สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้เพชรน้ำนิลได้รับเกียรติให้มาเป็น MC รับเชิญห้องเพลงนะคะ วันนี้ขอพาเที่ยวภูเก็ตแฟนตาซีค่ะ
ภูเก็ตแฟนตาซี
จากภูเก็ตมา นับถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 7 เดือนเต็มแล้ว อาทิตย์ก่อนเพื่อนโทรมาชวนไปเที่ยวภูเก็ต ตอนแรกก็นึกว่าเพื่อนพูดเล่นๆขำๆ มาชวนเราคนที่อยู่ภูเก็ตเกือบ 4 ปีนี่นะ ถึงแม้จะไม่ค่อยได้เที่ยวซักเท่าไหร่ เพราะเป็นคนไม่ค่อยชอบทะเล แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบถ่ายรูปและระยะเวลาที่อาศัยอยู่ยาวนานพอสมควร มันก็ต้องมีไปบ้างล่ะ อย่างน้อยก็ไปเก็บรูปน้ำทะเลสีสวยๆในวันฟ้าแจ่มๆ กันบ้าง ขนาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ บางคนอยู่ไกลถึงทวีปอเมริกาใต้ เค้ายังลงทุนข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อมาสัมผัสไข่มุกอันดามันกันเลย เราอยู่ที่นี่แท้ๆ จะไม่ไปเที่ยวชมเลยมันก็ยังไงๆอยู่ เชยแย่เลยเนาะ !!
เกาะภูเก็ตเมื่อมองลงมาจากความสูงประมาณ 8,000 ฟิต
“มานะ ซื้อตั๋วเครื่องบินให้แล้ว เด๋วจะพาเที่ยวภูเก็ตเอง” ว่าแล้วเพื่อนก็ไลน์ตั๋วเครื่องบินมาให้ในทันที แบบนี้ใครจะไปปฏิเสธทัน
มาภูเก็ตครั้งนี้ เราไม่ได้ไปเที่ยวตามหาดหรือสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีอยู่หลายแห่งของเมืองภูเก็ต อาจเพราะไปหลายครั้งก็ทำให้เบื่อ และอีกอย่างหนึ่งคือ ไม่อยากไปรู้ไปเห็นความเปลี่ยนแปลงของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ขณะนี้ถูกน้ำมือมนุษย์มุ่งเน้นพัฒนาไปสู่ความเจริญทางวัตถุมากกว่า การพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยคงความเป็นธรรมชาติที่สวยงามแบบดั้งเดิม
“เธอจะไปคิดมากทำไมกัน ขนาดคนภูเก็ตแท้ๆเค้ายังไม่เห็นจะคิดมากเหมือนเธอเลย” เพื่อนคนหนึ่งเคยปรามเมื่อเห็นว่าเราชักเยอะในการให้เหตุผลและไม่อยากไปเที่ยวตามหาดต่างๆของภูเก็ต
“พี่รู้ได้ไงว่าคนภูเก็ตเค้าไม่ได้คิดมาก” เราแย้ง
“ถ้าเค้าคิดมากเธอจะมีโรงแรมหรูๆพักมั๊ยล่ะ ได้อย่างมันก็เสียอย่างแหละ จะเอาความล้าหลังและลำบากหรือ
จะเอาความเจริญและสะดวกสบายล่ะ”
“อือ เนาะ ไม่รู้สิ ก็บ้านนู๋ไม่ได้มีทะเลนิ ถ้าบ้านนู๋มีที่ดินติดทะเลสวยๆ นู๋ก็อาจจะคิดแบบเค้าก็ได้”
“จะทะเลาะกันอีกนานมั๊ยวะ กุจะได้นอนรอ” พี่อีกคนตะโกนถามอย่างเซ็งๆ
“ถ้ามาเที่ยวก็อย่าไปคิดอะไรมากให้มันหนักสมอง จะทำให้เที่ยวไม่สนุกและคนอื่นก็จะพลอยเซ็งไปด้วย เค้าให้เธอมาเที่ยว ไม่ใช่ให้เธอมาเป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติ”
เคยโดนว่าแบบนี้มาก่อน คราวนี้เราเลยสลัดคราบนักอนุรักษ์โลกสวยทิ้ง กระโจนขึ้นนั่งหน้ารถได้ เราก็แหกปากร้องคาราโอเกะตามเครื่องเสียงหน้ารถ สนุกสนานไปเองแบบไม่ปรึกษาใคร ไม่แคร์สื่อ ไม่ง้อดนตรี ไม่มีสะดุด จนมีเสียงครวญเชิงขอร้องมาว่า
“ขอความกรุณามุงกลับไปครุ่นคิดหาวิธีช่วยอนุรักษ์ธรรมชาติแทนคนภูเก็ตเหมือนเดิมเถอะว่ะ” ... ฮา
ไม่สนใจอ่า ตามรถคันหน้าไปเลยลวกเพี่ย ....
