Valentino Uomo , Midnight in Paris(กลิ่นโปรดผมเลย)
หรือจะเป็น Spicebomb จากค่าย Viktor & Rolf ซึ่งถ้าใครเคยได้ลองดมตัวที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น อาจจะพอรู้สึกได้ว่า
แต่ละกลิ่นมันมีความรู้สึกบางอย่างที่มันเชื่อมกันอยู่ มีบางnoteของกลิ่นที่มันคล้ายกันอยู่
ซึ่งThe One EDP ก็ให้ความรู้สึกเช่นนั้นอยู่เหมือนกันครับ ดูแล้วช่างปั้นกลิ่นท่านนี้อาจจะมีpassionอะไรบางอย่าง
ที่เอามาถ่ายทอดลงสู่กลิ่นต่างๆที่ปรุง หรืออีกนัยนึงก็คือเค้ามี singnature เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเค้าเวลาปรุงกลิ่นครับ

-The Scent : กลิ่นเปิดมาสำหรับผมแล้ว มันได้ความรู้สึกถึง Milk Chocolate เข้มข้น หอม หวาน ซึ่งมาพร้อมกันความอุ่นจากAmber
ทำให้ Chocolate อุ่นๆในขวดนี้น่ากินมากครับ กลิ่นจะให้ความอบอุ่นชัดเจน ซึ่งแนวกลิ่นลักษณะนี้มันมักจะขับความsexy
เย้ายวนออกมาได้เป็นอย่างดี แต่เกรงว่ามันจะเลี่ยนไป ในช่วงกลางnoteตัวอื่นๆก็คอยออกมาช่วยเสริมเติมกลิ่นให้กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
กับความสดชื่นบางๆของผลไม้ตระกลูส้มและยังมีขิงมาช่วยดึงให้กลิ่นมีความโปร่งขึ้น สบายจมูกมากขึ้น
กลิ่นจะคุมโทนแบบนี้ลากยาวไปยังช่วงท้ายเลยครับ โดยรวมแล้วกลิ่นให้ความsexy แต่ก็ดูอบอุ่นน่าเข้าไปกอด
นึกภาพแบบผู้ชายหล่อ แต่งตัวดีเสื้อผ้าสีดำ นั่งอยู่มุมหนึ่งในผับคนเดียว ดูนิ่งๆ สุขุมแต่ก็ดู sexy น่าค้นหาทำความรู้จักประมาณนั้น

-Unique : สำหรับเมืองไทย กลิ่นนี้อาจจะยังไม่โหลเดินเจอบ่อยเหมือน Chanel Alluer Homme Sport หรือ Cool Water
อะไรทำนองนั้น อาจจะเพราะเนื้อกลิ่นที่หลายคนรู้สึกว่ามันหนักไปถ้าเจออากาศร้อนๆแบบบ้านเรา
ตรงนี้ถ้าคุมจำนวนสเปรย์ที่ฉีดก็น่าจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ครับ

-Longevity : ทำได้ดีกว่าตัว EDT แน่นอนครับ แต่ส่วนตัวแล้ว EDT ถ้าอัดสเปรย์เยอะๆหน่อยสำหรับผมก็อยู่ยันช่วงบ่ายเลย
แต่ตัว EDP ทำให้ไม่ต้องอัดเยอะเหมือนเก่า แถมยังอยู่ยาวไปถึงช่วงเย็นเลยครับ (ส่วนตัวผมฉีดทั้งที่ตัวและเสื้อนะครับ)

-Projection : ช่วงแรกกลิ่นแรงอยู่ครับ บางคนอาจจะรู้สึกฉุนได้ แต่พอช่วงระหว่างวันก็จะกำลังดีครับไม่มากไม่น้อย
และไม่ถึงกับติดผิวเป็น skin scent ครับ

-Versatility : อยากใส่ตอนไหนก็ใส่เลยครับ มันดูเหมาะไปซะทุกโอกาส แต่ถ้าร้อนๆหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ก็อาจจะต้องฉีดเบามือหน่อยครับ
ชื่อสินค้า:   น้ำหอม
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่