ต้องใจซักหน่อยนะคะ ก่อนจะคลิ๊กสปอยล์นี้ อิอิ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ความสุขเล็กๆของคนร้อง ความทุกข์หนักๆของคนฟัง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ภูเก็ตแฟนตาซี คงไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนไม่รู้จักหรอกนะคะ แต่เราไม่รู้จักอะ (ก็ไม่เคยไปนี่นา) รู้แต่ว่าเป็นสถานที่มีร้านอาหาร และการแสดงโชว์ที่อลังการงานสร้าง (เคยได้ยินมาว่างั้น) ตั้งอยู่ตรงข้ามหาดกมลา
นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้มีโอกาสมาเที่ยวภูเก็ตแฟนตาซี วันนั้นตื่นเต้นมาก เรามาถึงเอาตอนประมาณทุ่มหนึ่ง ตรงป้ายทางเข้ามีซุ้ม ยินดีต้อนรับ ไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ก็น่ารักดีนะคะ นักท่องเที่ยวที่ไปก็ล้วนแต่เข้าไปถ่ายรูปที่ป้ายนี้ทั้งนั้น
เราผ่านประตูเข้าไปเพื่อไปทานข้าวที่ร้านอาหารกินรี แต่ระหว่างทางก็จะผ่านลานกิจกรรม มีเวทีเล็กๆ เอาไว้สำหรับจัดแสดงรายการโชว์โหมโรงเล็กๆน้อยๆ เป็นสีสัน ผ่านร้านขายของที่ระลึกต่างๆที่จัดตกแต่งและขายสินค้าตามธีมของแต่ละร้าน ส่วนใหญ่ก็จะเน้นเป็นของไทยๆ (แหง๋ล่ะ จะให้เน้นของพม่ารึงัย ?) ชื่อร้านบางกอกหรืออะไรนี่แหละ พอดีตอนนั้นหิวข้าว ก็รีบเดินลิ่วๆไปที่ร้านอาหารก่อน ไม่ได้หยุดดูหรือถ่ายรูปไว้
เดินต่อมาอีกหน่อยติดๆกันก็จะเป็นร้านยักษ์กระแทก (อันนี้เราแปลเองแบบไทยๆ ...ฮา) (Yak Attack) ร้านศูนย์การค้ามายากล (Magic Emporium) ร้านพญาช้างสาร (Iyara) และที่เห็นเป็นสิ่งก่อสร้างมองผิวเผินลักษณะจะคล้ายๆปราสาทหินเขาพนมรุ้งที่อยู่ห่างออกไปนั้น คือโรงละครที่จะใช้แสดงโชว์ค่ะ เว่อร์วังอลังการบานบุรีมั่กๆ แต่เค้าว่า (ใครก็ไม่รู้) เป็นการจำลองเมืองกมลา อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าตามเค้าเฉยๆ ใครเป็นชาวเมืองกมลาหรือรู้ข้อมูลจริงก็ช่วยบอกด้วยนะคะ
มาถึงร้านอาหารกินรี เค้าจัดเป็นอาหารแบบบุฟเฟต์นะคะ มีรูปปั้นกินรียืนพนมมือไหว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวตามเสาต่างๆ โต๊ะอาหารจัดเป็นโต๊ะยาว เหมือนโต๊ะในแคนทีนตามมหาลัย มีหมายเลขที่นั่งจัดเรียงลำดับตามเก้าอี้ เพราะฉะนั้นถ้าใครที่ไปคนเดียว (มีด้วยเหรอ?) ก็ไม่ต้องกลัวว่าคุณจะไม่มีใครนั่งทานข้าวเป็นเพื่อน คุณภาพอาหารก็โอเคใช้ได้ค่ะ
ทานอาหารเสร็จ เราก็ออกมาเดินเล่นรับลมหนาวข้างนอก จ๊าก ไม่ใช่ มันกลายเป็นรับเม็ดฝนซะนี่ พวกเราเตร็ดเตร่รอเวลาเข้าชมการแสดงที่จะเริ่มประมาณ 3 ทุ่ม ฝูงปลาสวายที่ว่ายวนอยู่พื้นน้ำใต้ร้านอาหารนั้นตัวยักษ์มหึมาเลยทีเดียว ลองนึกๆดูถ้าเราตกลงไปนั่น มันจะกินเรารึป่าวนะ แต่อย่าตกเลยจะดีกว่า
เราถ่ายรูปเล่นกันบริเวณด้านหน้าโรงละคร เค้ามีจัดให้นั่งช้างวนรอบวงเวียนรูปปั้นช้างด้วย แต่เราไม่ได้นั่งหรอกกลัวหล่น เพราะเคยนั่งแล้วที่พะเนียดอยุธยา โหยย นั่งตัวเกร็งแทบแย่ ทั้งสูงทั้งโยกเยก ตื่นเต้นก็ตื่นดีอยู่หรอก แต่สำหรับเรา กลัวมากกว่าอ่ะ ...
พอได้เวลาโรงละครเปิด เราเดินเข้าไป วันนี้นักท่องเที่ยวมาเยอะมากๆ ข้างในเค้าจัดให้มีเคาท์เตอร์สำหรับฝากกล้องถ่ายรูป ฝากมือถือไว้ก่อนผ่านเข้าตัวโรงละครที่มีเวทีแสดง หลังจากฝากกล้องฝากมือถือแล้ว เราเดินเข้าไปก็จะเจอซุ้มหรือพร็อพสำหรับถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แต่อันนี้ถ้าใครอยากถ่ายก็ต้องจ่ายตังค์ให้เค้านะคะ ซุ้มเสือก็มี ซุ้มราชเกวียนก็มี ซุ้มนางละครก็มี ล้วนแล้วแต่สวยงามมาก
ส่วนใหญ่ที่เห็นก็มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถ่ายกันเยอะ ก็ธรรมดาล่ะค่ะ ไม่ใช่จะได้มากันบ่อยๆจะถ่ายเมื่อไหร่ก็ได้นี่นา เราไปต่างประเทศก็เหมือนกันน่ะแหละ เจออะไรก็ถ่ายหมด
เค้าก็คงเก็บไว้ดูยามเมื่อกลับถึงบ้านเมืองแล้วว่า ....... นี่แหละ .....PHUKET FANTASEA THAILAND ที่ฉันเคยไป ....
ปล. 1 การแสดง แสง สี เสียง เทคนิค สวยงามอลังการสมคำล่ำลือ ชอบนะ
ปล. 2 เคยได้ยินพี่ไทโรไซต์บอกว่าชอบฟังเสียงคลื่นกระทบแก่งหิน และเคยติดพี่เค้าเอาไว้ว่าจะเอาเสียงคลื่นกระทบแก่งหินมาฝาก
วันนี้เอามาตามสัญญาแล้วนะคะ
ห้องเพลง**คนรากหญ้า**พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม...มีแต่เสียง 02/12/2016 (Pechnamnil)
ภูเก็ตแฟนตาซี
จากภูเก็ตมา นับถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 7 เดือนเต็มแล้ว อาทิตย์ก่อนเพื่อนโทรมาชวนไปเที่ยวภูเก็ต ตอนแรกก็นึกว่าเพื่อนพูดเล่นๆขำๆ มาชวนเราคนที่อยู่ภูเก็ตเกือบ 4 ปีนี่นะ ถึงแม้จะไม่ค่อยได้เที่ยวซักเท่าไหร่ เพราะเป็นคนไม่ค่อยชอบทะเล แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบถ่ายรูปและระยะเวลาที่อาศัยอยู่ยาวนานพอสมควร มันก็ต้องมีไปบ้างล่ะ อย่างน้อยก็ไปเก็บรูปน้ำทะเลสีสวยๆในวันฟ้าแจ่มๆ กันบ้าง ขนาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ บางคนอยู่ไกลถึงทวีปอเมริกาใต้ เค้ายังลงทุนข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อมาสัมผัสไข่มุกอันดามันกันเลย เราอยู่ที่นี่แท้ๆ จะไม่ไปเที่ยวชมเลยมันก็ยังไงๆอยู่ เชยแย่เลยเนาะ !!
เกาะภูเก็ตเมื่อมองลงมาจากความสูงประมาณ 8,000 ฟิต
“มานะ ซื้อตั๋วเครื่องบินให้แล้ว เด๋วจะพาเที่ยวภูเก็ตเอง” ว่าแล้วเพื่อนก็ไลน์ตั๋วเครื่องบินมาให้ในทันที แบบนี้ใครจะไปปฏิเสธทัน
มาภูเก็ตครั้งนี้ เราไม่ได้ไปเที่ยวตามหาดหรือสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีอยู่หลายแห่งของเมืองภูเก็ต อาจเพราะไปหลายครั้งก็ทำให้เบื่อ และอีกอย่างหนึ่งคือ ไม่อยากไปรู้ไปเห็นความเปลี่ยนแปลงของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ขณะนี้ถูกน้ำมือมนุษย์มุ่งเน้นพัฒนาไปสู่ความเจริญทางวัตถุมากกว่า การพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยคงความเป็นธรรมชาติที่สวยงามแบบดั้งเดิม
“เธอจะไปคิดมากทำไมกัน ขนาดคนภูเก็ตแท้ๆเค้ายังไม่เห็นจะคิดมากเหมือนเธอเลย” เพื่อนคนหนึ่งเคยปรามเมื่อเห็นว่าเราชักเยอะในการให้เหตุผลและไม่อยากไปเที่ยวตามหาดต่างๆของภูเก็ต
“พี่รู้ได้ไงว่าคนภูเก็ตเค้าไม่ได้คิดมาก” เราแย้ง
“ถ้าเค้าคิดมากเธอจะมีโรงแรมหรูๆพักมั๊ยล่ะ ได้อย่างมันก็เสียอย่างแหละ จะเอาความล้าหลังและลำบากหรือ
จะเอาความเจริญและสะดวกสบายล่ะ”
“อือ เนาะ ไม่รู้สิ ก็บ้านนู๋ไม่ได้มีทะเลนิ ถ้าบ้านนู๋มีที่ดินติดทะเลสวยๆ นู๋ก็อาจจะคิดแบบเค้าก็ได้”
“จะทะเลาะกันอีกนานมั๊ยวะ กุจะได้นอนรอ” พี่อีกคนตะโกนถามอย่างเซ็งๆ
“ถ้ามาเที่ยวก็อย่าไปคิดอะไรมากให้มันหนักสมอง จะทำให้เที่ยวไม่สนุกและคนอื่นก็จะพลอยเซ็งไปด้วย เค้าให้เธอมาเที่ยว ไม่ใช่ให้เธอมาเป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติ”
เคยโดนว่าแบบนี้มาก่อน คราวนี้เราเลยสลัดคราบนักอนุรักษ์โลกสวยทิ้ง กระโจนขึ้นนั่งหน้ารถได้ เราก็แหกปากร้องคาราโอเกะตามเครื่องเสียงหน้ารถ สนุกสนานไปเองแบบไม่ปรึกษาใคร ไม่แคร์สื่อ ไม่ง้อดนตรี ไม่มีสะดุด จนมีเสียงครวญเชิงขอร้องมาว่า
“ขอความกรุณามุงกลับไปครุ่นคิดหาวิธีช่วยอนุรักษ์ธรรมชาติแทนคนภูเก็ตเหมือนเดิมเถอะว่ะ” ... ฮา
ไม่สนใจอ่า ตามรถคันหน้าไปเลยลวกเพี่ย ....
ต้องใจซักหน่อยนะคะ ก่อนจะคลิ๊กสปอยล์นี้ อิอิ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ภูเก็ตแฟนตาซี คงไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนไม่รู้จักหรอกนะคะ แต่เราไม่รู้จักอะ (ก็ไม่เคยไปนี่นา) รู้แต่ว่าเป็นสถานที่มีร้านอาหาร และการแสดงโชว์ที่อลังการงานสร้าง (เคยได้ยินมาว่างั้น) ตั้งอยู่ตรงข้ามหาดกมลา
นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้มีโอกาสมาเที่ยวภูเก็ตแฟนตาซี วันนั้นตื่นเต้นมาก เรามาถึงเอาตอนประมาณทุ่มหนึ่ง ตรงป้ายทางเข้ามีซุ้ม ยินดีต้อนรับ ไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ก็น่ารักดีนะคะ นักท่องเที่ยวที่ไปก็ล้วนแต่เข้าไปถ่ายรูปที่ป้ายนี้ทั้งนั้น
เราผ่านประตูเข้าไปเพื่อไปทานข้าวที่ร้านอาหารกินรี แต่ระหว่างทางก็จะผ่านลานกิจกรรม มีเวทีเล็กๆ เอาไว้สำหรับจัดแสดงรายการโชว์โหมโรงเล็กๆน้อยๆ เป็นสีสัน ผ่านร้านขายของที่ระลึกต่างๆที่จัดตกแต่งและขายสินค้าตามธีมของแต่ละร้าน ส่วนใหญ่ก็จะเน้นเป็นของไทยๆ (แหง๋ล่ะ จะให้เน้นของพม่ารึงัย ?) ชื่อร้านบางกอกหรืออะไรนี่แหละ พอดีตอนนั้นหิวข้าว ก็รีบเดินลิ่วๆไปที่ร้านอาหารก่อน ไม่ได้หยุดดูหรือถ่ายรูปไว้
เดินต่อมาอีกหน่อยติดๆกันก็จะเป็นร้านยักษ์กระแทก (อันนี้เราแปลเองแบบไทยๆ ...ฮา) (Yak Attack) ร้านศูนย์การค้ามายากล (Magic Emporium) ร้านพญาช้างสาร (Iyara) และที่เห็นเป็นสิ่งก่อสร้างมองผิวเผินลักษณะจะคล้ายๆปราสาทหินเขาพนมรุ้งที่อยู่ห่างออกไปนั้น คือโรงละครที่จะใช้แสดงโชว์ค่ะ เว่อร์วังอลังการบานบุรีมั่กๆ แต่เค้าว่า (ใครก็ไม่รู้) เป็นการจำลองเมืองกมลา อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าตามเค้าเฉยๆ ใครเป็นชาวเมืองกมลาหรือรู้ข้อมูลจริงก็ช่วยบอกด้วยนะคะ
มาถึงร้านอาหารกินรี เค้าจัดเป็นอาหารแบบบุฟเฟต์นะคะ มีรูปปั้นกินรียืนพนมมือไหว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวตามเสาต่างๆ โต๊ะอาหารจัดเป็นโต๊ะยาว เหมือนโต๊ะในแคนทีนตามมหาลัย มีหมายเลขที่นั่งจัดเรียงลำดับตามเก้าอี้ เพราะฉะนั้นถ้าใครที่ไปคนเดียว (มีด้วยเหรอ?) ก็ไม่ต้องกลัวว่าคุณจะไม่มีใครนั่งทานข้าวเป็นเพื่อน คุณภาพอาหารก็โอเคใช้ได้ค่ะ
ทานอาหารเสร็จ เราก็ออกมาเดินเล่นรับลมหนาวข้างนอก จ๊าก ไม่ใช่ มันกลายเป็นรับเม็ดฝนซะนี่ พวกเราเตร็ดเตร่รอเวลาเข้าชมการแสดงที่จะเริ่มประมาณ 3 ทุ่ม ฝูงปลาสวายที่ว่ายวนอยู่พื้นน้ำใต้ร้านอาหารนั้นตัวยักษ์มหึมาเลยทีเดียว ลองนึกๆดูถ้าเราตกลงไปนั่น มันจะกินเรารึป่าวนะ แต่อย่าตกเลยจะดีกว่า
เราถ่ายรูปเล่นกันบริเวณด้านหน้าโรงละคร เค้ามีจัดให้นั่งช้างวนรอบวงเวียนรูปปั้นช้างด้วย แต่เราไม่ได้นั่งหรอกกลัวหล่น เพราะเคยนั่งแล้วที่พะเนียดอยุธยา โหยย นั่งตัวเกร็งแทบแย่ ทั้งสูงทั้งโยกเยก ตื่นเต้นก็ตื่นดีอยู่หรอก แต่สำหรับเรา กลัวมากกว่าอ่ะ ...
พอได้เวลาโรงละครเปิด เราเดินเข้าไป วันนี้นักท่องเที่ยวมาเยอะมากๆ ข้างในเค้าจัดให้มีเคาท์เตอร์สำหรับฝากกล้องถ่ายรูป ฝากมือถือไว้ก่อนผ่านเข้าตัวโรงละครที่มีเวทีแสดง หลังจากฝากกล้องฝากมือถือแล้ว เราเดินเข้าไปก็จะเจอซุ้มหรือพร็อพสำหรับถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แต่อันนี้ถ้าใครอยากถ่ายก็ต้องจ่ายตังค์ให้เค้านะคะ ซุ้มเสือก็มี ซุ้มราชเกวียนก็มี ซุ้มนางละครก็มี ล้วนแล้วแต่สวยงามมาก
ส่วนใหญ่ที่เห็นก็มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถ่ายกันเยอะ ก็ธรรมดาล่ะค่ะ ไม่ใช่จะได้มากันบ่อยๆจะถ่ายเมื่อไหร่ก็ได้นี่นา เราไปต่างประเทศก็เหมือนกันน่ะแหละ เจออะไรก็ถ่ายหมด
เค้าก็คงเก็บไว้ดูยามเมื่อกลับถึงบ้านเมืองแล้วว่า ....... นี่แหละ .....PHUKET FANTASEA THAILAND ที่ฉันเคยไป ....
ปล. 1 การแสดง แสง สี เสียง เทคนิค สวยงามอลังการสมคำล่ำลือ ชอบนะ
ปล. 2 เคยได้ยินพี่ไทโรไซต์บอกว่าชอบฟังเสียงคลื่นกระทบแก่งหิน และเคยติดพี่เค้าเอาไว้ว่าจะเอาเสียงคลื่นกระทบแก่งหินมาฝาก
วันนี้เอามาตามสัญญาแล้วนะคะ